สมาคมศูนย์การค้า ผนึกกำลังรวม 8 สมาคมยื่นหนังสือ ขอ ศบค.-สาธารณสุข คลายล็อกเปิดธุรกิจในศูนย์การค้า-คอมมูนิตี้มอลล์
8 สมาคมธุรกิจยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผอ.ศปก.ศบค. รวมถึง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอพิจารณาให้คลายล็อกเปิดศูนย์การค้าฯ คอมมูนิตี้มอลล์ ธุรกิจประเภทต่าง ๆ และสนามกอล์ฟ เป็นการเร่งด่วน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาการเลิกจ้างงานจำนวนมาก และกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
นางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ เคอี กรุ๊ป จำกัด ในฐานะกรรมการสมาคมศูนย์การค้าไทย และผู้แทนคณะทำงาน 8 สมาคมธุรกิจ ได้รับมอบหมายจาก นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย เปิดเผยว่า สมาคมศูนย์การค้าไทย, สมาคมธุรกิจร้านอาหาร, กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาคมคลีนิกเอกชน, สมาคมวิชาชีพช่างผมไทย, สมาคมผู้ประกอบการสปาไทย, สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย และสมาคมสนามกอล์ฟไทย รวม 8 สมาคมที่เกี่ยวข้อง เดินหน้ายื่นหนังสือต่อ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผอ.ศปก.ศบค. และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนำเสนอแนวทางการลดระดับการล็อกดาวน์ (Lock Down) เพื่อรักษาสภาพเศรษฐกิจ พร้อมนำเสนอแนวทางการเปิดศูนย์การค้าฯ คอมมูนิตี้มอลล์ และธุรกิจต่าง ๆ ในศูนย์การค้า และสนามกอล์ฟ รวมถึงมาตรการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อรองรับการให้บริการอย่างปลอดภัย หลังได้รับผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ของภาครัฐที่มีการประกาศและคำสั่งให้ปิดกิจการเป็นระยะ ๆ เรื่อยมา โดยทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้างต้องประสบปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก และข้อเท็จจริงพบว่า สาเหตุของการติดเชื้อที่มาจากศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และสนามกอล์ฟนั้นต่ำมาก อีกทั้งประชาชนโดยรวมนั้นมีความเข้าใจมากขึ้น ในการดูแลด้านสุขอนามัย ตระหนักในการเดินทางและการเคลื่อนย้ายซึ่งจะกระทำเมื่อมีความจำเป็น ในขณะที่ปัจจุบัน ร้านค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยชี้แจงเพิ่มเติมว่า ลูกค้าที่ WFH มีความจำเป็นและต้องการสินค้าประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น และความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนั้นมีน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่แสดงสินค้า ที่สำคัญศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์มีมาตรการด้านสาธารณสุขที่ดีและได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการล็อกดาวน์ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร และ ร้านค้าประเภทต่าง ๆ มีมูลค่าโดยรวมกว่าเจ็ดแสนล้านบาทและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นความสูญเสียและส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นอย่างมาก ภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามมาตรฐานทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้มาใช้บริการในศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ และสนามกอล์ฟ โดยขอให้ศบค. และกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาการปลดล็อกเป็นระยะ และมีแผนการปลดล็อกที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนรับทราบล่วงหน้า โดยอาจใช้เกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับต่างประเทศ เช่น อัตราได้รับการฉีดวัคซีนของประชาชน