ต่อทอง ทองหล่อ เมื่อ 19 January, 2017 เวลา 04.05 am
Prop score™: 3.5
คะแนนรีวิว: 0.0
0 รีวิว
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ
CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG
บริษัทผู้สร้าง
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
สถานที่
ถนนประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
สถานีรถไฟ BTS
-
สถานีรถไฟใต้ดิน
MRT ห้วยขวาง Distance 1,500 m.
Airport Rail Link
-
สถานี BRT
-
พื้นที่
13-0-45.5 ไร่
ชั้น
คอนโด High Rise 8 ตึก ความสูง 22-26 ชั้น
ยูนิต
ห้องพักอาศัย 1,907 ยูนิต บวกร้านค้า 7 ยูนิต
ที่จอดรถ
40% หรือ ประมาณ 700 คัน
ลิฟท์
N/A
สิ่งอำนวยความสดวก
Lobby, Mailbox แยกแต่ละอาคาร,ฟิตเนส,สนามบาสเกตบอลFarm & BBQ,สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 50 เมตร,ห้องอ่านหนังสือ,Home Theater
ประเภทยูนิต
ประเภท
CONDO
studio
22.57 - 23.65 ตร.ม.
1 bedroom
29.27 - 36.53 ตร.ม.
2 bedroom
-
3 bedroom
-
Duplex
-
Penthouse
-
ประเภทอื่นๆ
Combined Unit 44 ตรม.
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน
ประมาณ 2.6 เมตร
ราคาเริ่มต้น / ตรม.
95,259 บาท
ราคาเริ่มต้น / ยูนิต
เริ่ม 2.15 ล้าน
ค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ ตร.ม.
Sinking Fund fee
เงินกองทุน 500 บาท/ ตร.ม.
สร้างเสร็จ
2562
เว็บไซต์
http://www.stylishresidences.com/project_detail?lang=th&lang=en&lang=th&lang=th&lang=en&id=8
1739
CHAPTER ONE ECO รัชดา – ห้วยขวาง น่าอยู่ น่าซื้อ กับคอนโดตกแต่งครบ สไตล์ Scandinavian
วันนี้เราจะมารีวิวโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG (แชปเตอร์ วัน อีโค รัชดา-ห้วยขวาง) กันแบบแปลกใหม่ขึ้นมาเล็กน้อย จะพาไปดูไอเดียการตกแต่งภายในว่าเค้าแต่งห้องยังไงกันถึงดูน่าอยู่ขนาดนี้ อ่านจบปั๊บได้ไอเดียไปลองแต่งห้องของตัวเองทันที หรือถ้าอยากมี space ไว้แต่งห้องบ้างก็ลองติดต่อที่สำนักงานขายของ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG อยู่ในซอยประชาอุทิศ ใกล้ MRT ห้วยขวาง ที่โลเคชั่นนี้ครับ https://goo.gl/maps/D1PvhBRda3T2 อยู่ตรงข้ามคอนโดยูดีไลท์@ห้วยขวางสเตชั่น
ขอเล่าเกี่ยวกับโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG คร่าวๆ ก่อนนะครับเป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ที่กำลังจะกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่แห่งใหม่ของย่านห้วยขวางซึ่งเป็น New China Town of Bangkok ด้วยโครงการมีขนาดใหญ่ โครงการนี้จึงสามารถสร้าง Big Community ขึ้นมาได้ และจะช่วยส่งเสริมให้ย่านห้วยขวางคึกคักเพิ่มขึ้นและมีเม็ดเงินใช้จ่ายในย่านนี้มากและจะทำให้มูลค่าของอสังหารูปแบบต่างๆ ในย่านนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพราะมีผู้คนมาอยู่มากขึ้นนั่นเอง คอนเซปต์ดีไซน์ของโครงการคือ Eco City และ Scandinavian Design ที่จัดเต็มด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการแบบที่ว่าไม่ต้องออกไปไหนกันเลย เพราะมีครบทุกอย่างในที่เดียวกันไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ฟิตเนส โรงหนัง ลู่วิ่งออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ จากุชชี่ แปลงปลูกผัก สนามบาสเกตบอล ชมรมจักรยาน ห้องอ่านหนังสือ กิจกรรมเยอะเต็มที่ มีครบทุกความต้องการ แถมยังใกล้ MRT ห้วยขวาง เดินไปแบบชิลล์ๆ หรือจะขึ้นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ขึ้นสองแถวแดง แท็กซี่ก็ผ่านบ่อย หรือจะเลือกใช้ Shuttle Bus ของโครงการก็ยังได้
ราคาของ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG ณ ปัจจุบัน (เก็บข้อมูลเมื่อ ธันวาคม 2559) เริ่มต้นที่ 2.1 ล้านบาท สำหรับขนาด 22.57 ตร.ม. studio ชั้น 2 แต่ถ้าต้องการห้อง studio ชั้นสูงกว่าแต่คล้ายกันด้านขนาด 23.26 ตร.ม. ราคาจะประมาณ 2.39 ล้านบาท (ชั้น 17) ถ้าอยากได้ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.27 ตร.ม. 1Bedroom ก็ต้องมีอย่างต่ำเกือบ 3 ล้านครับ เพราะเขาขายอยู่ที่ 2.98 ล้านบาทที่ชั้น 4 ส่วนห้องขนาดห้อง 30.4 ตร.ม. 1 Bedroom ชั้น 4 อยู่ที่ประมาณ 3.1ล้านบาท แต่ถ้าอัพเกรดขึ้นไปชั้นสูงที่ชั้น 21 ราคาจะอัพขึ้นไปได้ถึง 3.299 ล้านบาท ถ้าอยากได้ห้องใหญ่ขึ้นอีก 36.53 ตร.ม. ราคาจะเริ่มที่ 3.699 ล้านบาท และมีแบบห้องใหม่! เป็น Combine room ขนาด 22 ตร.ม. รวมกัน 2 ห้อง (แยกโฉนด) รวมกันกลายเป็น 44 ตร.ม. ราคาอยู่เท่าๆ กับห้องStudio 2 ห้องรวมกัน ประมาณ 5 ล้านบาท
แอบเอาห้องแปลนห้อง combine มาให้ดูครับ แบบนี้ออกมาสดๆ ร้อนๆ
ซึ่งห้องแบบ Combine นี้ต้องเร่งด่วนจับจองเพราะมีจำกัดมากครับ โทรศัพท์ Call Center 1739 แล้วบอกติดต่อโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG (แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง) หรือเข้าเว็บไซต์นี้ครับ
http://www.stylishresidences.com/project_detail?lang=en&lang=th&lang=th&lang=en&id=8#pro_d_row2
เอาละครับ เรามาดูเรื่องดีไซน์และการตกแต่งภายนอก-ภายใน กันดีกว่าหน้าตาสำนักงานขายของโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG เป็นแบบนี้ครับ
Scandinavian Design คืออะไร เป็นสไตล์การออกแบบหนึ่ง เป็นการดีไซน์ที่เน้นไปที่การใช้งาน (Functionality) ความเรียบง่าย (Simplicity) และเส้นสายดูสะอาดตา (Clean lines) แนวคิดออกแบบแนวนี้มาจากคนในประเทศแถบสแกนดิเนเวียนได้แก่ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน เริ่มฮิตกันตั้งแต่ปี 1930s ถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี และสไตล์นี้ก็ยังคงนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน
วัสดุที่ใช้เป็นธรรมชาติและไม่ได้มีเส้นสายที่ดูซับซ้อน พอดูๆ ไปจะสบายตา คล้ายๆ งานออกแบบสไตล์ Zen ของญี่ปุ่นแต่มีจุดแตกต่างในเรื่องบริบทวัฒนธรรมและการใช้งานที่ต่างกันไป โดยสไตล์ Zen จะดูมีความสงบนิ่ง สมดุล แต่ Scandinavian ไม่ได้ต้องการความนิ่ง แต่เป็นสไตล์ที่มีคนใช้งานจริง มีเด็กมาวิ่งเล่นมีคนเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของและตัวงานออกแบบจริงเพราะมันใช้ได้จริง มีฟังก์ชั่นจริง แถมสวยด้วย และนี่คือจุดสำคัญของคำว่า Scandinavian Design ครับ…ตัวอย่างเช่น IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดนที่เรารู้จักกันดี
เรามาแอบดูแนวคิดการตกแต่งภายในห้องของโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG กันดีกว่าครับ
ห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.4 ตารางเมตร
เปิดประตูเข้าห้องมาเจอกับสีสันแบบนี้ เทรนด์การออกแบบแนว Scandinavian Design จะนิยมใช้สีขาว เทา ฟ้าอ่อนกับสิ่งของนุ่มนิ่มเช่นผ้า ม่าน หมอน โซฟาครับ ส่วนพื้นผนังเพดานประตูตู้โต๊ะตั่งเตียงคือส่วนที่เป็น hard surface ของหนักๆ แข็งๆ จะนิยมใช้สีธรรมชาติจากไม้สัก (Teak) ไม้โอ๊ค (Oak) ไม้สน (Pine) ซึ่งเป็นพืชพรรณที่ปลูกได้ดีในแถบสแกนดิเนเวียนครับ ดังนั้นมัณฑนากรประจำโครงการจึงเลือกใช้พื้นลามิเนตสีโทนน้ำตาลอ่อนที่จำลองมาจากสีของไม้Pine ทำให้ห้องดูสว่าง ดู Warm อบอุ่น ไม่ทึบอึดอัด ส่งผลให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกหนึ่งมิติครับ
แอบเปิดเฟอร์นิเจอร์ชุดครัวของโครงการนี้สักหน่อยครับ ก็จะใช้แนวคิด Functionality ในการออกแบบครับ เพราะตู้นี้ไม่ได้เก็บของปกติเหมือนโครงการอื่นๆ สังเกตที่ตู้ช่องซ้ายล่างจะมีรูระบายอากาศด้านล่างสีเทาๆ ตู้นี้คือตู้เก็บของและรองเท้า มีช่องระบายทำให้ไม่อับชื้น ถัดมาเป็นช่องวางไมโครเวฟที่ช่วยให้เราหยิบอาหารได้ง่าย ไม่ต้องเงยหน้าลุ้นว่าอาหารร้อนๆ ในชามจะหล่นใส่ตัวไหม มีลิ้นชักเลื่อนออกเก็บของได้ บานสุดท้ายขวาสุดเป็นพื้นที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดขนาดเล็กต่างๆ ส่วนด้านบนที่เราเห็นเป็นแสงไฟส่องลงมานั้นเค้าก็มีหลอดไฟพร้อมสวิตช์เปิดปิดให้ด้วย เราจะได้ไม่ต้องทำครัวแบบมืดๆ อีกต่อไป เพราะบางทีแสงจากเพดานห้องก็ไม่เพียงพอเพราะตัวของเราอาจจะบังแสงไฟ จะหั่นจะสับอะไรก็ต้องระวังมือโดนมีดบาด แต่ในเมื่อชุดครัวมีแสงไฟส่วนตัวแบบนี้ก็สบายหายห่วงไป
เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้เป็นสีขาว สีน้ำตาลที่เหมือนสีไม้ธรรมชาติ โซฟาสีเทา หมอนขาวเทาน้ำตาล ม่านเทาปนน้ำตาลนิดๆ ตรงตามคอนเซปต์ Scandinavian Design เป๊ะ ผ่าน! นอกจากนี้จะเห็นว่ามีการปูพรมที่พื้นแค่บางส่วน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกจุดเด่นของการตกแต่งสไตล์นี้เพราะว่าเค้าจะไม่นิยมปูพรมเต็มห้องแบบสไตล์ประเทศอื่น แต่จะเลือกพรมที่ขนาดจำกัดลงมาเพื่อเป็นตัวช่วยกำหนดขอบเขตของspace เหมือนสร้างห้องใหม่โดยที่ไม่ต้องกั้น Partition แบ่งชัดเจน จากภาพด้านล่างทำให้เรารู้สึกว่าบริเวณที่มีพรมคือห้องนั่งเล่น พอเดินพ้นออกมาจากพรมก็กลายเป็นห้องกินข้าวแล้ว
เปิดประตูบานเลื่อนกระจกกั้นกลิ่นอาหารเข้าห้องนอน เปิดเข้ามาตรงกลางมีเตียงนอนพร้อมหัวเตียงที่แต่งผนังหัวเตียงด้วยไม้สีไม้ Pine ทำให้ห้องดูเป็นธรรมชาติและมีการเซาะร่องเป็นเส้นแนวตั้ง และเติมของตกแต่งหัวเตียงเป็นกรอบรูปเหล็กโชว์โปสการ์ดทำให้ห้องดูมีจุดน่าสนใจเล่าเรื่องได้ใหม่เสมอแค่เปลี่ยนภาพโปสการ์ด อยู่กับมันได้ทุกๆ วันไม่น่าเบื่อ
ข้างเตียงมีโต๊ะหัวเตียงลิ้นชักพร้อมไฟจากโคมไฟเพดานเพื่อประหยัดพื้นที่มีที่วางของบนโต๊ะมากขึ้นและโคมไฟก็เลือกที่จะดิ่งสายยาวลงมาเพื่อจำกัดการกระจายของแสงให้ส่องแค่โต๊ะหัวเตียงเท่านั้น ทำให้แสงไฟไม่แยงตาเวลาเปิดกลางคืน
ด้านขวาของเตียงจัดเป็นมุมทำงานเล็กๆ มีชั้นเปิดลอยวางของโชว์กระจุกกระจิกด้านบน เพื่อความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นเราก็เอาต้นไม้ใบไม้ใส่แจกันวางไว้บนโต๊ะก็ได้
มีตู้เสื้อผ้าด้านซ้าย 2 ตู้สำหรับเขาและเธอ His & Her wardrobe แบ่งใช้กันได้ ตู้บานซ้ายจะมีลิ้นชักเพื่อเก็บเสื้อผ้าสาวๆ ที่มักจะพับซ้อนกันไว้ให้เป็นระเบียบ หาง่าย จะใช้ตัวไหนก็ค่อยหยิบมารีดเป็นครั้งๆ ไป ส่วนตู้บานขวาฝั่ง His เหมาะสำหรับหนุ่มๆ ที่ีัรีดผ้าแขวนใส่ราวเตรียมแต่งตัวไว้แล้ว แค่หยิบใส่ก็ออกจากบ้านได้ทันทีและมีเน้นตรงราวแขวนกางเกงมากกว่าลิ้นชักที่มีน้อยกว่าฝั่ง Her ครับ
ห้องขนาด 30 ตารางเมตรนี้ไม่จำเป็นต้องมีทีวี 2 ตัวเพราะห้องนอนและห้องนั่งเล่นต่อเนื่องกัน แค่เปิดบานกระจกเลื่อนก็ผสานทั้ง 2 ห้องนี้เข้าด้วยกันได้ทันที
ห้องนั่งเล่นมีโต๊ะเอนกประสงค์ใช้กินข้าว นั่งทำงานก็ได้ วางกรอบรูปตกแต่งเข้าไปช่วยให้การกินข้าวและทำงานของเราไม่น่าเบื่อมองแต่ผนังสีขาวๆ ธรรมดา
โคมไฟอ่านหนังสือใกล้โซฟา เพิ่มต้นไม้หรือดอกไม้ใส่แจกันช่วยให้ภายในห้องดูสดชื่น
ระเบียงอย่าปล่อยให้มีแต่ฝุ่นสกปรกหรือใช้ตากผ้านานๆ แวะเข้ามาที แต่เราควรเพิ่มต้นไม้ใส่กระถางเข้าไป เพิ่มกิจกรรมให้เราต้องแวะออกมาสูดอากาศที่ระเบียงทุกๆ วันเพราะต้องออกมาดูแลรดน้ำต้นไม้ การได้ใช้พื้นที่บ่อยๆ จะทำให้พื้นที่นั้นๆ มีการดูแลรักษา ไม่สกปรก อย่างน้อยออกมารดน้ำทีก็เก็บกวาดฝุ่นบ้าง ทำให้ space อย่างระเบียงดูน่าอยู่น่ายืนรับลมน่าเอาเก้าอี้ stool มาวางนั่งชิลล์มากขึ้น
ห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องสีขาวสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางแนวนอนแบบไม่เหลื่อมกันทำให้ดูเรียบง่าย และทายาแนวสีเทาเข้มเพื่อเน้นให้เห็นความเป็นกระเบื้องสีขาว เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเพิ่มต้นไม้เข้าไปให้สดใส ยามแปรงฟัน กระจกส่องหน้าทางโครงการเลือกใช้กรอบวงรีแนวตั้งและมีรายละเอียดที่ดูคลาสสิก เป็นจุดเด่นของห้องน้ำให้ดูย้อนยุค Retro นิดๆ
ห้องตัวอย่างอีกแบบ ขนาด 29.7 ตารางเมตร รูปแบบห้องจะคล้ายขนาด 30 ตารางเมตรมากแต่ต่างตรงที่ชุดครัวห้องนี้จะเข้ามุมเป็นตัว L และตู้เสื้อผ้าจะวางชิดกัน
การตกแต่งภายในยังคงสไตล์ Scandinavian Design แต่ห้องนี้จะดูมีความซับซ้อนขึ้นมาเป็นจุดดึงดูดสายตาด้วยการเลือกใช้สีและแบบของผ้าห่มและผ้าปูที่นอน ดูน่าสนใจ
ห้องเอนกประสงค์ นั่งเล่น กินข้าว ทำครัว ทำงาน ตกแต่งคล้ายห้องที่ผ่านมาด้วยแนวคิดเดียวกัน ต่างกันที่สีสันที่เลือกใช้ ห้องนี้จะใช้หมอน กระจก และของประดับตกแต่งห้องที่มีสีดำเพื่อให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับห้องนอน
ห้องน้ำสไตล์เดียวกัน ห้องขนาดนี้จะกลายเป็นมุมอาบน้ำ shower แบบเข้ามุมครับ
ต่อไปห้องตัวอย่างสุดท้าย แบบ Studio 22.57 ตารางเมตร แนวลึก เปิดประตูห้องเจอชุดครัวทางขวา ทางซ้ายเป็นตู้รองเท้าและเคาน์เตอร์วางไมโครเวฟ ถัดไปเป็นพื้นที่วางตู้เย็น
และมีตู้เสื้อผ้าบานเปิดที่ชั้นวางของด้านบนเชื่อมต่อกันสามารถเก็บหมอนข้างแนวนอนได้
บริเวณ Sleeping Area ผสานเข้ากับ Living Area ไปในตัว สีสันที่เลือกใช้ในห้องนี้เน้น cool blue ฟ้าอ่อน
ผนังหัวเตียงกรุผนังด้วยไม้ตีกรอบทาสีขาวและบนหัวเตียงก็ติดกรอบรูปเล็กใหญ่คละกันให้เล่าเรื่องราวของเจ้าของห้องได้ โต๊ะหัวเตียงติดโคมไฟที่ต่างไปจากห้องที่ผ่านๆ มา ดูเล็กเหมาะกับขนาดห้องดี
ห้องน้ำอยู่ภายใน Living Area เลย เข้าสะดวก เลือกใช้พรมเช็ดเท้าที่มี Pattern มีมิติน่าสนใจและสีที่กระโดดออกจากฟ้าอ่อนเพื่อให้ดูแปลกใหม่ขึ้นมาบ้าง
ของตกแต่งที่เลือกใช้เป็นสีขาว เทา ฟ้าอ่อน และสีชมพูพาสเทล ทำให้ห้องดูหวานแหววน่ารักเหมาะกับสาวๆ และหนุ่มๆ หัวใจมุ้งมิ้ง
ถึงแม้จะเป็นห้องแบบ Studio แต่ก็มีหน้าต่างรับแสงทั้งห้องทำให้ดูสว่าง ไม่มืดทึบ นอกจากนี้การติดโคมไฟและเลือกใช้หลอดไฟ LED แสงเหลืองนวลทำให้ห้องดูอบอุ่นสไตล์ Cozy ได้ครับ
หลังจากดูสไตล์การตกแต่งภายในห้องแล้ว เรามาดูว่า Exterior การตกแต่งภายนอกอาคารและพื้นที่ส่วนกลางกันบ้างครับว่าที่ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG เค้าออกแบบกันยังไง ภายนอกอาคารทำ façade รูปแบบเรียบง่าย ทาสีขาว บริเวณเสาของชั้นที่มี Lobby ทาสีน้ำตาลจำลองไม้ในธรรมชาติ แทรกต้นไม้และดอกหญ้าบนตัวอาคารลดความแข็งของตัวอาคารลง
Club House บนชั้นสูงสุดของอาคารจอดรถจะได้วิวสระว่ายน้ำแบบนี้ Club House จะสร้างคล้าย Glass house มีกระจกรอบด้าน คาดว่าช่วงกลางวันในเมืองกรุงเทพคงจะต้องเปิดแอร์กันหนักทีเดียว
แต่ถึงแม้จะเต็มไปด้วยกระจกใส แต่จะเห็นได้ว่ามีม่านช่วยกั้นแสงและความร้อนช่วงกลางวันได้ บ้านหลังนี้จัดพื้นที่เป็น Co-working space ให้คนทำงานมาใช้พื้นที่ที่นี่ทำงานได้ เหมาะกับคนที่ทำงานออนไลน์และใช้เทคโนโลยี (Digital Nomads) ตกแต่งภายในกรุผนังและเพดานด้วยไม้ให้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านไม้ที่ดูอบอุ่น โคมไฟใช้สีเดียวกับเก้าอี้เพื่อให้ตัดกับสีขาวของโต๊ะครับ
จากภาพทั้งหมด ทั้งภาพห้องตัวอย่างจริง และภาพตัวอย่างของโครงการ ทำให้เราเห็นว่า “การออกแบบ” ช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีสุนทรียภาพในการดำรงชีวิตที่มากกว่าเดิม นอกจากนี้การออกแบบยังช่วยเพิ่มมูลค่าจากธรรมดาให้กลายมีความพิเศษได้ อยากชวนให้ทุกคนหันมาสนใจการออกแบบ ใส่ใจการเลือกใช้วัสดุ มีความพิถีพิถันก่อนตัดสินใจซื้อสิ่งที่จะอยู่กับเราไปอีกยาวนานครับ วันนี้น่าจะได้ไอเดียการออกแบบและแต่งห้องกลับไปเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ห้องในฝันของคุณนะครับ
โครงการ Chapter One ECO Ratchada-Huaikwang เป็นหนึ่งในโครงการที่ใส่ใจ “การออกแบบ”ได้ดี มาด้วยคอนเซปต์ที่เป็น Global Trend นั่นคือ Eco มีความเป็นรักษ์ธรรมชาติ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่การออกแบบจัดวาง Orientation ของอาคารให้เป็นแนวเฉียงเนื่
แม้ภายนอกที่ดีแต่ภายในก็ต้องดี
สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1739 แล้วบอกติดต่อโครงการ CHAPTER ONE ECO RATCHADA-HUAIWKANG (แชปเตอร์วัน อีโค รัชดา – ห้วยขวาง) หรือเข้าเว็บไซต์นี้ครับ
http://www.stylishresidences.com/project_detail?lang=en&lang=th&lang=th&lang=en&id=8#pro_d_row2
บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com
โครงการ Chapter One ECO Ratchada-Huaikwang เป็นหนึ่งในโครงการที่ใส่ใจ "การออกแบบ"ได้ดี มาด้วยคอนเซปต์ที่เป็น Global Trend นั่นคือ Eco มีความเป็นรักษ์ธรรมชาติ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่การออกแบบจัดวาง Orientation ของอาคารให้เป็นแนวเฉียงเนื่องจากคำนึงถึงการมองเห็นวิวที่เปิดโล่งกว่าการวางแบบหันเข้าหากันตรงๆ นอกจากเรื่องวิวยังได้ประโยชน์ของการถ่ายเทอากาศ ลมพัดได้ดีขึ้น อาศัยอยู่แล้วไม่อับลม สามารถพักอาศัยได้แบบไม่ต้องเปิดแอร์ แค่เปิดหน้าต่างก็ได้รับอากาศที่ดี ภายนอกอาคารที่ออกแบบมาสวยเรียบดูดีสไตล์ Scandinavian Design ช่วยเสริมอาหารตาและความภูมิใจให้กับผู้พักอาศัย
PROPSCORE™ 3.5
0
0 รีวิว รูป
บรรณาธิการสื่อเกี่ยวกับการศึกษา และ Blogger ผู้มีผลงานการวิเคราะห์ด้านอสังหาฯ มามากกว่าร้อยบทความ ยังเป็นผู้สนใจลงทุนคอนโดมิเนียม ชอบใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad รักการเดินเท้าและเลือกใช้ขนส่งมวลชนสำรวจความเปลี่ยนแปลงของทำเลสถานที่ผ่านมุมมองการเข้าใจมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็น Active Citizen ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเมืองผ่านงานเขียนและเครื่องมือสื่อสารที่เชื่อมรัฐกับประชาชน เป้าหมายระยะยาวต้องการเห็นคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นของทุกคนในสังคม ติดตามผลงานได้ที่ https://matttortong.weebly.com
12 ปี กรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแค่ไหน?
EURO ยกระดับ Design District ใจกลางทองหล่อ เปิดตัว Poltrona Frau Monobrand Store แห่งใหม่! ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้า
สโคป หลังสวน เผยโฉมครั้งแรกกับยูนิตพิเศษ “The Debonair Edition” 2-bedroom เลย์เอาต์ใหม่ ที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่า
นิว อีโว พัฒนาการ คอนโดฟีลบ้าน สเปซกว้าง เลี้ยงสัตว์ได้* ใกล้ทองหล่อ และรถไฟฟ้า 2 สาย เริ่ม 2.95 ล้าน*
"เซ็นทรัล: ดิ ออริจินัล สโตร์" ศูนย์รวมวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางย่านเจริญกรุง ย่านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งกับการเปิดพื้นที่ศิลปะสุดพิเศษ