ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ ทาวน์โฮมและบ้านแฝดหรู 3.5 ชั้น แห่งเดียวบนย่านชุมชนเมืองดั้งเดิม ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 350 เมตร ใกล้โรงเรียนศึกษานารี

ทำเลฝั่ง “ธนบุรี” ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องค่อนข้างมากในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบายขึ้น โครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดรับกับดีมานท์การอยู่อาศัยจากคนต่างถิ่นที่หมุนเวียนเข้ามาตลอดเวลา เช่นเดียวกับความต้องการในการขยับขยายครอบครัวของคนติดถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวที่รองรับไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไปจนถึงศูนย์การค้าทันสมัยขนาดใหญ่ ในอดีตหลายคนอาจมองว่าฝั่งธนฯเป็นทำเลที่ไกล เดินทางลำบาก เพราะในอดีตพื้นที่ฝั่งธนฯ และฝั่งพระนครเชื่อมกันด้วยสะพานเพียงไม่กี่สะพาน โดยหากเป็นการเชื่อมเข้าสู่ inner city และแหล่งงานหลักของกรุงเทพฯ อย่าง เกาะรัตนโกสินทร์ เยาวราช บางรัก สีลม สาทร แล้วก็จะมีเพียงสะพานข้ามแม่น้ำ 3 สะพาน นั่นคือ สะพานพุทธฯ สะพานพระปกเกล้าฯ และสะพานตากสินฯ (สะพานสาทร) เท่านั้น แต่ปัจจุบันพื้นที่ย่านสำคัญต่างๆของฝั่งธนฯ อาทิ ประชาธิปก, อรุณอมรินทร์, ปิ่นเกล้า, วงเวียนใหญ่, เจริญนคร และอิสรภาพ นับว่าเป็นทำเลที่แทบจะเป็นเนื้อเดียวกับฝั่งกรุงเทพฯชั้นใน ในแบบที่แทบจะแยกกันไม่ออก จากการเข้าถึงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลักของคนกรุงเทพฯ ให้คุณเดินทางต่อเดียวถึงสยามได้เลย หรือจะเปลี่ยนสายที่สยามแล้วไปลงจตุจักร ลาดพร้าว หรือจะนั่งยาวๆ สุดสายไปลงที่คูคตก็ได้อีกด้วย และเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ไปรอบทั่วทิศของกรุงเทพเป็นรูปแบบวงกลม ไม่ว่าจะเป็นโซนจรัญฯ หรือขึ้นเหนือไปทางบางซื่อ ออกขวาเข้าเมืองไปสามย่าน สีลม สาทร วิ่งเข้าอโศก ไปรัชดา หรือทะลุไปถึงห้าแยกลาดพร้าวและจตุจักรได้อีก โดยอีกไม่นานชาวฝั่งธนบุรียังจะได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่เชื่อมจากเตาปูน เข้าสู่พื้นที่ฝั่งธนฯ ได้แทบจะทุกพื้นที่ โดยมีจุดตัดกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง -ท่าพระ ที่สถานีสามยอด ก่อนจะข้ามมายังพื้นที่ฝั่งธนฯ ที่สถานีสะพานพุทธ และตัดกับรถไฟฟ้าสายสีแดง มาเชื่อมต่อกับสายสีเขียวที่สถานีวงเวียนใหญ่ และวิ่งยาวบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไปจนถึงครุใน ทำให้คนในย่านนี้และย่านใกล้เคียงสะดวกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับความฮอตอย่างต่อเนื่องของโครงการ ICONSIAM ที่มาพร้อมกับเส้นทางคมนาคมรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่เชื่อม ICONSIAM กับสถานีกรุงธนบุรี และพื้นที่ตลอดสองฝั่งถนนเจริญนคร คลองสาน ถนนประชาธิปก ได้ง่ายดายมากขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาย่านฝั่งธนฯในแบบปฎิกิริยาลูกโซ่ จนเกิดเป็นเทรนด์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงที่เกาะไปตามแนวรถไฟฟ้า ริมแม่น้ำฝั่งเจริญนคร ICONSIAM ไปจนถึงย่าน Medical Hub อย่างศิริราช มากขึ้น สวนทางกับตัวเลือกที่เป็นโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ที่แทบจะไม่มีโครงการใหม่เกิดขึ้นมาเลย…ดังนั้นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮมสุดหรู ที่เราจะพามารู้จักในวันนี้อย่าง ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์ (Supalai Grand Essence Arun Amarin) จึงเป็นโครงการในแบบ One of A Kind ที่นานๆทีจะเกิดขึ้นมาให้เห็นสักครั้ง ท่ามกลางทำเลที่เป็น Residential Area มาอย่างยาวนานของฝั่งธนฯ อย่างอรุณอมรินทร์ – ประชาธิปก

อรุณอมริทร์ – ประชาธิปก ย่าน Residential Area เก่าแก่ของฝั่งธนฯที่ใกล้ย่านสำคัญฝั่งพระนครมากที่สุด

หากพูดถึงทำเลฝั่งธนฯ ที่เชื่อมเข้าสู่ย่านเก่าฝั่งพระนครชั้นใน และย่านธุรกิจการค้าอย่างเยาวราช วังบูรพา บ้านหม้อ พื้นที่ที่ใกล้สุดในการเดินทาง ก็จะเป็นย่านปิ่นเกล้า ที่เดินทางสะดวกผ่านสะพานพระปิ่นเกล้า และย่านวงเวียนใหญ่ ที่เดินทางได้ทั้งจากสะพานพุทธฯ และสะพานพระปกเกล้าฯ อีกทั้งยังเป็นทำเลที่เชื่อมย่านพักอาศัยเก่าฝั่งธนฯ กับแหล่งวัฒนธรรมเก่าแก่ฝั่งพระนคร ได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งคนที่ทำงานในพื้นที่ฝั่งพระนครชั้นใน ส่วนใหญ่ก็มักเลือกซื้อที่อยู่อาศัยฝั่งธนฯ ในพื้นที่ที่กล่าวมา เพราะปัจจัยของพื้นที่ในพระนครชั้นใน ย่านประวัติศาสตร์เมืองกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่เป็นวัด วัง สถานที่ราชการ และเป็นที่ของเจ้านายชั้นสูง จะพัฒนาอะไรก็แทบไม่ได้ แถมส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ Leasehold ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงก็เป็นย่านพาณิชยกรรมหนาแน่น อย่างพาหุรัด สำเพ็ง จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนทำงาน เลือกที่จะอยู่อาศัยในพื้นที่ฝั่งธนฯ ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เป็นย่านปิ่นเกล้า สี่แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ ที่มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ รวมทั้งคอนโด ที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่ถ้าพูดถึงทำเลติดกับย่านสะพานพุทธฯ และสะพานพระปกเกล้าฯ อย่างถนนอรุณอมรินทร์ – ประชาธิปก ยังถือว่ามีการพัฒนาค่อนข้างน้อย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดฯ ที่ส่วนใหญ่มักจะกระจุกตัวตามแนวรถไฟฟ้าบริเวณวงเวียนใหญ่ และบริเวณสี่แยกบ้านแขก ที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีทอง ที่ส่วนใหญ่ได้กลุ่มชาวไทยเชื้อสายซิกข์ ที่เป็นเจ้าของห้างร้านอยู่ฝั่งพาหุรัดเข้ามาอาศัยอยู่ เพราะการเดินทางที่ใกล้และสะดวก ซึ่งทั้งถนนอรุณอมรินทร์ และถนนประชาธิปก ยังไม่มีการพัฒนาโครงการแนวราบอะไรใหม่ๆเลยบนพื้นที่ถนนทั้ง 2 เส้นนี้ ทั้งๆที่การเดินทางสู่ฝั่งพระนคร ไม่ว่าจะเข้าสู่เกาะรัตนโกสินทร์ หรือค้าขายบนถนนเยาวราช ก็สามารถเลือกเดินทางได้จากสะพานข้ามแม่น้ำทั้งสะพานพุทธฯ และสะพานพระปกเกล้าฯ หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าที่สถานีวงเวียนใหญ่ ก็เชื่อมตรงด้วยถนนเพียงเส้นเดียว แถมยังอยู่ใจกลางของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานีเปลี่ยนถ่ายทั้งฝั่งธนฯและฝั่งพระนครฯอีกด้วย

โดยถนนอรุณอมรินทร์นั้นเป็นถนนสายวัฒนธรรมของฝั่งธนฯ ที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักใกล้เคียงได้หลายสาย ทั้งอิสรภาพ, พระราม 8 รวมไปถึงประชาธิปก โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 โซนหลักก็คือ ช่วงต้นที่เชื่อมต่อระหว่างถนนอรุณอมรินทร์ และถนนประชาธิปก บริเวณใกล้กับโรงเรียนศึกษานารีและวงเวียนเล็ก ซึ่งเป็นย่านแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่วางตัวคู่ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา มี landmark ที่สำคัญคือ วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร โดยที่สามารถเดินทางสู่ถนนอิสรภาพและสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT อิสรภาพ ได้ผ่านทางถนนวังเดิม/ ช่วงกลางตั้งแต่แยกถนนวังเดิม – แยกถนนวังหลัง ที่ได้ชื่อว่าเป็น Medical Hub ด้วยความใกล้โรงพยาบาลชั้นนำถึง 2 แห่งคือ รพ.ธนบุรี และรพ.ศิริราช โดยมี Landmark ที่สำคัญหลายแห่งทั้ง วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ตลาดวังหลัง / และช่วงปลาย ตั้งแต่แยกวังหลังข้ามสะพานอรุณอมรินทร์ ไปสิ้นสุดที่สะพานพระราม 8 เชื่อมต่อกับย่านปิ่นเกล้า ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลในการพัฒนาคอนโด

จากศักยภาพ ความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยสะพานข้ามแม่น้ำ ไปจนถึงตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใกล้เคียงมากถึง 3 สาย ทั้งสายสีเขียว สีน้ำเงิน และสายสีทอง รวมถึงในเชิงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ตลอดจนการเป็นทำเลศูนย์กลางของ Medical Hub แถวหน้าของประเทศ ของย่านอรุณอมรินทร์ – ประชาธิปก จึงอาจกล่าวได้ว่านี่หนึ่งใน Rare Location สุดยอดทำเลหายากในย่านฝั่งธนฯ ที่การพัฒนาโครงการแนวราบดูแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากไม่สามารถหาที่ดินขนาดใหญ่ในย่านนี้เพื่อพัฒนาโครงการได้ อีกทั้งหากพัฒนาได้ก็คงจะมีเพียงแค่ไม่กี่หลัง ซึ่งก็จำเป็นต้องขายในราคาแพงมากๆ แต่ด้วยความเชี่ยวชาญพื้นที่ด้านฝั่งธนฯของศุภาลัย จากการเปิดโครงการคอนโดใหม่อย่างต่อเนื่องบนทุกทำเลศักยภาพของฝั่งธนฯ จึงทำให้การพัฒนาโครงการแนวราบครั้งแรกในย่านนี้เป็นจริงขึ้นมาได้กับ “ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์” บ้านแฝด และทาวน์โฮมหรู 3.5 ชั้น  Modern Luxury สุด Private เอกสิทธิ์เพียง 36 ครอบครัว

Supalai Grand Essence ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าประเภทบ้านทรงสูงในเขตเมือง (Luxury Urban Home) ที่มีระดับราคาขายเกินกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยนี่เป็นโครงการที่ 2 แล้ว และก็เป็นโครงการที่ไม่ไกลจากโครงการแรกอย่าง Supalai Grand Essence @ Thaphra Interchange มากเท่าไหร่ โดยอาจกล่าวได้ว่า “ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์” คือการสานต่อความสำเร็จจากโครงการแรก จากดีมานท์การอยู่อาศัยในย่านนี้ที่ยังคงมีอยู่อีกเยอะ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีโครงการแนวราบจากผู้พัฒนารายอื่นอีกเลยในย่านนี้ เนื่องจากเป็นย่านที่มีแต่คอนโดใหม่ที่เกาะทั้งสถานี MRT อิสรภาพ, BTS วงเวียนใหญ่, BTS สายสีทองสถานีคลองสาน และ MRT สายสีม่วงใต้สถานีสะพานพุทธ ที่ปริมาณยูนิตรวมๆ กันแล้วเป็นหลายพันยูนิตเลย แต่แทบจะไม่น่าเชื่อว่าในย่านนี้ไม่มี Supply ทั้ง Home Office, Townhome และบ้านแฝดสร้างใหม่ ในทุกระดับราคาเกิดขึ้นเลยมานานมากๆ เเล้ว ตัวเลือกแนวราบของคนในย่านนี้คือตึกแถวเก่าๆ ไม่ว่าจะริมถนนหรือในซอยเท่านั้น ที่ซื้อแล้วมารีโวทวนซ้ำไปมา แถมจำนวนบ้านทั้งหมดในโครงการยังมีแค่ 36 หลัง ใกล้รถไฟฟ้า MRT สะพานพุทธ แบบเดินไปได้เพียง 350 เมตร ใกล้กับโรงเรียนศึกษานารี และโรงเรียนซางตาครูส ฯลฯ

ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาบ้านแนวสูงที่มอบความสะดวกสบายขั้นสุดบนทำเลฝั่งธนฯ ต้องยกให้ทำเลที่นี่มาเป็นอันดับหนึ่งของปีนี้เลย เพราะตัวเลือกอื่นในระดับราคาเดียวกันก็คือ บ้านเดี่ยวที่อยู่ในย่านที่ไกลอออกไปอย่างถนนพรานนกตัดใหม่ บรมราชชนนี ราชพฤกษ์ บางแค วุฒากาศ  กัลปพฤกษ์ ในราคาที่อาจจะแพงกว่าแต่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่น้อยกว่า ซึ่ง Supalai Grand Essence Arun Amarin เป็นบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ มีหลายชั้น หลายห้องให้เลือกอยู่ พร้อมพื้นที่ของครอบครัวให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และยังอยู่ในเขตเมืองที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อย่านอื่นได้สะดวกอีกด้วย

Supalai Grand Essence @ Thaphra Interchange

Supalai Grand Essence Arun Amarin

ที่ตั้งของโครงการ Supalai Grand Essence Arun Amarin อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่สำคัญ ติดกับถนนอรุณอัมรินทร์ โครงการอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียนศึกษานารี

อีกทั้งคนที่อยู่ในโครงการก็สะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ เพราะโครงการเชื่อมต่อกับถนนประชาธิปก ที่มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงตัดผ่าน ที่สถานีสะพานพุทธฯ ในระยะทาง 350 เมตรเท่านั้น เพียงเดินออกมาตรงถนนประชาธิปก เลี้ยวขวามือไม่ไกลก็เจอกับสถานีรถไฟฟ้าแล้ว

ทำเลที่ตั้งของโครงการ สะดวกในการเดินทางและสามารถเชื่อมต่อ ย่านอื่นได้ในระยะทางไม่ถึง 10 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็น วงเวียนใหญ่ 1.4 กิโลเมตร เชื่อมต่อไปย่านธนบุรีได้สะดวก, เยาวราช 3 กิโลเมตร เดินหาของกินแถวนั้นได้ทั้งวัน, ไอคอนสยาม 4.3 กิโลเมตร สายช้อปปิ้งต้องไปห้างนี้เลย, ศิริราช 4.5 กิโลเมตร มีทั้งโรงพยาบาลและตลาดที่มีของกินของขายมากมาย และ ม.จุฬาฯ – สยาม ย่านใจเมืองที่มีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ

รายละเอียดโครงการ Supalai Grand Essence Arun Amarin

Supalai Grand Essence Arun Amarin (ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมริทร์) โครงการ บ้านแฝด และทาวน์โฮมหรู 3.5 ชั้น สุดพรีเมียม เอกสิทธ์เพียง 36 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท หนึ่งเดียวบนทำเลศักยภาพสูงย่านฝั่งธนบุรี ที่เชื่อมต่อตรงสู่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย การอยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกสุนทรีย์ในทุกสัมผัส เติมเต็มด้วยเส้นสายในงานออกแบบทางสถาปัตยกรรม ซึ่งสะท้อนความสมบูรณ์แบบตั้งแต่รูปลักษณ์อาคาร สู่การใช้งานจริงภายในบ้าน กับทาวน์โฮมที่พร้อมให้เลือกสรร ขนาดพื้นที่ใช้สอย 239 – 263 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ และบ้านแฝด ขนาด 409 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 4 ที่จอดรถ ซึ่งมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ อาทิ Solar Rooftop, Home Automation ทุกหลังเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด, รองรับ EV Wall Charger สำหรับการชาร์จรถไฟฟ้า, CCTV รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

Master Plan 

โครงการติดกับถนนอรุณอัมรินทร์ บริเวณด้านหลังโรงเรียนศึกษานารี มีถนนกว้าง 9 เมตร รอบโครงการ บริเวณส่วนกลางมีพื้นที่สวนให้ลูกค้าเข้าไปนั่งพักผ่อนได้ รูปแบบบ้านในโครงการแบ่งเป็นบ้านแฝด 6 ยูนิต และทาวน์โฮม 30 ยูนิต

แบบบ้านแฝด ศุภญาดา (Supayada)

บ้านแฝดขนาด 3 ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอยขนาด 409 ตารางเมตร และที่ดินเริ่มต้น 45.2 – 47.2 ตารางวา ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 2 ห้องอเนกประสงค์ 1 ระเบียงพักผ่อน และ 4 ที่จอดรถ พื้นที่ภายในบ้านบริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวและสามารถรับแขกได้ มี Living Dining และครัว และผนังบ้านส่วนใหญ่ติดเป็นกระจกให้ ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านพื้นที่ในบ้านได้ตลอดทั้งวัน ชั้น 2 เป็นส่วน Living พร้อมพื้นที่ Double Volume สูงขึ้นไปถึงชั้น M และมี Private Terrace นอกตัวบ้าน เป็นมุมพักผ่อนด้านนอกตัวบ้านได้ ชั้นนี้มีห้องนอน 1 ห้อง พร้อมห้องนอน ห้องน้ำแม่บ้าน และพื้นที่ซักล้างอยู่ด้านนอกติดกับฝั่งหลังบ้าน

ชั้น M ห้องอเนกประสงค์อยู่ติดกับบันได มีพื้นที่สำหรับปรับฟังก์ชันห้องได้ตามใจชอบ และห้องนอน 2 ที่อยู่ติดฝั่งหลังบ้าน พื้นที่ห้องกว้าง มีระเบียงส่วนตัว พร้อมห้องน้ำที่โครงการติดตั้งอ่างอาบน้ำให้ด้วย ส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ห้องนอน 3 และห้องอเนกประสงค์อีก 1 ห้อง ภายใน Master Bedroom ใหญ่ กินพื้นที่ของชั้น 3 ไปครึ่งชั้น ห้องน้ำให้อ่างอาบน้ำ Rain Shower และอ่างล้างหน้าแบบ His & Her โดยบ้านทุกหลังในโครงการมีพื้นที่บนชั้น Rooftop ให้ได้ใช้ประโยชน์ได้ และติดตั้ง Solar Rooftop ให้ทุกหลังเช่นกัน

แบบทาวน์โฮม ศุภวรา (Supawara)

ทาวน์โฮมขนาด 3 ชั้นครึ่ง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 239 – 263 ตารางเมตร และที่ดินเริ่มต้น 22.6 – 46 ตารางวา ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 1 ห้องซักรีด และ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ชั้น 1 มี Living แบบ Double Volume, Dining, ห้องเก็บของ และครัวที่ทางโครงการกั้นพื้นที่ไว้ให้ มี Powder Room ใต้บันได ชั้น M มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่ปรับฟังก์ชันได้ตามใจชอบ และ Private Terrace ด้านนอก ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งชั้น มีระเบียงส่วนตัว และห้องน้ำติดตั้งอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้าแบบ His & Her ให้ ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของห้องนอน 2 – 3 และห้องซักรีดคั่นอยู่ตรงกลางชั้นระหว่าง 2 ห้องนอน โดยห้องน้ำในห้องนอน 2 – 3 มีพื้นที่ Outdoor ที่สามารถนำต้นไม้ไปวางไว้ได้

บ้านตัวอย่าง

แบบบ้าน ศุภญาดา พื้นที่ใช้สอย 409 ตารางเมตร  4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 2 ห้องอเนกประสงค์ และ 4 ที่จอดรถ

บริเวณ Façade หน้าบ้าน ตกแต่งด้วยระแนงไม้ที่บริเวณชั้นลอย หรือชั้น 2 ครึ่ง ซึ่งเป็นตำแหน่งของห้องนอน เพื่อช่วยบังสายตาจากคนด้านนอก ให้คนในบ้านรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว และชั้น 2 กับชั้น 3 มีระเบียงด้านนอกกว้าง

หน้าบ้านจอดรถได้ 4 คัน แบบเรียงคัน และให้ประตูหน้าบ้านเป็นบานเหล็กแบบเลื่อนได้ ส่วนประตูทางเข้าบ้านเป็นแบบเหล็กกัลวาไนซ์ เคลือบด้วยนวัตกรรมกระดาษลายไม้ ใช้งานได้นาน ไม่บวม และดูแลทำความสะอาดง่าย

หน้าบ้านจริงปูเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนให้ บ้านทุกหลังรองรับการติดตั้ง EV Charger

ข้างบ้านมีพื้นที่สำหรับสวนหย่อมเล็กๆ ได้ และผนังข้างบ้านเป็นกระจก

ประตูหน้าบ้านติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Lockin Smart Door Lock V5 Max ให้ เป็นวัสดุเหล็กกัลวาไนซ์ ของแบรนด์ EIZEN มีระบบปลดล็อคแบบไร้การสัมผัสเพียงการยกฝ่ามือสแกน สามารถควบคุมด้วยมือถือ พร้อมอินฟราเรดใช้งานในตอนการคืน และสัญญาณเตือนความปลอดภัย ป้องกันอันตรายในทุกสถานการณ์

เข้ามาภายในบ้านก็จะเป็นส่วนของพื้นที่ Living & Dining Room ที่เชื่อมต่อพื้นที่กันได้ เพดานสูง 2.5 เมตร ชั้นนี้ปูเป็นกระเบื้อง Granito Tiles ที่ทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วน

ภายในบ้านติดตั้งระบบ Home Automation มาพร้อมเครื่อง NATURE 7  ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะแบบครบวงจรที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส และ SMART SWITCH ควบคุมสวิตซ์เปิด – ปิดไฟ ผ่านระบบสมาร์ทโฟนได้ทั้งบ้าน

และทางโครงการติดตั้ง TOUCHPAD NATURE MINI L ที่ควบคุมอุปกรณ์ Smart Home หรือส่งงาน Scene ได้ ช่วยให้คุณสะดวกสบายกับชีวิตภายในบ้าน และรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมาก

ช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยให้บ้านรับแสงธรรมชาติได้ตลอดทั้งวัน สำหรับบ้านแฝดจะเป็นชุดเป็นบานหน้าต่าง และกระจกแบรนด์ Tostem ที่ปิดสนิทกว่า ช่วยลดเสียงรบกวน และป้องกันสีซีดจางได้นานกว่า 40 ปี

ส่วน Dining เชื่อมต่อกับพื้นที่หลังบ้านได้เลย

ผนังเป็นกระจกแบบรอบด้าน ช่วยให้บ้านสว่าง โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน

ฝั่งซ้ายมือของบ้านจริงจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว ทางโครงการไม่ได้กั้นห้องให้ จะเป็นพื้นที่โล่งๆ สามารถปรับฟังก์ชันและตกแต่งครัวได้ตามใจชอบ แต่บ้านตัวอย่างหลังนี้ถูกใช้เป็น Sale Gallery พื้นที่ครัวจึงถูกปรับเป็นห้องทำงานแทน

พื้นที่โถงบันไดกว้าง สามารถติดตั้งลิฟท์โดยสารได้ และมีห้องเก็บของใต้บันได

บันไดของบ้านแฝดเป็นไม้สักสีเข้ม

ชั้น 2 มีพื้นที่ Double Volume ที่ส่วน Living สูงขึ้นไปถึงบริเวณชั้นลอยด้านบน

ส่วนนี้กว้าง ใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของครอบครัวได้ ให้พื้นไม้ Engineered Wood จาก Panasonic นำเข้าจากญี่ปุ่น

ด้วยช่องแสงหลายด้าน และ Double Volume ยิ่งทำให้พื้นที่นี้รู้สึกโปร่ง กว้างขึ้นเป็นอย่างมาก

มองเห็นระเบียงชั้น M ได้ เป็นระเบียงกระจก TEMPERED หนา 10 มม.

ด้านหลัง Living ที่ติดกับบันได มีพื้นที่ Private Terrace กว้าง จัดเป็นมุมพักผ่อนรับลมด้านนอกตัวบ้านได้

เดินมาอีกฝั่งเป็นห้องนอน โดยซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 และประตูข้างๆ ขวามือเป็นพื้นที่ซักล้าง และห้องนอน ห้องน้ำแม่บ้าน

ห้องนอน 4 เพดานสูง 2.7 เมตร มีห้องน้ำในตัว

พื้นที่วางตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ

ในห้องน้ำให้สุขภัณฑ์แบรนด์ KOHLER ทั้งหมด ติดตั้ง Shower Screen ให้ พร้อมช่องแสงด้านใน

ขึ้นมาถึงบริเวณชั้น M

มองลงไปเห็นพื้นที่ Living แบบนี้

พื้นที่ส่วนนี้ของบ้านจริงจะเป็นห้องอเนกประสงค์ แบบ Semi – Outdoor ที่เป็นห้องปิดด้วยประตูกระจก

โดยพื้นที่ส่วนนี้จะผสานความสมดุลระหว่างรสนิยมและธรรมชาติที่แทรกเข้ามาในบ้าน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ลงตัว

เจ้าของบ้านสามารถปรับฟังก์ชันได้ตามใจชอบ

มองเข้าไปในบ้านจะเห็นห้องนอน 2

พื้นที่ห้องนอนกว้าง พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ และมีระเบียงส่วนตัว

เป็นห้องนอนที่กินพื้นที่ชั้นนี้ไปแล้วครึ่งชั้น

มีพื้นที่ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำ และติดตั้งอ่างอาบน้ำให้ในห้องน้ำชั้นนี้ด้วย

ขึ้นไปที่ชั้น 3 แล้วมองลงมาบริเวณชั้นลอยและโถงบันได สูงเหมือนกันนะ

ชั้น 3 เดินขึ้นมาก็จะเจอกับ Master Bedroom และ ห้องนอน 3

Master Bedroom

ภายในห้องมีพื้นที่กว้าง และระเบียงส่วนตัว

ติดตั้งพื้นที่ Walk-in Closet ได้บริเวณหน้าห้องน้ำ

กั้นเป็นประตูกระจกแบบบ้านตัวอย่างได้เลย ได้พื้นที่แต่งตัว เก็บเสื้อผ้าใหญ่มาก

ห้องน้ำกว้าง ให้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และอ่างล้างหน้าแบบ His & Her

ให้ Shower Screen ในห้องสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ มี Rain Shower และช่องแสงด้านใน

ติดกันกับ Master Bedroom ก็จะเจอกับห้องอเนกประสงค์ ที่ติดกับบันได

โดยจะทำเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องทำงาน หรือห้องที่สามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้หลากหลาย และมีระเบียงด้านนอก

จัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ แบบนี้ได้เลย

ห้องนอน 3

ห้องนอนกว้าง มีช่องแสงด้านใน พร้อมห้องน้ำในตัว

ติดตั้ง Shower Screen ให้ และหน้าต่างแบบบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศในห้องน้ำได้

บ้านทุกหลังมีพื้นที่ชั้นดาดฟ้าด้วยนะ บริเวณบันไดทางขึ้นก็ติดช่องแสงให้ด้วย

พื้นที่ดาดฟ้ากว้างมาก และทางโครงการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านทุกหลัง ช่วยในเรื่องประหยัดค่าไฟได้ และสะดวกต่อลูกบ้านที่ไม่ต้องไปดำเนินเรื่องหาช่างมาติดตั้งเอง เสร็จสรรพพร้อมอยู่ พร้อมลดค่าไฟได้เลย

พื้นที่ส่วนนี้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย วันไหนท้องฟ้าโปร่งๆ ก็ขึ้นมานอนดูดาวพร้อมสมาชิกในครอบครัวได้นะ คงจะเพลินไปอีกแบบ

แบบบ้าน Townhome ศุภวรา มี 2 ขนาด คือ หน้ากว้าง 5.6 เมตร 239 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 1 ห้องซักรีด 2 ที่จอดรถ และศุภวรา ที่เป็นหลังมุม หน้ากว้าง  6 เมตร 263 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 โซนพักผ่อน 1 ห้องซักรีด 2 ที่จอดรถ

Façade หน้าบ้านบริเวณที่เป็นห้องนอน จะถูกพรางตาด้วยระแนงลายไม้อีกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย

แบบบ้านทาวน์โฮม มีพื้นที่ใช้สอยให้เลือก 2 ขนาด คือ 239 – 263 ตารางเมตร และบ้านหน้ากว้าง 2 ขนาดเช่นกัน 5.6 – 6 เมตร ที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน

หน้าบ้านปูกระเบื้องพอร์ซเลนให้ บ้านทุกหลังรองรับการติดตั้ง EV Charger

บ้านทาวน์โฮมมีพื้นที่ครัวอยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน พร้อมหน้าต่างที่เปิดระบายอากาศได้

ประตูหน้าบ้านติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Lockin Smart Door Lock V5 Max ให้ มีระบบปลดล็อคแบบไร้การสัมผัสเพียงการยกฝ่ามือสแกน สามารถควบคุมด้วยมือถือได้ และประตูเข้าบ้านเป็นวัสดุเหล็กกัลวาไนซ์ ของแบรนด์ EIZEN

เข้ามาในบ้านก็จะมองเห็นพื้นที่ Living & Dining ด้านใน และซ้ายมือเป็นห้องครัว

โถงบันไดรองรับการติดตั้งลิฟท์

พื้นที่ครัว ทางโครงการกั้นห้องให้ เป็นประตูกระจกบานสไลด์แบบบ้านตัวอย่าง แต่ไม่ได้ติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ เจ้าของบ้านสามารถออกแบบครัวได้ตามใจชอบ

พื้นที่ห้องซ้ายมือสามารถตกแต่งเพิ่มเป็นห้องเก็บของได้ และยังเป็นห้องที่ใช้เก็บงานระบบไฟ อินเทอร์เนต และ Solar Rooftop System ไว้ข้างใน

ขยับเข้ามาเป็นส่วนของ Living และ Dining พร้อมพื้นที่ Double Volume ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง และไม่อึดอัด

ผนังกระจกขนาดใหญ่ ให้แสงส่องเข้าในบ้านได้เต็มที่

พื้นที่หลังบ้าน

บ้านดูสว่างและโล่งเป็นอย่างมาก

Powder Room อยู่ใต้บันได

บันไดบ้านทาวน์โฮมเป็นบันไดปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค

พื้นที่ Double Volume สูง ติดตั้ง Chandelier ยาวแบบบ้านตัวอย่างได้

ชั้น M เป็นส่วนอเนกประสงค์ที่เจ้าของบ้านปรับฟังก์ชันการใช้งานได้ ปูพื้นด้วย HYBRID ENGINEERED WOOD

พื้นที่กว้าง มีช่องแสงหลายด้าน

เชื่อมต่อ Private Terrace แบบ Semi – Outdoor ด้านนอก

เป็นพื้นที่แบบ Semi Outdoor ที่จัดเป็นมุมนั่งเล่นได้

พื้นที่ตรงมุมบันได มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศ และนำต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้านได้

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งชั้น

พื้นที่ในห้องกว้าง ยาวจากฝั่งหน้าบ้านไปถึงจนหลังบ้าน ให้คุณใช้พื้นที่ได้อย่างจุใจ ไม่ว่าเป็นพื้นที่พักผ่อน มุมนั่งเล่น และพื้นที่ Walk-in Closet ใหญ่ๆ ไว้ในห้องก็ได้

Walk-in Closet เชื่อมต่อไปถึงหน้าห้องน้ำเลย

โต๊ะแต่งหน้าวางไว้ใกล้หน้าต่างตรงนี้ได้

ห้องน้ำใหญ่มาก ให้ทั้งอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้าแบบ His & Her Rain Shower และติดตั้ง Shower Screen ให้อีกด้วย

มีช่องแสงที่เปิดระบายอากาศได้

ชั้น 3 ขึ้นมาก็จะเจอห้องซักรีดอยู่กลางชั้นแบบนี้

บ้านจริงจะเป็นห้องโล่ง มีช่องแสง และติดตั้งประตูให้แบบบ้านตัวอย่าง

ฝั่งหน้าบ้านจะเป็นห้องนอน 2

ห้องนอน 2 ติดฝั่งหน้าบ้าน จำลองเป็นห้องนอนเด็กผู้ชาย

ในห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้

สามารถเปิดออกไปด้านนอกได้แบบนี้ ซึ่งถูกกั้นด้วยระแนงบริเวณ Façade หน้าบ้านอีก 1 ชั้น ช่วยบังสายตาและให้ความเป็นส่วนตัวกับเจ้าของบ้านได้

วางกระถางต้นไม้ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านได้

เดินมาอีกฝั่งเป็นห้องนอน 3 อยู่ติดฝั่งหลังบ้าน มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน

จำลองเป็นห้อง Home Entertainment ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมกันทั้งครอบครัวแบบนี้ได้

ห้องน้ำนี้ก็สามารถเปิดออกไปด้านนอกได้

ผนังทึบสูง ให้ความรู้สึกเหมือนอาบน้ำกลางแจ้ง

ขึ้นไปดูชั้น Rooftop กันดีกว่า มองลงมาจะเห็นชั้น 3 แบบนี้เลย

มีช่องแสงทั้งสองด้าน ให้พื้นที่บันไดส่วนนี้สว่างได้ทั้งวัน

Rooftop กว้าง มองเห็นวิวรอบๆ ได้ไกล พร้อมติดตั้ง Solar Rooftop ให้ด้วย

สรุปจุดเด่นของโครงการ Supalai Grand Essence Arun Amarin

Supalai Grand Essence Arun Amarin เป็นโครงการทาวน์โฮมและบ้านแฝดใหม่ เพียงแค่แห่งเดียวบนถนนอรุณอัมรินทร์ – ประชาธิปก ที่ใกล้ฝั่งพระนครมากที่สุด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง MRT สะพานพุทธ แบบเดินไปได้เพียง 350 เมตร ใกล้กับโรงเรียนศึกษานารี และใกล้โรงพยาบาลศิริราชเพียง 2.9 กิโลเมตรเท่านั้น ให้คุณเชื่อมต่อสู่ย่านเมืองเก่า อาทิ บ้านหม้อ ปากคลองตลาด วังบูรพา พาหุรัด สำเพ็ง และเยาวราชได้อย่างง่ายดาย โดยเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ติดถิ่นฝั่งธนฯ และมีกิจการอยู่ในย่านฝั่งพระนคร ให้เป็นตัวเลือกที่ทดแทนบ้านเดี่ยวบนทำเลที่ห่างออกไปได้ดี ท่ามกลางสังคมคุณภาพ Exclusive เพียง 36 หลัง พร้อมสวนส่วนกลาง ในโครงการมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ทั้งทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.6 – 6 เมตร และบ้านแฝด 3.5 ชั้น จอดรถได้ตั้งแต่ 2 – 4 คัน มีพื้นที่ Double Volume ในส่วน Living และพื้นที่อเนกประสงค์บนดาดฟ้า ทั้งทาวน์โฮมและบ้านแฝด ส่วนโถงบันไดกว้าง รองรับการติดตั้งลิฟท์โดยสารได้ และมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น Solar Rooftop, Home Automation และรองรับ EV Wall Charger ทุกหลัง ผสานความสมดุลระหว่างรสนิยม และธรรมชาติที่แทรกเข้ามาในบ้านจากพื้นที่ Private Terrace เพื่อคุณภาพชีวิตที่ลงตัว

หากคุณเป็นคนที่มีกิจการอยู่ในย่านพาหุรัด สำเพ็ง บ้านหม้อ เยาวราช ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในบริเวณฝั่งธนฯอยู่แล้ว การมองหาบ้านที่มอบพื้นที่ใช้สอยที่มากเพื่อขยับขยายให้กับสมาชิกใหม่ของครอบครัวให้เป็นทางเลือกในการอยู่พร้อมหน้ากันมากขึ้น ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ในการซื้อ เพราะปัจจุบันก็ไม่สามารถไปหาซื้อโครงการบ้านใดๆ ในแบบ Freehold ในฝั่งพระนครฯช่วงที่ใกล้กับย่านอรุณอมรินทร์ – ประชาธิปกได้อยู่แล้ว เดินทางด้วยรถไปข้ามสะพานพุทธฯ หรือปกเกล้ายังไงก็ใกล้และรถติดน้อยกว่าสะพานอื่นๆ หรือถ้าคุณมีลูกหลานเรียนอยู่ที่โรงเรียนชั้นนำโดยรอบอย่างซางตาครูส คอนแวนต์ ศึกษานารี สวนกุหลาบ และราชินี ที่นี่ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ใกล้โรงเรียน และดูสะดวก ประหยัดเวลาในการเดินทางกว่าการไปซื้อบ้านเดี่ยวในระดับราคาเดียวกัน (20 – 40 ล้านบาท) บนย่านที่ไกลออกไปอย่างถนนพรานนกตัดใหม่ บรมราชชนนี พุทธมณฑลสาย 1-4 ราชพฤกษ์ บางแค วุฒากาศ กัลปพฤกษ์ ซึ่งถ้าครอบครัวไหนที่มองว่าเอาเวลาที่ใช้ในการเดินทางมาเปลี่ยนเป็นการใช้ช่วงเวลาที่มีคุณภาพร่วมกันกับครอบครัวเป็นหลัก โดยที่ตั้งงบประมาณในการซื้อบ้านใหม่ไว้ประมาณนี้อยู่แล้ว ที่นี่ก็น่าจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด เพียงแต่ว่าบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุก็อาจจะต้องมีการติดตั้งลิฟท์โดยสารเพิ่มเติม เนื่องจากทั้งแบบบ้านทาวน์โฮม และบ้านแฝดนั้น ไม่ได้มีห้องอาบน้ำและห้องนอนให้ที่ชั้นล่างแต่อย่างใด

ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์

พบกับบ้านแฝด และทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ซีรีส์ใหม่ เอกสิทธิ์ 36 ครอบครัว สุดหรูที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการใช้ชีวิตที่ทันสมัยและสะดวกสบายย่านฝั่งธนบุรีได้ในโครงการ “ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์” ติดถนนอรุณอมรินทร์ ใกล้ MRTสายสีม่วง และ BTS สายสีทอง

เยี่ยมชมโครงการ : https://bit.ly/4gXCzD5

รายละเอียดเพิ่มเติม www.supalai.com

หรือสอบถามข้อมูลโทร.1720