เจาะลึกแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบอาคารสำนักงานใหญ่บีเอ็มดับเบิลยูกับห้าทศวรรษแห่งความล้ำสมัย
อาคารสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยู ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี แม้จะเป็นอาคารสุดคลาสสิกที่ก่อสร้างมานานกว่า 50 ปี แต่ตัวอาคารยังคงทันสมัย โดดเด่นตระการตาประดับทิวทัศน์ของเมืองมิวนิกมาอย่างยาวนาน และการออกแบบที่ไร้กาลเวลาก็ยังคงตอบโจทย์การทำงานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี อาคารนี้จึงสะท้อนวัฒนธรรมองค์กรของบีเอ็มดับเบิลยูในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งแนวคิดดังกล่าวยังคงถ่ายทอดอยู่ในวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และแฝงอยู่ในดีเอ็นเอของพนักงานทุกคนจวบจนถึงทุกวันนี้
แนวคิดการก่อสร้างแห่งอนาคต
อาคารสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิลยู เรียกว่าเป็นไอคอนผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรมแห่งยุคของเมืองมิวนิก โดยก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1972 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปีนั้น ออกแบบโดย คาร์ล ชวันเซอร์ (Karl Schwanzer) สถาปนิกชาวออสเตรียชื่อดัง ซึ่งเข้ามาพลิกโฉมการออกแบบสถาปัตยกรรมสำนักงานสมัยใหม่ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ด้วยการผสมผสานแนวคิดเชิงพื้นที่และนวัตกรรม เข้ากับการออกแบบอาคารที่โดดเด่น สะท้อนปรัชญาที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปยึดถือ อันได้แก่ การเปิดรับต่อสิ่งใหม่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้คน สันติภาพ ความยั่งยืน และความหลากหลายทางวัฒนธรรม
การออกแบบที่เน้นความเป็นเลิศในทุกยุคสมัย
ในช่วงปี ค.ศ. 1960 เป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทจำเป็นต้องขยายโรงงานผลิตรถยนต์ รวมถึงพื้นที่อาคารสำนักงานสำหรับพนักงาน ดังนั้น ในปี ค.ศ. 1968 ฝ่ายบริหารบริษัทจึงจัดการประกวดออกแบบอาคารสำนักงานใหม่และเชิญสุดยอด 8 สถาปนิกชื่อดังร่วมนำเสนอผลงาน โดยมีข้อกำหนดหลักคือ รูปแบบของอาคารจะต้องสามารถปรับให้เข้ากับสภาพปัจจุบันได้ตลอดเวลา การตกแต่งองค์ประกอบด้านหน้าอาคาร (Facade) จะต้องดูกว้างและสะดุดตาเพื่อให้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ และลักษณะอาคารจะต้องกลมกลืนไปกับพื้นที่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน พื้นที่โรงงาน และหมู่บ้านโอลิมปิก ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในเวลานั้น