พาชมทาวน์โฮมดีไซน์โดดเด่นเหนือใคร กับโถง Double Volume และ Penthouse Master Bedroom ที่ NUE HYBE Suksawat แห่งเดียวติดถนนใหญ่ เดินไปรถไฟฟ้าได้! 

ปกติแล้วหากเราจะหาโครงการบ้านจัดสรรสักที่ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะโครงการที่มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 8 ล้านบาท แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นโครงการที่ไม่อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ต้องเข้าไปในซอยลึก ยิ่งในย่านกรุงเทพฯตอนใต้อย่างถนนสุขสวัสดิ์ที่กำลังเร่งก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้แบบนี้ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยครับที่จะหาโครงการติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า เพราะตลอดสองฝั่งถนนนั้นมีการพัฒนาเกือบเต็มพื้นที่ไปหมดแล้ว และส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สมัยเก่าเปิดใช้งานมานานแล้ว และหากเป็นโครงการทาวน์โฮม 2 – 3 ชั้น ก็มักจะอยู่ในถนนรองซอยย่อยจากเส้นสุขสวัสดิ์หลัก ที่เชื่อมต่อกับถนนประชาอุทิศ ราษฎร์บูรณะ พระรามสอง หรือพุทธบูชา ทั้งนั้น ส่วนบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ก็มักจะตั้งอยู่บนถนนหลักพระรามสองที่มีราคาหลายสิบล้านบาทและอยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปอีก 

แต่โครงการที่เราจะพามาดูวันนี้อย่าง NUE HYBE Suksawat (นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์) เป็นโครงการติดถนนใหญ่ที่ใครเห็นก็ต้องชอบ ไม่ว่าชีวิตคุณจะไฮบริดแค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเป็นโครงการหนึ่งเดียวบนแนวคิด “Urban Hybrid Living” ประกอบไปด้วย 3 รูปแบบคือ Urban Home (ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง) , Urban Hybrid Home (ทาวน์โฮม 4 ชั้น ปรับฟังก์ชันได้)  และ Urban Shophouse (อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น) ที่ตอบโจทย์ครบทั้ง LIVE – WORK – COMMERCE ชีวิตไฮบริด ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า จบครบในที่เดียว!

สุขสวัสดิ์ ปัจจุบันถือเป็นย่านผสมผสานระหว่างที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์สำคัญของกรุงเทพฯ ตอนใต้ ที่ถือว่าสะดวกในการเดินทาง เนื่องจาก ถนนสุขสวัสดิ์ เป็นถนนที่เชื่อมถนนหลักที่เชื่อมย่านต่าง ๆ ของฝั่งธนบุรี ทั้ง ราษฎร์บูรณะ ประชาอุทิศ พระราม 2 ดาวคะนอง ตากสิน รวมทั้งใกล้สะพานและทางด่วนที่เชื่อมพระราม 3 สมุทรปราการโซนบางนา ทั้งสะพานพระราม 9 สะพานพระราม 3 สะพานกรุงเทพ และสะพานภูมิพล (วงแหวนอุตสาหกรรม) 

ปัจจุบันบริเวณคู่ขนานสะพานพระราม 9 ก็กำลังมีการก่อสร้างสะพานขึงคู่ขนานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ของโครงการทางพิเศษ (ทางด่วน) สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก-สมุทรสาคร ที่จะแล้วเสร็จในปี 2567

(ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/2171640/)

อีกทั้งเป็นทำเลที่กำลังมีการพัฒนาทางด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มากที่สุดในย่านกรุงเทพฯ ตอนใต้ โดยเฉพาะไฮไลท์สำคัญคือรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ที่มี 10 สถานีใต้ดิน (สถานีรัฐสภา-สำเหร่) 7 สถานีลอยฟ้า (สถานีดาวคะนอง-ครุใน) ที่ตอนนี้เดินหน้าสร้างแล้ว จากข้อมูลล่าสุดตามข่าวคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามแผนงานในปี 70 และสามารถเปิดเดินรถให้บริการประชาชนได้ในปี 71 ซึ่งข้อดีของรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้คือ ผู้โดยสารสามารถนั่งได้ยาวตลอดทั้งเส้นทาง ทั้งสายสีม่วงใต้ และสายสีม่วงเหนือ โดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีเตาปูน และในอนาคตสายสีม่วงใต้จะเชื่อมกับรถไฟฟ้า 3 สายคือ สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ – บางขุนนนท์) สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพงบางแค) สายสีเขียว (สนามกีฬาแห่งชาติบางหว้า) และเชื่อมรถไฟทางไกลสายแม่กลองที่สถานีวงเวียนใหญ่ อีกด้วย

(ที่มา : https://www.mrta.co.th/th/rat-burana#content_12968)

นอกจากนี้ กทม. ยังมีเตรียมเวนคืนตัดถนนใหม่ตามแนวผังเมืองรวม เชื่อมถนนสุขสวัสดิ์พระรามที่ 2-ถนนสามแยกตากสิน-ถนนเพชรเกษม-ถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนถ่ายการสัญจรหลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้สร้างแล้วเสร็จ เพื่อสร้างทางเลือกในการเดินทาง รองรับการยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมของชุมชนปัจจุบันและอนาคต

(ที่มา : https://www.facebook.com/prachauthittrafficsolving?locale=th_TH)

ซึ่งเมื่อทั้งถนน ทางด่วน รถไฟฟ้ามาพร้อมแล้ว ย่านสุขสวัสดิ์ก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านการพัฒนาโครงการ Commercial และ Residential มากยิ่งขึ้น ตามแนวรถไฟฟ้า โดยในปัจจุบันราคาที่ดินย่านสุขสวัสดิ์ก็มีการซื้อขายกันที่ราว ๆ 1 – 1.5 แสนบาทต่อตารางวาแล้ว หากโครงการทั้งหมดก่อสร้างแล้วเสร็จ ราคาที่ดินในย่านนี้ก็มีโอกาสที่จะปรับตาม ดังนั้นการหาบ้านยนทำเลติดถนนใหญ่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นับว่าเป็นการซื้อบ้านในทำเลแบบคอนโด  

NUE HYBE Suksawat เปิดตัวมากับชื่อแบรนด์ใหม่ HYBE ที่มาจากแนวคิด Urban Hybrid Living ที่ต้องการผสมผสานการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ทั้ง Live – Work – Commerce บนอาคารที่สามารถพลิกแพลง ยืดหยุ่น ผ่านการพัฒนารูปแบบโครงการให้เข้ากับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและบริบทของแต่ละทำเลในแบบไม่ซ้ำกัน ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างเสน่ห์ให้เกิดขึ้นในตัวแบรนด์ เพราะทุกครั้งที่เปิดตัวโครงการใหม่ก็มักจะมาพร้อมกับคอนเซปท์ และรูปแบบหน้าตาโครงการแบบใหม่ 

โดย NUE HYBE Suksawat เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจการค้าในย่านฝั่งธนฯ บนถนนสุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นทำเลที่มีความต้องการ (Demand) อย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการขยายตัวของที่อยู่อาศัย การก่อสร้างสะพานคู่ขนานสะพานพระรามเก้า เพื่อเชื่อมต่อถนนสุขสวัสดิ์ – พระราม 2 – วงแหวนอุตสาหกรรม รวมทั้งการมาของรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่จะพร้อมเปิดใช้บริการในปี 2570 นี้อีกด้วย

หลากหลายความน่าสนใจของ NUE HYBE Suksawat

1. ทำเลดีที่สุดติดถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ตอนกลาง 

ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วนทั้งสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล (วงแหวนอุตสาหกรรม) ทำให้เชื่อมย่าน CBD สาทรและย่านใกล้เคียงอย่าง พระราม 3 เจริญกรุง ท่าพระ ได้ผ่านทางด่วนดังกล่าว หรือจะใช้สะพานกรุงเทพฯ ก็ได้เช่นกัน

ในอนาคตอันใกล้หลังรถไฟฟ้าสายสีม่วงสร้างแล้วเสร็จ สถานีที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT สถานีราษฎร์บูรณะ ก็อยู่ในระยะเดินเพียง 300 เมตร 

และทำเลที่ติดถนนใหญ่ทำให้มองเห็นได้ง่ายจากริมถนนใหญ่ เหมาะมากทั้งการเปิดธุรกิจขายของ ทำเป็นโฮมออฟฟิศ หรืออยู่อาศัยเอง ขายต่อก็ง่ายกว่าโครงการอื่น ๆ ที่อยู่ในถนนซอย

2. โครงการบ้านจัดสรรหนึ่งเดียวที่มาในรูปแบบผสมผสาน

ประกอบไปด้วย Urban Shophouse (อาคารพาณิชย์) และ Townhome ที่มี 2 รูปแบบ คือ Urban Home (ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง) และ Urban Hybrid Home (ทาวน์โฮม 4 ชั้น ) ที่แยกโซนตามความ Privacy โดย Urban Shophouse (อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น) อยู่ด้านหน้าติดทางเข้า บนถนนหลักของโครงการ เชื่อมต่อด้วย Urban Hybrid Home ส่วน Urban Home จะอยู่ด้านในสุดของโครงการ

3. ดีไซน์ที่แตกต่างไปจากทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ทั่วไป

หากพูดถึงทาวน์โฮมหรืออาคารพาณิชย์หลายคนอาจมีภาพของอาคารหน้าตาคล้าย ๆ กัน แต่สำหรับ NUE HYBE Suksawat ได้ทำลายข้อจำกัดของงานดีไซน์หน้าตาอาคารให้มีความทันสมัย สวยงามสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย

โดยออกแบบให้หน้าบ้านกว้างสูงสุดถึง 8 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ไม่ลึกและแคบแบบทาวน์โฮมหรืออาคารพาณิชย์ทั่วไป

ด้านหน้า Façade ถูกออกแบบให้ทันสมัย กับบานกระจกขนาดใหญ่ มีระแนงกันแดด และต้นไม้ใหญ่ที่ชั้น 2-3 ทำให้บรรยากาศของโครงการไม่ดูเป็นตึกแถวเกินไป แต่มีความร่มรื่น เฟรนด์ลี่ และทันสมัย เหมือนคอนโดผสมบ้านเดี่ยว

การที่โครงการออกแบบให้ façade เป็นกระจกบานใหญ่ พร้อมช่องเปิด ทำให้ภายในอาคารสามารถเปิดรับแสงแดดและการถ่ายเทอากาศได้ดี ปิดข้อจำกัดของอาคารพาณิชย์ที่ทึบ ไม่โปร่ง และอับแสงได้อย่างดี

ในส่วนของทาวน์โฮม Urban Home นอกจาก façade ที่ถูกออกแบบตามคอนเซปท์ของโครงการในการมีกระจกบานใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ แล้ว ภายในยังถูกออกแบบจัดวางให้มี Double Volume ที่ชั้น 1 ทำให้ทาวน์โฮมดูโปร่งโล่ง รับแสงได้จากหน้าต่างบานสูงที่โถง Double Volume และห้องนอน Penthouse Master Bedroom with bathtub ที่ชั้น 3 ที่มาพร้อมช่องแสงภายในห้องน้ำ แตกต่างไปจากทาวน์โฮมที่เคยมีมาอย่างสิ้นเชิง

รวมทั้งการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มีความยืดหยุ่นรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะทำเป็นหน้าร้าน ออฟฟิศ หรือพักอาศัย ก็สามารถปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ โดยเฉพาะชั้น 1 – 3 ของ Urban Hybrid Home ที่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง สามารถทำเป็นออฟฟิศ ได้มากถึง 3 ชั้น โดยแยกพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนไว้ที่ชั้นบนสุด เป็น Penthouse Master Bedroom with bath tub ที่สำคัญคือมีที่จอดรถมากถึง 4 คัน รองรับทั้งพนักงานและผู้มาติดต่อได้อย่างสบาย

4. เป็นโครงการ ทาวน์โฮมสำหรับอยู่อาศัย/โฮมออฟฟิศ ที่ไร้คู่แข่ง

เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่บนทำเลที่แทบจะไม่มีคู่แข่งหรือตัวเลือกอื่น ๆ เลย เพราะบนถนนสุขสวัสดิ์ไม่มีการพัฒนาโครงการใดใด ที่ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น และบ้านแฝดที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยสุขสวัสดิ์ ช่วงต่อกับพุทธบูชา หรือประชาอุทิศ โดยมีตัวเลือกเพียงแค่การไปหาซื้ออาคารพาณิชย์เก่าในย่านนี้เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นตัวเลือกที่ทดแทนบ้านเดี่ยวบนทำเลที่ไกลออกไปอย่างพระราม 2 – เทียนทะเล ได้เป็นอย่างดี

5. User Friendly สำหรับคนทำ Home Office 

หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาพื้นที่ อาคารพาณิชย์ หรือ Home Office ให้ถูกใจทั้งเจ้าของกิจการ (เพราะสามารถอยู่อาศัยเองได้) พนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงแขกผู้มาเยือน แน่นอนว่าองค์ประกอบที่สำคัญคือ ทำเลที่ตั้งที่ต้องสะดวกกับทุกคนไม่ว่าจะเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า หรือ รถยนต์ มาจากทางด่วน ก็ต้องมีที่จอดรถให้เพียงพอทั้งภายในแปลงที่ดิน และที่จอดชั่วคราวบนถนนโครงการ

มีพื้นที่ Common Area ภายในบ้าน อีกทั้งยังมีการดีไซน์ที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่นของธุรกิจคุณ รองรับการต่อเติม พร้อมขยับขยายได้ในอนาคต

รวมทั้งพื้นที่ Common Area บนพื้นที่ส่วนกลางสำหรับให้พนักงานผ่อนคลายและจุดประกายความคิด

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ที่มาพร้อมต้นไม้ใหญ่ ที่จะให้ร่มเงากับพื้นที่นั่ง outdoor หลากหลายมุม ทั้งโต๊ะนั่งประชุม พูดคุย ให้ได้นั่งคิดงานในพื้นที่สวน

หรือ Garden step ให้ได้นั่งชิวคิดงาน สร้างสรรค์ผลงานท่ามกลางธรรมชาติ

ส่วนผู้พักอาศัย ก็ยังใช้เป็นพื้นที่เดินพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือพาลูก ๆ หลาน ๆ ออกมาเล่นเครื่องเล่นยามเย็นก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Clubhouse ที่มีพื้นที่ให้ใช้งาน 3 ชั้น

ชั้น 1 เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ outdoor ระบบเกลือ พร้อมที่นั่งริมสระ

ที่สระแยกสระเด็กและผู้ใหญ่

ชั้น 2 เป็น Fitness room กับเครื่องออกกำลังกายของ Reebok ที่สามารถออกกำลังกายและ take view สวน และสระว่ายน้ำได้ เสมือนออกกำลังกายอยู่ท่ามกลายธรรมชาติ

ที่ชั้นลอย เป็น Open air terrace ระหว่างชั้น 2 และ 3 มีมุมนั่งพักผ่อนท่ามกลางพื้นที่สีเขียวให้นั่งพักผ่อนหลังออกกำลังกายเสร็จ

ส่วนชั้น 3 เป็น Business Lounge ที่สามารถนั่งคิดงาน ทำงาน หรือจะจัดประชุม ก็มีห้องประชุมให้ใช้งานแยกเป็นสัดส่วน เหมาะสำหรับออฟฟิศที่ต้องต้อนรับลูกค้า หรือคนที่ทำงานอยู่บ้าน ก็มีพื้นที่ให้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานที่หลากหลาย

NUE HYBE Suksawat มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 15-3-31.25 ไร่ รวม 156 Units มีทางเข้าออกโครงการ 1 ทางคือบนถนนสุขสวัสดิ์ ภายในโครงการแบ่งการใช้งานเป็น 3 โซน คือ Urban Shophouse (อาคารพาณิชย์) ตั้งอยู่สองฝั่งซ้ายขวาบนถนนหลักตั้งแต่ทางเข้าโครงการ โดยที่หน้าทางเข้าโครงการมีป้อม รปภ เพื่อคัดกรองด่านแรก

โซนที่ 2 หลัง Gate ที่ 2 จะเป็น Urban Hybrid Home (ทาวน์โฮม 4 ชั้น) ใกล้พื้นที่สวนส่วนกลาง และ Clubhouse

และโซนสุดท้ายที่ Private ที่สุดคือ Urban Home (ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง) ที่ต้องผ่าน Gate ที่ 3 พร้อมป้อมรปภ

โดยในวันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 Type คือ Urban Home (ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งและ Urban Hybrid Home (ทาวน์โฮม 4 ชั้น รองรับการอยู่อาศัยและการทำงาน)

ซึ่งใครที่เน้นอยู่อาศัยเป็นหลัก ไม่ต้องกั้นห้องเพิ่มเติม ก็คงต้องแนะนำทาวน์โฮมแบบ Urban Home ขนาด 174 Sq.m. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เริ่มต้น 8 ล้านบาท 

บ้านหน้ากว้าง 5.45 เมตร โดยหลังตัวอย่างนี้เป็นหลังหัวมุม บ้านจริง รั้วหัวมุมจะเป็นรั้วทึบครึ่งล่าง รั้วโปร่งครึ่งบน ส่วนประตูหน้าบ้านจะเป็นประตูรั้วโปร่ง หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน 

ด้านหน้าบ้านจริงจะเป็นพื้นปูนยาวจนถึงผนังอาคาร

ที่ผนังอาคารมีช่องเปิด 2 ตำแหน่งคือประตูทางเข้า และกระจกบานสไลด์ซึ่งภายในเชื่อมต่อกับพื้นที่ครัว

ประตูบ้านโครงการให้ Digital door lock

เข้ามาภายในจะเป็นโถง foyer ก่อนที่แจกการใช้งานเชื่อมสู่ชั้น 2 และพื้นที่ครัวและ living area ที่ด้านขวาของบ้าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ติดทางขึ้นลงบันไดโครงการให้ห้องเก็บของใต้บันได

ด้านขวา บ้านจริงโครงการวางงานระบบครัว ไฟฟ้า น้ำ และท่อน้ำทิ้งไว้ให้ที่บริเวณนี้ ซึ่งบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นครัว built-in U-shape มีมุมเตรียมอาหารและล้างจานเปิดเชื่อมกระจกบานเลื่อนด้านหน้าบ้าน ที่สามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำอาหาร รวมทั้งสามารถเปิดวางของเวลาซื้อของเข้าบ้านผ่านทางโรงรถได้อย่างสะดวก

โซน Living Area เป็นพื้นที่ Double Volume สูงกว่า 5.7 เมตร เปิดเชื่อมถึงชั้นลอย ให้ฟีลลิ่งโปร่ง โล่ง แบบนี้เลย

สามารถใช้เป็นพื้นที่ทานอาหารสำหรับครอบครัวแบบบ้านตัวอย่าง หรือจะปรับเป็นพื้นที่ living ติดริมประตูออกหลังบ้านก็ได้

ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ Powder room

โดยที่ผนังหลังบ้านโครงการให้ประตูบานเปิด และหน้าต่างบาน fix เท่าความสูง double floor ทำให้เปิดรับแสงและเชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน ทำให้ภายในบ้านดูโล่งและกว้าง

หลังบ้าน เป็นพื้นที่ลานซักล้าง ลงเสาเข็มให้เรียบร้อย หรือจะทำเป็นสวนพักผ่อนส่วนตัวแบบบ้านตัวอย่างก็ได้

ที่ชั้นลอยหรือพื้นที่อเนกประสงค์ มีหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่เชื่อมกับกระถางต้นไม้ด้านหน้าอาคาร

ผนังติดโถง double floor ของจริงจะได้เป็นผนังปูนทึบ เชื่อมมุมมองกับที่ชั้น 1

ที่พื้นที่เอนกประสงค์ โครงการตกแต่งเป็นพื้นที่ living area ที่กว้างพอสำหรับตั้งโซฟา 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวี มีข้อดีคือได้เห็นวิวที่เปิดโล่งจากชั้นลอยทั้งฝั่งหน้าบ้าน และหลังบ้าน โดยที่คงความเป็นส่วนตัวมากกว่าการนำเอาส่วน Living ไปไว้ที่ชั้น 1

ชานพักบันไดโครงการออกแบบให้ค่อนข้างกว้าง กว้างพอให้วางเก้าอี้และกระถางต้นไม้ เป็นมุมอ่านหนังสือริมหน้าต่างบานใหญ่

ที่ชั้น 2 ห้องจริงจะเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

แต่บ้านตัวอย่างโครงการตกแต่งให้ดูเป็นห้องทำงาน เพื่อให้เห็นว่าผู้อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความต้องการได้

โดยห้องนอน 1 ติดหน้าต่างหน้าอาคารที่โครงการให้หน้าต่างกระจกเต็มความกว้าง เพื่อเปิดรับแสงจากภายนอกอาคาร รวมทั้งสามารถเปิดรับลม ระบายอากาศก็ได้

ห้องนอน 2 มีช่องเปิดที่มุมผนังด้านหลังบ้าน

ภายในห้องกว้างพอให้วางเตียง queen size พร้อมชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้า

หน้าห้องนอน 2 เป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งส่วนแห้งติดด้านหน้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจก และโถสุขภัณฑ์ที่ด้านซ้าย

ส่วนด้านขวาเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ hand shower ที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ และช่องงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

ที่ชั้น 3 เป็น master bedroom เป็นห้องนอนห้องน้ำในตัวทั้งชั้น

ห้องจริงจะเป็นห้องโล่ง ที่โครงการให้ประตูบานเลื่อนกระจกเปิดสู่ระเบียงที่ด้านหน้าบ้าน เป็น Penthouse เต็ม Floor, เชื่อมกับระเบียงส่วนตัว บานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ เปิดรับแสงได้เยอะ, ระเบียงกว้างพอสำหรับวาง Outdoor Furniture ไว้นั่งชมวิว เพิ่มเติมได้

และห้องน้ำที่มุมซ้ายหลัง พร้อมกระจกเข้ามุม

ภายในแบ่งส่วนแห้งติดด้านหน้าขวามือ โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจก และโถสุขภัณฑ์

ส่วนด้านซ้ายโครงการให้ Bathtub ติดกระจกเข้ามุม

พื้นที่ส่วนเปียกโครงการให้ hand shower ที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ และช่องงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

รวมทั้งภายในห้องน้ำโครงการให้ ช่องแสงที่เพดาน ทำให้ภายในห้องน้ำ ทำให้ห้องน้ำไม่อับ และแสงส่องถึงทั่วทั้งห้อง

ชั้นนี้โครงการตกแต่ง walk-in closet ไว้ติดทางเข้าห้องน้ำ

เรียกว่าเป็นทาวน์โฮมที่ไม่เหมือนทาวน์โฮมทั่วไปในย่านสุขสวัสดิ์ กับการออกแบบที่แตกต่างทั้งภายนอกและภายในอาคาร โดยเฉพาะพื้นที่ double volume ที่เพิ่มความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ชั้น 1 และชั้นลาย มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยและทุกการใช้งาน

หลังต่อไปเป็น Urban Hybrid Home ทาวน์โฮม 4 ชั้น ปรับฟังก์ชันได้ ขนาด 256 Sq.m. เริ่มต้น 12 ล้านบาท

ทาวน์โฮมที่ปรับฟังก์ชันเป็นโฮมออฟฟิศหรืออยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ก็ได้ มาในรูปแบบ Open Plan เพื่อให้สามารถกั้นพื้นที่ได้ตามความต้องการ หน้ากว้าง 7.5 เมตร ที่มาพร้อมประตู Auto Shutter Door แยกทางเข้ารถ สำหรับจอดรถยนต์ 4 คัน และแยกทางเข้าคนเป็น Digital door lock

ได้ที่จอดรถแบบในร่มสูงถึง 4 คัน มากกว่าบ้านเดี่ยวบนทำเลเดียวกันที่ขายราคาเกิน 15 ล้านบาทขึ้นไป เพราะส่วนใหญ่จะให้ที่จอดรถเต็มที่ก็ 3 คัน เหมาะกับครอบครัวใหญ่ หรือรองรับการเป็นโฮมออฟฟิศ ที่ต้องมีที่จอดรถพนักงาน ผู้มาติดต่อ

ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่ set back อาคารที่สามารถปลูกต้นไม้ ทำมุมนั่งพักผ่อนให้กับพนักงาน หรือต่อเติมหลังคาเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้

ด้านหลังอาคารและทุกชั้นตั้งแต่ชั้น 2-4 จะมีระเบียงเชื่อมต่อกับทางหนีไฟจนถึงชั้น 1

มีห้องน้ำ powder room ที่โซนด้านหลัง

ติดกันเป็นห้องเก็บของ ที่เจ้าของบ้านได้ประโยชน์เต็มๆคือ มีพื้นที่เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือเป็นที่เก็บอุปกรณ์ใหญ่ๆได้เลย ไม่ต้องแบกเข้าไปไว้ในบ้าน เพราะด้านในมีพื้นที่ใหญ่พอสมควร

จากที่จอดรถสามารถเข้าประตูเข้าสู่ตัวอาคารได้จากด้านข้าง

โดยจะไปบรรจบที่โถงบันไดเช่นเดียวกับประตูทางเข้าคนจากหน้าบ้าน

ที่สามารถวางตู้วางหรือเปลี่ยนรองเท้าได้

อีกข้อดีของการออกแบบของ NUE HYBE Suksawat คือ ทุกชานพักบันได จะมีช่องแสงตลอดโถงทางเดิน ทำให้โถงบันไดดูโปร่ง โล่ง และปลอดภัยในการใช้งาน

ที่ผนังชั้น 2 เป็นช่องเปิดเชื่อมสู่โถงบันได ที่สร้างปฏิสัมพันธ์ทางการใช้งาน รวมทั้งกรณีเป็นออฟฟิศ ก็สามารถเห็นคนเข้าออกได้ รวมทั้งทำให้แสงจากด้านหน้าอาคารส่องสว่างเข้าถึงโถงบันไดอีกด้วย

ที่ชั้น 2 อาคารจริงจะเป็นห้องโล่ง ที่มาพร้อมกับประตูกระจกบานสไลด์ 3 ตอน ที่เชื่อมกับระเบียงด้านหน้าอาคาร

โครงการให้ต้นไม้ใหญ่มา 1 ต้น ส่วนต้นไม้ที่ระเบียงแต่ละหลังสามารถออกแบบและตกแต่งได้ตามความชอบ

โครงการตกแต่งบ้านตัวอย่าง เป็นโชว์รูมงานเสื้อผ้า ที่สามารถออกแบบพื้นที่ใช้งานให้มีพื้นที่เก็บของ พื้นที่โชว์สินค้า พื้นที่ทำงาน พื้นที่ตัดเย็บ และพื้นที่พักผ่อน

มุมอาคารด้านหลังขวา เป็นห้องน้ำที่ได้จริงตามบ้านตัวอย่าง ที่แบ่งส่วนแห้งติดด้านหน้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจก และโถสุขภัณฑ์

ส่วนด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกโครงการให้ hand shower ที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ และช่องงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

ถัดไปเป็นพื้นที่เข้ามุมที่สามารถตกแต่งเป็นตู้เก็บของ ตู้วางรองเท้า หรือการใช้งานอื่น ๆ ตามแต่ละความต้องการได้เลย

โซนด้านหลัง มีระเบียงเซอร์วิสเล็ก ๆ สำหรับเซอร์วิสคอมแอร์ และเชื่อมกับทางหนีไฟด้านหลังอาคาร

ที่ชั้น 3 อาคารจริงจะเป็นห้องโล่ง แปลนเหมือนกับชั้น 2 คือเป็นห้องเปล่าติดประตูบานสไลด์ ที่เชื่อมกับระเบียงด้านหน้าอาคาร

แตกต่างกันที่ ประตูบานสไลด์ออกระเบียง แยกเป็น 2 ชุด ซ้ายขวา ไม่ได้ติดกันแบบชั้น 2 และบริเวณระเบียงด้านหน้าอาคาร ที่ชั้นนี้จะมีระแนงกันแดดเชื่อมระหว่างชั้น 3-4 เพื่อความ private และลดแสงที่เข้าสู่ภายในตัวอาคาร

โครงการตกแต่งชั้นนี้ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนและห้องนอน ซึ่งสามารถกั้นผนังตรงกลางห้องได้ ตามตำแหน่งประตูออกระเบียง เพื่อแบ่งพื้นที่ห้องนอน และโซน Living area

หากกั้นห้องแบบห้องตัวอย่าง บริเวณห้องนอนจะกว้างพอให้วางเตียง King Size ได้

มีพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้ทำมุมทำงาน หรือดูทีวี และตู้เสื้อผ้าได้ครบฟังก์ชั่นการใช้งาน

ส่วนที่ Living area ก็จะเหลือพื้นที่มากพอให้ตั้งชุดโซฟาสำหรับ 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี

รวมทั้งกว้างพอให้วางครัว built-in เต็มความกว้างผนัง พร้อมโต๊ะอาหาร

ที่ชั้นนี้บริเวณมุมขวาหน้า หรือตำแหน่งที่โครงการทำเป็นห้อง living มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดเชื่อมกับคอร์ทต้นไม้ ที่เชื่อมมาจากชั้น 2

มุมอาคารด้านหลังขวา เป็นห้องน้ำเช่นเดียวกับชั้น 2 ที่แบ่งส่วนแห้งไว้ด้านหน้า โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว พร้อมกระจก และโถสุขภัณฑ์

ชั้น 4 อาคารจริงก็จะเป็นห้องโล่ง ๆ มีประตูบานสไลด์ 3 ตอนออกสู่ระเบียง ที่ระเบียงมีระแนงที่เชื่อมมาจากชั้น 3

โครงการตกแต่งเป็น Master Bedroom ที่กว้างพอให้วางเตียง King size พร้อมชุดโซฟา และชั้นวางทีวีติดริมประตูออกระเบียง

และ walk-in closet ที่มุมผนังด้านใน

โซนด้านหลัง มีระเบียงเซอร์วิสสำหรับเซอร์วิสคอมแอร์ และเชื่อมกับทางหนีไฟด้านหลังอาคาร เหมือนชั้นอื่น ๆ

แต่แตกต่างกันที่ตำแหน่งห้องน้ำ ที่โครงการให้มาที่มุมขวาหน้า มาพร้อมกับห้องน้ำขนาดใหญ่ แบ่งส่วนแห้งติดด้านหน้า โครงการให้อ่างล้างหน้า his & her แบบลอยตัว พร้อมกระจกบานยาวเต็มความกว้างผนัง

ตั้งโถสุขภัณฑ์ไว้ที่มุมผนังฝั่งตรงข้าม

ส่วนด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ bathtub ติดหน้าต่าง และ hand shower พร้อมช่องงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

เรียกว่าเป็น ทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ที่โปร่ง โล่ง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น Office , workshop หรืออยู่อาศัย

NUE HYBE Suksawat คือโครงการหนึ่งเดียวบนแนวคิด Urban Hybrid Living ที่มาพร้อมกับรูปแบบอาคารที่แตกต่างทั้งการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยน ผสมผสานได้ทุกความต้องการ และการออกแบบทั้งบ้านหน้ากว้าง ที่จอดรถมากสุดถึง 4 คัน มีดีไซน์ Façade ที่โดดเด่น สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย ด้วยการเลือกใช้เส้นสายแนวตั้งสไตล์ Modern แทรกด้วยพื้นที่สีเขียวกับรูปแบบการอยู่อาศัย ที่มีให้เลือกตรงความต้องการ บนทำเลติดถนนสุขสวัสดิ์ที่มีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการสัญจรมากที่สุดของกรุงเทพตอนใต้ ให้คุณได้เชื่อมต่อย่านต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและหลากหลาย มองเห็นได้ง่ายจากริมถนนใหญ่ เหมาะมากทั้งการเปิดธุรกิจขายของ ทำเป็นโฮมออฟฟิศ หรืออยู่อาศัยเอง ขายต่อก็ง่ายกว่า โดยส่วนของ Urban Home เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่ด้านในสุด มี Main Gate กั้น 3 ชั้น พร้อมด้วยส่วนกลางใหญ่มากถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต ในรูปแบบ Clubhouse พร้อมสระว่ายน้ำ สระเด็ก สวน ฟิตเนส ห้องประชุม สนามเด็กเล่น

หากใครที่มีสมาชิกในครอบครัวเยอะๆ และมองหาโครงการที่มอบพื้นที่ใช้สอยเกินกว่า 260 ตรม. ตัวเลือกในแบบ Urban Hybrid Home ดีไซน์หน้ากว้าง 7.5 เมตร จอดรถในบ้านได้ถึง 4 คัน พร้อม Auto Shuttle Door แยกทางเข้ารถ – คน ก็ดูจะเป็น Choice ที่คุ้มค่ามากกว่าการไปหาซื้อบ้านเดี่ยวในทำเลที่ไกลออกไปในราคาที่แพงกว่า ส่วนใครที่อยู่กันแบบหลวมๆ 2 – 3 คน หรือ 2 คนพร้อมสัตว์เลี้ยง ทาวน์โฮมในสไตล์ Urban Home ดีไซน์หน้ากว้าง 5.45 เมตร จอดรถสะดวก 2 คัน หนึ่งเดียวในย่านที่มีโถง Living แบบ Double Volume สูง 5.7 เมตร ก็จะกลายเป็นบ้านที่ใช่สำหรับคุณมากเลยทีเดียว เพราะแถวนี้หาโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้นที่มอบ Space และดีไซน์ทันสมัยแบบนี้ไม่ได้แล้ว ยิ่งหากพิจารณาจากจุดเด่นในเรื่องของที่ตั้งที่อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และเดินไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้าได้ง่ายสะดวกมากจริงๆ ก็เป็นหลักประกันได้ว่ายังไงซื้อที่นี่ ย่อมดีกว่าซื้อโครงการอื่นๆที่อยู่ในถนนรอง เข้าซอยลึก มากกว่ากันอย่างชัดเจนครับ

เปิดทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่ ติดถนนใหญ่ เริ่มเพียง 8 ล้าน*
จองวันนี้ ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน + ฟรีแอร์*
ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 500,000 บ.* https://bit.ly/3Lipk1U
Nue Hybe Suksawat (นิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์) โครงการใหม่ พร้อมเข้าอยู่

ทาวน์โฮม 3.5 – 4 ชั้น ฟังก์ชันเทียบบ้านเดี่ยว
รองรับ 4 ห้องน้ำ 4 ห้องนอน
จอดรถสูงสุด 4 คัน*
Penthouse Master Bedroom เต็มชั้น
ฝ้าโปร่งด้วย Double Volume 5.7 เมตร*
ใกล้คลับเฮาส์ และ สวนส่วนกลาง

อย่าพลาดโอกาสเป็นเจ้าของ บนทำเลที่ดีที่สุดของสุขสวัสดิ์ ติดถนนใหญ่ ใกล้ที่ทำงาน
ใกล้โรงเรียน เชื่อมต่อ CBD พระราม 3 – สาทร เพียง 10 นาที ใกล้ MRT สายสีม่วงใต้*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
เส้นทางมายังโครงการ: https://goo.gl/maps/8KnnxFnrjGgWNXUB6

CONTACT:
Line: @nuehybe
Tel: 02-251-9955
สำนักงานขายเปิดทุกวัน 9.30 – 18.30 น.

#นิวไฮบ์สุขสวัสดิ์ #NUEHYBESUKSAWAT #NOBLEDEVELOPMENT #LIVEWORKCOMMERCE