อิ่มเอมใจไปกับวิถีชีวิตริมแม่น้ำที่ NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA บ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพฯ

เชื่อแน่ว่า หากใครที่เคยได้ไปล่องเรือเที่ยวหรือดินเนอร์ที่แม่น้ำเจ้าพระยาในยามค่ำคืน ย่อมต้องหลงเสน่ห์ของวิถีชีวิตริมแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับตื่นตาไปกับแสงไฟประดับ และรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมริมแม่น้ำที่มอบความโดดเด่น ดึงดูดสายตาจนต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปในหลายๆ จุดตลอดเส้นทาง และหากเราได้ใช้เวลาในขณะที่ล่องเรือ สัมผัสสายลม เสียงคลื่น และกลิ่นอายของแม่น้ำตามธรรมชาติ ไปสักพัก ก็จะค้นพบความเป็นจริงที่ว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นคือองค์ประกอบของธรรมชาติที่ลงตัว และเป็นพื้นที่เยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจของคนกรุงเทพฯ ให้หลุดพ้นจากห้วงเวลาอันแสนวุ่นวายได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ทั้งนี้ถ้าเราสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่งของกรุงเทพฯ ชั้นในนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่เป็นคอนโดหรู ก็จะเป็นโรงแรมหรู พื้นที่ Commercial ริมแม่น้ำ หรือพื้นที่ของหน่วยงานราชการ และหากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำ ก็มักจะเป็นบ้านเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างมานานมากแล้ว ซึ่งแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานมากเท่าไหร่แต่บ้านริมแม่น้ำเหล่านั้นก็ยังตั้งอยู่ และมีผู้คนใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลาในแบบติดถิ่น ไม่ย้ายไปไหน สะท้อนให้เห็นถึงความหายากของการมีบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯชั้นในที่ไม่ใช่ว่ามีแค่เงินก็จะครอบครองได้เสมอไป ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาเจาะลึกถึงความน่าสนใจของโครงการที่นานๆ ทีจะมีมาสักครั้งอย่าง Noble Aqua Riverfront Ratburana บ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพฯ คอลเลกชันใหม่จากโนเบิล เริ่ม 30 ล้าน*

โดยทางโนเบิล ได้ครีเอทโฆษณา Web film ที่มีความหมายสื่อถึงคอนเซปท์ Oneness with the River หลอมรวมความสุข และวิถีชีวิตเข้ากับสายน้ำและธรรมชาติ โดยการหลอมรวมคน ธรรมชาติ และสายน้ำเข้าไว้ด้วยกัน ให้เรารู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ติดกับโครงการ มองเห็นวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในย่านเดียวกัน พร้อมทั้งรับเอาธรรมชาติบริเวณริมแม่น้ำ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบที่ใครๆ ต่างก็อยากมีบ้านติดริมแม่น้ำกันทั้งนั้น

Noble Aqua Riverfront Ratburana (โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ) เป็นบ้านเดี่ยว LUXURY คอลเลกชันใหม่จากโนเบิล ที่ถูกพัฒนาขึ้นตามคอนเซปต์ “ความแตกต่าง be different, be noble” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูง ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร มองหาอะไรที่หายาก เป็น Rare Item หรือ Limited Edition แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสะท้อนตัวตน และตอบสนองความต้องการเฉพาะของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่ทางโนเบิล เรียกกระแสฮือฮาให้กับการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวในกลุ่มซีรีส์ “The Rare Selection by Noble” มาแล้วกับโครงการแรกคือ Noble TERRA Rama 9 – Ekamai วันนี้ก็ถึงคิวของอีกโครงการที่ใครหลายคนมองว่าเป็นของเลอค่าที่หายากมากสุดๆ ด้วยการเป็นบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใจกลางเมือง กับโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana

ซึ่งโครงการนี้ทางโนเบิลได้มอบหมายให้ทาง IAW ขาประจำในการออกแบบโครงการคอนโดโนเบิล เป็นผู้ออกแบบโครงการนี้ โดยที่ยังคงคอนเซปท์การออกแบบบนแนวคิดการสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตใจกลางเมืองที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เช่นเดียวกัน โดยที่ TERRA เราได้เห็นการนำธรรมชาติอย่างต้นไม้และแสงแดด มาแทรกกลางในตัวบ้าน เพื่อให้สมกับคำว่า “ผืนแผ่นดิน” ในขณะที่โครงการ AQUA แห่งนี้เราจะได้เห็นไฮไลท์สำคัญในการถ่ายทอดองค์ประกอบของธรรมชาติที่ลงตัวและเต็มอิ่มกับความเป็นธรรมชาติแท้ๆ อย่าง สายน้ำ ลม และแสงแดด ที่แทรกเข้าทั่วโครงการมากกว่า จากข้อได้เปรียบในเรื่องของที่ตั้งโครงการที่อยู่ประชิดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และมีการจัดวางพื้นที่ส่วน Living ในแต่ละหลังที่แตกต่างกัน คือบ้านริมน้ำที่อยู่ใกล้แม่น้ำมากสุดควรต้องอยู่ชั้นล่าง ส่วนหลังถัดออกไปก็จะอยู่ที่ชั้น 3 และการออกแบบที่ถ่ายทอดพื้นที่ Void โปร่งโล่งออกมาจากที่เรามักจะเห็นในรูปแบบห้อง Block สี่เหลี่ยม มาเป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ที่มีเอกลักษณ์มากกว่า และช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกที่จะตกแต่งพื้นที่เพื่อ Show Space ได้ตามใจชอบ

รายละเอียดโครงการ NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA

Noble AQUA Riverfront Ratburana (โนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ) พัฒนาโดย บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวนยูนิต 53 ยูนิต มีขนาดที่ดิน 56.5 – 182.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 346 – 795 ตารางเมตร มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ คือ แบบ VIA 01, แบบ VIA 02, แบบ PARC, แบบ VIU, แบบ ORA 01 และ ORA 02  เป็นบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคุณและครอบครัวได้ตามต้องการ พร้อมฟังก์ชันภายในบ้านที่รองรับการอยู่อาศัยของทุก Generation

มีบ้านให้เลือก 6 แบบ ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากเกือบ 800 ตารางเมตร อยู่อาศัยกันแบบครอบครัวใหญ่ได้สบาย พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับทุกคน อาทิ แบบ VIA 01 พื้นที่ดินประมาณ 56.72 – 58.72 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 346.64 ตร.ม. เป็นบ้านสูง 3 ชั้น มีจำนวน 15 หลัง 3 นอน 4 น้ำ (3 + 1) มี Private Lift จอดรถได้ 3 คัน

แบบ VIA 02 พื้นที่ดินประมาณ 63.61 – 65.42 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 431.18 ตร.ม. เป็นบ้านสูง 4 ชั้น มีจำนวนเยอะสุดคือ 20 หลัง 4 นอน 5 น้ำ (4 + 1) มี Private Lift จอดรถได้ 3 คัน

แบบ PARC อันนี้ตามชื่อเลยคืออยู่ติดสวนกลางโครงการ ได้วิวสวน 2 ฝั่ง พื้นที่ดินประมาณ 71.10 – 71.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 527.95 ตร.ม. เป็นบ้านสูง 4 ชั้น จำนวน 14 หลัง 4 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 5 น้ำ (4+1) จอดรถได้ 4 คัน Private Lift

แบบ VIU อันนี้ใครชอบอยู่หน้าน้ำวิวสวยๆ ในงบประมาณไม่สูงเว่อร์มากก็น่าจะชอบ พื้นที่ดินประมาณ 82.95 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 658.41 ตร.ม. สูง 4 ชั้น มีแค่ 2 หลัง 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift

แบบ ORA 01 พื้นที่ดินประมาณ 159.67 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 779.42 ตร.ม. สูง 4 ชั้น มีหลังเดียวเท่านั้น 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift

และแบบ ORA 02 ได้พื้นที่ดินและพื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่า ORA 01 โดยมีขนาดที่ดินที่ประมาณ 183.26 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 795.22 ตร.ม. สูง 4 ชั้น มีหลังเดียวเท่านั้น แบบ 5 นอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 7 น้ำ (6 + 1) จอดรถได้ 5 คัน Private Lift

โครงการถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด “ONENESS WITH THE RIVER” การหลอมรวมความสุขของการใช้ชีวิตและธรรมชาติของสายน้ำไว้ด้วยกัน ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร มองหา Rare Item ที่สะท้อนตัวตนและตอบสนองความต้องการเฉพาะของตัวเอง ผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

Rare Location ทางโครงการได้มีการคัดสรรที่ดินที่มีความพิเศษมาใช้ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งนอกเหนือจากจะต้องเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกและแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังต้องเป็นที่ดินที่มีอยู่เพียงจำกัด เป็นที่ต้องการ และยากที่จะครอบครองเท่านั้น โดยโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ เช่น สาทร สีลม และสุขุมวิทได้โดยสะดวก ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้แก่ King’s College, Shrewsbury

จากโครงการใช้เวลาเพียง 12 นาที ถึงไอคอนสยาม, 15 นาที ถึงถนนสาทร และ 20 นาที ถึงถนนสีลม ให้คุณเดินทางเชื่อมต่อกับย่าน CBD ได้สะดวก

ในปัจจุบันมีการเพิ่มความสะดวกในเรื่องของการเดินทางของผู้ที่สัญจรด้วยรถยนต์ส่วนตัว คือ สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ใช้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีขนาด 8 ช่องจราจรด้วยกัน และยังสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง CBD สีลม – สาทรได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พระราม 3 – ราษฎร์บูรณะเป็นอีกหนึ่งทำลที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนที่ทำงานในเมืองได้ ที่สำคัญที่ดินของโครงการอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่มีโค้งน้ำกว้างและสงบ  ทำให้มีบรรยากาศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและพักผ่อนในเวลาเดียวกัน อีกทั้งที่ดินที่ติดแม่น้ำในกรุงเทพปัจจุบันมีเพียงจำนวนจำกัด และยากที่จะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ ทำให้นอกจากความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคตอีกด้วย

โดยทำเลหลักที่จะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยติดริมแม่น้ำนั้น ในกรุงเทพฯ ชั้นในมีอยู่ไม่กี่ย่าน ได้แก่ ย่านเจริญกรุง-เจริญนคร และพระราม 3 – ราษฎร์บูรณะ ซึ่งริมแม่น้ำย่านราษฎร์บูรณะนั้น เป็นย่านที่ค่อนข้างได้เปรียบจากการที่ยังคงอยู่ใกล้ใจกลางเมือง เป็นย่านชุมชน และในอนาคตก็กำลังจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านแต่ก็ยังได้วิวแม่น้ำที่เปิดโล่ง พร้อมทั้งในด้านของราคาที่ดิน และราคาขายยังถูกกว่า ที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำในย่านอื่นๆ ของกรุงเทพฯ ซึ่งที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร หาได้ยากมากในการพัฒนาโครงการ ส่วนใหญ่ทำเป็นคอนโดในราคามากกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. เทียบเคียงกับ Riverside Penthouse แต่ได้ขนาดที่ดินเพิ่มขึ้นและที่จอดรถ Fix หรือเรียกได้ว่า Penthouse on Ground ในราคาไม่ถึง 90,000 บาท/ตร.ม. (เริ่ม 30 ล้าน พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 346 ตร.ม.) ดูได้จากที่ตอนนี้ราคาขายสำหรับคอนโดห้องหน้าแม่น้ำ ที่มีพื้นที่ส่วนกลางติดริมแม่น้ำก็เกินกว่าตารางเมตรละ 120,000 บาทในบางโครงการ ยิ่งถ้าเทียบกับย่านเจริญนครที่ตอนนี้มีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง และห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง ไอคอนสยาม รวมไปถึงโรงแรมหรูๆ ในย่าน จึงทำให้มีราคาเริ่มต้น 130,000 – 450,000 บาท/ตารางเมตรไปแล้ว

และโครงการบ้านก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยทาวน์โฮมระดับลักซ์ชัวรีราคาเริ่มต้น 16 – 33 ล้านบาท บ้านแฝดมีราคา 35 ล้านบาทขึ้นไป และบ้านเดี่ยวที่ได้วิวแม่น้ำเต็มๆ ก็จะทำให้มีราคาสูงขึ้นเป็นอย่างมากเริ่ม 39 – 60 ล้านบาท ซึ่ง Noble AQUA Riverfront Ratburana เป็นบ้านเดี่ยวที่มีให้เลือกหลายขนาด ตอบโจทย์การอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัว พร้อมทั้งฟังก์ชันบ้านยังสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทุก Generation ราคาเฉลี่ยที่ 86,000 บาท/ตารางเมตร เริ่มต้น 30 – 110 ล้านบาท พร้อมรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ อีกด้วย

Rare Design เป็นการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “One of a Kind Discreet & High Architecture Design” การออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างอัตลักษณ์แตกต่าง ทั้งในแง่ของความสวยงามและฟังก์ชันพิเศษภายในที่มีเฉพาะในแต่ละโครงการและไม่สามารถพบเห็นได้จากโครงการอื่นๆ แบ่งส่วนการออกแบบเป็น View, Visual, Void และ Volume ตามลำดับ

ส่วนของ View โดยโครงการการวางผัง  Master Plan เพื่อให้บ้านทุกหลังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำและสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำ ได้จากหน้าบ้าน ถนน และสวนส่วนกลาง เนื่องจากคนที่อยากมีบ้านติดริมแม่น้ำนั้น ทุกคนอยากได้วิวที่เปิดโล่ง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้โดยที่ไม่โดนบล็อกวิว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น ก็สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทุกอริยบท เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสำหรับเจ้าของบ้าน โดยบ้านติดริมแม่น้ำก็มีเสน่ห์และความได้เปรียบในตัวอยู่แล้ว จึงได้มีการสร้างห้องรับแขกแยกมาอยู่ติดพื้นที่ริมแม่น้ำในชั้นล่างของบ้าน

ส่วนบ้านที่ไม่ได้อยู่ติดริมแม่น้ำ จะกําหนดให้ห้องที่ต้องใช้งานร่วมกันอย่าง ห้องรับแขกและห้องทานข้าวขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 – 3 เพื่อที่จะสามารถมองเห็น VIEW ของแม่น้ำได้อย่างชัดเจน

เรื่องของ Void นั้น บ้านทุกหลังจะต้องมีช่องว่างระหว่างกัน ที่มีความเป็นส่วนตัวให้ได้มากที่สุดและไม่เกิดความอึดอัด ทางผู้ออกแบบอย่าง IAW มีการสร้างพื้นที่เปิดให้ได้มากที่สุด ก็จะเป็นเรื่องของการสร้าง Shape ของหลังคาที่เป็นหลังคาทรงจั่ว และมองเห็นวิวในที่สูง จึงเป็นการเลือกให้ Living Room ไปอยู่ที่บริเวณชั้น 2-3 ของบ้าน พร้อมทั้งคอนเซปต์ของ Void ที่ได้รับการออกแบบนั้น ยังเป็นการช่วยเปิดทางให้มุมมองเมื่อเราอยู่ในบ้านได้เห็นวิวเพิ่มขึ้นไปอีก

พร้อมทั้งในตัวบ้านยังมีช่องแสงที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังธรรมชาตินอกบ้านได้ ให้คุณได้วิวที่เปิดโล่งแม้อยู่ในบ้าน ไม่รู้สึกอึดอัด มองเห็นถึงความเป็นอยู่ของบริเวณโดยรอบบ้าน รู้สึกถึงความที่ไม่เหมือนใคร และรับรู้ถึงความมีเสน่ห์ในตัวบ้านที่คุณอยู่

Visual เป็นการให้ความสำคัญมุมมองจากภายในบ้านมองผ่านออกไปสู่ภายนอก และความเป็นส่วนตัว มีการสร้างหลังคาทรงจั่วแบบสามเหลี่ยมนั้น คือการช่วยลดบทบาทในตัวอาคารที่จะไปบล็อกวิวของบ้านหลังอื่นลง โดยเรียงลำดับบ้านก็คือ หลังที่อยู่ติดริมแม่น้ำควรมีวิวอยู่บริเวณชั้น 1 เพราะเป็นบ้านหลังที่ใกล้กับแม่น้ำที่สุด และหลังที่เรียงถัดต่อมาควรจะได้วิวในชั้นที่ 2 และเรียงลำดับขั้นไปถึงบ้านข้างหลังที่มีวิวอยู่บริเวณ Living Room ชั้น 3 ของบ้าน

ที่ฟังก์ชันที่เน้นความ Private จะถูกจัดวางไว้ที่ชั้นอื่นๆ ฉะนั้นจะเป็นเป็นเหมือนการที่ทุกคนแชร์วิวกัน โดยที่ไม่มีความเสียเปรียบหรือได้เปรียบกัน

และ Volume ที่มีการลดปริมาณอาคารด้วยการสร้างรูปทรงจั่ว เพื่อให้ภาพรวมของโครงการดูไม่หนาแน่นเกินไป

Rare Experience การส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง ผ่านการอยู่ร่วมกันในสังคมที่คัดสรรแล้วและปลอดภัย รวมถึงการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายในโครงการที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและยั่งยืน พร้อมด้วยฟังก์ชันของบ้านที่ถูกคิดมาอย่างชาญฉลาดตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งภายในบ้าน โดยจัดเตรียมพื้นที่สำหรับครอบครัวที่เป็น Multi-Generation ไว้ในบ้านทุกหลัง เช่น การเตรียมห้องนอนและห้องน้ำผู้สูงอายุที่ชั้น 1 มีทางลาดทางเข้าบ้านสำหรับการใช้ wheelchair และมี Lift ภายในบ้านทุกหลัง

รวมถึงจัดเตรียมเทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในตัวบ้านไม่ว่าจะเป็น ระบบ Home Automation และระบบ Active Air Flow เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน รวมถึงรองรับการติดตั้ง EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง และถึงแม้โครงการจะมีบ้านเพียง 53 หลัง แต่สิ่งอำนวยความสะดวกยังคงถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน โดยมีพื้นที่ Clubhouse ถึง 2 จุด ที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่

Riverfront Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ที่ติดแม่น้ำ ประกอบด้วย Riverfront Lounge ห้องรับรองส่วนกลางที่ พร้อม Co-Kitchen สำหรับจัด Private Dinner, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก พร้อม Riverfront Terrace สำหรับพักผ่อนชมวิวและซึมซับบรรยากาศริมแม่น้ำได้ในทุกวัน

สระว่ายน้ำชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

Riverfront Lounge

Co-Kitchen

ประตูโครงการแบบ Double Gates ที่คำนึงถึงความปลอดภัยลูกบ้านสูงสุด

Garden Clubhouse ตั้งอยู่บริเวณด้านในโครงการ เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางโครงการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องออกกำลังกาย ที่มาพร้อมเครื่องออกกำลังกายคุณภาพสูงจาก Technogym

Garden Court เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ ด้วยทางเดินที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย อยู่บริเวณหลังบ้านของคุณ เพียงแค่เปิดประตูหลังบ้านออกมาก็สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์จากสวนตรงนี้ได้เลย เดินเชื่อมต่อไปจนถึงRiverfront Clubhouse ได้สบาย

บ้านตัวอย่าง

บ้านทุกหลังในโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana จะเป็นบ้านที่มีลักษณะแบบ Modern Contemporary เน้นรูปทรงของหลังคาที่เป็นจั่วเพื่อลดทอนความเป็นทรงสี่เหลี่ยมและสร้างลักษณะเฉพาะให้เด่นชัดยิ่งขึ้น การเปิดช่องกระจกเต็มที่เพื่อเน้นการมองเห็นแม่น้ำคือบริบทของการออกแบบ ตลอดจนถึงการเลือกวัสดุที่เป็นลักษณะของหินธรรมชาติมาเป็นวัสดุกรุผนังเพื่อสร้างความรู้สึกของธรรมชาติมาเพิ่มเติมเสน่ห์ให้กับตัวบ้าน วันนี้เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างด้วยกัน 2 แบบ คือ VIA 02 พื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. และพื้นที่ดินประมาณ 63.61 – 65.42 ตร.ว. กับแบบ PARC มีพื้นที่ใช้สอย 527.95 ตร.ม. และพื้นที่ดินประมาณ 71.10 – 71.8 ตร.ว.

Floor Plan แบบบ้าน VIA 02

Floor Plan แบบบ้าน Parc

แบบแรกที่เราจะพาไปชมคือ แบบ VIA 02 (Size S) มีพื้นที่ใช้สอย 431 ตร.ม. และพื้นที่ดินประมาณ 63.61 – 65.42 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ (4 + 1) มี Private Lift จอดรถได้ 3 คัน

IAW มีการออกแบบบ้าน Modern Contemporary หลังคาทรงจั่วแบบสามเหลี่ยม เป็นการการช่วยลดบทบาทในตัวอาคารที่จะไปบล็อกวิวของบ้านหลังอื่นลง และสร้างลักษณะเฉพาะให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

ระเบียงบริเวณชั้น 2 กว้าง ติดกับถนนหลักของโครงการ สามารถออกมาสูดอากาศและมองวิวแม่น้ำได้ทั้งวัน

หน้าบ้านจอดรถได้ 3 คัน มีประตูเปิดเข้าบ้านได้เลย โดยไม่ต้องเปิดประตูฝั่งโรงจอดรถ

ประตูเลื่อนหน้าบ้าน ใช้เป็นแบบเลื่อนเก็บไว้ข้างบ้าน ทางโครงการเตรียมและติดตั้งมอเตอร์ ประตูอัติโนมัติให้

บริเวณพื้นที่จอดรถกว้าง โครงการวางระบบสำหรับการชาร์จรถไฟฟ้า เอาไว้ให้โดยสามารถนำเอา Junction Box มาติดตั้งได้เลย

โดยทางโครงการคำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันของทุกคนภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัวทุก Generation หรือแม่กระทั่งแม่บ้านที่อยู่ร่วมกัน ดังนั้นบ้านทุกหลังในโครงการจึงมีพื้นที่ MAID’S QUARTER รวมไปถึงพื้นที่ซักล้างอยู่ข้างบ้านทุกหลัง ที่มีทั้งห้องนอนและห้องน้ำ เรียกได้ว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้ทั้งเจ้าของบ้านที่ไม่ต้องหาพื้นที่สำหรับแม่บ้านใหม่ และแม่บ้านก็มีทั้งห้องนอนและห้องน้ำส่วนตัวใช้

พื้นที่ MAID’S QUARTER

พร้อมกันนั้น ยังมีพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุในบ้านที่ขึ้น-ลงบันไดลำบาก ก็มีห้องนอนและห้องน้ำอยู่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน พร้อมราวจับกันลื่นให้ หากต้องการขึ้น-ลงชั้น 2-3 ของบ้าน ก็สามารถใช้ลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งไว้ให้เลย เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกต่อสมาชิกในบ้านทุกคนเป็นอย่างมาก

ประตูเข้าบ้านจะอยู่ฝั่งนี้ ซึ่งพื้นที่ข้างบ้านจะเหลือใช้งานประมาณนี้ ทางโครงการจึงตกแต่งให้เป็นบ่อน้ำเล็กๆ และติดตั้งต้นไม้ให้บริเวณ Courtyard ที่สูงขึ้นไปถึงชั้น 3 ของบ้าน ช่วยเพิ่มความร่มรื่นในบ้านได้ ส่วนพื้นที่ข้างบ้านจุดนี้บ้านจริงทางโครงการจะปูหญ้าให้ทุกหลัง

พื้นที่ Courtyard ให้เจ้าของบ้านปรับเปลี่ยนฟังก์ชันส่วนนี้ได้ตามใจชอบ

บริเวณจะเป็นพื้นที่ของตู้เก็บของ ใช้เป็นตู้เก็บรองเท้าได้

เก็บรองเท้าได้เยอะ

มุมนี้ก็เป็นห้องเก็บของเช่นกัน

ประตูหน้าบ้านจะได้ Digital Door Lock แบรนด์ Yale ทุกหลัง

เปิดเข้ามาในบ้านก็จะเป็นส่วนของ Foyer มีประตูซ้ายมือสองชั้น เปิดไปชั้นแรกเป็นห้องเก็บของใต้บันได และอีกประตูเปิดออกไปก็จะเป็นส่วนข้างบ้านที่เป็นห้องแม่บ้าน

ลิฟต์ในบ้านที่ทางโครงการติดตั้งให้ทุกหลัง สะดวกต่อการขึ้น-ลง ชั้น 1-3 ได้ โดยเฉพาะกับผู้สูงภายในบ้าน ใช้โดยสารพร้อมกันได้ 2 คน

ติดผนังเป็นกระจกมองเห็น Courtyard ด้านนอกได้ ชั้น 1 เพดานสูง 2.7 ม.

Family Room พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับสมาชิกในครอบครัว ปรับฟังก์ชันให้เป็นห้องดูหนัง หรือทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้

มีช่องแสงในห้องเยอะ สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้ทั้งวัน

Elderly Room เดินเข้ามาจะเจอกับ Walk-in Closet เชื่อมต่อไปถึงห้องน้ำ และห้องนอนที่อยู่ด้านใน

ห้องน้ำและห้องนอน

ห้องนอนเพดานสูง 2.7 ม. เป็นห้องที่มีความเรียบของพื้นเท่ากัน ช่วยลดการเดินสะดุดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากเป็นห้องที่ถูกออกแบบสำหรับผู้สูงอายุ

ห้องนอนกว้าง วางเตียงไซส์ใหญ่ได้

พร้อมมีระเบียงส่วนตัวที่เป็นชานเล็กๆ สามารถวางโต๊ะและเก้าอี้เอาไว้นั่งรับลม สูดอากาศด้านนอกได้

ห้องน้ำแบบ Elderly support design มีราวจับกันลื่น มีที่นั่งให้อาบน้ำได้ และช่องแสงด้านในช่วยเพิ่มความสว่าง

เดินขึ้นบันไดไปดูที่ชั้น 2 กัน

ขึ้นมาชั้น 2 ก็เป็น Foyer ก่อนที่จะแยกไปส่วนต่างๆ ของบ้าน บริเวณชั้น 2 เป็นส่วนของ Dining & Living Room อยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน และมีห้องนอน 2-3 อยู่ติดฝั่งหลังบ้าน

ตำแหน่งลิฟต์บริเวณชั้น 2

ทางเดินไปห้องนอน 2 – 3

ห้องนอน 3 อยู่ฝั่งขวามือ

ห้องนอนกว้าง มีช่องแสงในตัว เพดานสูง 2.7 ม.

มีระเบียงด้านนอก ออกมายืนสูดอากาศ รับลมบริเวณนี้ได้

ถัดมาเป็น Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำ

มีระเบียงอีกฝั่งที่เชื่อมต่อไปยังครัวได้

ในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกด้วย Shower Screen และมีช่องแสงในห้อง เปิดรับแสงธรรมชาติได้ทั้งวัน

ห้องนอน 2 มีพื้นที่กว้างห้องนอน 3 พื้นที่ในห้องสามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนและมุมทำงานในห้องเดียวกันได้

เพดานห้องสูง 2.7 ม.

ทางเดินไปยัง Walk-in Closet

Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำแบบเดียวกับห้องนอน 3 ที่มีช่องแสงด้านใน และติดตั้ง Shower Screen ให้

เดินมาที่ฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง

เดินเข้ามาด้านใน รู้สึกได้ถึงความโปร่ง โล่ง สบาย ด้วยหลังคาทรงจั่วสูงถึง 5.8 ม. ช่วยให้พื้นที่บริเสณนี้ได้แสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ โดยส่วนนี้มีการออกแบบพื้นที่ Living Room จัดวางบนชั้น 2 เพราะเป็นตำแหน่งที่ให้การมองเห็นวิวที่ดีที่สุด ในขณะที่ฟังก์ชันที่เน้นความ Private จะถูกจัดวางไว้ที่ชั้นอื่นๆ แทน

ทางโครงการจัดเตรียมเทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในตัวบ้านไม่ว่าจะเป็น ระบบ Home Automation และระบบ Active Air Flow เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน

พื้นที่ในห้องกว้างมาก จัดเป็น Living Room & Dining Room ในห้องเดียวกันได้ พร้อมทั้งห้องครัวด้านหลัง ให้เป็นพื้นที่พักผ่อนของครอบครัวและยังจัดปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย (ชั้นนี้ให้เป็นห้องโล่งๆ โดยส่วนของ Living และห้องครัวต้องทำเพิ่มเอง)

ระเบียงด้านนอก

เป็นระเบียงยาวและกว้าง พร้อมราวกันตกแบบกระจก ออกมายืนมองวิวแม่น้ำมุมนี้ได้เลยนะ

พื้นที่ส่วน Living Room มีระเบียงสองฝั่ง อีกฝั่งติดกับ Courtyard

มีความร่มรื่น มองไปทางไหนก็เห็นพื้นที่สีเขียวที่ทำให้สบายตา

Powder Room ด้านหลัง Dining Room

ถัดมาเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เจ้าของบ้านสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ

มีประตูเปิดออกไประเบียงได้ ซึ่งระเบียงฝั่งนี้เชื่อต่อกับห้องนอน 3 และใช้เป็นพื้นที่วาง CDU แอร์ ติดตั้งระแนงไม้กั้นไว้เพื่อบังสายตา

ชั้น 3 มี Foyer เช่นกัน

ติดตั้งหน้าต่างแบบบานกระทุ้งให้ มองลงไปเห็น Courtyard ด้านล่าง

ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ขนาดใหญ่

เพดานห้องสูง 2.7 ม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ในห้องมีช่องแสงเยอะ และระเบียงส่วนตัว

ระเบียงด้านนอกเดินได้รอบห้อง มองเห็น Courtyard ด้านล่าง

มีส่วน Walk-in Closet ขนาดใหญ่ สามารถจัดแบ่งแยกฝั่งชาย-หญิงได้สบาย

ห้องน้ำกว้าง ให้อ่างแบบ His & Her พร้อมอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว มีช่องแสงในห้อง

กั้นห้องน้ำและห้องอาบน้ำด้วย Shower Screen

ห้องอาบน้ำได้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower

ชั้นดาดฟ้า ไม่มีลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้นนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนของ River Deck อยู่บริเวณด้านนอก

เป็นมุมพักผ่อนแบบ Semi – Outdoor ให้ความเป็นส่วนตัวเมื่อขึ้นมาพักยังส่วนนี้จะไม่ถูกมองจากบ้านหลังอื่นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เนื่องจากบ้านทุกหลังจะต้องมีช่องว่างระหว่างกัน ที่มีความเป็นส่วนตัวให้ได้มากที่สุดและไม่เกิดความอึดอัด มีการสร้าง Shape ของหลังคาที่เป็นหลังคาทรงจั่ว และมองเห็นวิวในที่สูงตอนเย็นๆ ขึ้นมานั่งเล่น มองวิวแม่น้ำไปด้วยก็ดีไปอีกแบบ

มองลงไปข้างล่างเห็น Courtyard

บ้านหลังที่ 2 ที่เราจะพาเดิมชม เป็นบ้าน Size M หรือ แบบบ้าน PARC มีพื้นที่ใช้สอย 527.95 ตร.ม. และพื้นที่ดินประมาณ 71.10 – 71.8 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 5 ห้องน้ำ (4+1) จอดรถได้ 4 คัน Private Lift บ้านหน้ากว้าง พร้อมหลังคาทรงจั่วสวยงาม

ทางโครงการติดตั้งระแนงไม้ให้บริเวณชั้น 2 ที่เป็นส่วนของห้องนอน เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย

สีวัสดุมีความกลมกลืนกัน ยิ่งทำให้บ้านดูสวยยิ่งขึ้น

หน้าบ้านมีประตูเข้าบ้านแบบนี้ และแบ่งที่จอดรถเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 คัน

โครงการวางระบบสำหรับการชาร์จรถไฟฟ้า เอาไว้ให้โดยสามารถนำเอา Junction Box มาติดตั้งได้เลย

พร้อมพื้นที่ MAID’S QUARTER และพื้นที่ซักล้างอยู่ข้างบ้าน

รั้วแบบเดียวกับบ้านหลังก่อนหน้านี้ ทางโครงการเตรียมและติดตั้งมอเตอร์ ประตูอัติโนมัติให้

ประตูรั้วเลื่อนมาด้านข้างแบบนี้ และมีห้องเก็บของบริเวณหลังที่จอดรถ 1 จุด

ติดตั้ง Digital Door Lock แบรนด์ Yale ให้ที่ประตูหลักหน้าบ้าน เป็นประตูไม้สัก บานใหญ่แบบเต็มความสูง

เข้ามาด้านในก็จะเจอกับ Foyer มีลิฟต์อยู่ซ้ายมือ ภายในบ้านโครงการได้ติดตั้ง SCG ACTIVE AIRFLOW SYSTEM และ HOME AUTOMATION ให้ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยแบบสูงสุด

ลิฟต์ใสที่โครงการติดตั้งให้เป็นแบบเดียวกันทุกหลัง เพดานสูง 2.7 ม.

ประตูที่เชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของใต้บันไดและห้อง Maid ด้านนอกได้

อีกฝั่งเป็นห้องเก็บของที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องเก็บรองเท้าได้

Multipurpose Room ที่ให้คุณปรับฟังก์ชันห้องได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย หรือห้องดูหนังก็ยังได้ เพดานห้องสูง 2.7 ม.

พื้นที่ส่วนนี้ เป็นพื้นที่ของ Elderly หากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็ใช้พื้นที่ส่วนนี้ที่มีทั้งห้องนอน Walk-in Closet และห้องน้ำ ให้ผู้สูงอายุได้เลย มีประตูกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน

Walk-in Closet และห้องน้ำ

ห้องน้ำมีช่องแสงในตัว และเป็น Universal Design มีราวจับกันลื่น พร้อมที่นั่งอาบน้ำได้ด้วย

ถัดมาเป็นพื้นที่ของห้องนอน มีระเบียงส่วนตัว และช่องแสงหลายมุม อยู่ฝั่งหลังบ้านที่ติดกับ Garden Court สวนส่วนกลางที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เปิดประตูระเบียงออกมาก็มองเห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่หลังบ้านได้เลย

หากในบ้านไม่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็สามารถปรับให้เป็นห้องทำงานแบบบ้านตัวอย่างก็ได้

ระเบียงด้านนอกมีชานยื่นออกมา สามารถจัดมุมพักผ่อน Out Door แบบนี้ได้เลย

ประตูหลังบ้านที่เชื่อมต่อไปยัง Garden Court ได้

บ้านไซส์ M จะหันหลังบ้านชนกันแบบนี้ และมี Garden Court อยู่ตรงกลาง

เดินออกมาจากห้องนอน ก็จะเจอกับประตูหลังบ้าน เปิดออกไปนั่งพักรับลมธรรมชาติเย็นๆ ได้

มองเห็น Garden Court หลังบ้าน

วนขึ้นไปดูชั้น 2 กัน

ชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องนอน

จัดเป็นมุมพักผ่อนแบบบ้านตัวอย่างได้

ห้องนอน 3 อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว

มุมพักผ่อน ออกจากห้องนอนมานั่งเล่น เผื่อวันไหนขี้เกียจเดินลงไปข้างล่าง

ห้องนอน 2 ติดฝั่งหลังบ้าน

ในห้องมีช่องแสงเยอะ พร้อมระเบียงส่วนตัวที่มองลงไปเห็นสวนหลังบ้านได้

ถัดมาเป็น Walk-in Closet

เปิดม่านตรงกระจกออกมองเห็น Garden Court สวยงาม

ในห้องน้ำติดตั้ง Shower Screen ให้ กั้นส่วนแห้งและเปียกเป็นสัดส่วน

Master Bedroom พื้นที่กว้าง

พื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ และช่องแสงเยอะ เพดานสูง 2.7 ม.

มีระเบียงส่วนตัว มองเห็นชานบ้านด้านล่าง

และช่องแสงข้างทีวี 2 จุด ช่วยให้ห้องสว่างขึ้นเป็นอย่างมาก

ห้องน้ำ

ห้องน้ำให้อ่างล้างหน้าแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว

มีระเบียงติดกับอ่างอาบน้ำ แช่น้ำพร้อมดูวิวด้านนอกได้

ห้องน้ำและห้องอาบน้ำกั้นด้วย Shower Screen

Walk-in Closet ขนาดใหญ่ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของได้เยอะ ใครชอบแต่งหน้าแต่งตัวต้องชอบมุมนี้แน่นอน

มีช่องแสงจากฝั่งหน้าบ้าน ที่กั้นด้วยระแนงไม้ช่วยบังสายตาได้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้อยู่อาศัย

ชั้น 3

พื้นที่บริเวณชั้น 3 เป็นส่วนของ Dining & Living Room ทั้งชั้น

โดยส่วนที่เป็น Signature Design ของที่นี่ ก็คือการดีไซน์ฝ้าเพดานทรงจั่วสูง 5.6 เมตร ในชั้น 3 มีบานกระจกสูงชิดเพดานเพื่อให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ซึ่งจะมีผลพลอยได้ก็คือเจ้าของบ้านสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่จากการเลือกตกแต่ง Prop, ฝ้าเพดาน, ผนัง หรือแม้กระทั่งโคมไฟ Chandelier ทำให้เวลาคนภายนอกมองเข้าไปจะได้รู้สึกถึงความเป็น Variety ที่แตกต่างกันไปในแต่ละหลัง และชั้นนี้ยังได้วิวถึง 4 ระเบียงทั้งฝั่งหน้าบ้าน และสวนหลังบ้าน

Moon Deck แบบ Outdoor ขนาดใหญ่ พื้นที่พักผ่อน ให้คุณเดินออกมาผ่อนคลายและมองวิวแม่น้ำไปพร้อมกันได้

เป็นระเบียงยาวทั้งชั้น ให้คุณชมวิวได้ไกลสุดสายตา

Garden Court บริเวณหลังบ้าน

ด้านหลัง Living Room มีห้องเก็บของ และ Powder Room

ระเบียงยาวมาจนถึง Powder Room

ห้องเก็บของ

Powder Room มีช่องแสงด้านใน

เดินขึ้นมาอีกชั้น มีห้องลับอย่าง Play Room ใต้หลังคาแบบ Indoor ปรับฟังก์ชันห้องได้ เช่นเป็นห้อง Maid หรือห้องเก็บของก็ได้ พร้อมติดกระจกให้มองเห็นวิวหน้าบ้านและหลังบ้านได้

สรุปจุดเด่นของโครงการ NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA

เป็น 1 ใน 2 โครงการ Ultra Luxury Home ในซีรีส์ “The Rare Selection by Noble”  เป็น “ICONIC RIVERFRONT VILLA” ของกรุงเทพฯ ที่มีเพียง 53 หลังเท่านั้น พัฒนาแนวคิด ONENESS WITH THE RIVER ให้ชีวิตใกล้ชิดสายน้ำ ให้บ้านทุกหลังได้สัมผัสประสบการณ์การอยู่ริมแม่น้ำได้ทั่วถึง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการออกแบบโดยคำนึงถึงสมดุลระหว่าง VIEW, VISUAL, VOID และ VOLUME  มอบ Rare Experience ให้กับผู้พักอาศัย ผ่านรูปแบบบ้านที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อันแตกต่างของแต่ละครอบครัวถึง 6 รูปแบบ บ้านแต่ละแบบมีการออกแบบพื้นที่ Living และ Kitchen ในระดับชั้นที่แตกต่างกัน เพื่อมอบบรรยากาศและวิวที่ดีที่สุดออกแบบงานสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายในโดย IAW และงานแลนด์สเคปโดย TECTONIX อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่มีโค้งน้ำกว้างและสงบ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน สะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล ใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้แก่ King’s College และ Shrewsbury

ซึ่งที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาหายากมาก ส่วนใหญ่มักถูกพัฒนาเป็นคอนโดในราคามากกว่าตรม.ละ 100,000 บาท คุ้มค่าทุกตารางเมตร ได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยกว้างกว่าในราคาไม่ถึงตรม.ละ 90,000 บาท เหมาะกับทั้งเป็นบ้านหลังแรก และ Vacation Home ของทั้งครอบครัวที่สามารถส่งต่อให้กับลูกหลานได้ มี Clubhouse ถึง 2 จุด เชื่อมต่อกันด้วย Garden Court สวนส่วนกลางที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ” มาพร้อม ลิฟต์, ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้าน และทางลาดเพื่อผู้สูงอายุ

NOBLE AQUA RIVERFRONT RATBURANA

ICONIC RIVERFRONT VILLA แห่งใหม่ บนทำเลหายากเชื่อมต่อ CBD โดดเด่นริมน้ำเจ้าพระยา ที่จะให้คุณได้หลอมรวมความสุขไว้ในที่เดียว ภายใต้สังคมส่วนตัวเพียง 53 หลัง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ราคาเริ่มต้น 30 – 110 ล้านบาท*

ลงทะเบียนเพื่อนัดเยี่ยมชมโครงการได้แล้ววันนี้

พร้อมรับข้อเสนอพิเศษได้ที่ https://bit.ly/467faJ6 หรือพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโดยตรงที่ Line @noblerarity โทร.02-251-9955