น่าอยู่ที่สุดในระดับราคาเดียวกัน! The ONE Signature Bangna – Rama 9 บ้านที่ให้เรื่องราวของทุกชีวิตในครอบครัวเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างลงตัว

ความน่าสนใจของทำเลต้นบางนา

ทำเลบางนาตอนกลาง ระหว่างช่วงบางนา กม. 5 ไปจนถึงจุดตัดของถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก นับว่าเป็นทำเลส่วนต่อขยายของเมือง (City Extension) ที่มีศักยภาพพอที่จะพัฒนาต่อไปได้อีกมากในอนาคต โดยในปัจจุบันย่านนี้นับว่าเป็นพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ๆ ที่มีระดับราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไปค่อนข้างมาก และยังเรียกได้ว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของคนในย่านนี้และย่านใกล้เคียง ด้วยจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังรอบทิศทางของกรุงเทพฯ จากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก หรือจะเดินทางออกไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกรอบนอก และถนนมอเตอร์เวย์ที่ออกสู่ภาคตะวันออกได้อย่างสะดวก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ – ลาดกระบัง และ Mega City Bangna ซึ่งเป็นแหล่งงานและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ใหญ่ที่สุดของบางนาตอนกลาง มีเส้นทางรถไฟฟ้าที่โอบล้อมทั้งจากสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) รวมไปถึงเส้นทางในอนาคตอย่างสายสีเงิน (บางนา-สุวรรณภูมิ) และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ ไปจนถึงพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย ได้อย่างสะดวกสบาย

เช่นเดียวกับมีการลงทุนในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ทุกรูปแบบจากภาคเอกชน มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้า โครงการ Mixed Use หรือ Commercial Area ขนาดใหญ่ โรงแรม Lifestyle Mall ไปจนถึงโครงการ Mega Project ในรูปแบบ Smart City ที่มาร่วมกันเติมเต็ม และ Transform ให้ย่านบางนาเป็นย่านที่มอบสมดุลในการอยู่อาศัย ท่ามกลางความหลากหลายของรูปแบบการใช้ชีวิตมากที่สุด จนส่งผลให้ราคาที่ดินและราคาที่อยู่อาศัยขยับขึ้นทุกปี คาดว่าในอนาคตจะมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาเมืองที่สมบูรณ์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทำเลบริเวณถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่หลายคนมักจะคุ้นชินกับคำว่า วงแหวนบางนา – พระราม 9 เป็นทำเลรอง ที่แม้จะหลบเข้ามาจากถนนหลักบางนา – ตราด แต่ก็นับว่าเป็น Residential Area ที่สำคัญและค่อนข้างมีศักยภาพที่ซ่อนอยู่มากในย่านบางนาตอนกลาง จากในเรื่องของบริบททำเลที่เชื่อมระหว่าง ถนนอ่อนนุช – ลาดกระบัง – สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์และเป็นที่รู้จักกันมานานมากแล้ว ไปสู่ย่านศรีนครินทร์ – พระราม 9 เช่นเดียวกับเส้นทางอื่นๆ รอบกรุงเทพฯ โดยโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นสุดหรู ที่เราจะพามาแนะนำวันนี้คือโครงการThe ONE Signature Bangna – Rama 9 นับว่าเป็นรูปแบบโครงการที่หาได้ยากในย่านนี้ เพราะนอกจากจะมีเอกลักษณ์ในด้านงานดีไซน์ Space และ Function ภายใต้คอนเซปท์ “PORTAL TO YOUR UNIVERSE – เปิดโลกในแบบที่เป็นคุณ”

ด้วยการออกแบบที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ ที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของและสามารถปรับ Customize ได้ตามไลฟ์สไตล์ของคนหลายเจนเนอเรชัน ทั้งคุณพ่อคุณแม่ผู้สูงวัย คนวัยทำงาน และลูกๆ ที่อยู่ร่วมกันในบ้านได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมาพร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางระดับพรีเมียมในแบบเดียวกับคอนโดลักชัวรี อาทิ พื้นที่ Grand Park สวนของโครงการที่มีขนาดใหญ่กว่า 1.12 ไร่ พร้อมลานวิ่งมาตรฐาน ให้ลูกบ้านได้เดินเล่น-ออกกำลังกายและทำกิจกรรมในครอบครัวได้อย่างเต็มที่ และคลับเฮ้าส์สุดพรีเมียมขนาดใหญ่ 2 ชั้น ท่ามกลาง Exclusive Community เพียงแค่ 71 ครอบครัวเท่านั้น

ทำไม THE ONE Signature Bangna – Rama 9 จึงเป็นโครงการที่น่าอยู่ที่สุดในระดับราคา 28 – 40 ล้านบาท ของต้นบางนา

“THE ONE Signature Bangna – Rama 9” เป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี ในรูปแบบบ้านหรูพูลวิลล่าและการ์เด้นวิลล่า 3 ชั้น ที่คิดมาครบสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ในครอบครัวภายใต้คอนเซ็ปต์ “PORTAL TO YOUR UNIVERSE – เปิดโลกในแบบที่เป็นคุณ” ชูจุดเด่นลิฟต์ส่วนตัวทุกหลัง คลับเฮ้าส์ส่วนกลางที่ดึงจากอินไซต์ของผู้อยู่อาศัยจริงในแบบจัดเต็ม ท่ามกลางคอมมูนิตี้แบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 71 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,500 ล้านบาท บนพื้นที่รวมกว่า 24-0-60 ไร่ บนสุดยอดทำเลศักยภาพเส้นบางนา พระราม 9 เชื่อมต่อการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในโซนกรุงเทพตะวันออก โดยดิเวลลอปเปอร์ผู้พัฒนาโครงการอย่าง นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ที่ตั้งเป้าพัฒนาโครงการเพื่อให้ตอบโจทย์ดีมานด์ตลาดระดับบนในทุกมิติ ในระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 28 – 40 ล้านบาท เราไปดูในรายละเอียดกันว่าทำไมที่นี่จึงเป็น โครงการที่น่าอยู่ที่สุดในบ้านระดับเซ็กเม้นท์ราคาเดียวกันของต้นบางนา

1. พัฒนาโดยเจ้าตลาดที่มีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 40 ปีในย่านบางนา – ราม 2 เริ่มตั้งแต่การพัฒนา Number One Market และ Number One Plaza จึงทำให้มีกลุ่มฐานลูกค้าที่ค่อนข้างกว้าง มีความเข้าใจใน Insight ของคนในพื้นที่นี้ จนเริ่มพัฒนาออกมาเป็นโครงการแนวราบต่างๆ มากมาย ทั้งที่อยู่อาศัย โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บนทำเลศักยภาพครอบคลุมทั้งบางนาและรามคำแหง 2 ด้วยแผนการพัฒนาที่สอดรับกับดีมานด์ในพื้นที่จริง จึงได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม อาทิ โครงการ iField Bangna ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ ปัจจุบัน sold out แล้ว 100% และโครงการ The One Life Bangna ที่มียอดขายแล้วกว่า 50%  และในปัจจุบันได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับบน อาทิ โครงการ BLUE LAGOON, BLUE LAGOON 2 มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,000 ล้านบาท และมาถึงโครงการแฟล็กชิปล่าสุด THE ONE SIGNATURE BANGNA – RAMA 9 คุณภาพระดับพรีเมียมและจุดแข็งด้านทำเลจะทำให้โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน

โครงการที่ถูกพัฒนาโดย บริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด

The One Life Bangna

THE ONE Bangna

iField Bangna

BLUE LAGOON 2

2. ที่ตั้งที่ดีที่สุดของถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อได้ทั้งบางนา – พระราม 9 บนสุดยอดทำเลศักยภาพเส้นบางนา – พระราม 9 เชื่อมต่อการเดินทางเข้า – ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก พร้อมการเดินทางเข้าย่าน CBD ที่สะดวก ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย ใกล้ทางด่วน และยังเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยโครงการบ้านคุณภาพ ออฟฟิศสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้ง โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ และแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่มากมาย เชื่อมต่อเส้นทางออกต่างจังหวัด และสนามบินนานาชาติได้ง่าย สำคัญคือโซนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับแบบไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองเลยก็ยังได้

3. ดีไซน์งานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ในย่านเดียวกัน

คอนเซปท์ที่ใช้ในการออกแบบโครงการมาจากแนวคิด Private Luxury Living Residences ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสำหรับทุกครอบครัว แต่ยังมีกลิ่นอายของความเหนือระดับอันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความหรูหรา ทันสมัย และน่าอยู่อาศัย ผ่านองค์ประกอบในโครงการที่แสดงถึงความลักชัวรี เรียบหรู เน้นความเป็นส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับในสไตล์ Luxury Pool Villa ที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าเดิม เติมเต็มทุกความสุข ด้วยการหลอมรวมวัสดุที่มีเส้นสายลวดลายจากไม้และหินธรรมชาติมารังสรรค์เป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นด้วยมิติเหลี่ยมมุมแบบไม่ซ้ำใคร

ภายนอกของบ้านมีแนวความคิดมาจากการสร้างที่อยู่อาศัยที่อยู่เหนือกาลเวลาท่ามกลางธรรมชาติ โดยการเลือกใช้วัสดุ เช่น หิน และไม้ เพื่อสร้างความรู้สึกให้เหมือนอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ การสร้างเหลี่ยมและมุมจากหินอย่างประณีต และเน้นที่ลวดลาย Facade ด้านหน้าอาคารและผนังครีบบังแดด ตลอดจนการใช้โทนเข้มที่ให้ความรู้สึกสุขุม ตัดด้วยพื้นผิวลายหินธรรมชาติ สลับกับวัสดุที่มีความแวววาวด้วยโทนสีโรสโกลด์ ทำให้ภายนอกของตัวบ้านหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน มอบความนุ่มนวลและมีมิติมากยิ่งขึ้น

4. รูปแบบ Function บ้านที่ไม่เหมือนใคร กับคอนเซปท์ Pool Villa และ Garden Villa 3 ชั้น ที่คิดมาครบสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ในครอบครัวภายใต้คอนเซปท์ “PORTAL TO YOUR UNIVERSE – เปิดโลกในแบบที่เป็นคุณ” เพื่อตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ที่ ‘บ้าน’ ต้องรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ต้องเป็นได้ทั้งโฮมออฟฟิศ ที่พักผ่อน ที่สังสรรค์ และสเปซที่จัดสรรฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว

Pool Villa มีสระว่ายน้ำข้างบ้าน ใครชอบว่ายน้ำและฝันอยากมีสระว่ายน้ำอยู่ในตัวบ้าน บ้านไทป์นี้คงจะถูกใจไม่น้อย

Garden Villa พื้นที่สวนข้างบ้าน ให้บรรยากาศร่มรื่น และสามารถใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคนในครอบครัวได้

5. ทุกพื้นที่ภายในบ้านสามารถปรับฟังก์ชันและเชื่อมโยงถึงกันได้ จาก Open Plan Space และลิฟท์ส่วนตัวทุกหลัง ให้พื้นที่ทุกส่วนสามารถใกล้ชิดพื้นที่สีเขียวเพื่อบรรยากาศที่สบายตาร่มรื่น เพียงแค่เปิดประตูเชื่อมส่วนข้างบ้านก็จะทำให้บ้านรู้สึกถึงความโปร่ง โล่งมากขึ้น เวลามีแขกมาบ้าน หรือปาร์ตี้เล็กๆ ในครอบครัว ก็ทำให้บ้านมีพื้นที่เพิ่มขึ้น เพราะทุกส่วนเชื่อมถึงกันได้

6. ห้องทุกห้องมีพื้นที่ติดอากาศ ระเบียง หรือช่องแสงขนาดใหญ่ และวิวที่แตกต่างกันออกไป โดยไฮไลท์อยู่ที่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านที่จะได้รับวิวถึง 2 ฝั่ง ทั้งจากหน้าบ้านและ Inner Courtyard ช่วยให้บ้านสว่างโดยไม่ต้องเปิดในช่วงกลางวัน เนื่องจากมีช่องแสงรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ตื่นเช้ามารับแดดเพิ่มวิตามินดีได้เลย

7. เพดานที่สูงโปร่ง โล่ง ทั้งในส่วนของพื้นที่ Double Volume และเพดานมาตรฐาน พร้อมติดเครื่องปรับอากาศให้ทุกห้อง โดยเพดานส่วน Double Volume สูง 6.6 เมตร ทำให้พื้นที่ Living Room ดูโปร่งเป็นอย่างมาก และเพดานส่วนห้องนอนสูงถึง 2.9 เมตร มาพร้อมผนังบ้านสีขาวยิ่งทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

8. Facilities ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางระดับพรีเมียมในแบบเดียวกับคอนโดลักชัวรี พบกับคลับเฮ้าส์สุดพรีเมียมขนาดใหญ่ 2 ชั้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านทุก Generation ทุกรายละเอียดทางโครงการคิดมาจากนิยามของบ้านหรูยุคใหม่ ที่ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ Hi – End ได้ครบทุกมิติ

Clubhouse แบบ 2 ชั้น ระดับพรีเมียม รองรับลูกบ้านได้ทั่วถึงทุกหลังและทุก Generation

The Club’s Crew พื้นที่รองรับลูกบ้านและแขกผู้เข้ามาเยือนในโครงการ มองเห็นสระว่ายน้ำและสวน

สระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่พักผ่อนด้านข้างสระ

Grand Park สวนของโครงการที่มีขนาดใหญ่กว่า 1.12 ไร่ พร้อมลานวิ่งมาตรฐาน

Signature Lounge พื้นที่พักผ่อนของลูกบ้าน สามารถใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆ สำหรับคนสนิทได้ มีตู้เย็น เตาอบ และเคาน์เตอร์สำหรับจัดเตรียมของไว้ให้

Signature Fitness พื้นที่สำหรับคนรักสุขภาพ พร้อมด้วยอุปกรณ์แบบครบครัน ออกกำลังกายไปพร้อมชมบรรยากาศสระว่ายน้ำและสวนได้

Junior Club พื้นที่สำหรับเด็กๆ ให้ได้เข้ามาเล่นร่วมกับเพื่อนๆ มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor

โซน Outdoor เป็นหน้าผาจำลองแบบไม่สูงมาก ให้เด็กๆ ได้ปีนป่ายกัน

Facilities โซนด้านนอก ให้ลูกบ้านทำการจองเพื่อใช้ห้องได้ มีทั้งห้อง Private Salon , Meeting Room และ Co-Working ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านอย่างมาก

Private Salon น่าจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคุณผู้หญิงที่มีทั้งเตียงสระผมและโต๊ะสำหรับใช้แต่งหน้า สามารถเรียกช่างส่วนตัวจากข้างนอกเข้ามาทำในห้องนี้ได้

Meeting Room ห้องสำหรับประชุม คุยงานเป็นทีมได้ รองรับด้วยชุดโต๊ะทำงานและจอสำหรับพรีเซนต์งานได้

Co-Working พื้นที่สำหรับนั่งคิดงาน อ่านหนังสือ ใครเบื่อๆ อยู่บ้านก็มานั่งเล่นที่นี่ได้

วงเวียนในโครงการ ตกแต่งสวยงาม มีน้ำพุด้านล่างและงานสถาปัตยกรรมทรงกลมตั้งอยู่ตรงกลาง

9. ให้ความสำคัญกับ SMART HOME & SECURITY SYSTEM นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยที่เตรียมพร้อมให้กับลูกบ้านทั่วทั้งบริเวณโครงการ ครอบคลุมจนถึงภายในบ้าน Smart Gate ระบบสแกนทะเบียนรถยนต์และการเข้า-ออกของผู้มาติดต่อ CCTV ทั่วทั้งโครงการ VDO Door Phone ที่ Main Gate เพื่อคัดกรองผู้มาติดต่อ สำหรับภายในบ้านมีระบบ Home Security System ผ่านแอปพลิเคชัน, VDO Doorbell และ VDO Door Phone พร้อมระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินจากภายในบ้านไปยังส่วนรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านได้แบบเรียลไทม์, Digital Door Lock และ Outlet สำหรับรองรับการติดตั้ง EV Charger พร้อมติดตั้งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโครงการเตรียมให้ลูกบ้านใช้งานฟรี 1 ปี

10. หมดห่วงกับปัญหาจุกจิกภายในตัวบ้านหลังการส่งมอบ ด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขั้นสุด อีกหนึ่งไฮไลต์ที่เป็น Key Driver ของ THE ONE Signature คือบริการ “The One Bulter” ซึ่งดึงมาจาก Insight ของลูกค้าที่ต้องการบริการหลังการขายที่มอบความอุ่นใจในแง่ของการดูแลบ้าน โดย Butler Service สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกบ้าน ครอบคลุมการดูแลสวน การดูแลสระว่ายน้ำ และบริการอื่นๆ ด้าน Maintenance โดยโครงการคัดเลือกมืออาชีพมาเป็นผู้ดูแลบ้านของลูกบ้านโครงการ และบริการช่วยช้อป ที่ นัมเบอร์วัน มาร์เก็ต เพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ทั้งในวันที่ทำงานและวันพักผ่อนที่บ้าน เรียกได้ว่าเป็นบริการที่ดีเทียบเท่ากับคอนโดระดับลักซ์ชัวรีใจกลางเมืองได้เลย

บ้านแบบ VENTI (Garden Villa) พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมลิฟต์ และ 3 ที่จอดรถ

บ้านแบบสวนด้านนอก ช่วยให้ตัวบ้านมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้น และตกแต่งเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมสำหรับคนในครอบครัวได้ บริเวณหน้าบ้านจอดรถได้ 3 คัน ในบ้านชั้น 1 เป็นพื้นที่ Living Room เชื่อมต่อกับ Dining Room ได้ พร้อมพื้นที่ Double Volume สูง 6.6 เมตร ทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น พร้อมติดตั้งลิฟท์ในบ้านให้ทุกหลัง และมีห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง โดยส่วนครัวและห้องแม่บ้านจะอยู่ข้างบ้านอีกฝั่ง ส่วนชั้น 2 เป็นส่วนของ Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่บริเวณชั้น 2 ไปแล้วทั้งชั้น และ Family Room ให้สมาชิกในบ้านได้ทำกิจกรรมร่วมกันได้ ส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในบ้าน มีห้องนอน 3 ห้อง ทุกห้องมีห้องน้ำในตัว และพื้นที่ Living Room ที่ตั้งอยู่กลางชั้นแบบเป็นส่วนตัว

บริเวณ Facade หน้าบ้านเป็นผนังแบบครีบบังแดด ใช้โทนเข้มที่ให้ความรู้สึกสุขุม ตัดด้วยพื้นผิวลายหินธรรมชาติ สลับกับวัสดุที่มีความแวววาวด้วยโทนสีโรสโกลด์สวยงาม

ภายในบ้านมีช่องแสงทุกห้อง ทำให้บ้านไม่มืด รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ หน้าบ้านและทั่วทั้งโครงการเดินสายไฟใต้ดินให้ทุกหลัง

หน้าบ้านจอดรถได้ 3 คัน

มีห้องเก็บของด้านหลังพื้นที่จอดรถ และรั้วหน้าบ้านติด Motor อัตโนมัติ ให้ทุกหลัง

ฝั่งนี้เป็นประตูสำหรับคนเดินเข้า-ออก และช่องเก็บถังขยะ

ประตูเข้าบ้านเป็นบานอลูมิเนียมอัลลอยด์ลายไม้และมีช่องแสงแนวยาวข้างๆ

ถัดมาเป็นประตูกระจกของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งมีประตู 3 ฝั่ง เปิดได้จากฝั่งหน้าบ้าน ฝั่ง Living Room และสวนหลังบ้าน

เข้ามาในบ้านก็เจอส่วน Foyer ก่อน เป็นบ้านแบบฉาบเรียบทาสีขาว ให้แอร์แบบ Cassette Type ยกเว้นห้องนอนเล็กที่ได้แอร์แบบ Wall Type

เชื่อมต่อกับ Living Room

Living Room มีส่วน Double Volume สูง 6.6 เมตร ภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งานและรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของสมาชิกในครอบครัว

มองเห็นชั้น 2 ได้

โครงการติดตั้งลิฟท์ให้บ้านทุกหลัง ยี่ห้อ Hitachi สามารถเลือกสีประตูลิฟต์ได้

พื้นที่โปร่ง โล่งอย่างมาก

ติดตั้งระบบ Smart Home ให้ทุกหลัง สะดวกต่อเจ้าของบ้านและสมาชิกในบ้านอย่างมาก

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน

เป็นห้องที่คุณสามารถปรับฟังก์ชันได้ตามใจชอบ มีทางเข้า-ออก ถึง 3 ทางด้วยกัน พร้อมยังติดกับพื้นที่สวนหลังบ้าน ใช้เป็นห้องที่ทำกิจกรรมกับครอบครัวและรับแขกได้อีกด้วย ได้แอร์แบบ Cassette Type พร้อมดรอปฝ้าให้

บ้านแบบ Garden Villa จะทำให้คุณได้พื้นที่สีเขียวภายในบ้านเพิ่มขึ้น และยังใช้พื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อีกด้วย มองออกมาที่ส่วนนี้ทีไรก็รู้สึกสบายตากับหญ้าสีเขียวๆ นอกบ้าน

มองขึ้นเห็นถึงชั้น 3 เลย

เข้ามาดูส่วนครัวในบ้าน

ก่อนถึงครัวมี Powder Room พร้อมช่องแสงด้านใน 1 ช่อง

พื้นที่ครัวขนาดใหญ่ สามารถ Built-in ได้ตามใจชอบ มีช่องแสง 2 ด้าน ไว้เปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารได้

ฝั่งนี้มีประตูเปิดไปยังส่วนหลังบ้านที่มีจุดติดตั้งแทงค์น้ำให้

ส่วนประตูฝั่งนี้เปิดออกไปข้างบ้านที่มีส่วนของห้องเก็บของและห้องนอนห้องน้ำแม่บ้าน

ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน

พื้นที่ซักล้างอยู่ด้านข้าง

ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กัน

บริเวณชั้น 2 ปูพื้นด้วย Engineering Wood โทนสีสว่าง ชั้นนี้มีพื้นที่ของ Master Bedroom และ Family Room

ห้อง Master Suite  ขนาดใหญ่ กินพื้นที่บริเวณชั้น 2 ไปแล้วกว่าครึ่งชั้น มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมทั้งแยกส่วนห้องนอน Walk-in Closet และห้องน้ำ ออกจากกันให้เป็นสัดส่วน สะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก

เดินเข้ามาในห้องก็เจอกับ Foyer ที่เชื่อมต่อกับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ สามารถแบ่งฝั่งการใช้งานได้เลย

ห้องน้ำของ Master Suite ติดตั้งอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวให้ พร้อมห้องอาบน้ำที่กั้นด้วย Shower Screen แบบเป็นสัดส่วน

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her

พร้อมระเบียงด้านนอกที่ตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียว ให้คุณนอนแช่น้ำเพลินๆ และมองวิวต้นไม้ไปพร้อมกันได้

ห้องนอนมีช่องแสง 2 ด้าน ทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน ให้คุณเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

มีระเบียงกว้างด้านนอกที่จัดเป็นมุมพักผ่อน นั่งจิบกาแฟยามเช้าได้เลย

บริเวณระเบียงของบ้านจริง ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งกันสาดให้แบบบ้านตัวอย่าง เจ้าของบ้านสามารถเลือกติดได้ตามความชอบ

ทางเดินไป Family Room เป็นช่อง Void ที่มองเห็น Living Room ชั้นล่างได้

ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่บริเวณ Living Room สูงขึ้นมาถึงชั้น 2 ทำให้บ้านสว่างเป็นอย่างมาก

Family Room พื้นที่พักผ่อนที่สามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานของห้องได้ตามใจชอบ

บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 3

บริเวณชั้น 3 เป็นพื้นที่ส่วนพักผ่อนของสมาชิกในบ้าน มีห้องนอน 3 ห้อง และพื้นที่ Living Room แบบส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัว

Living Room มีระเบียงส่วนตัวด้านนอก จัดเป็นพื้นที่ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ร่วมกันได้

ระเบียงมองลงไปเห็นสวนด้านล่างได้

ห้องนอน 3

ในห้องมีช่องแสงเยอะ เลยทำให้ห้องไม่มืด เพดานสูง 2.9 เมตร

ห้องน้ำโทนสีสว่าง ติดตั้ง Shower Screen ให้ และมีระเบียงเปิดออกไปด้านนอกได้

ถัดมาเป็นห้องนอน 2

เดินเข้าห้องมาก็เจอห้องน้ำก่อน

ห้องน้ำกั้นส่วนแห้งและเปียกให้เป็นสัดส่วน มีระเบียงด้านนอกที่ใช้วางกระถางต้นไม้ได้

ห้องนอนมีระเบียง 2 ฝั่ง พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ที่สามารถรับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน และเปิดระบายอากาศภายในห้องได้

ห้องนอน 4 ติดกับฝั่งหลังบ้าน

ห้องนอนกว้าง วางเตียงขนาดใหญ่ได้เลย

มีพื้นที่ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้ และมีช่องแสงระบายอากาศได้

บ้านแบบ TRENDA (Pool Villa) พื้นที่ใช้สอย 560 ตารางเมตร แบบ 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน พร้อมลิฟต์และ 4 ที่จอดรถ

บ้านไทป์ใหญ่แบบมีสระว่ายน้ำในบ้าน หน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน ในบ้านของบริเวณชั้น 1 เป็นส่วนพักผ่อน มี Living Room, Dining Room พร้อมพื้นที่ Double Volume สูง 6.6 เมตร มองเห็นชั้น 2 ได้ และห้องอเนกประสงค์พร้อมห้องน้ำในตัว สามารถปรับฟังก์ชันห้องให้เป็นห้องนอนหรือห้องใช้งานอย่างอื่นได้ ข้างบ้านมีสระว่ายน้ำ และด้านข้างบ้านอีกฝั่งเป็นส่วนครัวและห้องพักแม่บ้าน มาที่ชั้น 2 มี  Master Suite  ขนาดใหญ่ แยก Walk-in Closet และห้องน้ำออกจากบริเวณห้องนอน ส่วนห้องนอนมีช่องแสง 2 ด้าน ช่วยให้บ้านรับแสงธรรมชาติได้เพิ่มขึ้น ถัดมาเป็น Family Room มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ สามารถวางจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนรับลมด้านนอกได้ ชั้น 3 มีห้องนอน 1 Semi – Master Suite  และอีก 2 ห้องนอน ขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว และพื้นที่ Living Room ตรงกลางชั้น ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับคนในบ้านเท่านั้น

บ้าน 3 ชั้น ขนาดใหญ่ Facade หน้าบ้านเป็นพื้นผิวลายหินธรรมชาติสลับกับวัสดุที่มีความแวววาวด้วยโทนสีโรสโกลด์ พร้อมช่องแสงทุกชั้น

ประตูเดินเข้าบ้านแยกกับประตูฝั่งพื้นที่จอดรถ

หน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน ด้านหลังพื้นที่จอดรถมีห้องเก็บของ ประตูหน้าบ้านติดตั้ง Motor อัตโนมัติ ให้

ประตูเข้าบ้านและประตูกระจกของห้องอเนกประสงค์

หน้าบานประตูเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ลายไม้ ติดตั้ง Digital Door Lock ให้ทุกหลัง

เข้ามาในบ้านเป็นส่วน Foyer เชื่อมต่อไปถึงประตูหลังบ้านที่เป็นส่วนของสระว่ายน้ำได้เลย

ห้องอเนกประสงค์มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องที่สามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุอย่างเดียว เนื่องจากบ้านมีลิฟต์ทุกหลัง ผู้สูงอายุสามารถเลือกนอนห้องชั้นบนบ้านได้

ด้วยเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว สามารถใช้เป็นห้องรับแขก ที่จัดเป็นบาร์เล็กๆ ไว้สำหรับวันที่มีปาร์ตี้ได้

ประตูเปิดไปฝั่งหน้าบ้าน

ห้องน้ำอาบน้ำได้ พร้อมติดตั้ง Shower Screen ให้

ประตูอีกฝั่งติดกับส่วนสระว่ายน้ำ

บ้านไทป์นี้เรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลายคนที่อยากมีสระว่ายน้ำในบ้าน วันไหนอากาศร้อนๆ ก็ลงมาว่ายน้ำเล่นได้เลย พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระน้ำ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้แล้วแต่ความกว้างของที่ดินในตัวบ้านด้วยนะ

สระว่ายน้ำแบบระบบเกลือ

บ้านจริงจะปูหญ้ารอบๆ สระว่ายน้ำให้

เดินเข้ามาในบ้านไปยังส่วน Living Room

พื้นที่ใช้สอยส่วนต่างๆ ภายในบ้านสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างต่อเนื่อง สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งาน และรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของสมาชิกในครอบครัว

ส่วนนี้ถูกออกแบบให้ห้องมัลติฟังก์ชันรูม เมื่อเปิดประตูด้านข้างออกจะกลายเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่กว้างระหว่างมุมพักผ่อนด้านนอกและด้านในได้

พื้นที่ Double Volume สูง 6.6 เมตร

พื้นที่ข้างลิฟต์ปรับฟังก์ชันให้เป็นบาร์หรือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร เครื่องดื่มได้

เชื่อมต่อกับครัวไทยด้านใน

Powder Room

ห้องครัวกว้างพร้อมช่องแสง มีพื้นที่เตรียมอาหาร ทำอาหาร และเก็บล้างได้ เพียงพอต่อการทำอาหารพร้อมกันหลายคน

ประตูเชื่อมต่อกับห้องแม่บ้าน

พื้นที่หลังบ้านมีจุดวางแท้งค์น้ำ

พื้นที่ Double Volume มองเห็นชั้น 2 ได้

ชั้น 2 เป็นส่วนของ Master Suite  และ Family Room

ส่วนนี้มองเห็น Living Room ที่ชั้น 1 ได้

Master Suite  มีระเบียงขนาดใหญ่ที่จัดเป็นสวนเล็กๆ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในห้องได้

ส่วนของห้องนอน ได้แอร์แบบ Cassette Type มีระเบียงอีก 1 จุด ติดกับฝั่งสระว่ายน้ำพอดี เพดานในห้องสูง 2.9 เมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาว

Walk-in Closet กว้าง แบ่งฝั่งชาย-หญิงได้

ห้องน้ำติดตั้งอ่างอาบน้ำให้ พร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her และติดตั้ง Shower Screen ให้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ระเบียงด้านนอกติดตั้งระแนงเหล็กช่วยบังสายตาให้

ถัดมาเป็น Family Room พร้อมระเบียงกว้าง

ในห้องกว้าง พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่

ส่วนนี้สามารถปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องครัวเล็กๆ แบบบ้านตัวอย่างได้เลย และมีช่องแสงเปิดระบายอากาศได้

พื้นที่ติดอากาศขนาดใหญ่ จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนด้านนอกรับลม รับแสงธรรมชาติได้เลย

มองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย

ชั้น 3 มีห้องนอน 1 Semi-Master Suite และอีก 2 ห้องนอน และ Living Room ตรงกลางบ้าน

Living Room พื้นที่เป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัว

ห้องนอน 3 ติดบันได มีช่องแสง 2 ด้าน พร้อมห้องน้ำในตัว เพดานสูง 2.9 เมตร

ห้องนอน 2 พื้นที่กว้าง มีห้องน้ำอยู่บริเวณหน้าห้อง

พื้นที่ Walk-in Closet ก่อนเข้าห้องนอน Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เยอะ

ห้องนอน รับแสงธรรมชาติได้เต็มๆ ถึง 2 ฝั่ง

ระเบียงด้านนอกกว้าง มองเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง

กันสาดทางโครงการติดตั้งไว้ในบ้านตัวอย่างเท่านั้น บ้านจริงจะไม่ได้แบบนี้

ห้องนอน 4  Semi- Master Suite เป็นห้องแนวยาว ติดกับฝั่งหลังบ้าน มีพื้นที่สำหรับติดตั้ง Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ ในห้องมีช่องแสงเยอะ ทำให้ห้องสว่างได้ทั้งวัน

ห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้

เรามาดูบ้านเปล่าแบบ TRENDA พร้อมสเปคจริงที่ได้กันบ้าง

พื้นที่จอดรถ

ห้องอเนกประสงค์

พื้นที่ Living Room

พื้นที่ Double Volume  สูง 6.6 เมตร

สระว่ายน้ำระบบเกลือ

ห้องครัว

ห้องแม่บ้าน และห้องเก็บของ

ชั้น 2

Family Room

Master Suite

ชั้น 3

สรุปจุดเด่นโครงการ The ONE Signature Bangna – Rama 9

เป็นโครงการ Exclusive Community เพียง 71 ยูนิต พร้อม Clubhouse 2 ชั้น และพื้นที่ Grand Park สวนขนาดใหญ่กว่า 1.12 ไร่ ถูกพัฒนาโดย นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ เจ้าตลาดอสังหาฯ ในย่านบางนา – ราม 2 ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ที่มาพร้อมแบบบ้าน 3 ชั้น 2 แบบ หน้าบ้านกว้างสูงสุดถึง 18 เมตร พร้อม Private Lift ทุกหลัง มอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับในสไตล์ Luxury Pool Villa และ Luxury Garden Villa ถูกออกแบบบนคอนเซปต์ Portal To Your Universe เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ใหม่ที่ ‘บ้าน’ ต้องรองรับไลฟ์สไตล์ทุกแบบ โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุที่มีลวดลายจากไม้และหินธรรมชาติ สลับกับวัสดุที่มีความแวววาว โทนสีโรสโกลด์ และออกแบบให้พื้นที่ส่วนต่างๆ ของบ้านเชื่อมต่อถึงกัน พร้อมสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามการใช้งานที่แตกต่างกันของคุณ ภายในบ้านมีระบบ Home Security System ผ่านแอพพลิเคชั่น, VDO Doorbell และ VDO Door Phone ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นด้วยพื้นที่สีเขียวที่แทรกเข้ามาในบ้าน ทั้ง Courtyard หรือ Pocket Garden

โครงการอยู่ในทำเลบนนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อเส้นทางรอบเมืองทั้งบางนา – พระราม 9 และออกสู่ต่างจังหวัดได้ง่าย ใกล้ห้างสรรพสินค้าและ Outlet ชั้นนำมากมายในย่านต้นบางนา พร้อมรายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก – สมุทรปราการ เป็นบ้านที่เหมาะกับเจ้าของกิจการที่ต้องการขยับขยายครอบครัวในย่านอ่อนนุช – ลาดกระบัง – พระราม 9 – สุวรรณภูมิ

พบกับโครงการใหม่ The ONE Signature Bangna – Rama 9

บ้านหรู POOL VILLA 3 ชั้น พร้อมลิฟต์ส่วนตัว เพียง 71 ยูนิต

บนทำเลศักยภาพเชื่อมต่อถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก บางนา พระราม 9

สะดวกทุกการเดินทาง

ราคาเริ่มต้น 28  ล้านบาท*    

บ้านคุณภาพที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายเหนือระดับ

ทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

ลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการ และรับสิทธิพิเศษได้ที่ : https://theonesignature.com/

โทร. 099-382-8899