กลุ่มนักพัฒนาอสังหาฯ ในฮ่องกงเพิ่มการเฝ้าระวังไวรัสอู่ฮั่นหรือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) อีกขั้น หลังคาดการณ์ว่าอาจกระทบตลาดบ้านและห้างค้าปลีกต่ออีกในระยะยาว

จากที่ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากพิษการประท้วงอันยาวนานกว่า 8 เดือนบวกกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ฮ่องกงก็ต้องเผชิญกับอีกหนึ่งความท้าทายใหม่อย่างไวรัสอู่ฮั่น ที่ล่าสุดได้รับการรายงานว่าสามารถติดต่อได้จากคนสู่คน

อาจจะดูเร็วเกินไปที่จะประเมินความเสียหายที่อาจเกิดในตอนนี้ แต่การแพร่ระบาดของไวรัสชนิดใหม่ครั้งนี้ก็เตือนให้นึกถึงเมื่อครั้งที่โรคซาร์สระบาดหนักและแพร่เชื้อไปยัง 8,098 คน ใน 37 ประเทศทั่วโลกและคร่าชีวิตชาวฮ่องกงไป 299 ราย เพียงเพราะมาเยือนของนักเดินทางจากกวางตุ้ง จีนแผ่นดินใหญ่ที่นำเอาเชื้อไปแพร่กระจาย

Hang Lung Properties ได้เพิ่มมาตราการทำความสะอาดอสังหาฯ ทั้งหมดของตนทั้งในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่เป็น 2 เท่า Weber Lo ประธานบริหารกล่าวว่าพนักงานทุกคนยังต้องคอยรายงานทางบริษัทด้วยว่าตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวเกิดอาการเจ็บป่วยหรือไม่ บริษัทเร่งให้ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันเป็นการด่วน รวมถึงผู้ที่ต้องเดินทางจากฮ่องกงไปจีนแผ่นดินใหญ่ หรือผู้ที่ประจำอยู่ที่อู่ฮั่นด้วย

ด้าน CK Asset บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่มีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฮ่องกงกล่าวว่าทางบริษัทต้องทำความสะอาดบริเวณจุดขายทุกๆ ชั่วโมง แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้เยี่ยมชมและกวดขันการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศมากยิ่งขึ้น

เอเจนซี่ท้องถิ่นทั้ง Centaline Property Agency, Midland Realty, Ricacorp Properties และ Hong Kong Property (Services) ก็ทำความสะอาดสาขาเป็นประจำและให้พนักงานที่ป่วยลาหยุดด้วยเช่นกัน

แต่งานนี้ Hang Lung Properties ดูจะเป็นผู้ที่ได้รับความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องมาจากกำลังมีโครงการ Heartland 66 บนพื้นที่ 460,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า ออฟฟิศ 61 ชั้น และเซอร์วิสแฟลต โดยทางบริษัทได้ซื้อพื้นที่ในอู่ฮั่นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 ในราคา 3.3 พันล้านหยวน มูลค่าการลงทุนของโครงการราว 12 พันล้านหยวนและเริ่มก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน พื้นที่ส่วนออฟฟิศมีกำหนดเปิดบริการช่วงกลางปี 2020 นี้ก่อนจะตามด้วยพื้นที่ส่วนห้างค้าปลีก และผู้เช่าส่วนใหญ่คือชาวจีนแผ่นดินใหญ่

Patrick Wong นักวิเคราะห์อสังหาฯ เอเชียอาวุโสจาก Bloomberg มองว่ายอดการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าในจีนแผ่นดินใหญ่จะเติบโตช้ากว่าปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากโรคระบาดที่เข้ามาทำให้ลูกค้าหนีกระเจิง

Raymond Cheng หัวหน้าฝ่ายวิจัยฮ่องกงและจีนจาก CGS-CIMB Securities ก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าศูนย์การค้าในจีนจะได้รับผลกระทบ รวมถึงเซี่ยงไฮ้และเสินหยาง หากคนในพื้นที่ออกไปช้อปปิ้งและทานอาหารนอกบ้านน้อยลง นี่ก็เป็นเหตุผลที่จะอธิบายราคาหุ้นที่ร่วงลงไปได้

โดยราคาหุ้นของ Wharf REIC ร่วงลงไป 5.9% ภายใน 2 วัน Hysan ร่วงลงไป 4.9% และ Hang Lung ลดลงไป 4.4%

ผลกำไรรวมของ Hang Lung ลดลง 24% มาที่ 6.17 พันล้านดอลาร์ฮ่องกง ในช่วง 12 เดือนนับถึงธันวาคมที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้ลดลง 6% มาที่ 8.9 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยมีเงินปันผล 59 เซ็นต์ต่อหุ้น

แหล่งข้อมูล

https://www.scmp.com/property/hong-kong-china/article/3047047/hong-kong-developers-real-estate-agencies-put-alert-wuhan