ความงดงามของธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่สีสันแห่งแมกไม้นานาพรรณ   แต่ “สีเขียว” ในธรรมชาติยังเชื่อมโยงกับความยืนยาวของชีวิต   ทั้งช่วยบรรเทาและรักษาสุขภาพให้ดีขึ้น  การได้อาศัยอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้   การได้สูดอากาศบริสุทธิ์  เปรียบเสมือนเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่เราสามารถมอบเป็นของขวัญให้ตัวเองได้

จากการวิเคราะห์ของนักวิจัยจากโรงเรียนสาธารณสุขฮาร์วาร์ด พบว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อันอุดมด้วยพืชสีเขียวมีโอกาสอายุยืนยาว  และมีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุลดลง ต่ำกว่า 12% มีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลดลง 13% อัตราการเสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจลดลง 35% และอัตราการเสียชีวิตจากโรคไตลดลง 41%  อีกทั้งการได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่สีเขียว ยังมีส่วนช่วยบรรเทาความตึงเครียด และลดระดับภาวะซึมเศร้า เพิ่มโอกาสการพบปะมีส่วนร่วมทางสังคมกับผู้อื่น ที่สำคัญการห่างไกลจากมลพิษและได้สัมผัสกับธรรมชาติจะช่วยนำไปสู่อารมณ์เชิงบวก ส่งเสริมบรรยากาศของการเคลื่อนไหวร่างกาย ให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น

การให้ความสำคัญของการเตรียมพร้อม เพื่อออกแบบความสุขกับชีวิตบั้นปลายในสไตล์รุ่นใหญ่ แม้ยังไม่ได้ล่วงเลยเข้าสู่วัยเกษียณ ในปัจจุบันสามารถวางแพลนไว้ล่วงหน้าได้อย่างสบาย โดยเฉพาะ “วัยอิสระ”   การบริหารความสุขให้ลงล็อก ทำได้โดยง่าย ไม่ต้องหวาดกลัวความเดียวดาย และไร้ความกังวลกับการเป็นภาระลูกหลาน    เมื่อคนใน “วัยอิสระ” สามารถวางแพลนการใช้ชีวิตที่  Downsize หรือลดขนาดชีวิตลง ลดภาระจากการดูแลบ้านหลังใหญ่  เป็นการลดภาระทางด้านการเงิน มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีขนาดเล็กลง  แต่ไม่พร่องในเรื่องความสุข ทำให้มีเงินเพียงพอเพื่อดูแลชีวิตอย่างยืนยาว และ รื่นรมย์กับการสร้างสังคมใหม่ไปพร้อมกัน

ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักพบเจอในวัยเกษียณ หรือ  “วัยอิสระ”  คือความว้าเหว่อันเกิดจากโรคความเหงา เนื่องจากขาดการปฎิสัมพันธ์ หลังหมดภาระในหน้าที่การทำงานแล้ว   จากผลสำรวจของกรมสุขภาพจิตพบว่าผู้สูงอายุที่มีอารมณ์เศร้าท้อแท้สิ้นหวัง  ไร้ซึ่งความยินดี หมดความสุขในชีวิต อาจเข้าข่ายสู่โรคซึมเศร้าได้ง่าย   และ การแยกตัวขาดจากสังคม  จะส่งผลกระทบต่อสมองอาจทำให้เกิดความเซื่องซึม  เฉื่อยชา ขาดความกระตือรือร้น การได้อยู่ในชุมชนที่แวดล้อมในสิ่งใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่ดีอุดมไปด้วย “สีเขียว”  จะทำให้ผู้สูงวัยยิ่งเพลิดเพลินกับกิจกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ ตลอดจนสุขภาพทางสมองให้ปลอดโปร่ง มีการพัฒนาอยู่เสมอ

โครงการ “นายาเรสซิเดนซ์”  (NAYA Residence) บ้านพักริมแม่น้ำเจ้าพระยา นับเป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดที่เปลี่ยนภาพ “บ้านพักคนชรา” สู่ที่อยู่อาศัย  เป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุ (Senior Living) แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living   สามารถตอบโจทย์ชีวิต “วัยอิสระ” ได้ครบวงจร

โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถรับอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด  ใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งแต่ ทางเดินที่สร้างตามหลัก Universal Design    ร่มรื่นด้วยธรรมชาติ “สีเขียว” ของแมกไม้นานาพรรณ  ให้บรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย  ครบครันในเรื่องความสะดวกสบายเสมือนบ้านหลังที่ 2  สร้างความปลอดภัยอุ่นใจกับผู้พักอาศัยอย่างสุขใจใน “วัยอิสระ” โดยสามารถเลือกระยะเวลาการเช่าได้ตามความต้องการ  ทั้งเช่าระยะยาว  30 ปี หรือต้องการเช่าเป็นรายเดือนก็สามารถทำได้  ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจะได้รับห้องพักส่วนตัวที่ออกแบบ

มาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของ “วัยอิสระ” แต่ยังคงความทันสมัยของการออกแบบ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในห้องพัก เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความสุข รู้สึกอบอุ่น ประดุจได้รับการดูแลจากคนในครอบครัว  ไม่ว่าใครก็สามารถออกแบบชีวิตใน “วัยอิสระ” อย่างมีความสุขได้ ที่ “นายาเรสซิเดนซ์” (NAYA Residence)  

อยู่อย่างสุขใจ อยู่อย่างวัยอิสระ LIVE A MEANINGFUL LIFE