เปิดพูลวิลล่าบนเนินเขาวิวทะเลสุดอลังการ “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” Branded Residences ระดับอัลตราลักชัวรีติดทะเลอ่าวไทยแห่งแรกในระยอง
ต้องบอกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ผ่านมาภาพจำของโครงการอสังหาฯเปิดใหม่ในระยอง ดูจะเป็นโครงการที่มีรูปแบบการพัฒนาเพื่อรองรับดีมานท์ในการอยู่อาศัยและทำงานของกลุ่มคนทำงานในภาคอุตสาหกรรม ตามทิศทางการขยายตัวของเขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC ที่เคยถูกวางเป้าให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เพียบพร้อมด้วยศูนย์กลางคมนาคมทั้ง 3 ด้าน ทั้งการคมนาคมทางอากาศ สนามบินอู่ตะเภา เมืองการบินแห่งอนาคต ทางบกอย่าง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และทางน้ำอย่าง ท่าเรือมาบตาพุด จนนำมาซึ่งการเปิดตัวของนิคมอตสาหกรรมใหม่ๆ และโครงการอสังหาฯในรูปแบบ Mixed Use & Smart City ย่อมๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูจะเป็น Perception ที่ตรงกันข้ามกับเมืองเพื่อนบ้านติดกันอย่างพัทยาที่ดูจะมีความพร้อมสมบูรณ์ในการใช้ชีวิตแบบ Vacation Home หรือเป็น Second Home มากกว่า แต่กับโครงการที่ผมมาเยี่ยมชมในวันนี้อย่าง “อมาธารา เรสซิเดนเซส ระยอง” (Amatara Residences Rayong) ดูจะเป็นโครงการหนึ่งเดียวในระยองที่ช่วยพลิกภาพจำของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมริมทะเลที่ไม่ค่อยมีตัวเลือกในการใช้ชีวิตสุดหรูในสไตล์บ้านพักตากอากาศแบบพูลวิลล่าวิวสวยบนเนินเขามากนัก
“อมาธารา เรสซิเดนซ์เซส ระยอง” คือเมกะโปรเจ็กต์อสังหาฯ บนพื้นที่ 92 – 3 – 12 ไร่ โดยบริษัทแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ที่ดึง “อมาธารา เวลเลเชอร์ รีสอร์ต” แบรนด์ธุรกิจ Holistic Wellness ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จจากภูเก็ต มาร่วมกันปั้นโครงการที่อยู่อาศัยระดับ อัลตราลักชัวรี ประกอบด้วยพูลวิลล่าริมชายหาด ทั้งสิ้น 9 หลังแบบ 2, 3 และ 4 ห้องนอนที่แล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่แล้วในราคาเริ่มต้น 50 – 135 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมจากลูกค้าและนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ…บ้านตัวอย่างมี 2 หลังนะครับ 3 นอน 365.89 ตรม. และ 2 นอน 250.63 ตรม.
โดยวันนี้โครงการพร้อมเปิดให้ขายเฟสสองที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัยในคอนเซ็ปต์ “Sea to Sand” เหมาะสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในระดับผู้บริหารที่ต้องการบ้านพักตากอากาศหรือ Hideaway Home ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แรงบันดาลใจในการตกแต่งได้มาจากคอนเซ็ปต์ซิกเนเจอร์ของโครงการที่เป็นการออกแบบวิลล่าตามไหล่เขาลงมาถึงหาดทรายใกล้น้ำทะเล จำนวนทั้งสิ้น 9 หลัง 18 ยูนิต (อาคารชุด 2 ชั้น) แบ่งเป็น Villa Suite A ขนาด 203.30 ตรม., Villa Suite B ขนาด 172.15 ตรม., และ Villa Suite C ขนาด 165.70 ตรม. ในราคาเริ่มต้น 39 – 50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 4 ปี 2568 [ยังไม่ได้ทำบ้านตัวอย่างนะครับ มีแต่ภาพให้ดู]