หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ ที่ราคายังไม่แพงมากนัก สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ในเขตกรุงเทพชั้นใน โดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าจะต้องเป็นเส้นสุขุมวิท หรือสีลม…ทำเลรอบๆสถานีราชเทวีดูจะตอบโจทย์ดังกล่าวมากที่สุดเพราะไม่ไกลจากย่านการค้าสำคัญอย่างประตูน้ำ และสยาม อีกทั้งยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าแล่นผ่าน

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ขายดีคือไม่ไกลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนมีชื่ออื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนี้ เพราะผู้ปกครองหลายรายซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เพื่อให้ลูกหลานใช้เป็นที่พักอาศัยรวมทั้งถือว่าเป็นการลงทุนด้วย เพราะว่าเมื่อลูกหลานเรียนจบก็สามารถขายต่อได้ในราคาที่สร้างผลตอบแทนมากพอสมควร

ไอดีโอ คิว ราชเทวี (Ideo Q Ratchathewi) คอนโดพร้อมเข้าอยู่ บนทำเลกลางใจเมืองอย่างราชเทวี ที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบการคมนาคมที่รายล้อมเพียง 300 เมตรจาก BTS ราชเทวีและ 700 เมตรจาก Airport Link พญาไท และในอนาคตกับรถไฟฟ้าสายสีส้มหน้าโครงการ ไปยังทุกจุดหมายทั้งแหล่งงาน การศึกษา แหล่งชอปปิ้ง ระดับเมืองที่ครบครัน อาทิ ศูนย์กลางการค้าชั้นนำ อย่าง สยามพารากอน สยาม เซ็นทรัลเวิลด์ หรือใกล้แหล่งค้าขายใจกลางกรุงเทพอย่างประตูน้ำ อีกทั้งยังมีสถานศึกษารายล้อม ทั้งจุฬาฯ เตรียมอุดม สาธิตปทุมวัน รวมทั้งแหล่งกวดวิชาย่านพญาไท

ไอดีโอ คิว ราชเทวี เป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ใน Brand Portfolio ของ ไอดีโอ คิว โดยอนันดาฯ ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นแบรนด์ที่มีความพรีเมียมรองลงมาจากแบรนด์แอชตัน

รูปแบบการออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์น และสร้างความแตกต่างด้วยเส้นสายทั้งเส้นโค้ง เส้นตรง เส้นตัด ที่ทำให้เกิดรูปร่างอาคารที่โดดเด่น บนถนนเพชรบุรี ติดกับซอยเพชรบุรี 9 ที่สามารถเห็นจาก BTS ราชเทวีได้ ด้วยระยะทางเพียง 300 เมตร

เป็นโครงการที่ปัจจุบันสร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่  เหลือขายจากโครงการอีกเพียง 3 Units จากทั้งหมด 323 Units บนพื้นที่ 1-2-30.4 ไร่ 37 ชั้น ชั้น 2-7 เป็นพื้นที่จอดรถ 169 คัน ไม่รวมซ้อนคัน คิดเป็นร้อยละ 52

โดยชั้น G เป็นส่วนของ Lobby, Mail Box และมี shop 1 ร้านที่จะอยู่แทนพื้นที่ sale office หน้าโครงการ ซึ่งจะเป็น 7-ELEVEN Premium ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้

การออกแบบตกแต่งส่วนของ Lobby เป็นแนวโมเดิร์น ใช้เส้นสายเหมือนกับภายนอกอาคาร แม้จะดูล้ำๆอวกาศ แต่ก็เพิ่มเสน่ห์ด้วยเส้นสายที่แสดงถึงความเคลื่อนไหวอันต่อเนื่อง ที่ร้อยเรียงพื้นที่ Lobby ที่ตั้งโซฟาไว้รับแขก 2 ชุด ชุดละ 4 ที่นั่ง พร้อมเคาท์เตอร์ติดต่อ สไตล์บาร์อีก 3 ที่นั่ง เข้าไว้ด้วยกัน

เส้นโค้งจาก Lobby นำทางสู่พื้นที่ Mail Box ที่เป็น step เส้นโค้ง ลงไปจากพื้นโถง Lobby เพื่อแยกสัดส่วนการใช้งาน เพิ่มความ Privateให้กับผู้ใช้งาน และเป็นห้อง Mail Box ที่กว้างขวางมากทีเดียวสำหรับผู้อาศัยทั้ง 323 Units ที่ออกแบบให้แสงธรรมชาติส่องถึง ทำให้เป็นการลด Step ที่ไม่อับ และโปร่งโล่งทีเดียว ถัดจาก Mail Box อีกทางเป็นโถงลิฟท์ที่เข้าสู่อาคาร มีลิฟท์ให้บริการ 2 ตัว ที่สามารถเข้าได้ทั้งจากที่จอดรถ และผ่าน Lobby และลิฟท์ Service อีก 1 ตัวแยกกัน

ตอนนี้โครงการพร้อมเปิดให้ชมห้องจริงวิวจริงบนอาคารแล้วครับ

มาถึง 3 ห้องสุดท้ายของโครงการที่เหลืออยู่เป็นห้องตกแต่งเฟอร์ครบเพื่อใช้เป็นห้องตัวอย่าง 1 ห้องที่ชั้น 12 และห้องเปล่า 2 ห้อง ที่ชั้น 12A

ข้อดีของห้องที่ ไอดีโอ คิว ราชเทวี คือ ทุกห้องมีระเบียง 2 ชั้น ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน และเพิ่มพื้นที่ใช้งานที่ระเบียงได้มากขึ้น

แปลนของชั้นที่พักอาศัยของทุกชั้นที่นี่เหมือนกันหมด คือเป็นห้องล้อมทางเดินเป็นรูปตัว F กลับด้าน คือออกจากโถงลิฟท์ มีปีกขวา ด้านทิศใต้ เป็นทางเดินตรงปิดทางด้วยห้องปลายทางเดิน และปีกด้านซ้าย ด้านทิศเหนือ เป็นทางเดิน 3 ช่วง แบ่งช่วงด้วยการเลี้ยวของทางเดิน

ห้องแรกอยู่ที่ปีกซ้าย ด้านทิศเหนือ อยู่ทางเดินช่วงที่ 2 คือช่วงกลาง

เป็นห้อง Showroom 1Bedroom 34 Sq.m. เป็นห้องที่ชั้น 12 วิวห้องที่ทิศเหนือ (รหัส 05) หน้าห้องมีเลขที่ห้องติดอยู่พร้อมกริ่งไฟฟ้าที่ผนังข้างประตูห้อง

ประตูห้องเป็นระบบ Keycard ของ Yale

ภายในห้องแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน เกือบเท่ากัน คือพื้นที่ส่วน Living area และพื้นที่ห้องนอน

ความสูงทั้งห้องอยู่ที่ 2.65 เมตร โดยบริเวณทางเข้ามี Drop ฝ้าเฉพาะบริเวณทางเข้า

ส่วนแรกเป็นพื้นที่ Living area ติดกับประตูทางเข้า ด้านซ้ายเป็นเคาท์เตอร์ครัว ส่วนด้านขวาเป็นตู้สำหรับเก็บของ หรือดัดแปลงเป็นที่เก็บรองเท้าได้และถัดมาเป็นที่เว้นไว้สามารถวางตู้เย็นได้

ชุดครัวด้านซ้ายมือเป็น เคาท์เตอร์ Build in มีตู้เก็บของด้านล่าง และตู้ใต้ซิ้งมีถังขยะติดฝาตู้ให้  บานเปิดปิดแบบ Soft close เพื่อความเป็นระเบียบ ด้านบนTopปูยาวเก็บขอบผนัง มีฝาอ่างล้างจานปิดเมื่อไม่ใช้งาน และอีกด้านเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวของ Mex ด้านบนฝังที่ดูดควันและเจาะช่องสำหรับวางไมโครเวฟที่เหนืออ่างล้างจาน

น่าเสียดายเล็กน้อยที่พื้นห้องส่วนครัวไม่ได้ออกแบบให้แยกตัวพื้นห้องสำหรับทำครัวและสำหรับห้องนั่งเล่นที่ชัดเจน ทั้งห้องจึงปูด้วยลามิเนตทั้งหมด

พื้นที่ส่วนครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นที่ออกแบบให้ยาวเชื่อมต่อระเบียง

ส่วนของห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ข้างตู้เย็นวางโต๊ะทานข้าวตัวเล็ก สำหรับ 2 คน วางเข้ามุมอยู่ สามารถแยกส่วนออกมาเป็นโต๊ะและเก้าอีก และประกอบเก็บเพื่อประหยัดพื้นที่

ระหว่างพื้นที่ห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่น มีชุดโซฟาสีครีม สำหรับ 2 คน วางยาว หันเข้าหาผนัง ที่ Build in เป็นชั้นวางทีวีแบบติดผนัง และมุมตกแต่งห้องเล็กๆ ของใช้กระจุกกระจิก  เหนือที่ติดตั้งทีวีเป็นแอร์ Daikin inverter ติดผนัง 1 ตัว

ต่อจากส่วนห้องนั่งเล่น มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเชื่อมต่อไปที่พื้นที่ระเบียง ที่เป็นระเบียง 2 ชั้น คือนอกจากประตูเลื่อนระหว่างห้องนั่งเล่นและระเบียงแล้ว ยังมีหน้าต่างที่ระเบียง เพื่อเปิดปิดเมื่อต้องการ หรือไม่ต้องการใช้งาน

ที่ระเบียง วางชุดโต๊ะเก้าอี้ Out door เป็นไม้ระแนงประกอบ ไว้ให้สำหรับเอนหลังชมวิวด้านนอก ซึ่งวิวของห้องนี้เป็นวิวด้านทิศเหนือ ที่มองออกไปเห็นสระว่ายน้ำของอาคารคอนโดเพชร9

ระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีประตูบานเลื่อนที่เก็บเรียบร้อยอยู่หลังผนังครัว ที่เลื่อนปิดสำหรับกั้นห้องเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวได้ หรือเปิดสุดเพื่อเชื่อมต่อการใช้งานพื้นที่2ส่วนได้ ก็จะทำให้ห้องดูกว้างและเชื่อมต่อกัน

ในส่วนของห้องนอนแบ่งพื้นที่เป็นส่วนนอนและส่วนห้องน้ำที่ด้านซ้ายมือ หลังผนังเคาท์เตอร์ครัว

ห้องนอนออกแบบให้ดูโมเดิร์น ด้วยโทนสี Earth tone มีผนัง Build in เป็น lighting ให้แสงอ่อนๆยามค่ำคืน ตัดกับชุดเตียง ที่เป็นโทนสีดำ เทา ที่หัวเตียงมีโต๊ะเข้าชุดกับผนังหัวเตียง  ยื่นออกมาเป็น space เล็กๆ พร้อมเก้าอี้สีดำไว้นั่ง เป็นมุมสำหรับจดบันทึก วางหนังสือ หรือวาง Notebook คิดงานมุมเล็กๆได้

หรือจะขยับไปนั่งชมวิวมุมห้องที่อีกด้านของหัวเตียงก็ได้ เพราะเป็นมุมกระจกบานสูง ที่วางเข้ามุมเป็นวิวหัวเตียง มีเก้าอี้เอนหลังสีขาววางไว้ให้ได้นั่งชมวิว หรือจัดเป็นมุมทำงานที่เห็นวิวนอกเมืองก็น่าจะได้ แต่อาจเข้าออกยากไปสักหน่อย เพราะ เตียงที่ให้มาเป็น Queen size ก็ดูจะคับแคบ เต็มพื้นที่ห้องนอนไปแล้ว มุมผนังเป็นที่ติดตั้งทีวีแขวนผนัง และแอร์ไดกิ้น Inverter สำหรับบริเวณห้องนอน

ที่อีกด้านของห้องนอนเป็นส่วนของห้องน้ำ โดยที่ผนังติดประตูห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้า Build in เก็บความสูงจรดเพดาน เป็นตู้บานสไลด์ ครึ่งไม้และกระจก เป็นระบบปิดแบบ Soft close

ส่วนด้านในห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง ด้วย shower box บานสวิง ที่กั้นยาวจากผนังถึงผนัง บริเวณห้องน้ำที่เป็นมุมเสา มีเพิ่มชั้นกระจกติดผนังสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำของ VRH ให้ 2 จุดที่มุมเสา และอีก1จุดของ COTTO ที่ใต้ Shower

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงสี่เหลี่่ยม พร้อมชั้นเก็บด้านล่าง เหนืออ่างล้างหน้าให้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ COTTO

มาถึงห้องที่ 2 เป็นห้องเปล่า 1 Bedroom ขนาด 34 Sq.m. ที่ชั้น 12A (รหัส 01) เป็นห้องสุดทางเดิน Type เดียวกับห้อง Showroom ห้องแรกที่กล่าวไป แต่ห้องนี้อยู่ทางทิศใต้ เป็นวิวด้านหน้าโครงการ เห็นตัวเมืองฝั่งสยามพารากอน

แปลนห้องเป็นเหมือนกับห้องตัวอย่างห้องแรก คือเปิดประตูเข้ามาเป็นส่วนของครัว และพื้นที่นั่งเล่น

มีประตูบานเลื่อนเปิดปิด กั้นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน เคาท์เตอร์ครัวเป็น Build in มีตู้เก็บของด้านล่าง บานเปิดปิดแบบ Soft close ด้านบนTopปูยาวเก็บขอบผนัง มีฝาอ่างล้างจานปิดเมื่อไม่ใช้งาน และอีกด้านเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมที่ดูดควันของ Mex และเจาะช่องด้านบนสำหรับวางไมโครเวฟที่เหนืออ่างล้างจาน

ที่เพดานมีรางและกล่องเก็บบานประตูเลื่อน และที่หน้าต่างและประตูออกระเบียง ก็มีรางม่านมาให้ เมื่อเข้าห้องจริงทางโครงการให้ม่านมาพร้อมใช้งาน

ห้องนี้อาจดูโล่งกว่าห้องตัวอย่างแต่งพร้อมเฟอร์ฯ เพราะตัวห้องตัวอย่าง มีการ set ผนัง Build in ทั้ง2ด้าน จึงมีมิติที่เพิ่มขึ้น

ถ้าดูจากห้องเปล่า พื้นที่ห้องนอน ถ้าขยับพื้นที่ดีๆ ก็สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ พร้อมมุมทำงาน ก็ยังเหลือเฟือ ส่วนพื้นที่หน้าทางเข้าห้องน้ำ ก็ทำเป็นส่วนแต่งตัว ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังได้

ส่วนในห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง ด้วย shower box บานสวิง ที่กั้นยาวจากผนังถึงผนัง ส่วน shower box ห้องนี้จะกว้างกว่าห้อง Showroom เนื่องจากไม่ติดส่วนของผนังเสาอาคาร จึงได้พื้นที่กว้างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีชั้นกระจกติดผนัง 2 จุดแบบห้องตัวอย่าง เนื่องจากจะให้เฉพาะห้องที่เป็นมุมเสาเท่านั้น

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมชั้นเก็บด้านล่าง เหนืออ่างล้างหน้าให้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ COTTO เช่นกัน

ห้องสุดท้ายอยู่ติดกัน เป็นห้องสุดทางเดิน 2 ห้องนอน ขนาด 60 Sq.m. ห้องสุดท้ายของโครงการ (รหัส 02)

เป็นห้องที่อยู่ด้านทิศตะวันตก แต่ได้วิวทั้งทิศตะวันตกที่เป็นวิวด้านรถไฟฟ้าราชเทวี และวิวด้านทิศใต้ในส่วนของห้องนอน ที่เป็นวิวด้านสยามพารากอน

ภายในห้องแบ่งเป็นพื้นที่ 3 ส่วน คือ ห้องนั่งเล่นและห้องครัวที่พื้นที่กลางห้อง และด้านซ้ายและขวาของห้องเป็นห้องนอน

ด้านซ้ายของประตูมีผนังยาว 1 ใน 3 ของห้อง ที่มีพื้นที่ด้านข้างระหว่างประตูและผนัง เหลือพอสำหรับ Build ชั้นเก็บของ ชั้นวางรองเท้าได้แบบยาวเต็มผนัง

ด้านหลังผนังเป็นส่วนของครัว Build in เข้ามุมยาวเต็มพื้นที่ มีตู้เก็บของด้านล่าง บานเปิดปิดแบบ Soft close ด้านบนTopปูยาวเก็บขอบผนังทั้ง3 ด้าน มีฝาอ่างล้างจานปิดเมื่อไม่ใช้งาน และด้านซ้ายเป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมที่ดูดควันของ Mex และเจาะมีชั้นด้านบนสำหรับวางไมโครเวฟและอุปกรณ์ครัวที่เหนืออ่างล้างจาน และเคาท์เตอร์ครัว

แต่พื้นที่ครัวไม่ได้คิดเผื่อสำหรับวางตู้เย็นแบบเข้ามุม ลงล็อคกับเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา ถ้าจะวางตู้เย็นในพื้นที่ครัว ก็น่าจะวางได้ที่ด้านขวาของครัวตามตำแหน่งปลั๊กไฟที่โครงการให้มา หรือไม่ก็ต้องหาพื้นที่มุมอื่น ของห้องนั่งเล่น ที่ตกแต่งโต๊ะอาหาร หรือเป็นส่วนที่เชื่อมกับครัวเพื่อให้เกิดพื้นที่ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีแอร์ Daikin inverter มาให้ 2 ตัว ซ้ายขวา เชื่อมไปยังระเบียง2ชั้น ที่น่าจะตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่น ดูทีวี ชมวิวนอกระเบียงได้ ส่วนอีกด้านเป็นพื้นที่เข้ามุม ที่มีกรอบบานกระจกพร้อมหน้าต่างบานเปิดไว้ให้ อาจปรับเป็นพื้นที่นั่งทานอาหาร หรือมุมทำงานก็น่าจะได้ เพราะมองเห็นวิว เห็นรถไฟฟ้า น่าจะเหมาะกับการใช้งาน

ด้านซ้ายของห้องเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่

ภายในห้องมีหน้าต่างให้2มุมพร้อมรางม่าน ผนังด้านขวามีแอร์ให้1ตัว

ห้องนี้สามารถเห็นวิวได้2ทิศทาง คือวิวด้านรถไฟฟ้าราชเทวี และวิวด้านหน้าโครงการด้านพารากอน

ภายในห้องสามารถจัดวางเตียง King Size ได้แบบพอดีๆ

มีงานระบบที่วางไว้ให้สำหรับติดตั้งทีวีที่ผนังใต้แอร์ ซึ่งถ้าจะวางเตียงใหญ่ ก็น่าจะต้องใช้วิธีติดทีวีแขวนผนัง หรือ Build แท่นวางทีวีบางๆยึดติดผนังก็น่าจะประหยัดพื้นที่ไปได้

ด้านซ้ายของของห้องนอนเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง ด้วย shower box บานสวิง ที่กั้นยาวจากผนังถึงผนัง บริเวณห้องน้ำที่เป็นมุมเสา มีเพิ่มชั้นกระจกติดผนังสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำของ VRH ให้ 2 จุด  และมีอีก1จุดของ COTTO ที่ใกล้ฝักบัว

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมชั้นเก็บด้านล่าง เหนืออ่างล้างหน้าให้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ COTTO

เช่นเดียวกับพื้นที่ห้องนอนปีกขวาของยูนิตนี้ ด้านขวาเป็นส่วนของห้องน้ำ ที่มีประตูเปิดปิด 2 ประตู จากพื้นที่ห้องนั่งเล่น และจากพื้นที่ห้องนอน

ห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง มี shower box บานสวิง กั้นยาวจากผนังถึงประตูห้องอีกด้าน บริเวณห้องน้ำที่เป็นมุมเสา มีเพิ่มชั้นกระจกติดผนังสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ 2 จุด

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยม พร้อมชั้นเก็บด้านล่าง เหนืออ่างล้างหน้าให้กระจกบานใหญ่เต็มผนัง โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ COTTO เช่นเคย

ห้องนอนด้านขวาของยูนิตมีพื้นที่่มุมค่อนข้างเยอะ แต่ก็สามารถวางเตียงนอนแบบแนวขวางได้ ใช้พื้นที่มุมห้องริมหน้าต่างเป็นมุมทำงาน ส่วนหนังห้องอีกด้านเป็นที่ติดตั้งทีวี และมีแอร์ติดผนังมาให้อีก 1 ตัว

และใช้พื้นที่หน้าประตูห้องน้ำ เป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า และมุมแต่งตัว

หรือจริงๆแล้ว ถ้าใครเป็นครอบครัวเล็ก ห้องนี้สามารถปรับเป็นห้องนอนแขก หรือ ห้องทำงานก็ยังได้ จะทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น

ส่วนใหญ่ทุกห้องมีผนังเปิด–ปิดที่มุมห้องติดกับระเบียง เนื่องจากทางโครงการทำพื้นที่เก็บ Compressor air ไว้ที่ระเบียงที่เก็บอย่างเป็นระเบียบ จึงทำให้บางช่วงมีผนังทึบด้านติดกับหน้าต่างประตู ที่ดูจะเสียวิวไป แต่ก็แลกกับความเป็นระเบียบในการจัดการพื้นที่บางส่วน

ดูห้องที่เหลือของโครงการมาครบแล้ว ลองมาดูพื้นที่ส่วนกลางเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกสักหน่อย

พื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 ชั้น คือพื้นที่ออกกำลังกายที่ชั้น 37 และพื้นที่ Social Club ที่ชั้น 8

มาเริ่มที่ชั้น 8 ทั้งชั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และงานระบบ พื้นที่ส่วนกลางของชั้น 8 มี 3 ส่วน คือ Library , Social Club และพื้นที่สวน

จากโถงลิฟท์ ด้านขวาเป็นส่วนของ Library & Business Center ที่ออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงสู่สวนด้านนอกได้ และด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นกระจก ทำให้แสงธรรมชาติส่องถึงพื้นที่

ด้านในมีชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งประชุมหรืออ่านหนังสือ 2 Set สำหรับ 4 คนและอีกมุมสำหรับ 2 คน

ปลายสุดของห้อง มีโต๊ะประชุมยาว สำหรับนั่งประชุม นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ ที่สามารถเปิดปิดประตูกั้นพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวได้ สำหรับ 8 ท่าน

ถัดมาจากห้อง Library อีกด้านเป็นส่วนของ Social Club ที่ด้านหน้าเป็นส่วนของพื้นที่ Laundry ส่วนกลางที่เตรียมไว้ให้

ในส่วนของ Social club ออกแบบให้เชื่อมโยงสู่สวน และแสงธรรมชาติเข้าถึงเช่นกัน

มีพื้นที่ 3 ส่วนหลักๆ ประกอบด้วย

มุมซ้ายของห้องเป็นห้องประชุมแบบไม่เป็นทางการ 8 ที่นั่ง พร้อมโซฟาเข้ามุม สำหรับ 4 ท่าน ที่สามารถใช้นั่งพูดคุย นั่งเล่น อ่านหนังสือได้ สามารถเปิดปิดเป็นห้องส่วนตัว หรือเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆได้

ติดกันเป็นพื้นที่ Game area ที่เข้ามุมเห็นวิวเป็นมุมโค้ง เชื่อมกับ เคาท์เตอร์บาร์เล็กๆที่มุมหน้าต่าง

และพื้นที่ส่วนสุดท้าย คือพื้นที่นั่งเล่น ที่โครงการจัดวางพื้นที่อยู่ติดริมประตูเชื่อมต่อกับสวน มีมุมให้นั่ง 3 มุมมุมละ4ที่นั่ง เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ระเบียง ที่กั้นด้วยหน้าต่างบานเปิด ที่สามารถเปิดเชื่อมพื้นที่ด้านในและระเบียงริมสวนได้ หรือถ้าใครชอบความเป็นธรรมชาติ ก็สามารถใช้พื้นที่ระเบียง ที่โครงการจัดวางโต๊ะเก้าอี้สำหรับพื้นที่ด้านนอกไว้รองรับล้อมรอบพื้นที่สวนเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับสวนแนวตั้งภายนอกอาคาร

สุดท้ายคือ Hi light ของพื้นที่ส่วนกลาง ที่ชั้น 37 เป็นสระว่ายน้ำวิวเมือง และฟิตเนสลอยฟ้า ที่ทำให้คุณได้ออกกำลังกายและชมวิวไปพร้อมๆกัน

ที่ชั้น 37 ประกอบไปด้วย ส่วนสตีมซาวน่า แยกหญิงชาย (ห้องผู้ชายเป็นซาวน่า ห้องผู้หญิงเป็น สตีม)

ถัดขึ้นมา เป็นส่วนของสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร จากขอบอาคารถึงขอบอาคาร ระเบียงทางเดินมีเก้าอี้ริมสระสไตล์โมเดิร์น วางเรียงให้นอนรับลม ชมวิวเมือง ยามค่ำคืน

อีกปลายด้านนึงของสระว่ายน้ำ เป็นมุมนั่งรับลมชมวิวยามเย็น เป็นมุมที่เห็นวิวได้โดยรอบ ตกแต่งกันลมกันฝนด้วย หลังคากระจก ที่เชื่อมต่อไปยังฟิตเนสที่อยู่ด้านบนเหนือสระว่ายน้ำ

ตัวพื้นที่ฟิตเนส ต้องเดินขึ้นบันไดไปจากพื้นที่สระว่ายน้ำอีก1ชั้น

เป็นฟิสเนตที่เห็นวิวได้โค้ง 180 องศา ทั้งวิวสระว่ายน้ำ และวิวเมืองโดยรอบ พื้นที่ฟิตเนส มีอุปกรณ์ออกกำลังกาย ทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องวิ่งวงรี หรือมุม weight ก็มีมาให้ครบครัน

พื้นห้องและเพดานดรอปฝ้า ยังคงเล่นลูกเล่นของเส้นสายโค้งในการแบ่ง space การใช้งานพื้นที่และ texture วัสดุที่ต่างกันแต่ก็ยังกลมกลืนกันอยู่

เป็นตึก High Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่หมาดๆ ที่ราคาเหมาะสม และเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดในย่านราชเทวี

เป็นที่ทราบกันดีว่ายอดขายของคอนโดมิเนียมที่อยู่ในบริเวณนี้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 85% โดยโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อปีที่แล้วก็ขายหมด 100% ตั้งแต่วันเปิดตัว ทั้งๆที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงถึง 2แสนปลาย แพงกว่าราคารีเซล ณ ปัจจุบันของ ไอดีโอ คิว ราชเทวี ถึงตารางเมตรละแสน!!

ยอดขายของคอนโดในบริเวณแยกราชเทวีถือว่าค่อนข้างสูงมาก เพราะว่าทำเลและศักยภาพของพื้นที่ ประกอบกับโครงการที่เปิดขายใหม่ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนยูนิตไม่มากนัก โครงการที่เปิดขายในปีพ.ศ.2557 ส่วนใหญ่ก็มีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง ในขณะที่โครงการที่เปิดขายก่อนหน้านี้ล้วนขายหมดแล้วทั้งสิ้น บางโครงการขายหมดในเวลาไม่นานด้วยซ้ำไปโดยเฉพาะโครงการที่เปิดขายในปีพ.ศ.2555 – 2556 คงเหลือแต่โครงการที่เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2557-2558 ที่ยังคงเหลือขายอยู่

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คอนโดมิเนียมในบริเวณนี้มียอดขายสูงคือ มีนักลงทุนเชื่อว่าทำเลนี้มีศักยภาพในการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเอาไว้เก็งกำไรทั้งระยะสั้น และระยะยาว ทำให้โครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว หากเป็นการขายต่อหลังโอนไปแล้วราคาก็จะดีดตัวขึ้นสูงกว่า 30-50% จากราคาแรก และหากปล่อยเช่า ค่าเช่าที่ได้รับจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 35 – 45 ตารางเมตร และมากถึง 70,000 หรือ 80,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องสองห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อัตราผลตอบแทนที่ได้รับของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ในกรณีที่ปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 4 – 6.5% ต่อปี ขึ้นอยู่กับต้นทุนของเจ้าของห้อง อีกทั้งบริเวณสถานีราชเทวีถือว่าอยู่ใกล้เคียงกับสถานีสยามซึ่งเป็น Shopping Destination ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯมาช้านาน บรรดาโรงแรมแถวแยกปทุมวันก็มีอัตราการเข้าพักที่ค่อนข้างสูง แต่บรรดาคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่บริเวณสถานีสยามก็มักจะเป็นคอนโด low rise อยู่ในบริเวณซอยเกษมสันต์ เนื่องจากที่ดินที่เป็น Freehold นั้นแทบจะไม่มี ดังนั้นสถานีราชเทวีจึงถูกมองว่าเป็นสถานีที่สามารถทดแทนสถานีสยามได้

และในอนาคตอันใกล้ ก็จะมีโครงการ Mix Used อย่างน้อย 2 โครงการที่จะเกิดขึ้นในทำเลนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์ส่วนพระมหากษัตริย์ตรงหัวมุมถนนเพชรบุรี-พญาไท ก็จะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน โดยพัฒนาในนามบริษัทในเครือกลุ่มจุฬางกูร อย่างไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ และพันธมิตรอีก 2 รายคือ แสงฟ้าก่อสร้าง และเสนาดีเวลลอปเม้นท์ และที่ดินอีกแปลงของตระกูลจุฬางกูรติด BTS ราชเทวี ก็น่าจะพัฒนาเป็นโครงการใหญ่เช่นกัน

ราคาของห้องโครงการที่เหลืออยู่ 3 ห้อง อยู่ที่ประมาณ 170,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร อาจจะดูค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับราคาเมื่อครั้งตอนเปิดตัวราวๆตรม.ละแสนต้น-กลาง และก็ยังถือว่ามีราคาที่สูงกว่าการซื้อห้องรีเซล ที่ปัจจุบันนี้ขายกันอยู่ที่ราวๆ ตรม.ละแสนห้ากว่าๆ โดยหากซื้อกับตัวแทนการขายห้องรีเซลของอนันดาฯอย่างเป็นทางการ อย่าง The Agent ก็จะมีโปรโมชั่นให้ cash back 10,000 บาทและฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน (สอบถามโปรโมชั่นกับเซลล์หน้างานอีกทีนะครับ)

ซึ่งถ้าเทียบราคาต่อตารางเมตร กับคอนโดในย่านนี้ ถือว่า ไอดีโอ คิว ราชเทวี เป็นโครงการ High rise พร้อมอยู่ที่ราคาเหมาะสม และเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดในย่านราชเทวี เพราะถ้าเทียบราคา อย่าง Condolette Ize Ratchathewi ราคา resale ก็อยู่ที่ 178,528 บาท/ตร.ม. Ideo Q Siam-Ratchathewi, PYNE by Sansiri ราคาก็อยู่ที่ตารางเมตรละ 190,000 ต้นๆ – สองแสนกว่า ไม่ต้องพูดถึง The Line ราชเทวี ที่ขายหมดปิดจ๊อบไปภายในสองวันด้วยราคาทะลุสองแสนกลางๆต่อตรม. ขยับไปไกลเลยแยกพญาไทก็ยังมี M Phayathai ที่ราคาปัจจุบันสูงถึง 198,000 ต่อตารางเมตร…นี่แสดงให้เห็นถึงพลานุภาพของทำเลที่มีความเป็นพรีเมียมยอดนิยมในหมู่นักลงทุน อย่างแท้จริง

ภาพรวมของโครงการ ภายในห้องอาจดูเล็กและไม่ค่อยลงตัวกับพื้นที่มุมเสา มุมห้องอยู่บ้าง แต่ จุดขายน่าจะอยู่ ดีไซน์ของตึก และที่พื้นที่ส่วนกลางที่ให้ Rooftop Facilities เปิดรับวิวเมืองได้อย่างเต็มที่ รวมถึง Location ที่รายล้อมสถานศึกษา ย่านกวดวิชาหลักของกรุงเทพฯ เหมาะกับ Education Lifestyle กลางเมืองกรุงที่ไปไหนก็ง่าย สะดวก และที่สำคัญเป็นโครงการพร้อมเข้าอยู่หมาดๆในย่านราชเทวี

ไอดีโอ คิว ราชเทวี จึงถือว่ามีราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายที่สุดในย่านราชเทวี เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในย่าน ถูกกว่าคอนโดรุ่นน้องอย่าง Ideo Q Siam-Ratchathewi ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสองปีที่แล้วถึงเกือบตรม.ละ 50,000 บาท แถมยังห่างจากรถไฟฟ้าราชเทวีเพียง 300 เมตร และสามารถเข้าสู่แหล่งชอปปิ้งได้เพียงสถานีเดียว…เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ในบริเวณสยาม-ราชเทวี-พญาไท หรือเส้นเพชรบุรีตัดใหม่ นี่คือโอกาสอันดีในการช้อนซื้อของถูก บวกน้อย ซึ่งน่าจะมีเหลือขายอยู่หลายห้องในพอร์ตของ The Agent ณ ปัจจุบัน