คอนโดแบบ Leasehold กำลังจะมาพลิกความเชื่อแนวคิดการซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ

คอนโดประเภท Leasehold คือคอนโดที่สร้างอยู่บนที่ดินเช่า ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระยะเวลากำหนดเช่น เช่าที่ดิน 30 ปี พอครบ 30 ปีสิทธิ์การเข้าพักอาศัยก็กลับไปสู่เจ้าของที่ดิน ซึ่งแตกต่างจากคอนโดมิเนียมประเภท Freehold ที่เราถือครองได้ชั่วลูกชั่วหลาน แต่ในอนาคตแนวคิดการเก็บสะสมอสังหาริมทรัพย์แล้วหวังว่าลูกหลานจะรับดูแลต่อนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดใหม่ เพราะในอนาคตเรื่องของภาษีที่จะเก็บต่างๆ อาจเพิ่มขึ้นจนกระทั่งถือครองไปยาวๆ ก็ไม่คุ้มค่า นอกจากนี้ก็ยังมีค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายกันชั่วลูกชั่วหลานอีกเช่นกัน

ปัจจุบันคอนโด Leasehold ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในย่านดังๆ อย่างราชดำริ หลังสวน ศูนย์สิริกิต์ จุฬาฯ และสามย่าน ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่แตกต่างกันไปในแต่ละหน่วยงาน ข้อดีของคอนโดประเภท Leasehold นั้นส่วนใหญ่จะเลือกตั้งอยู่ในทำเลที่เป็น Prime Area มีความเจริญขั้นสูงสุด เดินทางสะดวกสบาย ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกที่จะทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นหลายเท่า

แนวคิดการเลือกซื้อคอนโด Freehold หรือแบบปกติที่คนไทยคุ้นชินนั้นไม่สามารถนำมาใช้กับการซื้อคอนโด Leasehold ได้นะครับ เพราะปัจจัยในการตัดสินใจของการซื้อคอนโด Leasehold นั้นไม่ใช่แนวคิดการซื้อเพื่อเป็นมรดกหรือซื้อเพื่ออยู่จนแก่ตายเหมือนคอนโด Freehold แต่คนที่พึงพอใจคอนโด Leasehold คือคนที่มีความเชื่อว่าการซื้อคอนโดคือการซื้อสุดยอดไลฟ์สไตล์ความสะดวกสบายที่ผู้ซื้อจะได้รับในระหว่างที่ยังอยู่ในสัญญาเช่าที่ดินของโครงการนั่นเอง

ลองนึกภาพว่าถ้าเราต้องจ่ายเงินราคา 4 ล้านบาทเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยได้ 2-3 คนเป็นระยะเวลา 30 ปี เราจะได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง เมื่อคำนวณทางตัวเลขการเงินผสมกับโอกาสของการประหยัดเวลาในการเดินทางที่จะสามารถสร้างคุณค่าได้อีกมหาศาลแล้ว เราถึงจะบอกได้ว่าไม่เหมาะหรือเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเรา

ถ้าใครมองว่าตัวเองต้องการซื้อความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ก้าวเท้าลงมาเจอห้าง เจอรถไฟฟ้า เจอสถานที่ต่างๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าคิดแบบนี้ก็เลือกซื้อคอนโด Leasehold จะดีกว่าไปซื้อคอนโด Freehold ที่แม้จะถือครองยาวแต่ลำบากในการเดินทางเสียเวลากว่าจะได้เข้ามาในตัวเมืองครับ

โครงการคอนโดมิเนียม Leasehold ล่าสุดในกรุงเทพที่กำลังจะเปิดขายคือโครงการ Triple Y Residence (ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์) ตั้งอยู่ทำเลแยกสามย่าน ติดจุฬาฯ ใกล้สีลม ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน มี Underpass ทางเดินใต้ดินเดินเข้าโครงการได้ แถมในตัวโครงการก็มีห้าง ออฟฟิส โรงแรม ศูนย์อาหาร ศูนย์การเรียนรู้ มีกิจกรรมให้ทำตลอด 24 ชั่วโมง ในโครงการชื่อว่า Samyan Mitrtown (สามย่านมิตรทาวน์) เรียกได้ว่า ถ้าเลือกอยู่ที่ Triple Y Residence ครบถ้วนในการเป็นคอนโด Leasehold ที่ใฝ่ฝันอย่างแท้จริง

ภาพเส้นทาง underpass ทางเดินใต้ดินจากสถานีสามย่านตรงเข้าสู่ Samyan Mitrtown

ถ้าสนใจขอให้แวะลงทะเบียนรับส่วนลดก่อนที่ https://goo.gl/LQz7KZ

คอนโด Leasehold มีให้เห็นที่ไหนบ้าง และทำไมเราต้องอยู่ที่ Triple Y Residence

ในบรรดา Condo Leasehold ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นย่านราชดำริ – หลังสวน ซึ่งราคาสูงไปไกลมากตามสไตล์คนมีเงินเยอะๆ ถ้าจะให้คนทำงานธรรมดาๆ ก็คงจะเอื้อมไม่ถึง ไม่ใช่เกมของคนส่วนใหญ่จะไปเล่นได้

ทำเลคอนโด Leasehold รองลงมาก็คือในย่านรอบๆ จุฬาฯ เนี่ยแหละครับ เพราะมีหลายโครงการเช่น โครงการที่อยู่ในบริเวณติดกับอุทยาน 100 ปี จุฬาคือ CU Terrace หรือระเบียงจามจุรี และโครงการ Chamchuri Residence ที่อยู่ติดกับจามจุรีสแควร์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการตั้งอยู่ในที่ดินของจุฬาฯ ทั้งสิ้น

ในแง่ของการเป็นคอนโด Leasehold ที่การขายต่อยังได้กำไรก็ต้องยกตำแหน่งให้กับ CU Terrace เพราะมี gap ของราคาให้อยู่ในจุดที่คนซื้อยอมจ่ายครับ ส่วน Chamchuri Residence นั้นมีข้อดีตรงที่ปล่อยเช่าห้องขนาดเล็กได้ง่าย เพราะทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า CU Terrace

ส่วนโครงการใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Triple Y Residence นั่นมีข้อดีมากๆ คือเป็นคอนโดมิเนียมระดับ Upper ที่มี Facility เยอะ สวย ห้องพักขนาดใหญ่กว่าคอนโด Freehold ที่อยู่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังออกแบบภายในห้องพักให้ใช้งานได้หลากหลายคุ้มค่าทุกตารางเมตร เปิดขายในราคาต่อตารางเมตรต่ำกว่าตลาดคอนโด Freehold ที่อยู่ย่านรอบๆ สี่แยกสามย่านมากถึง 20-30% โดยมีโครงการเปรียบเทียบคือ Ashton Chula-Silom ซึ่งราคาต่อตารางเมตรนั้นสูงกว่า Triple Y Residence ประมาณ 30%

แบบห้องที่กว้างกว่า มีฟังก์ชั่นเยอะกว่า อยู่จริงได้หลายคนมากกว่าของ Triple Y Residence

Triple Y Residence ตรึงความโดดเด่นในเรื่องของทำเลที่มีการจับกลุ่มตลาดเฉพาะกลุ่มที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็มี Demand จำนวนมากจากกลุ่มคนที่มีศักยภาพสูงทั้งศักยภาพด้านทรัพย์สินและศักยภาพสูงทางด้านความรู้ความสามารถ นอกจากนี้ทำเลของ Triple Y Residence ยังกุมความได้เปรียบในเรื่องของการเป็นศูนย์รวม EduBiz District โดยที่สำนักงานทรัพย์สินจุฬา ก็มีแผนในการพัฒนาที่ดินบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น แนวคิดโครงการ Chula Smart City

ภาพจาก http://www.pmcu.co.th/?page_id=10118

นอกจากนี้ก็มีข่าวการศึกษาความเป็นไปได้โครงการรถไฟฟ้ารางเบา (Smart Streetcar) สายสีชมพูที่จะวิ่งผ่านราชเทวี ประตูน้ำ ราชประสงค์ ราชดำริ พระราม 4 จุฬาฯ สะพานหัวช้าง โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และเรือโดยสารคลองแสนแสบ อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thansettakij.com/content/346556

ภาพเส้นทางการเดินรถ Smart Streetcar ที่อาจเป็นจริงในอนาคต

Triple Y Residence ตั้งอยู่ในเขตที่เป็น EduBiz District นั่นหมายถึงมีกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษาอยู่ภายในพื้นที่จำนวนมาก ถ้าอย่างนั้นเรามาดูสถิติจำนวนนักศึกษาจุฬาฯ รวมทุกระดับในแต่ละปีกันดีกว่า

รายงานจํานวนนิสิตทั้งหมด ภาคการศึกษา 1 ของปีการศึกษา 2557 รวม 38,753 คน

รายงานจํานวนนิสิตทั้งหมด ภาคการศึกษา 1 ของปีการศึกษา 2558 รวม 37,851 คน

รายงานจํานวนนิสิตทั้งหมด ภาคการศึกษา 1 ของปีการศึกษา 2559 รวม 37,146 คน

รายงานจํานวนนิสิตทั้งหมด ภาคการศึกษา 1 ของปีการศึกษา 2560 รวม 37,082

จำนวนนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคการศึกษาปลาย ปีการศึกษา 2561 รวม 36,821 คน

ถึงแม้จำนวนนิสิตจุฬาฯ จะลดลงไปตามจำนวนการเกิดของประชากร แต่ก็ไม่ได้ลดลงไปมากอย่างชัดเจนเหมือนเทรนด์จำนวนนักศึกษาที่เกิดขึ้นกับสถาบันการศึกษาอื่นๆ โดยจำนวนที่ลดลงนี้ทดแทนด้วยคุณภาพของนิสิต ซึ่งพ่อแม่พร้อมลงทุนเพื่อลูกเต็มที่

จากข้อมูลนี้อาจพอทำนายได้ว่าอนาคตแปลงที่ดินต่างๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของจุฬาฯ อาจจะเน้นและปรับเปลี่ยนเป็นโครงการประเภทอาคารสำนักงานที่จะเป็นแหล่งทำงานของคนทำงานมากขึ้น และเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับรองรับหน่วยงานภายนอกมากขึ้น หรือเป็นพื้นที่ที่รองรับกับความต้องการของนิสิตหลังที่จบการศึกษาออกไปในอนาคต ซึ่งทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไปเราต้องคอยติดตามครับ

ทิศทางการพัฒนาย่านพระรามสี่ช่วง 6 ปีนี้ ตั้งแต่ปี 2019-2025 จะเป็นอย่างไร 

เนื่องจากโครงการ Triple Y Residence นั้นตั้งอยู่ใกล้กับถนนพระรามสี่ด้วย เราจึงควรรู้ว่าทิศทางของพระรามสี่นั้นวิ่งไปสู่อนาคตที่ดีอย่างไร

พระรามสี่จะกลายเป็นย่านธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม แม้เดิมจะมีโครงการสำคัญๆ อยู่แล้วก็ตาม ในช่วงตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป โครงการที่เราจะได้เห็นกันจริงๆ ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ การเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายจากหัวลำโพงไปหลักสอง ซึ่งจะทำให้ย่านพระรามสี่สามารถเดินทางเข้าสู่เมืองเก่าได้สะดวก การท่องเที่ยวจะเฟื่องฟูมากขึ้น โครงการต่อไปคือ Samyan Mitrtown ที่อยู่สี่แยกสามย่านที่จะเป็นแหล่งทำงาน ไลฟ์สไตล์และการเรียนรู้ โครงการถัดมาคือ Dusit Central Park ตรงบริเวณโรงแรมดุสิตธานีที่ขณะนี้ได้ปิดทำการเพื่อจะสร้างโครงการใหม่นี่เอง ถัดออกไปอีกคืออภิมหาโครงการ 1.2 แสนล้านบาท One Bangkok ที่จุดตัดระหว่างถนนวิทยุกับถนนพระรามสี่ใกล้สวนลุมพินี และทำเลสุดขอบของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบริเวณระหว่างสถานีคลองเตยกับสถานีศูนย์สิริกิต์คือโครงการ The Parq

ภาพรายงานความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

ภาพจาก mrta.co.th

Samyan Mitrtown มีขนาดที่ดินประมาณ 14 ไร่ จากภาพด้านล่าง ตึกซ้ายคือออฟฟิศ ตึกขวาคือ Triple Y Residence ส่วนอาคารด้านล่างคือ รีเทล ซึ่งมีจุดเด่นที่มีคาเฟ่และร้านอาหารบางส่วนที่เปิดให้บริการต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มี Learning Space สำหรับนั่งอ่านหนังสือ เรียนรู้ต่างๆ และโซน Makers Tool Mega Store สำหรับคนรักการประดิษฐ์ มีศูนย์อาหารที่รวบรวมร้านเด็ดๆ มาไว้ใน Food Museum นอกจากนี้ยังมีพื้นที่โรงหนัง House Samyan ที่ฉายหนังแนว Alternative อีกด้วย สรุปรวมว่า Samyan Mitrtown แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มากกว่าแค่เดินซื้อของกินข้าวชอปปิ้งแต่มีจุดเด่นที่เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ด้วยและเหมาะกับการเรียนรู้ทุกรูปแบบ โครงการนี้จะสร้างเสร็จในปี 2019

วิดีโอ Samyan Mitrtown

https://www.youtube.com/watch?v=Z1pLanOMQaQ

Dusit Cental Park โครงการร่วมทุนกันพัฒนาระหว่างกลุ่มดุสิตธานี และกลุ่ม CPN ที่จะพัฒนาบนที่ดินเดิมของโรงแรมดุสิตธานีที่เพิ่งปิดตัวลงไป โดยรูปแบบโครงการยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา

ที่มาภาพ: https://www.facebook.com/dusitinternational

One Bangkok จะสร้างเสร็จเต็มรูปแบบในปี 2025

The Parq อาคารสำนักงานจากกลุ่มเฟร์เซอร์ และทีซีซี อีกเช่นกัน

โครงการใหญ่ๆ ทั้งหมดนี้อยู่บนถนนพระราม 4 ทั้งนั้น ทำให้เรามั่นใจได้ว่าการเลือกซื้อคอนโด Triple Y Residence นั้นรองรับกับความต้องการผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในย่านที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบนี้

เจาะลึกโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ Triple Y Residence

TRIPLE Y RESIDENCE (ทริปเปิ้ล วาย เรสซิเด้นซ์) คือที่อยู่อาศัยสไตล์คอนโดมิเนียมในรูปแบบสิทธิการเช่าระยะยาว 30 ปี บนทำเลสามย่าน-จุฬาฯ ใกล้สีลม พัฒนาภายใต้แนวคิด “Neo Explorer Living Platform” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการพักอาศัยใจกลางเมืองย่านศูนย์กลางธุรกิจติดรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามย่าน (Samyan Station) ตั้งอยู่ใน Edubiz District ที่มีโซนสถานศึกษา อาคารสำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายในโซนรีเทล

TRIPLE Y RESIDENCE  อยู่ในอาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสามย่านมิตรทาวน์ (SAMYAN MITRTOWN) มิกซ์ยูสที่ประกอบด้วย โซนอาคารสำนักงาน โซนรีเทล และโซนที่พักอาศัย โดยโซนรีเทล พื้นที่กว่า 36,000 ตารางเมตร ซึ่งมีโซน 24 ชั่วโมง ที่พรั่งพร้อมด้วยซูเปอร์มาร์เก็ต ฟิตเนส โค-เลิร์นนิ่ง สเปซ

TRIPLE Y RESIDENCE  สร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยภายในเดือน ก.ย. 2562

Location ที่ตั้งของ Triple Y Residence

ตั้งอยู่บนถนนพญาไทและถนนพระรามสี่

คลิกดูแผนที่ Google Maps ที่นี่ https://goo.gl/maps/1ex3mEKnh1p

ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว และมีบริการ Shuttle Bus ของโครงการ Samyan Mitrtown ที่จะวิ่งเป็น Loop รอบจาก Samyan Mitrtown ไปที่สถานีรถไฟฟ้า BTS

Triple Y Residence ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโครงการ Samyan Mitrtown

Triple Y Residence สูง 33 ชั้น มีจำนวนห้องพักที่เป็นคอนโดมิเนียม 516 ยูนิต และมีบางชั้นเป็นโรงแรมชื่อ Triple Y Hotel 112 ยูนิต แต่ว่ามีพื้นที่ส่วนกลางแยกออกจากกัน แต่ใช้ Lobby ร่วมกัน

Lobby ที่ใช้ร่วมกันระหว่างโซน Residence กับ Hotel ทำให้บรรยากาศของที่นี่ไม่เงียบเหงามีผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมา แต่ทั้งนี้ประสบการณ์การขึ้นลิฟต์เข้าห้องก็เป็นส่วนตัวเพราะใช้ Lift Lobby แยกกันครับ

รีวิว Triple Y Residence แบบคร่าวๆ

ทางเข้าออกโครงการ Triple Y Residence จะอยู่ทางถนนพญาไท ตำแหน่งอาคารจะอยู่ใกล้กับฝั่งคณะนิติศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะมีความเงียบสงบมากกว่า

ภาพ Lobby ที่ใช้ร่วมกับโซนโรงแรม ออกแบบให้มีสีสันสดใส จับกลุ่ม Young Generation และคนทุกวัยที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ ใช้ชีวิตอย่างมีสดชื่นทุกวัน

Floor Plan ของ Triple Y Residence

ชั้น 11-12 จะมีห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง

ภาพ floor plan และ unit plan ทั่วไปของโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 34 ตร.ม. ที่มี signature หน้าต่างที่เป็นรูปทรงเหมือนตัว Y เพื่อเพิ่มมุมมองจากภายในมองออกไปภายนอกได้หลายมุมมองมากขึ้น

1 Bedroom 34 ตร.ม. มีทั้งหมด 459 ยูนิต

ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้อง สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ 2 เตียง เหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า 1 คนขึ้นไป นักเรียนนักศึกษาสามารถแชร์ค่าห้องกันได้

ไอเดียการจัดห้อง จุดเด่นของห้องพัก 1 Bedroom อยู่ตรงที่สลับพื้นที่ริมหน้าต่างให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ทำงาน อ่านหนังสือ แล้วขยับพื้นที่สำหรับนอนให้มาอยู่ชิดผนังห้องน้ำแทน  เป็นการออกแบบโดยตีความให้คล้ายโรงแรมและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลายคนนิยมทำงาน อ่านหนังสืออยู่ที่ห้องและต้องการวิวนั่งพักผ่อนพักสายตาที่ดีกว่าการนั่งจ้องแต่ผนังและทีวี เพราะปัจจุบันดูหนังละครจากหน้าจอโทรศัพท์กันมากกว่า พอเมื่อยก็พักสายตามองวิวนอกห้อง

จากภาพ Layout ของห้องพักจะเห็นได้ว่าโครงการ Triple Y Residence นั้นจะไม่ค่อยเน้นเรื่องของครัวเพราะโครงการนี้หาของกินที่ห้างด้านล่างสะดวกกว่าทำอาหารกินเอง จึงออกแบบชุดครัวให้เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่เพียงพอสำหรับการอุ่นอาหารและล้างจาน แต่ทางโครงการได้เตรียม Co-Kitchen Space ไว้บริเวณ Rooftop ชั้น 33

ห้องรูปแบบใหญ่ที่สุดคือ 2 Bedroom 68 ตร.ม. มีทั้งหมด 38 ยูนิต

เป็นห้องที่จำลองบ้านที่อยู่เป็นครอบครัวหลายคนมาได้ดีมาก พื้นที่ครัวขนาดใหญ่ที่ทำอาหารได้จริง มีโต๊ะกินข้าวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนใหญ่แยกออกจากห้องนอนเล็กโดยมีห้องนั่งเล่นกั้นกลางเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนใหญ่มี walk-in closet พร้อมห้องน้ำในตัว ส่วนห้องน้ำกลางด้านนอกที่เดินเข้าจากโถงกลางก็มีให้บริการเช่นกัน สำหรับห้องนอนเล็กสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้มากถึง 2 เตียง สรุปแล้วห้องรูปแบบนี้อยู่อาศัยกันได้ประมาณ 4-5 คน (ถ้านอนที่ sofabed ในห้องนั่งเล่นด้วย) ถือว่าเป็นรูปแบบห้องที่เป็น rare item และคาดว่าจะจองหมดไวครับ

เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการแถมให้ ได้แก่ ชุดครัว, เตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา daybed ริมหน้าต่าง ส่วนโซนนั่งทำงานไม่มีเฟอร์นิเจอร์เพราะลูกค้ามักจะอยากเลือกเองมากกว่า

Facility ที่ให้เยอะมากใน Triple Y Residence

แม้จะเป็นโครงการที่รอบนอกโครงการจะมี facility มากมายอยู่แล้ว เช่น อุทยาน 100 ปีจุฬา ในจุฬาฯ ก็มีฟิตเนส ห้องอ่านหนังสือ และสระว่ายน้ำให้เดินไปใช้งานได้อยู่แล้ว แต่ทางโครงการ Triple Y Residence ก็จัด facility แบบเต็มสูบให้กับลูกบ้าน Triple Y Residence อยู่ดีครับ ซึ่ง facility นี้ไม่ได้ใช้ร่วมกับโซนโรงแรมนะครับ ต่างคนต่างใช้แต่ละโซนไม่ยุ่งเกี่ยวกัน มีร่วมกันอย่างเดียวคือ Lobby ด้านล่าง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

Facility ภายในโครงการมีครบครันอยู่ที่ชั้น 33 ได้แก่ fitness, study area, co-working space, laundry room, co-kitchen space, dining lounge, สระว่ายน้ำ

Triple Y Residence จะเปิดขาย 10 มีนาคม 2562 นี้ซึ่งจะเป็นวันเดียวที่จะได้ราคาพิเศษของโครงการเริ่มต้น 4.49 ล้าน บาท (เฉลี่ย 140,000 บาท / ตรม.) โครงการพร้อมเข้าอยู่ประมาณเดือนกันยายน ปีนี้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน “Pre-sale Event” เพื่อรับสิทธิพิเศษลด 100,000 บาท  ที่ https://goo.gl/LQz7KZ หรือโทร 065-275-7472

แหล่งข้อมูล

http://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2014/01/New-Rp03-2557.pdf

http://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2014/01/New_Rp04_2558_1.pdf

http://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2014/01/Rp04_2559_1.pdf

https://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2018/04/RP04_2560_2.pdf

https://www.reg.chula.ac.th/statistics/statistics1.html

http://bit.ly/2sMfNHD

หรือโทร 065-275-7472