Reference Kaset District ดีไซน์คอนโด รู้ใจคนเจนใหม่ กับฟังก์ชันห้องที่พร้อมอัพเกรดคุณภาพชีวิตให้ดีกว่าใคร ติดถนนใหญ่ตรงข้าม ม.เกษตร

Reference เป็นแบรนด์ดีไซน์คอนโดในกลุ่ม Mid-Tier ของ SC Asset ที่มีการรุกทำตลาดมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จากคอนเซปท์ที่ชัดเจนในเรื่องของ การเป็นแบรนด์คอนโดที่เน้นดีไซน์และการสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ ที่ได้มีการถอดรหัสกลุ่มผู้ซื้อเจนใหม่หรือ Generation Y ซึ่งแน่นอนว่าราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักที่คนกลุ่มนี้นำมาพิจารณา มากไปกว่าการมองหาที่อยู่อาศัยที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่ใช่ของตัวเองมากที่สุดในแบบที่ไม่ต้องมาปรุงแต่งเพิ่มเติมให้เสียจริต จึงเน้นการออกแบบที่โดดเด่นในทุกๆ โครงการ และ Tailored ประสบการณ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวให้เข้ากับ Lifestyle ของคนยุคใหม่ ที่เปลี่ยนไปในแต่ละโครงการ หรือจะพูดว่าเป็น Lifestyle Condo แห่งเเรกของ SC Asset ก็ว่าได้

โดยคำว่า Reference นั้น นอกจากจะหมายถึง สิ่งที่เราชอบจนนำมาใช้อ้างอิงตามนิยามศัพท์แล้ว ยังสื่อความหมายถึง ‘พื้นที่’ ที่เติมแรงกายแรงใจให้ผู้อยู่อาศัยออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ออกแบบได้เอง โดยการสร้างประสบการณ์นั้นจะมาทั้ง 2 มิติควบคู่กันไปคือ งานดีไซน์ และประสบการณ์ที่ได้รับจากบริการและพื้นที่ส่วนกลาง โดย Reference Kaset District คือโครงการที่ 3 ต่อจาก Reference สาทร – วงเวียนใหญ่ และ Reference เอกมัย

และสำหรับ Reference Kaset District (เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค) ในวันนี้ แน่นอนว่านี่คือดีไซน์คอนโดบนทำเลมหาวิทยาลัยครั้งแรกของแบรนด์ Reference เรียกได้ว่าอยู่บนจุดศูนย์กลางของคนเจนใหม่เลย โดยอยู่ริมถนนงามวงศ์วานข้ามถนนไปก็เข้าประตู 3 ฝั่ง ม.เกษตร แล้ว ซึ่งเป็นทำเลที่ไม่ได้มีโครงการคอนโดสูงเปิดตัวใหม่มานานแล้ว รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด อพาร์ทเมนท์ และเดินไปมหาวิทยาลัยได้ง่ายที่สุด ในอนาคตก็มี Big Projects เตรียมจ่อขึ้นอีกเพียบ ใน ม.เกษตร เองล่าสุดกำลังจะมีคณะเเพทย์และโรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยเลย มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลผ่านหน้าโครงการในอนาคต ในขณะที่ฝั่งอื่นๆ ก็ไม่ได้มีสีสันในการใช้ชีวิตเท่าฝั่งนี้ จึงเป็นโซนฮิตที่ปล่อยเช่านักเรียน นักศึกษา ม.เกษตร รวมไปถึงบุคลากรของ รพ.วิภาวดี ได้ด้วย

ดังนั้นเพื่อให้สมกับชื่อ Kaset District ทางโครงการจึงได้มีการปรับงานดีไซน์ โดยเฉพาะรูปแบบเลย์เอาท์ให้อัพไปอีกขั้น เป็นที่แรกของแบรนด์ Reference ด้วยคอนเซปท์ Limitless in Design ที่ได้มีการทลายข้อจำกัดการใช้ชีวิตคอนโดด้วยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้มากกว่าใคร กับห้องแบบ VertiSpace เพดานสูงถึง 4.8 เมตร* (เพดานครัว 2.4 เมตร เพดานห้องนอน 2.15 เมตร) ทั้งอาคาร ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้มากถึง 3 Beds ให้เฟอร์ฯ ครบเซ็ต ในราคาเริ่มต้นมีห้องโปรฯ ราคา 4.69 ลบ.* (เฉลี่ยประมาณตารางเมตรละแสนสองกว่าๆ ถ้าคิดรวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด) เราไปเจาะลึกรายละเอียดพร้อมกันได้ในบทความนี้เลย

Kaset District – ศูนย์กลางของคนเจนใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเป็น A Multi – Layered Lifestyle ที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ

Reference Kaset District ตั้งบนทำเลศักยภาพที่อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นทำเลที่หาที่ดินได้ยาก แต่มีความต้องการอยู่อาศัยสูงขึ้นทุกปี มี ทั้งนักศึกษา วัยทำงาน ที่มีความหลากหลายของรูปแบบการใช้ชีวิต รวมกลุ่มกันอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างมาก ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีความต้องการ มีกำลังซื้อ และเป็นดีมานด์หลักของทศวรรษนี้ โดยคนกลุ่มนี้มักสนใจงานดีไซน์ เทคโนโลยี รวมทั้งให้ความสำคัญกับการมองหาประสบการณ์อันแปลกใหม่  สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของ กลุ่มนี้ในส่วนของการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและบริการ รูปแบบดีไซน์ การออกแบบฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและสะท้อนตัวตนที่แตกต่าง พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบถ้วนที่สุด

โดยทำเลเกษตรที่มีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นศูนย์กลางแห่งนี้เราสามารถซอยย่อยออกได้เป็นย่านหลักๆ ถึง 3 บริเวณด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งงามวงศ์วาน ฝั่งพหลโยธิน และฝั่งวิภาวดีรังสิต ซึ่งแต่ละฝั่งก็จะมีบริบทของทำเลและการเดินทางที่แตกต่างกันออกไป แต่ฝั่งที่มีความเป็น Residential Area สูงที่สุด รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด อพาร์ทเมนท์ และเดินไปมหาวิทยาลัยได้ง่ายที่สุดก็ต้องเป็นฝั่งงามวงศ์วานที่โครงการ Reference Kaset District ก็ตั้งอยู่ฝั่งนี้เช่นกัน และอีกไม่นานย่านนี้ก็จะมีการเกิดใหม่ของ New Medical Hub จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สร้างโรงพยาบาลเฟสแรก 100 เตียง ซึ่งจะดำเนินการภายในสิ้นปี 2565 นี้ และภายในปี 2568 – 2569 จะเพิ่มจำนวนเตียงให้กลายเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ขึ้นรองรับ 400 เตียงขึ้นไป เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ใช้เพื่อการเรียนการสอน การวิจัย และบริการประชาชน

นอกจากนี้ ทำเลเกษตรศาสตร์นับว่าเป็นทำเล Campus Condo ใกล้มหาลัยที่สำคัญในกรุงเทพฯ ทำให้นักลงทุนเล็งเห็นโอกาสการเข้ามาลงทุนซื้อคอนโดฯ เพื่อไว้ปล่อยเช่าระยะยาว และการปล่อยเช่าคอนโดฯ ที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัย ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ  โดยจะมี Rental Yield อยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทำเลนั้นๆ ราว 6 – 10% เนื่องจากคอนโดฯ ในบริเวณสถานศึกษามักมีความต้องการเช่าที่หมุนเวียนใหม่ในทุกๆ ปี ในอนาคตบริเวณหน้าโครงการ Reference Kaset District ยังมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นด้วยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลสถานีงามวงศ์วาน 48 ที่ห่างจากโครงการเพียง 300 เมตร สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสายสีเขียวและสายสีแดง สะดวกสบายต่อคนในย่านและย่านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี(บึงกุ่ม) ระยะทาง 22.10 กิโลเมตร มี 20 สถานี จะเริ่มก่อสร้างปี 2569 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี และเปิดบริการเดินรถได้ประมาณปี 2572 เป็นทางยกระดับตลอดทั้งเส้นทาง

โครงการ Reference Kaset District อยู่ในทำเลศักยภาพที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน สถานศึกษา โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมาย และสะดวกในเรื่องของการเดินทางเป็นอย่างมาก เพราะโครงการติดกับถนนเส้นหลักหลายสาย อาทิ ถนนงามวงศ์วาน ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนประเสริฐมนูกิจ ให้คุณเชื่อมต่อย่านอื่นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นใจกลางเมืองหรือออกต่างจังหวัดก็ได้เช่นกัน

อีกทั้งลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ ทางโครงการมี Shutter Service ระหว่างโครงการและรถไฟฟ้า เรียกได้ว่าเป็นโลเคชั่นที่เดินทางได้อย่างสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าในปัจจุบันหลายสาย ไม่ว่าจะเป็น สายสีแดงที่สถานีบางเขน 500 เมตร, สายสีเขียวที่สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1.5 กิโลเมตร และสายสีเขียวที่สถานีเสนา 1.6 กิโลเมตร

บริเวณด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนงามวงศ์วาน ฝั่งตรงข้ามเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

บริเวณใกล้ปั๊มน้ำมันมีสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งได้เลย

ประตูทางเข้า 3 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใครที่ชอบเดินเกษตรแฟร์ มาอยู่ในโครงการนี้ได้เดินทุกปีแน่ๆ

มีอะไรใน Reference Kaset District ที่โดนใจคนเจนใหม่กว่าที่อื่น บนคอนเซ็ปต์ Layer of Nature, Layer of Life

1. ดีไซน์คอนโด High Rise ใหม่หนึ่งเดียวบนถนนงามวงศ์วาน ข้ามถนนไปก็เข้าประตู 3 ฝั่ง ม.เกษตร เป็นทำเลที่ไม่ได้มีโครงการคอนโดสูงเปิดตัวใหม่มานานแล้ว รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด อพาร์ทเมนท์ และเดินไปมหาวิทยาลัยได้ง่ายที่สุด ในอนาคตก็มี Big Projects ส่อขึ้นอีกเพียบ ใน ม.เกษตร เองล่าสุดกำลังจะมีคณะเเพทย์และโรงพยาบาลใน ม. เลย มีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลผ่านหน้าโครงการในอนาคต และคอนโดมิเนียมที่มีรูปแบบดีไซน์ การออกแบบฟังก์ชันใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและสะท้อนตัวตนที่แตกต่าง พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย

2. นำเสนอห้องรูปแบบใหม่ VertiSpace ที่มีเพดานสูงถึง 4.8 เมตร ตอบโจทย์การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายใต้พื้นที่จำกัด มากถึง 3 ห้องนอน ทำให้คุ้มค่า ราคาไม่แพง ที่มาพร้อม Flexible เฟอร์นิเจอร์จาก “THINKK Studio” ที่ดีไซน์มีเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและธรรมชาติเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์การออกแบบ “Layer of Nature, Layer of Life” เพื่อการอยู่อาศัยที่สร้างแรงบันดาลใจและในสไตล์ของตัวเอง ตามคอนเซ็ปต์หลักของแบรนด์เรฟเฟอเรนซ์ นั่นคือ “Find Inspiration in design” ทำให้ Reference Kaset District เป็นโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากที่สุดในแง่ของการอยู่อาศัย จากทั้งการดีไซน์และการบริการ

เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างมาก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้หลายรูปแบบ อาทิ โต๊ะอเนกประสงค์แบบยกขึ้น-ลงได้, โซฟาที่มีช่องเก็บของใต้เบาะ และโซฟาเบด

3. มอบ Value Added ที่มากกว่า กับค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 80 บาท (คิดเฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง) แต่มาพร้อม Concierge Services เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและคอยช่วยเหลือลูกบ้าน ได้แก่ บริการรีดผ้าให้กับลูกบ้านเดือนละ 20 ชิ้น/ห้อง บริการแม่บ้านทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง* ตลอดระยะเวลา 1 ปี* และประกันสุขภาพ 1 ปี* รวมทั้งบริการรถรับ – ส่ง ให้คุณรู้สึกสะดวกสบายเมื่ออาศัยอยู่ในโครงการกับบริการต่างๆ ที่ทางโครงการมอบให้ทั้งในด้านของสุขภาพ ความสะอาดภายในห้องพัก และมีแอพพลิเคชั่น Ruejai ที่สามารถดูแลลูกบ้านของ Sc Asset ได้ทุกโครงการ

4. แยกอาคาร Commercial สะดวกสบายตลอด 24 ชม.ด้วย 7-Eleven มาพร้อมส่วนกลาง 4 โซน ที่ชั้น 1, 5, 21, และ 21M โดยมีไฮไลท์เป็นสระว่ายน้ำวิวเมืองยาว 25 เมตร พร้อม Pool Lounge ให้คุณเพลินเพลิดกับพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายที่ตอบโจทย์การพักผ่อนของคุณได้เต็มที่ วันไหนเหนื่อยจากการเรียน การทำงานมาแล้ว เข้ามาใช้บริการของพื้นที่ส่วนกลางที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

Main Lobby พื้นที่รองรับแขกและลูกบ้านภายในโครงการ

Private Lobby พื้นที่พักผ่อนที่จัดที่นั่งให้หลายมุม

Co-Kitchen ชวนเพื่อนเข้ามาทำอาหาร หรือจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ในห้องนี้ได้

The Seamless-edged Swimming Pool ความยาว 25 เมตร พร้อมชมวิวเมืองได้ตลอดทั้งวัน

The Limitless Fitness Club พื้นที่ออกกำลังกาย มองเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองรอบๆ ได้

Yoga Studio ห้องโยคะแบบส่วนตัวที่สามารถนำเทรนเนอร์เข้ามาสอนได้

Gather & Co. พื้นที่พักผ่อนบนชั้น 21M มองเห็นวิวมืองได้กว้างไกล

Learning Lounge ชั้น 21M ให้คุณเข้ามาอ่านหนังสือ ทำงาน หรือนั่งเล่นพักผ่อนในส่วนนี้ได้

5. ย่านเกษตรศาสตร์ เป็น Campus Condo ในกรุงเทพฯ ที่สามารถทำ Rental Yield ได้ดี โดยการทำฟังก์ชันห้องในแบบหลายห้องนอนในห้องเดียว ให้เฟอร์ฯ ทั้ง Built – in และลอยตัวมาครบ ไม่ยุ่งยากเสียเพิ่มเติม สามารถปล่อยเช่ากับผู้เช่าได้หลายราย เป็นการกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า ในราคาค่าเช่ารวมต่อห้องที่อาจจะมากกว่าที่อื่นๆ เป็นโซนฮิตที่ปล่อยเช่านักเรียน นักศึกษา ม.เกษตร รวมไปถึงบุคลากรของ รพ.วิภาวดี ได้ด้วย โดยมีราคาค่าเช่าของรูปแบบห้องต่างๆ โดยประมาณต่อเดือน* อยู่ที่ ห้องแบบ 1 Bed VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 35.97 – 38.38 ตารางเมตร มีอัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 21,000 – 23,000 บาท/เดือน, ห้องแบบ 2 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 38.19 – 40.38 ตารางเมตร ค่าเช่าเฉลี่ยที่ 24,000 – 26,000 บาท/เดือน และห้องแบบ 3 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 46.57 – 59.30 ตารางเมตร ค่าเช่าเฉลี่ยที่ 27,000 – 38,000 บาท/เดือน (*อ้างอิงจากการรวบรวมอัตราค่าเช่าเฉลี่ยของคอนโดในย่านเดียวกัน โดยทีมงานเอสซี แอสเสท)

รายละเอียดโครงการ Reference Kaset District

Reference Kaset District (เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค คอนโดมิเนียม 21 ชั้น จำนวน 381 ยูนิต พร้อมอาคาร Commercial อีก 2 ชั้น ที่มี 7 ยูนิต จอดรถได้ 142 คัน (32.27%) มียูนิต 3 Type ตั้งแต่ 1 Bed VertiSpace พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 35.97-38.38 ตารางเมตร / 2 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 38.19-40.38 ตารางเมตร / 3 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 46.57-59.30 ตารางเมตร

Floor Plan

บริเวณด้านหน้าโครงการเป็นส่วนของอาคารร้านค้า 2 ชั้น จำนวน 6 ยูนิต โดย 3 ยูนิตด้านล่างจะเป็น Shop 7-Eleven  ร้านค้าอีก 1 ยูนิต จะอยู่ที่ชั้น 1 ของคอนโด คนนอกสามารถเข้ามาใช้บริการ Shop ทั้งหมดนี้ได้ ถัดเข้ามาบริเวณชั้น 1 ในส่วนของคอนโดเป็น Facilities รองรับผู้พักอาศัยมากมาย อาทิ Private Lobby, Commercial Unit, Ironing Room, Parcel Room, Laundry Room และ Delivery & Pick-up

ชั้น 5 มีส่วนของห้องพักอาศัยและ Facilities คือ Co-Kitchen และ The Canopy Garden

ชั้น 6 – 20 เป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด แต่ละชั้นมีห้องประมาณ 24 ยูนิต และเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยห้องแบบ Single Corridor ที่ไม่หันหน้าชนกับห้องอื่นเลย

ชั้น 21 เป็นส่วนของ Facilities ทั้งชั้น มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้ทุกไลฟ์สไตล์

View

ห้องที่อยู่ตรงทิศเหนือและทิศใต้จะไม่โดนบล็อกวิว โดยฝั่งทิศเหนือมองเห็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่วนทิศใต้ก็เป็นวิวอพาร์ทเม้นที่ไม่สูงมาก ห้องที่อยู่ชั้นสูงก็จะได้เป็นวิวโล่งๆ ซึ่งห้องที่อยู่สองฝั่งนี้จะเป็นห้องแบบ 3 Beds VertiSpace ทั้งหมด ส่วนฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีตึกสูงขนาด 8 ชั้น และ 20 ชั้นขนาบข้าง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่ติดกันเกินไป ซึ่งหากลูกบ้านที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่มองเห็นตึกข้างๆ ก็สามารถเลือกเป็นห้องฝั่งนี้ได้ โดยห้องที่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้น จะเป็นห้องแบบ 1 Bed VertiSpace และ 2 Beds VertiSpace คละกัน

Model

โครงการตั้งอยู่ริมถนนงามวงศ์วาน ตรงข้ามกับประตู 3 ฝั่ง ม.เกษตร

อาคาร Commercial ในอนาคตจะมีร้านค้าเข้ามาเปิดร้าน ให้ลูกบ้านและคนนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้

บริเวณทางเข้าโครงการรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว ดูร่มรื่น และใกล้ชิดกับธรรมชาติ

ห้องภายในโครงการทั้งหมดเป็นแบบ VertiSpace เพดานสูง 4.8 เมตร มีห้องตั้งแต่ 1 – 3 Beds ซึ่งห้องแบบ 3 Beds จะอยู่ฝั่งด้านหน้าและฝั่งด้านหลังของอาคาร ส่วนบริเวณข้างอาคารจะเป็นห้องแบบ 1 – 2 Beds

ชั้น 21 และ 21M เป็นส่วนของ Facilities ทั้งหมด

Sales Gallery

ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโครงการจริง ซึ่งในอนาคตจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นอาคาร Commercial

มีพื้นที่จอดรถเยอะ ใครอยากเข้ามาชมห้องตัวอย่าง ไม่ต้องกังวงเรื่องที่จอดรถเลย

ด้านนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสวยงาม มีที่นั่งหลายมุม ใครชอบทำคอนเทนต์ถ่ายรูป ก็สามารถเข้ามาถ่ายที่นี่ลงโซเชียลได้นะ แถมข้างในยังมีร้านกาแฟอร่อยๆ อีกด้วย

เข้ามาข้างในก็เจอกับร้านกาแฟและขนม ชื่อ Jo’s Banoffee ตกแต่งด้วยโทนสีน่ารักๆ พร้อมที่นั่งให้คุณได้มาดื่มด่ำกาแฟและขนมอร่อยๆ หลังจากไปดูห้องตัวอย่างมาแล้ว

ในร้านมีให้เลือกหลายเมนู พร้อมเมนูสเปเชียลที่เป็นนมสีฟ้า ใครอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง ก็ตามไปลองกันได้

โดดเด่นด้วย Banoffee ดาร์กช็อกโกแลต และคาราเมลสูตรเฉพาะของ Jo’s

เครื่องดื่มก็รสชาติดีไม่แพ้กัน

ด้านใน Sales Gallery พื้นที่กว้าง ใช้โทนสีสว่างยิ่งทำให้ห้องดูโปร่งอย่างมาก มีพื้นที่วางโมเดลโครงการ และผลิตภัณฑ์จาก THINKK ให้ได้ชมกันด้วย

ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้อง และพื้นที่นั่งรับรองทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ด้วย

Unit Plan

1 Bed VertiSpace แบบ 1 นอนขนาด 24.46 ตารางเมตร (เฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง พื้นที่ทั้งหมดรวม 35.97 ตารางเมตร) ห้องแบบครัวหน้าเชื่อมต่อไปถึงพื้นที่ Living แบบไม่กั้นห้อง ทำให้ห้องชั้นล่างดูโปร่ง โล่งมากกว่า พร้อมพื้นที่ห้องนอนบนชั้น 2 ที่กั้นห้องให้เป็นสัดส่วน มีกระจกมองเห็นส่วน Living ของชั้น 1 ได้

2 Beds VertiSpace แบบ 2 นอนขนาด 28.07 ตารางเมตร (เฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง พื้นที่ทั้งหมดรวม 38.19 ตารางเมตร) มีครัวและห้องน้ำอยู่ส่วนหน้าห้อง ได้ห้องเก็บของและตู้ที่เยอะกว่าคอนโดที่มีเลย์เอาท์สไตล์เดียวกัน ในขณะที่ชั้นลอยมีโถง Foyer หน้าห้องนอนที่กั้นเป็นสัดส่วนกว่า พร้อมกระจกเข้ามุมไว้ทำงานและชมวิวแบบ Bay Window

3 Beds VertiSpace แบบเป็น 3 นอน* (เอาพื้นที่ส่วนห้องริมระเบียงชั้นล่างมากั้นเพิ่มเป็นอีกห้องนอนได้ จะว่าไปก็คือ 2 +1 Bed) ขนาด 27.98 ตารางเมตร (เฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง พื้นที่ทั้งหมดรวม 46-57 ตารางเมตร) มีการจัดสรรพื้นที่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตารางเมตรมากกว่า ไม่ปล่อยให้มี Waste Space เลยด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ Built-in  ของโครงการ และ มี flexible furniture  ชิ้นพิเศษ จาก Thinkk Studio

ห้องตัวอย่าง

แบบ 2 นอนขนาด 28.07 ตารางเมตร (เฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง รวม 38.19 ตารางเมตร) มาพร้อม Furniture Package ทั้งหมด 11 ชิ้น ได้แก่ Shoe Cabinet, Kitchen, Coffee Table, Sofa, TV Console, Sofa Bed, Wardrobe, Table, Chair, Wardrobe, Bed 5ft. และชุดเฟอร์ฯ Flexible จาก Thinkk Studio โดยห้องแบบ 2 Beds VertiSpace ได้เฟอร์ฯ 2 ชิ้น คือ โต๊ะอเนกประสงค์ที่สามารถดึงขึ้น-ลงได้ โซฟาที่มีช่องเก็บของใต้เบาะ

หน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock แบบนี้ให้

เปิดเข้ามาในห้องก็จะมองเห็นส่วนครัวยาวไปถึง Living

ให้เคาน์เตอร์ครัวขนาดกะทัดรัดมีตู้เก็บของด้านบน และให้ Hob & Hood และซิงค์ล้างจานแบบ 1 หลุม เพดานส่วนครัวสูง 2.4 เมตร ผนังฉาบเรียบสีขาว

ครัวของจริงได้แบบนี้

ติดกับเคาน์เตอร์ครัวมีตู้เก็บรองเท้า และใช้เก็บตู้คอนซูมเมอร์ไฟด้านบนได้

ตรงข้ามครัวเป็นส่วนของห้องน้ำ

ห้องน้ำโทนสีสว่าง กั้นพื้นที่แห้งและเปียกด้วย Shower Screen ในห้องอาบน้ำติดตั้ง Rain Shower ให้

บริเวณพื้นห้องน้ำมีสเตป กันน้ำไหลออกมาด้านนอก

พื้นที่ Living ยาวไปจนถึงหลังห้อง เป็นพื้นที่ที่สามารถวางโต๊ะกาแฟและโซฟาได้แบบไม่อึดอัด เดินผ่านได้สะดวก และมีการออกแบบให้พื้นที่ส่วนบันไดยื่นออกมาเป็นโต๊ะวางทีวีได้

ห้องเก็บของใต้บันได ให้คุณมีพื้นที่เก็บในห้องได้อย่างเป็นระเบียบ

พื้นที่เชื่อมต่อมาจาก Living ซึ่งส่วนนี้จริงๆ แล้วสามารถกั้นห้องเพิ่มเองได้ เพื่อใช้เป็นห้องทำงานหรือห้องนอนได้อีก 1 ห้อง หากใครไม่อยากกั้นก็เปิดโล่งแบบห้องตัวอย่างได้เลย ใช้ Sofa Bed กางออกแทนเตียงได้เลย

ถ้ากั้นพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องนอน ทางโครงการติดตั้งตู้เสื้อผ้า พร้อมชั้นวางของเพิ่มให้อีก 1 ชุด

ผนังตรงนี้มีกระจกเข้ามุมไว้ทำงานและชมวิวแบบ Bay Window ให้หน้าต่างบานกระทุ้งเปิดรับลมด้านนอกได้

พื้นที่ระเบียงด้านนอก ใช้วางเครื่องซักผ้าได้

แขวน CDU แอร์ไว้ด้านบน

ด้วยห้องแบบ VertiSpace ที่มีห้องนอนแบบส่วนตัวไว้ที่ชั้น 2 ทำให้พื้นที่ Living มีเพดานสูงถึง 4.8 เมตร พร้อมผนังกระจกบานใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้าห้องได้อย่างเต็มที่ ให้ห้องสว่างได้ทั้งวัน

จากมุมนี้มองเห็นห้องนอนชั้นบนที่กั้นห้องเป็นสัดส่วน ไม่ต้องมาต่อเติมเองภายหลัง

มีพื้นที่ Foyer บริเวณหน้าห้องนอน พร้อมราวกันตก ให้คุณเปิด-ปิดประตูห้องได้อย่างสะดวก พักวางของก่อนเปิดประตูได้

ยืนตรง Foyer มองเห็น Living ที่ชั้นล่าง

ในส่วนห้องนอน เพดานสูง 2.15 เมตร โครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุต และ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ พื้นที่ห้องนอนแบบเป็นส่วนตัวแยกขึ้นมาไว้ชั้นบน และตัวห้องไม่ได้แคบเกินไป อยู่ได้สบาย

มีพื้นที่ Bay Window ที่เอาโต๊ะมาวางทำงาน อ่านหนังสือได้

ตู้เสื้อผ้าอยู่บริเวณปลายเตียง

3 Beds VertiSpace ขนาด 27.98 ตารางเมตร

แบบ 3 Beds 1 ห้องน้ำ ขนาด 27.98 ตารางเมตร (เฉพาะพื้นที่ชั้นล่าง พื้นที่ทั้งหมดรวม 46.57 ตารางเมตร) มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์จากทางโครงการทั้งหมด 11 ชิ้น อาทิ Shoe Cabinet, Kitchen, Coffee Table, Sofa, TV Console, Sofa Bed, Wardrobe, Wardrobe, Bed 5ft., Wardrobe, Platform for bed  และชุดเฟอร์ฯ Built-in จาก Thinkk Studio 2 ชิ้น ได้แก่ Sofa ที่มีช่องเก็บของใต้เบาะ และโต๊ะอเนกประสงค์ปรับขึ้น-ลงได้

ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock ให้แบบนี้

เปิดประตูเข้าไปในห้องมองเห็นส่วนครัวก่อนเป็นอันดับแรก เพดานส่วนครัวสูง 2.4 เมตร ผนังแบบฉาบเรียบทาสีขาว

ครัวที่ได้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง ขนาดกะทัดรัดที่มีทั้งเคาน์เตอร์ครัว และตู้เก็บของด้านบน

เป็นชุดครัวแบบเดียวกับห้องตัวอย่างห้องแรก ที่ได้ Hob & Hood และซิงค์ล้างจาน 1 หลุม

ข้างเคาน์เตอร์ครัวมีตู้เก็บรองเท้า ซ่อนตู้คอนซูมเมอร์ไฟไว้ด้านบน

ตรงข้ามกับครัวเป็นห้องน้ำ โดยฟังก์ชันบริเวณห้องด้านหน้าคล้ายกับห้องตัวอย่างห้องแรกที่เราพาชม

ห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้ ในห้องอาบน้ำให้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower

บริเวณกลางห้องเป็นพื้นที่ Living ที่มีเพดานสูงถึง 4.8 เมตร มองเห็นห้องนอนที่ชั้นบนได้

ชุดเฟอร์ฯ 2 ชิ้น จาก THINKK

ตำแหน่งวางทีวีอยู่ติดกับบันได

มีห้องเก็บของใต้บันได

ถัดจากพื้นที่ Living ส่วนนี้สามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มได้อีก 1 ห้อง เพราะโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้แล้ว และมี Sofa Bed แถมมาให้ หรือจะใช้เป็นห้องทำงานก็สะดวกเช่นกัน ห้องไหนที่มีสมาชิกในห้องหลายคนก็กั้นห้องอยู่แบบส่วนตัวมุมนี้ไปเลย

ระเบียงด้านนอกมีที่วางเครื่องซักผ้า และแขวน CDU แอร์ไว้ด้านบน

มองจากมุมนี้จะเห็นได้ว่าห้องไทป์นี้เป็นห้องแนวลึก แต่ไม่แคบจนเกินไป ถึงจะวางเฟอร์ฯ หลายชิ้น แต่ก็ยังสามารถเดินผ่านไป-มาได้อย่างสะดวก ด้วยความสูงของเพดานและบริเวณหลังห้องที่ติดกระจกบานใหญ่ให้ ให้แสงธรรมชาติส่องผ่านห้องได้ตลอดทั้งวัน ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น

ห้องนอนชั้นบนแยกอยู่คนละฝั่งผนัง

ทางขึ้นไปที่ห้องนอนชั้นบน

ขึ้นมาก็จะเจอกับทางเดินที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 ห้องนอน มีความแข็งแรง พร้อมราวกันตกแบบกระจก

มองเห็นพื้นที่ Living ที่ชั้นล่างแบบนี้ได้

ห้องนอน 1 อยู่ติดฝั่งหลังห้อง มีกระจกบานใหญ่สองด้าน ให้ห้องรับแสงได้เต็มที่ เพดานห้องสูง 2.15 เมตร

วางเตียง 5 ฟุตได้พอดี

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ให้

ห้องนอน 2 ติดกับฝั่งหน้าห้อง เหนือส่วนครัว

ในห้องวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ เพดานสูง 2.15 เมตร

มีช่องแสงมองลงไปเห็น Living ด้านล่าง

ตู้เสื้อผ้า Built-in บริเวณปลายเตียง

สรุปจุดเด่นของโครงการ Reference Kaset District

Reference Kaset District ดีไซน์คอนโด High Rise ใหม่หนึ่งเดียวบนถนนงามวงศ์วาน ข้ามถนนไปก็ข้ามประตู 3 ม.เกษตร และเป็นดีไซน์คอนโดบนทำเลมหาวิทยาลัย ครั้งแรกของแบรนด์ Reference ท่ามกลางจุดศูนย์กลางของคนเจนใหม่ เป็น Campus Condo ท่ามกลาง New Medical Hub อาทิ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลเปาโล เกษตร และโรงพยาบาลวิภาวดี ในย่าน Multi-Layered Lifestyle ที่เพียบพร้อมด้วยแหล่งงาน แหล่งเรียนรู้ สิ่งอำนวยความสะดวกและเป็นศูนย์รวมพื้นที่กิจกรรมหลากหลายสำหรับทุกคน ใกล้รถไฟฟ้า 2 สายหลัก ทั้งสายสีเขียว  และสายสีแดง  ในอนาคตจะมี MRT สายสีน้ำตาลผ่านหน้าโครงการที่สถานีงามวงศ์วาน 48 และสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยร้าน 7-Eleven ภายในโครงการ อีกทั้งในโครงการนำเสนอห้องรูปแบบใหม่ VertiSpace ที่มีเพดานสูงถึง 4.8 เมตร ตอบโจทย์การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายใต้พื้นที่จำกัดมากถึง 3 Beds มาพร้อม Flexible Furniture จาก “THINKK Studio” ดีไซน์มีเอกลักษณ์ ผสมผสานระหว่างความสะดวกสบายและธรรมชาติเข้าด้วยกัน และบริการ Concierge Service ที่เป็นบริการแม่บ้านทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง* ตลอดระยะเวลา 1 ปี* ฟรี รีดผ้า 20ชิ้น/เดือน*  และประกันสุขภาพ 1 ปี พร้อมส่วนกลาง 4 โซน ที่ชั้น 1, 5, 21 และ 21M โดยมีไฮไลท์เป็นสระว่ายน้ำวิวเมืองยาว 25 เมตร พร้อม Pool Lounge

Reference Kaset District

พบกับดีไซน์คอนโดใหม่ ด้วยรูปแบบฟังก์ชันแบบ “บ้าน” บนทำเลศักยภาพสูง ตรงข้าม ม.เกษตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน เพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยการออกแบบพื้นที่มาอย่างลงตัวสำหรับทุกความต้องการอย่างแท้จริง สัมผัสประสบการณ์อยู่อาศัยที่แตกต่างกับยูนิตรูปแบบใหม่ล่าสุด

ดีไซน์คอนโดฟังก์ชันเเบบ ”บ้าน” แต่งครบ เริ่ม 4.69 ล้าน*

Presales 26-27 เมษายนนี้ ก่อนจองถ้าแจ้ง CODE RFKS-propholic รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท* ทันที

ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมและส่วนลด 100,000 บาท* คลิก! : https://bit.ly/40sdxoq

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

สอบถามเพิ่มเติมโทร 1749 หรือ

LINE Click: https://lin.ee/tjzpahH

#ReferenceKasetDistrict #ReferenceCondo #SCcondo

#SCASSET #KasetDistrict #ReferenceCondoxBillkin