หลังจากที่ทางโนเบิล เรียกกระแสฮือฮาให้กับการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวในกลุ่มซีรีส์ “The Rare Selection by Noble” มาแล้วกับโครงการแรกคือ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai วันนี้ก็ถึงคิวของอีกโครงการที่ใครหลายคนมองว่าเป็นของเลอค่าที่หายากมากสุดๆ ด้วยการเป็นบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใจกลางเมือง กับโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana (โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟรอนท์ ราษฎร์บูรณะ) ครับ ซึ่งโครงการนี้ทางโนเบิลเค้าได้มอบหมายให้ทาง IAW ขาประจำในการออกแบบโครงการคอนโดโนเบิล เป็นผู้ออกแบบโครงการที่นี่ครับ โดยที่ยังคงคอนเซปท์การออกแบบบนแนวคิดการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เช่นเดียวกัน โดยที่ TERRA เราได้เห็นการนำธรรมชาติอย่างต้นไม้และแสงแดด มาแทรกกลางในตัวบ้าน เพื่อให้สมกับคำว่า “ผืนแผ่นดิน” ในขณะที่โครงการ AQUA แห่งนี้เราจะได้เห็นไฮไลท์สำคัญในการถ่ายทอดองค์ประกอบของธรรมชาติที่ลงตัวและเต็มอิ่มกับความเป็นธรรมชาติแท้ๆอย่าง สายน้ำ ลม และแสงแดด ที่แทรกเข้าทั่วโครงการมากกว่า จากข้อได้เปรียบในเรื่องของที่ตั้งโครงการที่อยู่ประชิดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลยครับ

สำหรับโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana นั้นก็ยังมีองค์ประกอบของความ Rare ทั้ง 3 ด้านอย่าง Rare Location, Rare Desin และ Rare Experience เช่นเคยครับ

ที่นี่ตั้งอยู่บนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงที่สะดวกที่สุดของราษฎร์บูรณะ ติดกับ NUE Riverest เลย ซึ่งผมให้น้ำหนักของความเลอค่า น่าอยู่ น่าสะสม ไปที่ตัวทำเลที่ตั้ง และงานดีไซน์ที่ช่วยให้บ้านทุกหลังได้ซึมซับบรรยากาศของการอยู่ริมแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ครับ…สำหรับใครที่ลังเล กำลังเปรียบเทียบอยู่ระหว่างอีกที่หนึ่ง เพราะเปิดมาไล่เลี่ยกันทั้งราคา และช่วงเวลา ผมว่าที่นี่มีความพิเศษคนละแบบกับที่ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai เลยนะครับ ในแง่ของทำเลตรงพระราม 9 อาจจะเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องขยายบ้านในเมืองหลังใหญ่ และเป็นบ้านหลังหลักที่ใช้ชีวิติอยู่ร่วมกันเป็นประจำเลย เพราะไปไหนมาไหนก็ใกล้ สะดวกไปหมด ในขณะที่ Noble Aqua Riverfront Ratburana ผมว่ามี Sense ของ Vacation Home ผสมเข้ามาด้วยค่อนข้างเยอะเลยครับ คือถ้าคุณไม่ได้มีวิถีชีวิตที่ต้องขับรถเข้าไปทำงานในย่าน CBD ตั้งแต่เช้ายันค่ำทุกวัน แต่ไปแบบ Flexible Hours ก็สามารถใช้อยู่เองเป็นบ้านหลังหลักได้เลย แต่ด้วยการที่มันเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ริมแม่น้ำ ทำให้เกิดบรรยากาศของการพักผ่อนที่ไม่อาจหาได้จากบ้านในย่าน CBD หรือ Extend BD ครับ บางคนอาจจะนึกถึงการอยู่คอนโดริมแม่น้ำที่มีพื้นที่ส่วนกลางริมตลิ่ง มีวิวให้ดูสวยๆจากระเบียง อันนั้นว่าดีต่อใจแล้ว แต่อันนี้คือยิ่งกว่าอีก เพราะเราได้ทั้งวิว ทั้งพื้นที่ส่วนตัวแบบเปิดโล่งที่มากกว่า มีความเป็นส่วนตัวมากสุดๆเลยครับ ซึ่งทำให้ผมมองว่าด้วยทำเลที่มันก็ไม่ไกลจากย่าน Inner CBD โดยที่ยังอยู่ในกรุงเทพฯอยู่ ก็น่าจะเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่มองหาบ้านหลังที่ 2 เอาไว้พักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ หรือไว้เป็นบ้านยามเกษียณก็คงจะดีไม่น้อยเลยครับ ยิ่งหากใครที่เป็น Thoughful Investor หรือมองหาของสะสมราคาแพง ที่มีโอกาสจะเพิ่มมูลค่าได้สูงขึ้นในอนาคตที่นี่ก็เหมาะมาก เพราะถ้าเราเอาความจริงมาพูดก็จะพบว่าในตลาด Ultra – Luxury Home ตอนนี้ แทบจะไม่มีโครงการไหนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯเลยครับ ส่วนใหญ่ไปอยู่ชานเมืองกันทั้งนั้นเลย ใครมีเงินพร้อมนี่ผมแนะนำสุดๆ

ตัวโครงการมีบ้านเพียงแค่ 53 หลังเท่านั้น แต่มีแบบบ้านให้เลือกมากถึง 5 แบบเลยครับ ซึ่งทางทีมออกแบบคู่ใจของโนเบิลอย่าง IAW เค้าตีโจทย์ของงานดีไซน์ออกมาได้ค่อนข้างดีครับ คือถ้าอิงตามรูปที่ดิน จะมีบ้านเพียงแค่ 4 หลังเท่านั้นที่อยู่หน้าแม่น้ำมากที่สุด (เป็นขนาด XL และ L อย่างละ 2 หลัง) ได้ความเป็น Riverfront ที่มีความพรีเมียม มีราคาแพงมากที่สุด ซึ่งหากเป็นโครงการอื่นๆก็อาจจะทำให้บ้านในตำแหน่งอื่นๆดูลดทอนบรรยากาศริมแม่น้ำไป แต่ทางโครงการได้นำงานดีไซน์มาช่วยให้บ้านทุกหลังสามารถสัมผัสบรรยากาศของแม่น้ำผ่านทาง ทิศทางลม แดด สวนส่วนกลาง พร้อมทางเดินขนาดใหญ่ที่แทรกกลางระหว่างหลังบ้านของบ้านขนาด M และ L เป็นแนวยาวตั้งแต่ Garden Clubhouse หน้าโครงการ ไปจนถึง Riverside Clubhouse ที่อยู่ริมแม่น้ำ

ขอไล่จากแบบเล็กสุดไปใหญ่สุดนะครับ ทุกหลังมีพื้นที่ Maid Quarter, Private Lift และ Eldery Support เป็นทางลาดเข้าบ้านให้จากลานจอดรถ

– แบบ VIA 01 พื้นที่ดินประมาณ 56.72 – 58.72 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 346.64 ตรม. เป็นบ้านสูง 3 ชั้น มีจำนวน 15 หลัง 3 นอน 4 น้ำ (3 + 1) มี Private Lift จอดรถได้ 3 คัน

– แบบ VIA 02 พื้นที่ดินประมาณ 63.61 – 65.42 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 431.18 ตรม. เป็นบ้านสูง 4 ชั้น มีจำนวนเยอะสุดคือ 20 หลัง 4 นอน 5 น้ำ (4 + 1) มี Private Lift จอดรถได้ 3 คัน

– แบบ PARC อันนี้ตามชื่อเลยคืออยู่ติดสวนกลางโครงการ ได้วิวสวน 2 ฝั่ง พื้นที่ดินประมาณ 71.10 – 71.8 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 527.95 ตรม. เป็นบ้านสูง 4 ชั้น จำนวน 14 หลัง 4 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 5 น้ำ (4+1) จอดรถได้ 4 คัน Private Lift

– แบบ VIU อันนี้ใครชอบอยู่หน้าน้ำวิวสวยๆ ในงบประมาณไม่สูงเว่อร์มากก็น่าจะชอบครับ พื้นที่ดินประมาณ 82.95 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 658.41 ตรม. สูง 4 ชั้น มีแค่ 2 หลัง 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift

– แบบ ORA 01 พื้นที่ดินประมาณ 159.67 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 779.42 ตรม. สูง 4 ชั้น มีหลังเดียวเท่านั้น 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift

และแบบใหญ่เว่อร์วัง นึกว่าอาคาร Club House ริมแม่น้ำอีกหลัง คือแบบ ORA 02 ได้พื้นที่ดินและพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่า ORA 01 โดยมีขนาดที่ดินที่ประมาณ 183.26 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 795.22 ตรม. สูง 4 ชั้น มีหลังเดียวเท่านั้น 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift หลังนี้อยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางริมน้ำของ NUE Riverest เลย ชอบพื้นที่เรือนรับแขกเพดานสูงที่แยกออกจากตัวบ้านมาหน้าน้ำสุดๆ รับวิวสวยได้หลายฝั่ง น่าซื้อมาอวดเพื่อนมากมาย 555

บ้านตัวอย่างมี 2 หลังครับ เป็น VIA 02 (เริ่มประมาณ 37 ลบ.) และ PARC (เริ่มประมาณ 47 – 49 ลบ.) เพราะแบบอื่นขายหมดแล้ว! ขายแบบบ้านเปล่า แต่มีงานระบบมาให้

สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าแปลกแต่ดี และดูสะท้อนความเป็นปัจเจกของตัวเจ้าของบ้านได้ดีมากๆก็คือ การดีไซน์พื้นที่ส่วน Living และครัวให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันไปในบ้านแต่ละแบบ เช่นแบบบ้าน VIA ได้ครัวชั้นสองควบกับพื้นที่ Living เพดานสูงโปร่งเป็นจั่วแหลมระยะสูงสุดที่ 6 เมตร (เพดานชั้นปกติสูง 2.7 เมตร) มี Moon Deck แบบ Ourdoor ที่ชั้น 3 แบบบ้าน PARC ห้อง Living และครัวอยู่ชั้น 3 เพดานสูงสุดที่ 6 เมตรเหมือนกัน แต่ได้วิวถึง 4 ระเบียงทั้งฝั่งหน้าบ้าน และสวนหลังบ้าน มีห้องลับ Playroom ใต้หลังคาแบบ Indoor ปรับทำได้หลายอย่าง เช่นเป็นห้อง Maid หรือห้องเก็บของก็ได้

และอย่างบ้านหลังใหญ่สุด XL นี่คือจัดมาให้เป็นพื้นที่ Pavilion ริมน้ำที่ชั้น 1 เลย ส่วนบ้านหลังอื่นๆก็จะอยู่ที่ชั้น 3 ที่เชื่อมต่อกับระเบียงชมวิวขนาดใหญ่มากๆ พร้อมห้องใต้หลังคา โดยส่วนที่เป็น Signature Design ของที่นี่ก็คือการดีไซน์ฝ้าเพดานทรงจั่วสูงมากๆในชั้น 3 พร้อมห้องใต้หลังคา มีบานกระจกสูงชิดเพดานเพื่อให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ซึ่งจะมีผลพลอยได้ก็คือเจ้าของบ้านสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่จากการเลือกตกแต่ง Prop, ฝ้าเพดาน, ผนัง หรือแม้กระทั่งโคมไฟแชนเดอเลียร์ ทำให้เวลาคนภายนอกมองเข้าไปจะได้รู้สึกถึงความเป็น Variety ที่แตกต่างกันไปในแต่ละหลัง

ในตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องยากมากเท่าไหร่ที่จะหาคอนโดริมแม่น้ำครับ เพราะมีให้เลือกอยู่พอสมควรทั้งแบบเปิดใหม่ และกำลังขายอยู่ แต่สำหรับบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำนี่คือไม่ได้เห็นกันง่ายๆครับ ตอนนี้โครงการใหม่ที่พอมีให้เห็นในเขตกรุงเทพฯนี่นับยังไงก็ไม่เกิน 2 แห่งเอง โดย Noble Aqua Riverfront Ratburana ก็เป็นหนึ่งในนั้น แถมยังมีตัวเลือกในการเดินทางได้ง่ายมากๆด้วยทางด่วน สะพานภูมิพล และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในอนาคต ซึ่งโอกาสในการหาที่อยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยวทำเลริมน้ำแบบส่วนตัวๆ ในปัจจุบันนั้นหาได้ยากแล้ว ยกเว้นแต่คุณจะไปซื้อบ้านเก่ามากๆ ที่ไม่ค่อยมีใครอยากขาย มารื้อและสร้างใหม่

โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ

THE RARE SELECTION BY NOBLE

พร้อมให้ชมบ้านตัวอย่างครั้งแรก 30 ก.ย.-1 ต.ค. บ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพฯ เริ่ม 30 ล้าน*

30 ก.ย.-1 ต.ค. นี้ ชมบ้านตัวอย่างครั้งแรกก่อนใคร

ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น คลิก https://bit.ly/3LmK4oU

หลอมรวมความสุขเข้ากับสายน้ำและธรรมชาติ ที่นี่

NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA

บ้านเดี่ยวติดริมแม่น้ำใจกลางกรุงเทพมหานคร

เริ่ม 30 ล้านบาท*

BY APPOINTMENT ONLY

FIRST PREVIEW ON 30 SEP – 1 OCT 2023

ONENESS WITH THE RIVER

NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA

RIVERFRONT RESIDENCES IN PRIME BANGKOK

STARTS 30 MB.*

#therareselectionbynoble #rareseeksrare #onenesswiththeriver #nobleaquariverfrontratburana