บริหารจัดการที่อยู่อาศัยอย่างไร ให้ผ่านฝนนี้ไปด้วยความปลอดภัย
ในช่วงนี้เข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว จะเห็นได้ว่ามีฝนตกแทบทุกวัน ซึ่งทำให้หลายๆ คนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการดูแลรักษาที่พักอาศัยในช่วงนี้ วันนี้เราได้กูรูตัวจริงในการดูแลบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัยอย่างมืออาชีพจากทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่จะมาช่วยแนะนำการเตรียมความพร้อมรับมือกับฤดูฝนกันว่าต้องมีจุดไหนที่ต้องหมั่นดูแลกันบ้าง
พลัสฯ ด้วยประสบการณ์การดูแลบริหารโครงการที่พักอาศัยกว่า 270 โครงการ ปัญหาที่พักอาศัยในเมืองไทยส่วนใหญ่ที่ต้องรับมือในช่วงหน้าฝนก็คือปัญหาน้ำท่วมขัง และน้ำฝนที่สาดเข้ามาในบ้าน หรือเกิดปัญหาการรั่วซึมตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และในเรื่องของความชื้นรวมถึงปัญหาแมลงรบกวนที่มาจากน้ำท่วมขัง สำหรับการดูแลพื้นที่ส่วนกลาง พลัสฯ แนะนำให้มีการหมั่นสำรวจตรวจสอบในบริเวณที่พักอาศัยตรงพื้นที่ที่รับน้ำฝนตามจุดต่างๆ เช่น สวนบนอาคาร ดาดฟ้า สระว่ายน้ำ ส่วนพื้นที่บริเวณบ้าน หรือบริเวณห้อง จุดที่ต้องโฟกัสมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ผนัง พื้น ประตู หน้าต่าง รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่น้ำฝนสาดเข้ามาสามารถสร้างปัญหาได้ เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพที่เรียบร้อย พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จากประสบการณ์ของพลัสฯ กว่า 25 ปี ขอแนะนำแนวทางในการดูแลบ้านและโครงการคอนโดดังนี้
บ้านเดี่ยว
ควรมีการตรวจเช็กรอยรั่วซึมแตกร้าวของหลังคา ฝ้า ผนัง จุดที่เป็นแนวป้องกันน้ำฝนของบ้าน เพราะถ้าเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าในตัวบ้านแล้ว อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ตัวบ้านและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ รวมถึงควรมีตรวจเช็กและทำความสะอาดรางน้ำ – ท่อระบายน้ำอยู่เสมอ ไม่ละเลยปล่อยให้มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ หรือเศษขยะเอาไปอุดตันปิดกั้นทางไหลของน้ำเพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนเกิดการอุดตันจนทำให้น้ำในทางระบายล้น อาจทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปรั่วซึมหรือท่วมขังภายในบริเวณบ้านได้ สำหรับบ้านที่มีสวนหรือปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ ก็อาจจะต้องดูแลจัดการตัดแต่งกิ่งไม้รอบๆ บ้านให้สั้นลงเพื่อป้องกันเหตุที่กิ่งไม้จะเกิดการหักโค่น หล่นมาทับตัวบ้านได้ ถ้าหากเกิดสถานการณ์ลมพายุฝนตกหนัก นอกจากนี้หลังฝนตกการทำความสะอาดขัดล้างพื้นเพื่อขจัดคราบตะไคร่สีเขียวที่เกาะติดอยู่บนพื้นภายนอกก็เป็นอีกเรื่องที่จะสำคัญ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานด้วยจะเกิดการสะสมและทำความสะอาดได้ยาก โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในบ้าน จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มอีกด้วย