ซีบีอาร์อีเผยผู้ใช้พื้นที่โลจิสติกส์วางแผนขยายอีกมากในเอเชียแปซิฟิก แต่ซัพพลายมีไม่เพียงพอ
รายงานฉบับล่าสุดของซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ระบุว่าผู้ใช้พื้นที่โลจิสติกส์มีแผนที่จะขยายพื้นที่คลังสินค้าในเอเชียแปซิฟิกอีกมากในช่วง 3 ปีจากนี้ เนื่องจากมีมุมมองในแง่บวกมากขึ้นเรื่องสภาพแวดล้อมสำหรับการดำเนินงาน
ซีบีอาร์อีสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารเกือบ 100 คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจและเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ด้านโลจิสติกส์ในบริษัทต่าง ๆ ตั้งแต่บริษัทที่เป็นตัวแทนผู้ให้บริการโลจิสติกส์ (Third-party Logistics: 3PLs) ไปจนถึงผู้ผลิต ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และผู้ค้าปลีก ซึ่งพบว่า 78% ของผู้ใช้พื้นที่โลจิสติกส์ตั้งใจที่จะขยายพื้นที่คลังสินค้าของตนเอง และผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งมองว่าจะเป็นการเติบโตอย่างมาก โดยมีบรรดาตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เป็นตลาดเป้าหมายในการขยายพื้นที่
ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากอัตราพื้นที่ว่างของคลังสินค้าในตลาดหลักของเอเชียแปซิฟิกที่ลดลงเหลือน้อยกว่า 4% ในไตรมาส 2 ของปี 2564 ขณะที่ปริมาณการใช้พื้นที่คลังสินค้าสุทธิในตลาดสำคัญของเอเชีย1 ทำสถิติสูงสุดที่ 3.3 ล้านตารางเมตรในช่วงครึ่งแรกของปี 2564
คาดว่าพื้นที่คลังสินค้าของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไรในอีกสามปีข้างหน้า
แผนการขยายพื้นที่เหล่านี้มาจากการที่ผู้ใช้พื้นที่มองในแง่บวกเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในการดำเนินงาน โดย 84% คาดว่าจะมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหรือปานกลางในช่วงสามปีข้างหน้า ทั้งนี้ การมองในแง่บวกเช่นนี้เป็นผลมาจากความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของภาคธุรกิจโลจิสติกส์ตลอดช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีแรงสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างมากของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การค้าปลีกแบบหลายช่องทาง (Omnichannel) ที่เติบโตขึ้น และความต้องการด้านซัพพลายเชนที่เพิ่มขึ้น เช่น การรักษาสินค้าคงคลังที่มีเพิ่มเติมหรือสินค้าคงคลังสำรอง