พาทัวร์ Life Sukhumvit 48 คอนโด High Rise แบรนด์เนม ที่ราคาดีที่สุดในย่านพระโขนง

ทำเลพระโขนงอาจจะเป็นย่านปราบเซียนของดีเวลลอปเปอร์ทั้ง Big Brand และ Local Brand หลายราย ทั้งๆที่ตรงจุดนี้คือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่าง Mid Sukhumvit และ Outer Sukhumvit ตั้งแต่อ่อนนุชจนถึงสี่แยกบางนา แถมยังมีดีมานท์การอยู่อาศัยที่ล้นทะลักจากบรรดาชนชั้นกลาง และกลุ่ม expat ระดับ Mid Management  ซึ่งขยายตัวมาจากย่านอ่อนนุช ที่นับว่าจะยิ่งแออัดจนแทบจะแทรกตัวขึ้นไปบนสถานี BTS ได้ลำบาก ที่บอกว่าเป็นย่านปราบเซียนก็เพราะว่าหากเราลองลงไปเดินสำรวจดูคอนโดที่ตั้งอยู่เรียงรายทั้ง 2 ฝั่งถนน ในระยะไม่เกิน 800 เมตร จากสถานี BTS พระโขนง ก็จะพบกับคอนโดพร้อมอยู่ที่ยังเหลือขายเต็มไปหมด และมีระดับราคาขายต่อตรม.ที่ค่อนข้างสูงเกินกว่าตรม.ละแสนห้าหมื่นบาทขึ้นไปแทบทั้งนั้น

แต่เชื่อไหมว่าในย่านนี้มีคอนโดเพียงแค่ 2 โครงการเท่านั้น ที่ขายดีจน Sold Out ตั้งแต่ที่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ สวนทางกับดัชนี absorption rate ที่เกิดขึ้นจริงในทำเลนี้ โดยทั้งสองโครงการเป็นโครงการคอนโด High Rise ที่ถูกพัฒนาโดยเอพีฯทั้งหมด นั้นก็คือ Rhythm Sukhumvit 44/1 คอนโดติดสถานี BTS พระโขนง ที่แม้จะทำสถิติ new high ของสถานี ณ ขณะนั้นแต่ก็ขายหมดอย่างไม่ยากเย็น และโครงการที่สองก็คือโครงการที่ผมจะเล่าถึงในวันนี้ก็คือ Life Sukhumvit 48 (ไลฟ์ สุขุมวิท 48) อีกหนึ่งโครงการคอนโดที่ประสบความสำเร็จในยอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอพี โดยสามารถปิดการขายได้ทั้งหมด 612 ยูนิต กวาดเงินไปมากกว่า 2,259 ล้านบาท ในทันทีที่เปิดขาย เมื่อช่วงกลางปี 2016 ที่ผ่านมา!!!

ย้อนกลับไปเมื่อสัก 4 ปีที่แล้ว ผมมักจะตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคอนโดราคาเกินแสนห้าต่อตรม. เนื่องจากคอนโดระดับราคานี้ในสมัยนั้นถือว่าเป็นคอนโดเกรดไฮเอนด์ ที่นอกจากจะตั้งอยู่ใน Prime Area แล้วก็ยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพของวัสดุ และงานตกแต่ง รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางอันกว้างใหญ่ระดับ Sport Club แต่พอเวลาผ่านไปความรู้สึกของผมกลับเปลี่ยนไป ทันทีที่ตลาดคอนโดในย่าน CBD แทบทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยคอนโดระดับ Hi end – Super Luxury เหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ ส่งผลให้คอนโดเหล่านั้นแทบจะไม่มีข้อแตกต่างอย่างไรที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆเลย มันดูเหมือนๆกันไปหมดราวกับเป็นสเปคมาตรฐาน ที่สำคัญที่สุดก็คือด้วยระดับราคาที่สูงเกินกว่าตรม.ละสองแสน มันดูจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนโดยมนุษย์เงินเดือนชนชั้นกลางทั่วไป ที่มองหาโครงการคอนโดในเมืองที่ให้ความคล่องตัวในการซื้อขาย ปล่อยเช่า ตลอดจนกู้แบงค์ได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ท่ามกลางยุคเฟื่องฟูของการทำธุรกิจสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนคอนโด เกือบทุกคอร์สมักจะให้ Check List ที่สำคัญกับเหล่าลูกศิษย์ว่าให้เข้าซื้อเพื่อลงทุนในโครงการแบรนด์ดัง มีการทำโฆษณาดีๆ แต่มีราคาขายที่ต่ำกว่าราคาตลาด ด้วยปรัชญาดังกล่าวจึงทำให้มีคอนโดเพียงสองประเภทเท่านั้นที่เกิดกระแสขึ้นมาใหนหมู่นักลงทุนหน้าใหม่ 1. คอนโดเก่าที่บังเอิญตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งอารยธรรมใหม่ แต่ก็ต้อง trade off กับงบประมาณในการลงทุน Renovate และปัญหาในการกู้เงินจากธนาคาร 2. คอนโดใหม่ที่มีห้องขนาดไม่ใหญ่มาก และมีราคาต่อตรม.ที่ต่ำกว่าแสน…Life Sukhumvit 48 จึงเป็นคอนโดที่มาถูกที่ถูกทาง เพราะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง 2 criteria ดังกล่าวคือเป็นคอนโดใหม่ราคาต่ำกว่าตรม.ละแสน แต่ดันเป็นแบรนด์ดังที่อยู่ในทำเล Mid Sukhumvit ที่สำคัญคือโครงการนี้ให้แต้มต่อกับนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากขายที่ตรม.ละเก้าหมื่นกว่าบาท จึงทำให้มี Gap ราคาที่เล่นได้มากในอนาคต มอบกำไรให้กับนักลงทุนอย่างเต็มที่หลังโอน แตกต่างกับคอนโดแบรนด์อื่นในย่านนี้ที่ราคาสูงจนแทบไม่มี Gap ในการทำกำไรขายรีเซลต่อให้นักลงทุนเลย

Life Sukhumivit 48 นับเป็นโครงการที่ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการเดินทางได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะด้วยรถไฟฟ้า BTS เพราะใกล้สถานีพระโขนงเพียง 600 เมตร, 3 สถานี ถึงเอ็มควอเทียร์ ส่วนคนที่ขับรถก็สะดวกมากสามารถทะลุออกได้ 3 ทางหลัก คือถนนพระราม 4, ทางด่วนสุขุมวิท 50 และซอย 48 และยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและอาจณรงค์ หรือจะเข้าไปแฮงค์เอ้าท์ในย่างเอกมัยทองหล่อ ก็เพียง 5 นาทีเท่านั้น

ด้วยพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 3-3-0.9 ไร่ โครงการ Life Sukhumvit 48 มีการแบ่งสัดส่วนอาคารออกเป็น 3 อาคาร ประกอบด้วย

อาคารชุดพักอาศัย 2 อาคาร อาคาร N สูง 19 ชั้น (153 ยูนิตพักอาศัย + 1 ห้องพาณิชย์) และ อาคาร S สูง 31 ชั้น (459 ยูนิตพักอาศัย)

โดยอีก 1 อาคารเป็นอาคารจอดรถ อาคาร C สูง 8 ชั้น (มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น)

จริงๆแล้วพื้นที่ติดกันกับโครงการ Life Sukhumvit 48 ทางด้านทิศตะวันตกก็เป็นที่ตั้งโครงการ Aspire Sukhumvit 48 ถึงแม้ว่า Aspire Sukhumvit 48 จะใช้เวลาค่อนข้างยาวนานในการปิดการขายและโอน (ทั้งๆที่ราคาถูกกว่าค่อนข้างเยอะด้วยซ้ำ) ที่กว่าจะหมดตึกได้เป็นเป็นช่วงเวลาก่อนเปิดโครงการ Life Sukhumvit 48 พอดี สะท้อนถึงศักยภาพของแบรนด์ Life ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติที่มากกว่า รวมถึงศักยภาพในอนาคตของที่ดินผืนใหญ่นี้เช่นเดียวกัน

เครดิตภาพ: http://www.apthai.com

ทางเข้าโครงการจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 48 ก่อนถึงโครงการ Aspire Sukhumvit 48 โดย Master Plan ของโครงการจะเน้นการจัดวางยูนิตไปทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ โดยที่ไม่มีระเบียงของห้องไหนหันไปชนกับโครงการ Aspire Sukhumvit 48 เลย

ก่อนจะเข้าไปชมภายในอาคารขอแวะไปที่ Life Garden บริเวณด้านหน้าโครงการก่อน จุดนี้จะเป็นมุมพักผ่อนท่ามกลางต้นไม้ มีเก้าอี้และโต๊ะเอาไว้เอนกายรับอากาศบริสุทธิ์ทั้งยามเช้าและยามเย็น

เนื่องจากห้องของโครงการขายหมด 100% แล้ว วันที่ผมเข้าไปจึงมีแต่ทีมงานในการตรวจห้อง โดยหากผู้ที่สนใจซื้อยูนิตโครงการนี้จะต้องไปซื้อห้องรีเซลต่อจากเจ้าของห้องครับ ซึ่งหากใครแวะมาที่โครงการตอนนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของ BC เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการห้องฝากขาย ฝากเช่าของโครงการนี้ครับ…แต่ทาง BC ในฐานะที่เป็นตัวแทนการขายห้องรีเซลอย่างเป็ฯทางการ ก็ได้มีการจัดทำห้องตัวอย่างในแบบที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไอเดียในการเลือกซื้อห้อง และจัดวางเฟอร์ฯสำหรับผู้ที่สนใจในโครงการนี้ครับ อ้อ และหากใครที่สนใจซื้อห้องไหน ก็สามารถให้เจ้าหน้าที่ของ BC พาขึ้นไปดูห้องตำแหน่งจริงได้ด้วยนะครับ (ในกรณีที่ห้องสร้างเสร็จ พร้อมให้ดูแล้ว)

ห้องตัวอย่างของ BC จะอยู่ที่ตึก N ครับ

ล้อบบี้ก็ดูสวยงามเหมือนกันนะครับ เพดานสูง พร้อมโซฟาขนาดใหญ่

หลักๆก็แยกโซนที่นั่งแบบโซฟาเป็น 2 โซน และมีที่นั่งแบบ Floating ตรงกลาง

สุดทางเป็นเค้านท์เตอร์ต้อนรับ เดินทะลุไป Mail Room และห้องน้ำได้

โถงลิฟท์

โดยห้องตัวอย่างเป็นห้อง Type B1 เบอร์ 04 ขนาด 40 ตรม.ครับ หันไปทางด้านทิศเหนือ ซึ่งตึก N จะมีจุดเด่นตรงนี้มีจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าเพียงแค่ 153 ยูนิต จาก 19 ชั้น และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพีงแค่ 9 ยูนิตเท่านั้น แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ยกสูงขึ้นไปบนชั้น 19 เช่นเดียวกับตึก S

ห้อง Type B1 นี้เป็นห้องไฮไลท์ของโครงการนี้ เนื่องจากจะเรียกว่าห้อง 1 ห้องนอน extra ใหญ่กว่าปกติก็ได้ หรือจะเรียกว่าห้อง 1 Bed Plus ก็ได้ เนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้างที่มีการนำเอาพื้นที่ส่วนครัวมาไว้ทางด้านทางเข้าห้องซึ่งเป็นพื้นที่ๆกว้างพอในการทำจะรวบเอาส่วน Living ไว้ที่เดียวกันตรงนี้ โดยที่จัดวางส่วนห้องเอนกประสงค์ติดระเบียงมาเป็นห้องนอนที่สองได้ หรือหากใครที่อยู่คนเดียว และต้องการ Living Area ที่ถูกกั้นโซนเป็นสัดส่วน มีขนาดกว้างพอที่จะวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ พร้อมระยะดูทีวีที่มี Space ขนาดใหญ่ก็แนะนำว่าให้จัดวางเลย์เอ้าท์ในแบบห้องตัวอย่างนี้ครับ

แบบนี้ได้ห้องนอนที่สองเพิ่ม

แบบนี้ได้ห้อง Living ขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับระเบียง และมีพื้นที่ว่างบริเวณ Pantry & Dining เหลือเฟือ โดยที่ไม่ได้ลดทอนพื้นที่และฟังก์ชั่นการใช้งานของห้องนอนใหญ่แต่อย่างใด

โถงทางเดินมีระยะที่ไม่ยาวมากครับ เพราะใน 1 ชั้นจะมีแค่ 9 ยูนิต ห้องนี้จะอยู่ใกล้กับ Lift Hall ครับ

มือจับประตูเป็นแบบก้านโยก

เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับส่วนของ Dining ทางด้านซ้าย และขวามือคือห้องน้ำครับ มองตรงไปจะเป็นส่วนของห้องเอนกประสงค์เชื่อมต่อกับระเบียง (ห้องมาตรฐานที่ได้เป็น Partly Furnished ให้แค่ครัว ห้องน้ำ และแอร์นะครับ

ย้อนกลับไปมองทางฝั่งหน้าประตูจะเห็นว่า Space ส่วนนี้กว้างมาก โดยห้องตัวอย่างจัดวางโต๊ะทานอาหารเป็นแบบ 4 ที่นั่งได้เลย และสามารถ Built-in ตู้เก็บของเก็บรองได้ได้สบายๆบริเวณนี้

ส่วนของครัวห้องจริงได้ตามนี้ยกเว้นไมโครเวฟครับ

เปิดหน้าบานต่างๆออกมาจะได้แบบนี้ ห้อง Type นี้สามารถวางเครื่องซักผ้าตรงครัวได้เลย

เตาไฟฟ้า ฮูดดูดควัน และซิงค์ล้างจานเป็นแบรนด์ Teka ทั้งหมด

ไปดูส่วน Living กันบ้าง ได้ Space ที่ใหญ่และกั้นห้องด้วยบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร

เวลามองจากโซฟาก็สามารถมองเห็นได้ทั่วทุกบริเวณห้อง

เชื่อมต่อกับส่วนระเบียง

อีกด้านของห้องตรงข้าม Pantry จะเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทางส่วน Dining และห้องนอนใหญ่

สเปคที่คุ้นเคยตามมาตรฐานแบรนด์ Life

ทางเข้าอีกฝั่งอยู่ในห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom วางเตียงขนาด King Size ได้ โดยสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าชิดประตูห้องน้ำได้เลย

ห้องฝั่งทิศเหนือก็จะเห็นโรงแรม Ibis Style, คอนโด Wyne และ The Line Sukhumvit 71

อาจจะแบ่ง Space ของตู้เสื้อผ้ามาทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

พอดีห้องติดๆกัน เปิดอยู่ก็เลยขอแวะเข้าไปดูห้องมาตรฐานที่ได้สักหน่อย ห้องนี้เป็นห้อง Type A2 เบอร์ 03 ขนาด 32 ตรม.เป็นทิศเหนือเช่นกัน

ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 นอนที่มีขนาดเล็กที่สุดของตึก N ได้ครัวปิดแต่สามารถเปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงได้ และมีห้องนั่งเล่นหน้ากว้างครับ

ส่วนบานเลื่อนห้องครัวจะลดทอนความสูงลงมาหน่อย

ของจริงก็เป็นแบบห้องตัวอย่าง

เดินออกไปที่ระเบียงห้องนี้ระเบียงแคบแต่มีความลึก สามารถวางเครื่องซักผ้าได้

ห้องน้ำ

ห้องนอน

ออกจากห้องไปดูที่พื้นที่ส่วนกลางกันบ้างครับ ที่นี่ส่วนกลางแยกอาคารกันหมด ซึ่งจะส่วนกลางหลักอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนสจะอยู่ชั้นบนสุดครับ นอกนั้นก็จะมีห้อง Sauna / Stream และสวนดาดฟ้า ไปดูตึก N กันก่อน

ออกจากลิฟท์มาจะเจอสระว่ายน้ำก่อนเลยครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นฟิตเนส

สุดทางเป็นสวนที่สามารถ Take View แบบนี้ได้

มีห้องซาวน่า และสตีม

แวะไปดูที่ตึก S กันบ้างครับ ตึกนี้สูงถึง 31 ชั้นมีพื้นที่ส่วนกลางฟังก์ชั่นเดียวกัน แต่ขยายขนาดขึ้นเพื่อให้รองรับจำนวนยูนิตทั้ง 459 ยูนิตได้

ตึก S พิเศษตรงที่ชั้นล่างมีส่วนของ Co-Working Space ที่นอกเหนือจาก Lobby มาให้ด้วย (คนที่อยู่ตึก N มาใช้งานได้นะครับ)

ดูหรูหรา และมีเก้าอี้นั่งสนทนาเยอะดี

ล้อบบี้คล้ายตึก N

มีห้อง Mail Box ที่มีขนาดใหญ่กว่า

เรากดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 31 เลบเพราะว่าที่นี่ไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูครับ

จะพบกับสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่มีขนาดใหญ่กว่าตึก N

ออกกำลังไปมองวิวย่านพระโขนงไป

สระว่ายน้ำเป็นรูปตัว L เห็นวิวสองด้านทั้งทางฝั่งอ่อนนุช-บางนา

และบางกะเจ้า

สวยงาม

มีห้องซาวน่า

สตีม

และสวนลอยฟ้าสีเขียวสวยงาม

ถัดไปก็เป็นอาคารจอดรถ

จบแล้วครับสำหรับการพาทัวร์โครงการ Life Sukhumvit 48 ในครั้งนี้ ซึ่งในวันที่ผมเข้าไปก็ต้องบอกว่านอกจากโครงการนี้จะฮอตทั้งในด้านการขายแล้ว (คือมีคนมาซื้อรีเซลรอทำสัญญาที่ล้อบบี้เยอะมาก) และในขณะเดียวกันก็มีเจ้าของห้องมารอตรวจห้องค่อนข้างเยอะมากด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งจากการวิเคราะห์ของผมก็คงเป็นเพราะว่าโครงการ Life Sukhumvit 48 คือคอนโด High Rise ที่ตั้งอยู่ใน Mid Sukhumvit ใกล้รถไฟฟ้า BTS จากแบรนด์ดังที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการลงทุนทั้งในหมู่คนไทยและต่างชาติ โดยที่มีราคาขายที่ต่ำกว่าตลาดคอนโดในย่านนี้ ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนั่นเองครับ ด้วยราคาเปิดตัวไม่ถึงสามล้านบาทคุณจะไปหาแบบนี้ที่ไหนได้ อ้อ อาจจะมีบ้างในย่านนี้แต่ก็ต้องเข้าไปในซอยย่อยของซอยลึกและเป็นคอนโด Low Rise หรือไม่ก็ต้องไปหาที่สถานีที่ไกลออกไปในช่วง Outer Sukhumvit เป็นคุณถ้าต้องทำงานในย่านพระรามสี่ – เอกมัย – ทองหล่อ และมีงบประมาณในการซื้อระดับนี้ คุณจะเลือกอยู่สถานีไหน?

ด้วยการจัด Space และจัดวาง Lay out ของโครงการที่เน้นการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลายอย่างในห้องเดียว และการมี Rooftop Facility ที่หรูหราและจัดเต็มๆ กว่าใคร จึงทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจมากที่สุด จนปิดการขายได้ในทันที่ที่เปิดขาย และทางเอพีก็หวังว่าคนซื้อจะมาแย่งกันรีบโอน รีบเข้าอยู่เช่นเดียวกัน

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะได้ซื้อห้องรีเซลราคาดีงามจาก BC เพราะว่ามีหลายห้องที่เจ้าของห้องขายต่อโดยเอากำไรแค่หลักหมื่น แถมทาง BC ยังมี Exclusive Promotion ที่มอบให้เฉพาะกับผู้ที่ซื้อห้องกับ BC เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Promotion ฟรีค่าใช้จ่าย ณ วันโอน และข้อเสนอ ดอกเบี้ยต่ำสุด เริ่มต้น 0.5% แบบหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว พร้อมผ่อนถูกเพียงล้านละ 1,500 บาท นาน 1 ปี*

โดยเท่าที่ผมเช็ดดูใน http://www.bkkcitismart.com/

ก็จะพบว่าห้องที่ถูกที่สุดมีราคาเพียง 2.85 ล้านเท่านั้นสำหรับห้องขนาด 30 ตรม. ใครสนใจก็รีบไปติดต่อนะครับ ขอกระซิบดังๆว่าวันที่ผมไปดูโครงการมีคนมาสอบถามถึงห้องเช่าด้วยล่ะ แต่ว่ายังไม่มีใครโอนเลย ก็เลยยังไม่มีห้องพร้อมปล่อยเช่าครับ

Life สุขุมวิท 48 ใกล้รถไฟฟ้า 3 สถานีถึงเอ็มควอเทียร์

CONNECT TO THE NEXT STEP OF LIFE