รีวิวห้องตัวอย่างคอนโดแบรนด์ใหม่จากโนเบิล “Noble State 39″ เพียง 450 เมตรจาก BTS พร้อมพงษ์

พร้อมพงษ์เป็นทำเลพักอาศัยอันเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น รวมถึงเป็นถนนช้อปปิ้งชั้นนำระดับไฮเอนด์ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทตอนกลาง เรียกได้ว่าเป็นย่านไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแท้จริง ที่นี่มีครบทั้ง ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร สวนสาธารณะ และคอมมูนิตี้มอลล์ ให้ผู้คนในละแวกนี้ ได้เลือกใช้บริการ และยังมีที่พักอาศัยเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ทั้งคอนโดมิเนียมที่ไม่ว่าจะติดถนนเส้นหลักอย่างสุขุมวิทหรือแม้จะขยับขยายลึกเข้าไปในเส้นทางรองที่เชื่อมต่อกัน แต่ผู้คนก็ยังมีความต้องการซื้ออยู่ดี เนื่องจากย่านนี้เต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศ ซึ่งล้วนแต่ต้องการที่พักใกล้กับสถานที่ทำงาน ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ตลอด ดีมานด์การอยู่อาศัยจึงเพิ่มขึ้นสูงมาก ผลลัพธ์ก็คือราคาคอนโดฯ ในย่านนี้มักจะทุบสถิติคอนโดราคาแพงอยู่เรื่อยไป ไล่ตั้งแต่ประมาณ 190,000-350,000 บาทต่อตารางเมตรก็มีให้เห็น

ซอยสุขุมวิท 39 ก็เป็นอีกหนึ่งซอยในย่านพร้อมพงษ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เป็นจุดศูนย์กลางของพร้อมพงษ์ เพราะปากซอยติดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง The Emquartier และ The Emporium เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีความคึกคักทั้งในช่วงกลางวันที่มีนักท่องเที่ยวหรือคนทำงานในย่านนี้ และกลางคืนที่มีร้านแฮงค์เอ้าท์ให้ได้นั่งสังสรรค์กันกับกลุ่มเพื่อน

ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมีให้เห็นตลอดทาง เนื่องจากเป็นย่านที่มีคนอยู่เยอะ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ถ้ามาอยู่แถวนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะเจอร้านอร่อยเต็มไปหมด

เนื่องจากในซอยสุขุมวิท 39 มีแค่ถนนไป-กลับ อย่างละเลน และยังมีรถผ่านเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา ด้วยภายในซอยมีอาคารต่างๆ และที่พักอาศัยเยอะ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถตัดผ่านออกไปยังถนนอโศกและถนนเพชรบุรีได้ จึงทำให้มีรถติดบางช่วงเวลา แต่การเดินทางภายในซอยก็ไม่ยากอย่างที่คิด ใครที่ไม่ต้องการใช้รถส่วนตัวก็ใช้บริการวินมอเตอร์ไซต์และรถกะป้อในการเดินทางได้ สะดวกรวดเร็วอย่างมาก

ระหว่างทางเข้าไปในซอยมีคอนโดระดับ Luxury – Super Luxury เปิดขายมากมาย

ซึ่งความสนใจอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ก็คือ กำลังจะมีคอนโดฯ จากดีเวลลอปเปอร์เจ้าดังอย่าง NOBLE ก็เข้ามาปักหมุดในซอยสุขุมวิท 39 ในชื่อโครงการ “Noble State 39” (โนเบิล สเตท 39) แล้วเช่นกัน ซึ่งโครงการฯ ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์เพียงแค่ 450 เมตรเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเดินตัดไปที่ Emquartier ได้ผ่านซอยสุขุมวิท 35 และยังใกล้กับทางด่วน 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช พระราม 9 แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรมชื่อดังมากมายในย่านสุขุมวิท อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังย่าน CBD ต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

เดินเท้าจากโครงการฯ ไปยัง BTS พร้อมพงษ์ ระยะทาง 450 เมตร ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10 นาที

ช่วงกลางซอยสุขุมวิท 39 เต็มไปด้วยเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ ปล่อยเช่าคนต่างชาติราคาแพงมากมาย

ในปัจจุบันนี้แบรนด์คอนโดของ Noble มีอยู่หลายแบรนด์ โดยที่มีราคาแพงที่สุดคือ Noble Ploenchit รองลงมาคือแบรนด์ Noble Around ทั้ง Ari, Sukhumvit 33 โดยแบรนด์ State จะอยู่รองลงมา ถูกวาง Positioning ให้เป็น Fighting Brand ในกลุ่มตลาด Hi-End – Luxury แต่มีระดับราคาและสเปคที่สูงกว่า เพราะอยู่บนทำเลที่ดีกว่า และยังพ่วงด้วยระบบ Living Intelligence หลายอย่าง และยังตั้งอยู่บนทำเลเป็นจุดศูนย์กลางของย่านพร้อมพงษ์มากกว่า Noble BE33 และ Noble Around 33

Sales Gallery เมื่อโครงการเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจะไม่ถูกทุบทิ้งเหมือนกับโครงการอื่นๆ แต่จะถูกเปลี่ยนเป็นอาคาร Commercial ปล่อยเช่า ขนาด 2 ชั้น ซึ่งจะมีการปรับปรุงเป็นพื้นที่ของ Co-Working Space และ Café

ถนนบริเวณด้านหน้า Sale Gallery ถ้าใช้รถก็สามารถไปออกซอยสุขุมวิท 31, 23, 21 ถนนอโศกและถนนเพชรบุรีได้สบาย

ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับ Sales Gallery ของโครงการฯ คือซอยพร้อมมิตร ใช้เป็นเส้นทางออกไปยังซอยสุขุมวิท 49 และยังใกล้กับบีทีเอสทองหล่อ

ซึ่งในจำนวนคอนโด High Rise ทั้งหมดที่อยู่ในช่วงต้นซอยสุขุมวิท 39 มักจะเป็นคอนโดในเซกเมนท์ Super Luxury ที่มีราคาแพงกว่า ตร.ม. ละ 300,000 บาท และมีห้องเริ่มต้นที่มีขนาดใหญ่ แต่ Noble State 39 นำเสนอจุดขายด้วยห้องขนาด Compact เริ่มต้นไม่เกิน 30 ตร.ม. และส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bedroom (ราคาเริ่มต้นในวันเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ ตร.ม. ละ 255,000 บาท) ทำให้ราคาโดยรวมออกมาไม่แพงเป็นหลักหลายสิบล้าน เป็นคอนโด High Rise ที่ถูกสุดในตลาด เท่าที่หาได้ในซอยสุขุมวิท 39 เรียกได้ว่าซื้อง่ายขายคล่อง โดนใจคนที่อยากอยู่คอนโด High Rise ในย่านนี้แต่มีงบประมาณที่จำกัด

ซึ่งด้านหน้าของโครงการ Noble State 39 หันไปทางทิศตะวันออก ฝั่งซอยสุขุมวิท 39 พื้นที่ของโครงการมีทั้งหมด 1-3-56.6 ไร่ มีด้วยกัน 2 อาคาร คือ อาคาร X เป็นห้องชุดเพื่อการพาณิชย์สูง 2 ชั้น ทางด้านหน้าโครงการ และอาคาร Y เป็นที่พักอาศัยสูง 36 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 352 ยูนิต มีการดีไซน์ให้ยูนิตส่วนใหญ่อยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้  และมีพื้นที่จอดรถจอดรวมกว่า 54%

จากแรงบันดาลใจของสถาปัตยกรรมสไตล์ Brutalist ที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุค 60 โดยเน้นการใช้สัจจะวัสดุแนวคอนกรีตปูนเปลือยในการก่อสร้าง ถูกนำมา Re – Pattern & Re – Construct ใหม่ เพิ่มลวดลาย Façade ตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างรูปทรงเรขาคณิตแบบครึ่งวงกลมและใช้สีตามเทรนด์คือ สีทองและสีเขียว สะท้อนถึงการตีความหมายให้เข้าถึงยุคปัจจุบันมากขึ้น จนถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวที่ Noble State 39

และ Facilities มีให้ลูกบ้านแบบจัดเต็มทั้งชั้น 9, ชั้น 35 และชั้น 36 ที่มาพร้อมกับแนวคิด Creative Forest มีพื้นที่สีเขียวในโครงการฯ รวมกว่า 1,370 ตร.ม. ให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความร่มรื่นในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องจดหมาย, ห้องออกกำลังกาย, สนามเด็กเล่น, ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ควบคุมการเข้า-ออกอาคาร, ที่จอดรถด้วยระบบ Keyless & Cardless Access Control, กล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง และพนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ส่วน Hilight ที่น่าสนใจของทางโครงการที่มีให้กับผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ได้แก่

ENTRANCE FRONT โอบล้อมด้วยพื้นที่ธรรมชาติสีเขียวหลากหลายสายพันธุ์

LOBBY มี Floor To Ceiling สูงถึง 3.75 เมตร พร้อมตกแต่งด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของ Noble State 39

FOREST ROOM พร้อมสนามเด็กเล่น และมุมพักผ่อน ที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่

TEA TERRACE จิบชาอุ่นๆ พร้อมสูดกลิ่นอายความสดชื่นบนชั้น 9 ของโครงการ

OLIVIA LOUNGE & MELLOW SPACE มีแนวคิดในการออกแบบมาจากไอเดียที่ต้องการ “เปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันอาทิตย์” ซึ่งจะตรงกับคอนเซ็ปท์โครงการฯ คือ “รื้อแพทเทิร์นชีวิตเดิมๆ เริ่มใหม่ที่ Noble State 39”

SKYLIGHT POOL ความพิเศษ คือ สระว่ายน้ำ ที่มีความยาวถึง 31.6 เมตร และเป็น Semi-Outdoor ทำให้สามารถรับแสงจากธรรมชาติ และเทควิวเมืองได้ 180 องศา

รวมทั้งชั้น 35 ยังมีห้อง STEAM แบบแยกชาย-หญิง และ GYM ROOM ที่มีขนาดของห้องถึง 240 ตร.ม. พร้อมอุปกรณ์อย่างครบครัน ตอบโจทย์คนรักสุขภาพแบบสุดๆ

CHEF TABLE & FARM ความพิเศษของสวนชั้นดาดฟ้า คือ ผนังที่เป็นพรรณไม้สีเขียว หรือ Green Wall รวมทั้งพื้นที่สำหรับให้ลูกบ้านมาร่วมทำกิจกรรมในการทำ Farm รวมกัน ความพิเศษของชั้นดาดฟ้ายังรวมไปถึงพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนไปพร้อมกับการลิ้มรส Fine Dining และชมวิวสุขุมวิทจาก Chef Table

Master Plan ชั้น G ของโครงการ Noble State 39

Floor Plan ส่วนกลางชั้น G ที่มาพร้อมกับโถงล็อบบี้ขนาดใหญ่ มีการตกแต่งที่โดดเด่นตามลักษณะเฉพาะของ Noble State 39

Floor Plan ส่วนกลางชั้น 35 ที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายไปกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมให้แสงธรรมชาติส่องผ่านลงบนสระ และ GYM Room ที่มีอุปกรณ์แบบครบครัน

Floor Plan ส่วนกลางชั้น 36 เป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่ CHEF TABLE & FARM ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีความร่มรื่น มีโซนที่นั่งให้ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันภายในครอบครัว

Floor Plan ชั้นของห้องพักอาศัย เริ่มตั้งแต่ชั้น 11 ขึ้นไป

ที่นี่ยังมีจุดขายที่นำเอาระบบเทคโนโลยีอันทันสมัยมาอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น ด้วยระบบ Smart Home Design ที่ถูกเซ็ทให้ใช้งานในรูปแบบคำสั่งเสียงได้ ซึ่งระบบ Smart Home Design จะถูกนำมาใช้กับ Noble State 39 เป็นที่แรก โดยได้มีการวาง Infrastructure ให้รองรับความสามารถของเทคโนโลยีที่จะพัฒนาขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในตอนนี้มีทั้งหมด 4 รูปแบบการใช้งานด้วยกัน คือ Smart Home Design, Noble Smart Application, Me Pass และ Smart Passage

โดยทางโครงการฯ ได้ให้ Google Home mini (หรือเทียบเท่า) จำนวน 1 ตัว (เหมือนในห้องตัวอย่าง Size L) รวมทั้งให้อุปกรณ์ IR 1 ตัว เช่นกัน เพื่อควบคุมการเปิด/ปิด ไฟ, ม่าน และแอร์

Smart Home Design ที่ช่วยในเรื่องการสั่งเปิดปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเซตซีนการใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยเสียง

Noble Smart Application ที่เป็น App ของทางโนเบิลในการจ่ายค่าส่วนกลาง หรือจองส่วนกลางภายในโครงการ ซึ่งทางโครงการแผนที่จะเปิดตัวในปี 2019

Me Pass คือระบบผ่านเข้าออกโครงการ และประตูบ้านตัวเองโดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือการ์ดแต่ใช้เอกลักษณ์ของตัวเองเช่นลายนิ้วมือ ใบหน้า และป้ายทะเบียนรถยนต์

Smart Passage ด้วยบริการเช่ารถส่วนกลางแบบ Car Sharing ตลาด 24 ชม. พร้อมจุด EV Charger

มาถึงรูปแบบห้องของโครงการ Noble State 39 เน้นแบบ 1 ห้องนอน และยูนิตเล็ก มีด้วยกัน 3 ขนาดคือ

แบบ 1 Bedroom –S ขนาด 29.95 ตร.ม.

แบบ 1 Bedroom –M ขนาด 34.80 ตร.ม.

แบบ 1 Bedroom –L ขนาด 41.50 – 42.90 ตร.ม.

แบบ 2 Bedroom ขนาด 58.40 – 59.80 ตร.ม.

เพนท์เฮาส์ ขนาด 73.40 – 105.90 ตร.ม. (มีเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น)

โดยห้องตัวอย่างของโครงการฯ ใน Sales Gallery ที่มีให้ชม มีด้วยกัน 2 Type คือ แบบ 1 Bedroom-S ขนาด 29.95 ตร.ม. และ แบบ 1 Bedroom -L ขนาด 41.50 ตร.ม. ซึ่งขายแบบ Fully Fitted ที่ให้ครัว, ตู้เสื้อผ้า และตู้รองเท้า และชุดสุขภัณฑ์ เหมือนกันหมด โดยห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 11 ขึ้นไป ซึ่ง 1 ชั้นจะมีห้องพักมากที่สุดเพียงแค่ 14 ห้อง ถือได้ว่าผู้พักอาศัยได้รับความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก

มาเริ่มกันที่ห้องแรกแบบ 1 Bedroom –S ขนาด 29.95 ตร.ม.

ซึ่งประตูหน้าห้อง เป็นประตูลายไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับที่โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ความสูงของประตู 2.4 เมตร แต่ความสูงของห้องอยู่ที่ 3 เมตร และใช้ Digital Door Lock ของ Yale หรือเทียบเท่า รุ่นใหม่ล่าสุด สามารถสแกนลายนิ้วมือได้

เดินเข้าห้องมาก็เจอกับโซนครัวเปิด ที่มีสีขาวสะอาดตา ซึ่งทางโครงการมีให้เป็นลักษณะแบบนี้ เตาไฟฟ้าและเตาอบใช้ยี่ห้อ Kuppersbusch จากเยอรมัน ตู้เย็นเป็นแบบ Built-in แบรนด์ Teka

ที่ดูดควัน, ซิงก์, ก๊อก และ ตู้เย็น ใช้ยี่ห้อ Teka

เปิดออกมาจะได้แบบนี้ สามารถเก็บอุปกรณ์และเครื่องปรุงต่างๆ ได้เยอะพอสมควร ใต้อ่างล้างมือมีที่ทิ้งขยะให้ ส่วนตู้เย็นเป็นแบบ Built-in ช่องแช่ฟรีซจะอยู่ด้านล่าง ชั้นบนเหนือตู้เย็นยังสามารถเก็บของได้ แต่ด้วยความสูงของชั้นแล้วผู้หญิงคงต้องหาบันไดหรือเก้าอี้เพื่อปีนขึ้นไป

ตรงข้ามกับครัวก็จะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่อยู่ติดกับห้องน้ำ สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ด้านล่างได้

ข้างๆ ครัว มีโต๊ะกินข้าว เหมาะสำหรับ 2 ที่กำลังพอดี เพราะจะไม่ทำให้เสียพื้นที่ในการวางของอย่างอื่นมากเกินไป

มุมห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด  2 คนได้ และยังเหลือพื้นที่ข้างๆ ให้วางโต๊ะเล็กๆ ได้ ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีก็ไม่ได้แคบเกินไป

จะเห็นได้ว่ามีประตูข้างๆ อยู่ 2 ช่อง ซึ่งเป็นประตูแบบเลื่อน เดินเข้าทางไหนก็ได้ เป็นแบบห้องเปิดโล่งที่สามารถเดินเชื่อมกันได้หมด จึงทำให้ห้องดูกว้าง ไม่มีประตูกั้นให้รู้สึกว่าถูกปิดกั้นเกินไป ผนังเป็นฉาบเรียบทาสีขาว

ซึ่งการเดินเข้าออกแบบวนเข้าห้องไหนก็ออกมาได้ ทั้งกับห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องนอน เป็นการออกแบบการใช้งานในแบบ Flow and Fluid คือ การใช้ Sliding Door แบ่งเป็น 2 ฝั่งกั้นพื้นที่ห้องนอนโดยที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้พักอาศัย ไม่ต้องปิดหมดทั้งห้อง และยังสร้างความรู้สึกให้ห้องมีความโปร่งโล่งสบายมากยิ่งขึ้น

ทางโครงการไม่ได้ให้ม่าน ผู้อาศัยสามารถเลือกม่านได้ตามความชอบ แต่จะติดระบบเปิด-ปิดม่านอัตโนมัติให้ ซึ่งผู้อาศัยก็สามารถใช้ระบบ SMART HOME DESIGN ใช้เป็นคำสั่งเสียงเพื่อเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้อง

ระเบียงแคบตามสไตล์ของ Noble ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในห้องมากกว่า แต่มีความยาวตั้งแต่ฝั่งห้องนั่งเล่นไปสุดจนห้องนอน ปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคสีดำ กั้นส่วนให้วาง Compressor Air ได้

อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบ Smart Home Design

เข้ามาในส่วนของห้องนอน สามารถวางเตียงคิงไซต์ได้ ยังเหลือที่ว่างด้านข้าง แต่ที่ว่างตรงปลายเตียงเหลือไม่มาก ต้องนำทีวีไปติดที่ผนังแทน

มีประตูกระจกแบบเต็มความสูง รับแสงได้เต็มๆ

ตู้เสื้อผ้าอยู่ติดกับห้องน้ำ แบบที่โครงการให้แตกต่างจากในรูป ตู้เสื้อผ้า หน้าบานจะเป็นอะคริลิคลอน เฟลมอลูมิเนียม ส่วนบริเวณด้านข้างตู้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มีชั้นวางของอยู่ด้านบน และช่องแอร์ฝังฝ้าด้านบนตู้เสื้อผ้า

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียก ใช้เป็นกระจกกั้นบานเปิด อ่างล้างมือฝังเคาน์เตอร์พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

ทั้งพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินสีสว่าง บริเวณท็อปเป็นหินอ่อนสีเข้ม ทำให้ห้องน้ำดูโล่ง ขาวสะอาดตา สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ TOTO ทั้งหมด

ห้องขนาดนี้เหมาะกับการอยู่ 2 คนกำลังพอดี ซึ่งเป็นห้องที่หาซื้อได้ในราคาไม่ถึง 10 ล้าน ถ้าใครอยากเอาไปปล่อยเช่าก็น่าจะได้ราคาดี และหากใครอยากซื้อไว้อยู่เองเป็นครั้งคราว เป็นบ้านหลังที่สอง เวลาวันไหนที่มาช้อปปิ้งที่ The Emquartier หรือเที่ยวผับที่ทองหล่อแล้วไม่อยากกลับบ้าน ก็มาพักค้างคืนเป็นครั้งคราวได้

ห้องที่สองแบบ 1 Bedroom –L ขนาด 41.50 ตร.ม. ห้องนี้ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆ คือ มี Walk – in Closet และตู้เก็บของในห้องนอน และพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีขนาดกว้างกว่าห้องแรก แถมยังสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ

ประตูและ Digital Door Lock ใช้ Yale แบบเดียวกันกับห้องแรก

เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับโซนห้องนั่งเล่น ส่วนชั้นวางที่อยู่ติดผนังซ้ายมือทางโครงการไม่ได้ให้มา แต่สามารถนำไปเป็นตัวอย่างในการตกแต่งห้องได้ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนาขนาด 14 มิล นำเข้าจากเยอรมัน เหมือนกับห้องอื่นๆ

ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างกว่าห้องแรก วางโซฟาแบบสองที่นั่ง และโต๊ะวางทีวีได้แบบในตัวอย่างหรือใครชอบทีวีแบบติดผนังก็จะทำให้โต๊ะวางของตกแต่งอย่างอื่นได้เยอะขึ้น แถมยังเหลือที่ว่างสำหรับวางเก้าอี้เสริมเพื่อให้รับแขกได้มากขึ้น ซึ่งทางโครงการมีการติดระบบเปิด-ปิดม่านแบบอัตโนมัติให้ โดยการใช้แอพพลิเคชั่นของทางโครงการ คือ SMART HOME DESIGN ที่เชื่อมต่อด้วยระบบ WIFI และ 4G แต่ไม่มีม่านให้ ลูกบ้านสามารถเลือกม่านเข้ามาติดในห้องได้ตามต้องการ เพดานสูง 3 เมตร

ระเบียงแคบแนวยาวตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องนอน ปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสคสีดำ

โซนครัวเมื่อเปิดประตูห้องมาก็จะอยู่ฝั่งขวามือ เป็นครัวเป็นเดียวกับห้องแรก แบบ Built-in ติดผนัง ส่วนโต๊ะทานอาหารสามารถวางในมุมเดียวกับห้องตัวอย่างได้ และรองรับได้มากสุดถึง 6 ที่ หากมีเพื่อนแวะเวียนมาก็ยังมีพื้นที่ให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

เตาไฟฟ้าและเตาอบใช้ยี่ห้อ Kuppersbusch ส่วนอ่างล้างมือใช้ Teka มีช่องเก็บของด้านบนหลายช่อง ตอบโจทย์เจ้าของห้องที่ชอบทำอาหาร

โครงการให้เป็นแอร์แบบฝังฝ้ามี 2 จุด ที่บริเวณห้องนั่งเล่นและในห้องนอน

ห้องนอนวางเตียง 6 ฟุตได้ แถมยังเหลือพื้นที่ข้างๆ หัวเตียงให้วางโต๊ะได้ หัวเตียงจะเป็นผนังฉาบเรียบ ผนังหัวเตียงเป็นแบบปูนฉาบเรียบทาสีขาว

ด้านปลายเตียงวางโต๊ะทีวีได้ ยังเหลือพื้นที่ให้เดินอีกด้วย ถือว่าห้องนอนของ Type นี้ มีความกว้างมากทีเดียว

โครงการให้ตู้ Walk-in Closet วัสดุเทียบเท่ากับห้องตัวอย่าง ด้านข้างของตู้ทึบ ไม่ได้เป็นกระจกลอนเหมือนในรูปภาพ แต่หน้าบานเป็นกระจกลอนแบบเดียวกัน พร้อมชั้นวางของด้านในหลายชั้น เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ

มีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเต็มบาน ข้างๆ เป็นตู้เก็บรองเท้า ชั้นล่างวางเครื่องซักผ้าได้ ซึ่งของจริงไม่ได้เป็นตู้กระจกแบบนี้ แต่จะให้เป็นหน้าบานลามิเนตสีขาว

ถัดจาก Walk-in Closet ก็จะเป็นห้องน้ำที่ใช้สุขภัณฑ์จาก TOTO ทั้งหมด มีอ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์ กระจกเต็มบาน พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

ชั้นวางของเหนือชักโครกสามารถนำมาติดแบบห้องตัวอย่างได้

ห้องอาบน้ำจะได้เป็น Rain Shower และ Hand Shower ของ TOTO ฉากกั้นส่วนเปียก และช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำที่โครงการมีให้

ส่วนที่เป็นกระจกรอบนอกของห้องน้ำ ห้องจริงก็จะถูกปิดเป็นผนังทึบทั้งหมดไม่ได้เป็นแบบห้องตัวอย่าง

ห้องนี้เหมาะ สำหรับครอบครัวขนาดเล็กอยู่กัน 2-3 คนไม่อึดอัด สามารถอยู่ประจำและทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้เนื่องจากพื้นที่ภายในห้องค่อนข้างกว้าง ซื้อเป็นคอนโดหลังแรกได้สบาย และยังมีราคาที่ไม่แพงมาก

เรียกได้ว่าขนาดห้องของ Noble State 39 เหมาะกับผู้ที่ต้องการอยากอยู่คอนโดฯ ห้องขนาดพอเหมาะอยู่ในตัวเมืองใกล้กับโครงการรถไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน และครบทั้ง Facilities ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยให้ได้พักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อย่างเต็มที่

สำหรับในเรื่องของวิว ตัวโครงการมีห้องหลักๆ ที่มองไปทางทิศเหนือและใต้ ดังนั้นวิวที่ได้ประมาณชั้น 23 ของแต่ละทิศก็จะประมาณนี้

ทิศเหนือ (วิวเพชรบุรี) ยังมีพื้นที่สีเขียวเยอะ เป็นช่วงถนนเพชรบุรีที่สามารถมองยาวไปถนนพระราม 9 ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 นอน 34.70 ตรม. และห้อง 2 ห้องนอนที่หัวมุมทั้งสองด้าน

ทิศตะวันออก (วิวทองหล่อ) ที่อยู่ในฝั่งด้านหน้าของโครงการ ด้านหน้าเห็นโครงการ Royal Castle เป็นวิวที่อยู่ในช่วงสุขุมวิทตอนปลาย แต่จะมีห้องแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น คือแบบ 2 นอน 59.80 ตรม.ที่เห็นวิวฝั่งนี้

ทิศตะวันตก (วิวอโศก) ช่วงบริเวณใกล้ๆ กับโครงการยังไม่มีตึกสูงๆ ขึ้นเยอะ มองเห็นตึกใบหยกได้จากไกลๆ โดยห้องที่เห็นวิวนี้จะเป็นห้องแบบ 2 นอน ขนาด 58.30 ตรม. เพียงห้องเดียวในชั้น

ทิศใต้ (วิวสุขุมวิท) ใกล้กับ BTS พร้อมพงษ์ และวิว The Emquartier, The Emporium และสวนเบญจสิริ

ห้องส่วนใหญ่ที่อยู่ฝั่งนี้จะเป็น 1 ห้องนอน S ขนาด 29.90 ตรม. และ 1 ห้องนอน L ขนาด 41.80 และ 43.10 ตรม.

จากที่ดูแต่ละทิศก็ยังมีพื้นที่สีเขียวขึ้นให้เห็นอยู่โดยรอบ ถึงแม้จะมีตึกสูงเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าย่านนี้ดูแออัดจนเกินไป

Noble State 39 คือคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์แบรนด์ใหม่จาก Noble ที่มีประสบการณ์มากมายในการพัฒนาคอนโดในย่าน Mid Sukhumvit รูปทรงอาคารก็ยังคงรักษาคอนเซปท์การออกแบบที่นิ่ง เรียบง่าย ตามสไตล์ Noble แต่เพิ่มเสน่ห์ให้กับอาคารด้วยลวดลายครึ่งวงกลมสีทอง พร้อมด้วย Facilities ที่โครงการมีให้อย่างครบครัน โดยเฉพาะสวนสีเขียวที่มีในโครงการกว่า 1,370 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในย่านนี้

เดินทางสู่ย่านอื่นๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นอโศก เพชรบุรี หรือบริเวณถนนสุขุมวิทเส้นหลักก็ตาม พร้อมทั้งยังใกล้กับ Neighbourhood สำคัญอยู่รอบๆ โครงการอีกมากมาย และเป็นย่านที่มีคนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เยอะ ตามสไตล์ย่าน Japanese Town ที่ใกล้ The Em District ทั้ง 3 ห้าง และ BTS พร้อมพงษ์ ในระยะที่เดินได้สะดวก

โดยความแตกต่างของ Noble State 39 กับโครงการอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบก็คือขนาดห้องและแพคเกจราคาที่คนไทยที่ทำงานในย่านพร้อมพงษ์สามารถซื้อได้ง่าย โครงการน่าจะประสบความสำเร็จจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยในวัยทำงานที่ชอบคอนโดใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าเพื่อการเดินทางที่สะดวก และชาวต่างชาติในสไตล์ Business Traveler ที่แวะเวียนเข้ามาทำงานกึ่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เพราะสามารถตอบโจทย์ความสะดวกในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาสุขุมวิท 39 ยังขาด supply ที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้

ในด้านของราคาขาย Noble State 39 มีราคาต่อห้องต่ำกว่าคอนโดของเจ้าอื่นที่อยู่ในซอยเดียวกัน เนื่องจากในซอยสุขุมวิท 39 ส่วนใหญ่จะอยู่ในเซกเมนต์ระดับ Super Luxury ที่มีราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาทขึ้นไป แต่ความน่าสนใจของ Noble State 39 คือ การนำเสนอจุดขายด้วยห้องขนาด Compact เริ่มต้นไม่เกิน 30 ตร.ม. และส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bedroom น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่มองหาคอนโดไฮเอนด์ที่มีราคาต่อห้องเริ่มต้นไม่ถึง 10 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 255,000 บ./ตร.ม. แต่อยู่ในทำเลที่ใครๆ ต่างก็พากันอยากจับจองเป็นเจ้าของ ใกล้กับ BTS เพียงแค่ 450 เมตร แต่ได้รับความสะดวกสบายเสมือนกับติดถนนสุขุมวิทเส้นหลัก แล้วแบบนี้ยังจะรออะไรอยู่อีก!

Noble State 39 เปิดให้ชมห้องตัวอย่างได้ตั้งแต่วันที่ 2 – 15 พ.ย. นี้ เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และลงทะเบียนรับสิทธิ์จอง ที่สำนักงานขาย รับสิทธิพิเศษ ส่วนลดออนไลน์ถึง 50,000 บาท สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/njz91q