The Crown Residences

  

เดอะ คราวน์ เรสซิเดนท์เซส


โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ที่เชื่อมต่อทั้ง 2 CBDs ทั้งสุขุมวิท และสีลม-สาทร ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีคลองเตยประมาณ 300 เมตร และสถานีลุมพินีประมาณ 450 เมตร รวมถึงจุดขึ้น - ลง ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 4 นาที นอกจากจะติดถนนพระราม 4

wipawan khampuwiang เมื่อ 13 June, 2022 เวลา 11.20 am

Prop score™: 3.8

คะแนนรีวิว: 0.0

0 รีวิว


ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา



    ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ

The Crown Residences

บริษัทผู้สร้าง

บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด

สถานที่

ถนนพระราม4

สถานีรถไฟ BTS

-

สถานีรถไฟใต้ดิน

MRT คลองเตย Distance 300 m./MRT ลุมพินี Distance 450 m.

Airport Rail Link

-

สถานี BRT

-

พื้นที่

ประมาณ 1-0-68.1 ไร่

ชั้น

32 ชั้น

ยูนิต

183 ยูนิต

ที่จอดรถ

ประมาณ 66% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ลิฟท์

2 Passenger Lifts + 1 Service Lift

สิ่งอำนวยความสดวก

Garden, Lobby, Mailbox, Meeting Room, Game Zone, Lounge, Fitness Club, All-Day Dining, Crown Bar, Starry Night Infinite Pool, Starry Night Rooftop Riverview, Aqua Sunken Seat


    ประเภทยูนิต

ประเภท

CONDO/คอนโด High Rise/Luxury Condo

studio

-

1 bedroom

26.4 – 43.1 ตร.ม.

2 bedroom

53.4 – 75.2 ตร.ม.

3 bedroom

-

Duplex

-

Penthouse

107.6 – 119 ตร.ม.

ประเภทอื่นๆ

-

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน

2.7 เมตร

ราคาเริ่มต้น / ตรม.

237,154 บาท

ราคาเริ่มต้น / ยูนิต

6 ล้านบาท

ค่าส่วนกลาง

ืn/a

Sinking Fund fee

n/a

สร้างเสร็จ

2025

เว็บไซต์

https://se-thai.com/condominium/thecrownresidences

02-007-5555


เพื่อนบ้าน Street View


เหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว! The Crown Residences คอนโด Freehold ทำเลเยี่ยม วิวสวยสุดๆ เยื้อง ONE Bangkok

 

ในกรุงเทพฯ มีย่าน CBD กระจายตัวไปอยู่หลากหลายบริเวณ แต่บริเวณที่อาจเรียกได้ว่าเป็น Ultra CBD ซึ่งมีครบทุกองค์ประกอบของความสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็น พัฒนาการที่มีอย่างต่อเนื่อง, Supply ที่ดินในแบบ Freehold ที่หายาก, จำนวนอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ใช้สอยรวมในระดับเกินกว่า 1 ล้านตารางเมตร, รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับย่าน Inner CBD อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ ก็คงจะเป็นย่านพระรามสี่ช่วงตัดกับสาทรนี่ล่ะ

 

ถนนพระราม 4 ช่วงตัดกับถนนสาทร เป็นย่าน Ultra CBD ที่เป็นศูนย์รวมของพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A และอาคาร Mixed Use เกิดใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ONE Bangkok, DUSIT CENTRAL PARK, PARK SILOM, The Parq และ PUNN TOWER โดยหากทุกโครงการแล้วเสร็จมีพื้นที่ใช้สอยของอาคารสำนักงานโดยรวมประมาณ 1.2 ล้านตารางเมตร และมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยประมาณ 1,060 บาทต่อตารางเมตร ถือว่าเป็นย่าน CBD ที่มีอัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีการเดินทางที่สะดวกทั้งรถส่วนตัวรถไฟฟ้า และขนส่งสาธารณะอื่นๆ เชื่อมต่อได้ทุกทำเล บวกกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในย่านที่มีครบทุกอย่าง โดยเฉพาะสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึง 2 แห่งที่เปรียบเสมือนปอดใจกลางของกรุงเทพฯ อย่างสวนลุมพินี และสวนป่าเบญจกิติ จึงส่งผลให้มีดีมานท์การพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตมากที่สุดของกรุงเทพฯ ชั้นใน

เมื่อได้ฟังแบบนี้ก็พอจะเห็นภาพได้ว่า โครงการที่อยู่อาศัยใดๆ ที่อยู่บริเวณถนนหลักพระรามสี่ช่วงนี้ ก็น่าจะเปรียบดั่งการได้อยู่อาศัยท่ามกลางหมู่ดาว บนย่าน Ultra CBD ที่เต็มไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยในแบบ Leasehold ราคาแพง โดยโครงการ The Crown Residence ที่ผมกำลังจะพามาชมในวันนี้ก็นับว่าเป็นโครงการคอนโดในแบบ Freehold เพียงแค่ไม่กี่โครงการที่อยู่ในย่านนี้ครับ ถ้าพิจารณาจากจุดนี้เป็นหลักก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว

โครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ที่เชื่อมต่อทั้ง 2 CBDs ทั้งสุขุมวิท และสีลม-สาทร ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสถานีคลองเตยประมาณ 300 เมตร และสถานีลุมพินีประมาณ 450 เมตร รวมถึงจุดขึ้น – ลง ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร เพียง 4 นาที นอกจากจะติดถนนพระราม 4 ยังมีถนนอีกด้านที่ติดถนนซอยสุวรรณสวัสดิ์ ซึ่งซอยนี้ใช้เป็นทางลัดไปได้ทั้ง สาทร-เย็นอากาศ-นางลิ้นจี่ และเชื่อมต่อไปถึงถนนนราธิวาสฯ ได้อย่างสะดวก

โดยจุดเด่นของโครงการที่นอกเหนือจากเรื่องของทำเล ก็คือวิวที่ผู้พักอาศัยได้รับ ซึ่งจะเป็นวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ รวมกว่า 850 ไร่ จาก สวนลุมพินี สวนป่าเบญจกิติ และพื้นที่สวนสีเขียวจาก ONE Bangkok ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้สึกสดชื่นและสบายตาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งอีกไม่นานสวนลุมพินีและสวนป่าเบญจกิติ กำลังมีโครงการทำทางเชื่อมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

โครงการ The Crown Residence เป็นคอนโดมิเนียมขนาด 32 ชั้น จำนวน 183 ยูนิต มีที่จอดรถ 68% เป็นแบบ Auto Parking และจอดปกติที่ชั้น 1 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-0-68 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25.30 – 34.90 ตร.ม. ห้อง 1 Bedroom Signature ขนาด 39.40 – 43.10 ตร.ม.ห้อง 2 Bedroom ขนาด 52.30 – 75.30 ตร.ม. และ Penthouse ขนาด 107.6 – 118.70 ตร.ม. มีราคาเริ่มต้น 6 – 20 ล้านบาท ยูนิตที่พักอาศัยถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “THE PARAMOUNT OF PARKSIDE LIVING” ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตให้ใกล้ชิดสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเมือง โดยห้องพักเริ่มที่ชั้น 5 แต่สูงจากพื้นดิน 27 เมตร เทียบเท่าชั้น 9 ของหลายๆ ตึก คอนโดวางห้องแนวเหนือใต้ไม่มีห้องทิศตะวันตก เป็นส่วนตัวกว่าด้วยจำนวนยูนิตต่อชั้นที่มากสุดเพียง 9 ยูนิตเท่านั้น

ในด้านการออกแบบอาคารนั้นทาง TANDEM ARCHITECT ได้สร้าง Facade ให้โดดเด่นโดยใช้เส้น Horizontal Shading ให้ทุกห้องรับวิวธรรมชาติ มีการไล่ระดับของระเบียงสลับซ้าย-ขวา เพื่อให้ระเบียงของทุกห้องสามารถมองเห็นและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติอย่างเต็มที่กับวิวพื้นที่สวนกว่า 850 ไร่

โดยห้องที่เป็นไฮไลท์ของโครงการ จะเป็น 1 Bedroom SIGNATURE มีขอบของห้องเป็นแนวเฉียง ทำให้ได้กระจกกว้างกว่าเปิดมุมมองวิวสวนได้เต็มที่ ที่มีจำนวนเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น และ 2 Bedroom Unlimited Parkside กับการออกแบบพื้นที่ให้สามารถใช้งานพร้อมกับเปิดรับวิว ด้วยดีไซน์ห้องหน้ากว้างแบบ Wide Frontage ที่ทำให้สามารถเห็นวิวได้อย่างต่อเนื่องแบบ Unlimited ถึง 9 เมตร

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยอดมงกุฎ จึงออกแบบให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่บนชั้น 32 ซึ่งสูงที่สุดของตัวโครงการ เพื่อให้ได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศวิวสวนและวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า แบบ 270 องศา พร้อมส่วนกลางที่รองรับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนใจกลางเมืองใหญ่ ทั้ง Starry Night Rooftop Riverview พื้นที่ชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมวิวสวนสาธารณะได้แบบพาโนรามา, Starry Night Infinite Pool สระว่ายน้ำ ไร้ขอบ มาพร้อม Aqua Sunken Seat อ่างจากุซซี่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็ก รวมไปถึง Crystal Lounge ที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Crown Bar, All-Day Dining, Fitness Club และ Lounge ทั้งฝั่ง Parkside & Riverside ซึ่งทั้งหมดถูกดีไซน์ให้เปิดมุมมองด้วยกระจกรอบด้าน ทำให้ได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่โปร่งโล่ง และผ่อนคลาย

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังมีบริการพิเศษระดับโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น บริการทำความสะอาด, บริการซื้อของ, บริการนัดหมายจองตั๋ว สำรองที่พัก, บริการขนย้ายเข้า, บริการต้อนรับ และบริการจองรถลีมูซีน / แท็กซี่ออนคอล, Doorman, Bellboy เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟของผู้พักอาศัยได้อย่างแท้จริง

 

เราขึ้นไปดูห้องตัวอย่างที่ชั้น 2 กันครับ โดยห้องตัวอย่างมี 3 ห้อง คือ 1 ห้องนอน ขนาด 27.3 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 34.9 ตร.ม. แล้วก็ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 52.4 ตร.ม. ครับ ทั้ง 3 ห้องเป็นห้องตำแหน่งหัวมุมอาคารหมดเลย ได้ห้องแบบ Fully Fitted พื้นห้องแบบ Hybrid Engineered Wood มีครัว ตู้ Built-in พร้อม Hob & Hood ตู้รองเท้า (บางห้อง) แล้วก็ตู้เสื้อผ้า

ตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องตัวอย่างห้องแรก เป็นห้องแบบ 1 นอน ขนาด 27.3 ตร.ม. เป็นห้องแบบหน้ากว้าง บริเวณประตูติดตั้ง Digital Door Lock ให้ พร้อมระบบ Home Automation ภายในห้อง

ในโครงการนี้เป็นห้องแบบครัวหน้าทุกห้อง ของที่ได้ก็จะเป็นเคาน์เตอร์ครัวท็อปหินแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง และโครงการติดตั้งพื้นที่ Backsplash ให้ด้วย

 

Hob & Hood ที่โครงการให้มาเป็นแบรนด์ Franke พร้อมอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม

ตู้ Built-in ข้างบน โครงการให้แบบนี้เป๊ะๆ มีช่องวางไมโครเวฟ และช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าอยู่ชั้นด้านล่าง ส่วนพื้นที่วางตู้เย็นจะอยู่มุมนี้ติดกับประตูห้อง สวิตช์ไฟภายในห้องใช้ Schneider

ห้องนี้เพดานสูง 2.7 ม. และปูพื้นด้วย Hybrid Engineered Wood หนา 8 มม.

ตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำและตู้เก็บรองเท้าที่โครงการติดตั้งให้ มีแค่บางห้อง เปิดตู้ออกมาใช้เก็บรองเท้าได้หลายคู่ ตู้ชั้นบนใช้เก็บของได้ด้วย

เข้ามาห้องน้ำ ด้านในติดตั้ง Shower Screen ให้ พร้อม Rain Shower และสุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler

ถัดมาเป็นห้องนอน กั้นส่วนนี้ด้วยประตูกระจกบานสไลด์แบบ 3 ตอน สูงติดเพดาน ภายในห้องเป็นผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว

ห้องนอนกว้าง มีพื้นที่ใช้วางโต๊ะทานอาหารและโต๊ะทำงานที่ติดกับกระจกตรงมุมนู้นได้ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เดินเยอะ ไม่อึดอัด

บริเวณนี้วางเตียงคิงส์ไซส์ได้ ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้มาหน้าบานเป็นกระจกแบบนี้ เปิดได้ 3 ตอน สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ

ส่วนทีวีใช้เป็นติดผนังแบบห้องตัวอย่างได้ครับ ไม่เสียพื้นที่ภายในห้องเยอะ

โดยห้องนี้จำลองให้เป็นตำแหน่งของห้องมุม ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ของ Bay Window ทำให้ห้องนี้สามารถเห็นวิวด้านนอกได้กว้างกว่า ความสูงของกระจกอยู่ที่ 2.4 ม.

มาถึงประตูบานนี้ ที่เปิดออกไปก็จะเป็นส่วนของระเบียง ที่ใช้วาง CDU แอร์ฯ

มาถึงห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้องแบบ 1 นอน ขนาด 34.9 ตร.ม. มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วน

เข้ามาในห้องก็จะเจอครัวเหมือนเดิมครับ ตำแหน่งตู้เย็นติดกับประตู และเคาน์เตอร์ครัวท็อปหิน พร้อม Built-in ตู้เก็บของด้านบนให้ ส่วน Backsplash ได้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

 

Hod & Hood ให้แบรนด์ Franke มีอ่างล้างจาน 1 หลุม และช่องวางไมโครเวฟด้านบน ช่องวางเครื่องซักผ้าด้านล่าง

 

ถัดมาเป็นพื้นที่วางโต๊ะอาหาร และมีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ข้างๆ ตรงนี้ เพราะเป็นตำแหน่งห้องมุม แต่ห้องนี้จะไม่ได้ Built-in ตู้เก็บรองเท้าให้ ใครที่ซื้อมาติดตั้งเองสามารถขยับโต๊ะทานอาหารไปทางโซฟาได้ เพื่อให้มีพื้นที่บริเวณหน้าห้องวางตู้เก็บรองเท้า

ส่วนนี้เป็น Living Room มีพื้นที่วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะกาแฟด้านหน้าแบบนี้ได้

ทีวีจะอยู่ฝั่งนี้ ใช้เป็นทีวีตั้งบนโต๊ะก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินเยอะ ส่วนระเบียงห้องจะอยู่บริเวณนี้ครับ กั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์

เข้ามาในห้องนอน มีตู้เสื้อผ้า ซึ่งหน้าบานของตู้จะเป็นกระจกใสเหมือนกับห้องแรก ผนังฝั่งนี้ติดเป็นกระจกทั้งหมด และหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง 2 บาน

ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ติดตั้ง Shower Screen ให้ มี Rain Shower สุขภัณฑ์ใช้แบรนด์ Kohler

มาถึงห้องตัวอย่างห้องสุดท้าย ที่เป็นห้อง 2 นอน 2 น้ำ ขนาด 52.4 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้าง ซึ่งแบบ 2 นอน มีหน้ากว้างสูงสุดอยู่ที่ 9 ม.

พื้นที่ในห้องกว้าง มีครัวอยู่ด้านหน้า Hob & Hood แบรนด์ Franke และ Built-in ตู้เก็บของด้านบนให้ ห้องนี้ไม่ได้ชั้นวางรองเท้า

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหาร และส่วนของ Living Room ที่มีพื้นที่กว้าง ให้ผู้อยู่อาศัยใช้เวลาว่างกับส่วนนี้ได้อย่างเต็มที่

ระเบียงด้านนอกถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์ ให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้ตลอดทั้งวัน

เดินมาทางห้องนอน จะเห็นห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอนเล็ก ห้องนี้ใช้อาบน้ำได้

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็ก ที่วางเตียงขนาด 3 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้เดินได้สบาย ให้ตู้เสื้อผ้ามาด้วย ซึ่งห้องนี้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย เพราะแสงเข้าห้องได้ตลอดเวลา จึงทำให้ห้องโปร่งอย่างมาก

ส่วนสุดท้ายภายในห้องคือ Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว มีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าภายในห้องโดยหน้าบานเป็นกระจกใส และติดหน้าต่างแบบบานกระทุ้งให้ 2 บาน

ถ้าเหตุผลในการเลือกซื้อคอนโด Luxury ของคุณพิจารณาจากความเป็นส่วนตัว ความหายากของโครงการในแบบ Freehold บนทำเล Leasehold จากวิวที่ได้รับ รวมไปถึงเรื่องความสะดวกสบายในการเดินข้ามไปใช้บริการ Facilities หรือทำงานใน ONE Bangkok เป็นหลัก The Crown Residences น่าจะเป็นคำตอบที่ใช่มากที่สุดสำหรับคุณ

แต่ถ้าใครที่ไม่ได้มีไลฟ์สไตล์ที่วนเวียนอยู่ในย่าน Ultra CBD แบบนี้ และพิจารณาจากเรื่องของสเปควัสดุภายในห้องที่ได้เป็นหลัก ว่าต้องเป็นวัสดุพรีเมียมแบรนด์หรู แบรนด์ดังระดับโลก ที่นี่อาจจะไม่ใช่คำตอบเดียวของคุณ แต่สำหรับผมเองยังไงก็ต้องบอกว่าทำเลและวิวนั้นเป็นสิ่งที่หาทดแทนได้ค่อนข้างยากกว่า เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาของคอนโดทวีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไปมากกว่า

โดยโครงการ The Crown Residences มีกำหนดเปิดจองอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ณ สำนักงานขาย โดยมีราคาขายอยู่ที่ 6 – 20 ลบ.* ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนติดต่อเข้ารับชมโครงการ ได้ที่เบอร์ตามด้านล่างนี้ครับ www.se-thai.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 007 5555



wipawan khampuwiang

wipawan khampuwiang

จบทางด้านภาษาไทยและชอบงานเขียน ชอบอ่านและดูรูปภาพรีวิวบ้าน คอนโดต่างๆ เบื่อกับการอยู่ห้องทั้งวันแบบไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นงานอดิเรกก็เลยชอบหาที่เที่ยวและถ่ายภาพ

เว็บไซต์


PropScore™ 3.8

SCORE:
0.0
From : 0 รีวิว


ยังไม่มีการให้คะแนนและ Comment โครงการนี้


พาชมบ้านสำเร็จรูปดีไซน์สวย สไตล์บ้านพักตากอากาศสุดหรู The Osmo Scape ในงานสถาปนิก’67

งานสถาปนิก’67 ปีนี้มีบูธน่าสนใจหลายบูธมากครับ จากข้อมูลคือมีแบรนด์ผู้จัดแสดงสินค้าชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศจำนวน 1,000 ราย บนพื้นที่ 75,000 ตร.ม.ที่พร้อมมาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ที... อ่านต่อ

2 May, 2024



ครบครันคุ้มค่าในทุกมิติของการอยู่อาศัยที่ 89 Residence Ratchada – Rama9 บ้านแนวคิดใหม่ หนึ่งเดียวใจกลางรัชดา – พระราม 9

บ้านจัดสรรในพื้นที่ Prime Area ใจกลางเมือง และย่านธุรกิจ CBD ของกรุงเทพฯ กำลังลดจำนวนลง... อ่านต่อ
2 May, 2024

LIFE SPACE TREND 2024 อะไรคือเทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปหลังภาวการณ์โรคระบาด โดยเฮียวิทย์ x AP Home

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนธรรมดาสุด Introvert อย่างผมจะได้เข้ามานั่งอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดคลา... อ่านต่อ
29 April, 2024

TAIT Sathorn 12 เปิดห้องตัวอย่างใหม่ 1 Bed Iconic Suite แต่งครบ สไตล์ Classical American โดย ‘CHANINTR’ แค่ยูนิตเดียวเท่านั้น!

โครงการ TAIT Sathorn 12 ตอนนี้เค้ามีห้องเหลือขายแค่ 14 ห้องเท่านั้นครับ โดยเป็นห้อง 1 B... อ่านต่อ
25 April, 2024

ข้อเท็จจริง และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ระหว่างอสังหาฯรูปแบบ Freehold และ Leasehold

ในปีนี้เราจะมีโอกาสได้เห็นโครงการ Leasehold ที่กำลังจะสร้างเสร็จพร้อมอยู่หลายที่ครับ แล... อ่านต่อ
17 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง