ในรอบปีที่ผ่านมารวมถึงตลอดปี 2021 นี้ ตลาดอสังหาฯ แนวราบประเภท Luxury Home บ้านเดี่ยวหรู ในทำเลเมือง ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายใหม่ๆ ที่มีราคาขายตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป นับว่าเป็นกลุ่มตลาดที่ร้อนแรงเป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการหลายราย เนื่องจากเป็นสินค้าที่สร้างขึ้นมาเพื่อสอดรับกับดีมานท์การอยู่อาศัยของเหล่าผู้มีกำลังซื้อสูงในยุคปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมองหา Luxury Home ที่มอบพื้นที่ใช้สอยได้มากเพียงพอต่อการอยู่อาศัยได้หลายคน มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ลิฟท์ พื้นที่สวนสไตล์คอร์ทยาร์ดที่แทรกตัวอยู่ในบ้าน มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของทุกสมาชิกในครอบครัว มากกว่าคอนโดหรูบนห้องสี่เหลี่ยมที่มีขนาดพื้นที่ห้องอย่างมากเพียงแค่ 3-4 ห้องนอน ใช้ลิฟท์และพื้นที่ส่วนกลางในร่มร่วมกัน จอดรถได้น้อย เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ขาดความเป็นส่วนตัว อีกทั้งไม่ได้กรรมสิทธิ์ในตัวที่ดิน… ด้วยความที่เป็นตลาดที่มีทิศทางในการเติบโตค่อนข้างดี มีเสถียรภาพ และลูกค้าทั้งหมดมีงบประมาณที่พร้อมจ่ายอยู่แล้ว การพัฒนารูปแบบโครงการเพื่อที่จะครองใจกลุ่มลูกค้าให้ได้มากที่สุดคือความท้าทายอันยิ่งใหญ่สำหรับดีเวลอปเปอร์ทุกราย ไม่แพ้ในเรื่องของทำเล และราคาที่ต้องสัมพันธ์กับพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้าน แตกต่างจากในอดีตที่หากพูดถึงบ้านที่มีราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป หลายๆ คนก็จะนึกถึงบ้านที่มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ มีสวนและสระหน้าบ้าน มีคลับเฮ้าส์ที่หรูหรา บนทำเลชานเมือง ที่มักจะจับกลุ่มลูกค้าแนว Authentic Luxury ในทางตรงกันข้าม การพัฒนาโครงการ Luxury Home หลายแห่งในปัจจุบันมักจะเน้นการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าแนว New Luxury ที่มีความเป็น Young Millionaire ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มีความเป็น Thoughtful Purchaser ที่มองหาตัวเลือกในการอยู่อาศัยที่ให้ความสะดวกสบายในการเดินทางไม่แพ้การอยู่คอนโดหรูกลางเมือง แต่ได้ Space ที่มากกว่า และยังต้องสะท้อนความเป็นตัวเองได้มากที่สุด โดยองค์ประกอบพื้นฐานของ Luxury Home ที่ตอบโจทย์กลุ่ม New Luxury ที่จำเป็นจะต้องมีมักจะประกอบไปด้วย

1. ทำเล ที่ต้องอยู่กลางเมือง ติดกับ Magnet ชั้นนำของย่านนั้นๆ ไม่มีโครงการใดๆ สามารถขึ้นมาได้ในระยะใกล้เคียง

2. ขนาดของพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ต้องสามารถอยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างเป็น Multi Generation จริงๆ โดยมักจะมีขนาดตั้งแต่ 400 ตารางเมตรขึ้นไป

3. จำนวนยูนิตที่ค่อนข้างน้อย ให้ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าโครงการใกล้เคียง ดั่งอยู่ในสังคมคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรค์แล้ว

4. รูปแบบการดีไซน์ การเลือกใช้วัสดุ ที่นอกจากจะมีความสุขใจที่ได้อยู่ มีความทนทาน มีเอกลักษณ์ เป็น Timeless แล้ว ก็ยังต้องสร้างความภูมิใจให้กับตัวผู้เป็นเจ้าของ สามารถเชิญแขก เชิญเพื่อนมาเยี่ยมบ้านได้อย่างภาคภูมิใจ สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของตัวผู้พักอาศัยได้อย่างชัดเจนที่สุด

Providence Lane Ekkamai – Ramintra (โพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย – รามอินทรา) คือโครงการบ้านเดี่ยวกลางเมืองสุดหรูแห่งใหม่ ของบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ที่นับว่ามีครบทุกองค์ประกอบดังกล่าว โดยโครงการตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว 71 ทำเลที่เชื่อมต่อโดยตรงกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่ผู้คนคุ้นเคยกันในชื่อย่านเลียบด่วน เอกมัย – รามอินทรา ย่าน Residential Area ที่รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ที่ถือว่ายังอยู่ใกล้และเชื่อมต่อกับความเป็นเมืองอย่างพื้นที่ CBD พหลโยธิน-ลาดพร้าว พระรามเก้า – รามคำแหง และย่านใจกลางเมืองที่มีสีสันอย่างเอกมัย -ทองหล่อ มีถนนเส้นหลักที่เชื่อมระหว่างเมืองทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนประเสริฐมนูกิจ ที่วิ่งเชื่อมเมืองในแนวออก-ตก และยังมีถนนวงแหวนตะวันออก ถนนนวมินทร์ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และทางด่วนฉลองรัช (เอกมัย – รามอินทรา)  ที่วิ่งเชื่อมเมืองในแนวเหนือ-ใต้

เอกมัย – รามอินทรา ทำเลที่รายล้อมไปด้วยไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ เชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยเส้นทาง รฟฟ. สายใหม่หลายสาย

ถ้าจะพูดถึงทำเลที่สามารถพูดได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีโครงการ Luxury Home ที่มีราคาขายค่อนข้างสูง มากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีหลายโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 25 ล้านบาทต่อยูนิต และมีบางยูนิตในบางโครงการที่ขายกันเกิน 100 ล้านบาท อีกทั้งยังสามารถเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้โดยง่าย คงต้องนึกถึงพื้นที่ตามแนวช่วงถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเป็นถนนที่ติดกับเลียบทางด่วนรามอินทรา รู้จักกันในชื่อถนนเอกมัย – รามอินทรา และคนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่าย่านเลียบด่วน จริงๆ แล้วถนนในช่วงนี้สามารถเชื่อมต่อจากซอยเอกมัยหรือสุขุมวิท 63 และเป็นถนนที่ตัดผ่านสำคัญ เช่น ถนนเพชรบุรี พระราม 9 และถนนสายรองต่างๆ อีกหลายสาย ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านนี้มีความสะดวกในเรื่องของการเดินทางเป็นอย่างมาก และแม้ว่าในย่านนี้จะมีที่ดินเหลือให้พัฒนาไม่มากนักในปัจจุบัน แต่ด้วยศักยภาพของพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาโดยตลอด จึงยังคงมีผู้ประกอบการเข้าไปซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการ Luxury Home ที่มีราคาขายสูงและมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองอื่นๆ อาทิ ย่านเอกมัย – ทองหล่อ อีกด้วย

พื้นที่ตามแนวถนนประดิษฐ์มนูธรรมทั้งสองฝั่ง ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในระหว่างแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตหลายสาย คือ รถไฟฟ้ารางเบาสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) เริ่มต้นที่แยกถนนลาดพร้าวตัดกับถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าวของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ผ่านถนนลาดพร้าวไปจนถึงแยกลำสาลี แล้วเลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ผ่านถนนลาดพร้าวเกือบทั้งเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย – ลำสาลี) เส้นทางนี้มีจุดเริ่มต้นที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งเปิดให้บริการแล้ว และสายสีชมพูที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จากนั้นวิ่งเข้าถนนงามวงศ์วาน และเข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจหรือถนนเกษตร – นวมินทร์ แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนนวมินทร์ และไปสิ้นสุดที่แยกลำสาลี และรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ และ พระโขนง-ท่าพระ) จุดเริ่มต้นที่สถานีวัชรพลของเส้นทางรถไฟฟ้าสีชมพู จากนั้นลงใต้มาตามถนนประดิษฐ์มนูธรรมผ่านถนนลาดพร้าว พระราม 9 เลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรี และทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 ตามลำดับ ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนเรื่องของการก่อสร้างและกำหนดเปิดให้บริการในอนาคต

โดยย่านเลียบด่วน (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) จะแบ่งบริบทของทำเลออกเป็น 3 ส่วน คือ เอกมัย – รามอินทราช่วงต้น ที่เป็นย่านต่อขยายของถนนเอกมัย ขยายขึ้นมาตามแนวของทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา สามารถเชื่อมต่อกับถนนพระรามเก้า และรามคำแหงได้ ซึ่งเป็นย่านที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งชีวิตการทำงาน และไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยสำนักงานขนาดเล็กอย่าง Home Office และย่านสำคัญของธุรกิจสร้างสรรค์ มีความอุดมสมบูรณ์ด้านไลฟ์สไตล์ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์เลือกที่จะพัฒนาโครงการประเภท Home Office และบ้านเดี่ยวที่มีราคาแพง ด้วยข้อได้เปรียบทางด้านการเดินทางนั่นเอง ช่วงกลางที่เชื่อมต่อกับลาดพร้าวที่ซอยลาดพร้าว 71 และช่วงปลายที่เชื่อมต่อกับเส้นประเสริฐมนูกิจ หรือย่านเกษตร – นวมินทร์ โดยส่วนช่วงกลางของย่านเอกมัย – รามอินทรา ก็จะเป็นช่วงที่เชื่อมต่อกับลาดพร้าวที่ซอยลาดพร้าว 71 มีความสะดวกในเรื่องของการเดินทาง เพราะใกล้กับทางพิเศษฉลองรัช ช่วงรามอินทรา–อาจณรงค์ ที่ไปบรรจบกับทางด่วนได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร เพื่อไปยังย่านอื่นในกรุงเทพฯ ได้อย่างรวดเร็วแม้ในชั่วโมงเร่งรีบ รายล้อมด้วยโครงการอสังหาฯ แนว Commercial และ Leisure Complex ขนาดใหญ่มากมาย มักจะตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เป็นทำเลที่เพียบพร้อมไปด้วยไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Central Festival East Ville, Crystal Park, The Walk เกษตร-นวมินทร์, Chic Republic, CDC, บุญถาวร และ Home Pro เรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีครบหมดทุกอย่าง ไม่ต้องเดินทางไปห้างสรรพสินค้าในใจกลางเมืองให้เสียเวลา

นอกจากนี้ย่านเอกมัย – รามอินทรา ตอนกลาง ยังมีถนนสายรองที่มีการพัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีตมากกว่า 30 ปี แล้ว เช่น ซอยโชคชัย 4 ที่เชื่อมต่อถึงถนนนาคนิวาส สุคนธสวัสดิ์ ซอยลาดพร้าว 71 และซอยต่างๆ ที่แยกออกมาจากถนนลาดพร้าว ซึ่งซอยต่างๆ ที่กล่าวไปแล้ว เป็นซอยที่ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรขนาดไม่ใหญ่มาก และมีราคาขายค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีโครงการคอนโดมิเนียมอีกหลายโครงการเช่นกัน โซนที่โดดเด่นในพื้นที่นี้แบบค่อนข้างมาก คือ โซนที่อยู่ในซอยโชคชัย 4 ลาดพร้าว 71 ซึ่งเข้าไปไม่ไกลมากจากถนนลาดพร้าว เพราะค่อนข้างเงียบแต่ยังคงมีความเป็นชุมชน ประกอบกับยังคงอยู่ใกล้ถนนลาดพร้าว สถานีรถไฟฟ้า และสามารถเข้า-ออกจากถนนเส้นทางอื่นๆ ได้หลายเส้นทางอีกด้วย ซึ่งโครงการบ้านจัดสรรยอดนิยมของย่านนี้จะเป็นในรูปแบบของทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ ในขณะที่บ้านเดี่ยวหรู ยังเป็น Supply ที่หาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นย่านที่มีที่ดินเหลือในการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้ไม่มาก และมีราคาขายที่ดินที่แพง หากเทียบกับย่านเอกมัย – รามอินทรา ตอนปลาย

หากพิจารณาในเรื่องทำเลเพียงอย่างเดียวก็คงพอที่จะเห็นแล้วว่าโครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูใหม่ล่าสุดจากสัมมากร อย่าง Providence Lane Ekkamai – Ramintra (โพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย – รามอินทรา) ที่เข้ามาพัฒนาอยู่ในถนนสังคมสงเคราะห์ บริเวณลาดพร้าว 71 นั้นเป็นของหายากในตลาดมากแค่ไหน

ที่ตั้งของ Providence Lane Ekkamai – Ramintra แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านเอกมัย – รามอินทราในระยะใกล้ อาทิ

– Fat Gut’z Saloon 2 กม., The Iron Fairies 2 กม.

– ห้างสรรพสินค้า อย่าง Central Festival EastVille ระยะทาง 2 กม., The Crystal Park ระยะทาง 4 กม., Crystal Design Center ระยะทาง 4.2 กม.

– สถานศึกษา อย่าง Singapore International School Bangkok ระยะทาง 5 กม., Regent’s International School ระยะทาง 5.1 กม., KIS International School ระยะทาง 6.1 กม.

– โรงพยาบาล อย่าง Bangkok Hospital ระยะทาง 10 กม., Samitivej Sukhumvit Hospital ระยะทาง 11.5 กม.

โครงการ Providence Lane Ekkamai – Ramintra ตั้งอยู่ในซอยสังคมสงเคราะห์ 14 จุดสังเกตตรงข้ามกับซอยเข้าโครงการ คือ กำลังก่อสร้างอาคารพาณิชย์ยูรีสอร์ท ลาดพร้าว เป็นการแบ่งล็อกให้เช่าทำธุรกิจนั่นเอง

จากหน้าซอยสังคมสงเคราะห์ 14 มาที่โครงการประมาณ 350 ม.

นอกจากนี้หากเลี้ยวซ้ายออกมาจากซอยสังคมสงเคราะห์ประมาณ 800 ม. ก็สามารถออกไปยังลาดพร้าว 71 ได้ โดยบรรยากาศของซอยลาดพร้าว 71 ก็ไม่ต่างจากซอยสังคมสงเคราะห์ที่เราเข้ามาก่อนหน้านี้ แต่อยู่ที่ความสะดวกว่าจะเลือกเข้าจากทางซอยไหนมากกว่า บริเวณปากซอยลาดพร้าว 71 ก็จะเห็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 71 ที่กำลังทำการก่อสร้าง จะเปิดให้ได้ใช้บริการภายในปี 2565 นั่นเอง อนาคตก็จะสะดวกต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มากขึ้น

เจาะลึกแนวคิดการออกแบบโครงการที่ให้คุณได้มีช่วงเวลาความสุขของตัวเอง “Enjoy ME Moment”

Providence Lane Ekkamai – Ramintra คือโครงการแนวราบในกลุ่มตลาด Luxury Home ที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองของสัมมากร ที่เตรียมรุกหนักในปีนี้ พร้อมกับอีก 2 โครงการคือ Park Heritage พัฒนาการ 20 และ Two Ekkamai โดยในอดีตที่ผ่านๆ มาสัมมากร เป็นแบรนด์ที่คุ้นหูในหมู่กลุ่มลูกค้าว่า เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบบนทำเลชานเมือง หรือทำเลเมืองส่วนต่อขยายเป็นหลัก ซึ่งความน่าสนใจในการบุกตลาด Luxury Home ในปีนี้ก็คือ นอกจากจะเน้นในเรื่องของทำเลที่มีศักยภาพแล้วก็ยังเน้นไปที่การออกแบบ ให้มีดีเทลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความเป็น Young Millionaire มองหาความหรูหรา ที่เป็น New Luxury เน้นดีไซน์ที่สะท้อนตัวตนได้มากที่สุด โดย Providence Lane Ekkamai – Ramintra เป็นผลงานการออกแบบของ 3 บริษัทคือ PODesign (สถาปัตยกรรม), Tadah Collaboration (ออกแบบภายใน) และ Sanitas Studio (ภูมิสถาปัตยกรรม) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบระดับชาติชื่อดังที่มีผลงานอันโดดเด่นมาจากโครงการที่พักอาศัยหลายโครงการทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

โครงการ Providence Lane Ekkamai – Ramintra (โพรวิเดนซ์ เลน เอกมัย – รามอินทรา) เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรู มีดีไซน์ในรูปแบบ Modern Luxury ที่ช่วยสะท้อนตัวตนที่แตกต่างของผู้เป็นเจ้าของ ผ่านบ้านเดี่ยวหรูหลังใหญ่ที่มีดีไซน์และวัตถุดิบที่โดดเด่น ตอบโจทย์ผู้ที่คลั่งไคล้ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สนุกสนานในทุกสิ่งที่ทำ ชอบสังสรรค์พอๆกับสร้างสรรค์ และหยิบสิ่งต่างๆบนโลกใบนี้มาเป็นแรงบันดาลใจได้เสมอ เพื่อให้สมกับสโลแกน “Enjoy ME Moment” ให้คุณได้มีช่วงเวลาความสุขของตัวเอง ในแบบที่คุณเป็นได้ผ่านบ้านหลังนี้

โดยภายในบ้าน Providence Lane Ekkamai – Ramintra ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Privacy + Nature คือ มีการออกแบบให้มีความสุนทรียสอดแทรกอยู่ในทุกกิจกรรมของผู้อาศัย เพื่อผู้อาศัยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากทุกมุมของบ้าน ผู้ออกแบบจึงได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวแทรกไว้กลางบ้าน พร้อมรับแสงธรรมชาติที่จะสาดแสงเข้ามาถึงทุกกิจกรรมภายในบ้าน และยังได้ประสบการณ์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างจากเดิม เมื่อตัวบ้านถูกออกแบบให้โอบล้อมพื้นที่สีเขียว นอกจากจะทำให้ผู้ใช้สอยรับรู้ถึงความงาม และธรรมชาติแล้ว ยังได้รับความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ผลลัพธ์ก็คือเราจะได้เห็นองค์ประกอบสำคัญในตัวบ้าน 4 อย่างก็คือ

1. พื้นที่ Courtyard สวนกลางบ้านที่ให้พื้นที่ภายในบ้านได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติ รู้สึกโปร่งโล่งได้ในแบบไร้รอยต่อ และยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย

2. Double Master Bedroom มีห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้องที่ชั้น 2 และชั้น

3. Private Swimming Pool* (มีไม่ครบทุกหลัง) สระว่ายน้ำส่วนตัวที่วางขนานแนวยาวไปกับพื้นที่ Living & Dining ให้ผู้พักอาศัยได้ใช้ประโยชน์จากตัวอาคารในการช่วยบังแสงแดด และความร้อนขณะพักผ่อนเล่นน้ำไปในตัว ทั้งยังสามารถเปิดรับวิวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแสงอาทิตย์จะแยงตา หรือสะท้อนผิวน้ำเข้ามาในบ้าน

4. Façade หน้าบ้านที่มอบความลึกลับ เปี่ยมเสน่ห์ ชวนให้ค้นหาว่าข้างในบ้านมีอะไรอยู่ ด้วยการใช้วัสดุส่วนใหญ่เป็นหิน Travertine ที่ดูหรูหรา ตัดกับฟินแนวตั้ง วางบิดองศาที่ช่วยพรางสายตาและบังแสงแดดจากภายนอกบ้าน

สำหรับรูปแบบบ้านในโครงการ Providence Lane Ekkamai – Ramintra จะเป็นบ้านเดี่ยวขนาด 3 ชั้น 4 ห้องนอน 5-6 ห้องน้ำ 1-2 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3-4 คัน พร้อมสระว่ายน้ำ และลิฟต์ส่วนตัว มีบ้านให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบ ME ทั้งหมด 11 หลัง และแบบ MINE มีเพียง 1 หลังเท่านั้น พื้นที่ใช้สอย 428-712 ตารางเมตร จำนวนรวม 12 ยูนิต บนพื้นที่โครงการประมาณ 3-1-6.2ไร่ และมีราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท*

HOUSE TYPE: ME ขนาด 428-458 ตร.ม. แบบบ้านที่เป็นแบบส่วนใหญ่ทั้งหมดของโครงการ (แบบที่มีสระว่ายน้ำ)

1^st Floor          

2^nd Floor

3^rd Floor

ชั้น 1 มีการออกแบบเพื่อการพักผ่อนและความเป็นส่วนตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์สำหรับผู้อยู่อาศัยในการทำกิจกรรมร่วมกันได้ในทุกพื้นที่ในบ้าน โดยมีไฮไลท์เป็นพื้นที่ Courtyard กลางบ้าน และสระว่ายน้ำหลังบ้าน แต่ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับงานอดิเรกของแต่ละคนในบ้าน ส่วน Living & Dining Area ต่อเนื่องกันในแบบ Open Space ที่กว้างมาก เวลามีปาร์ตี้ที่บ้านก็จุได้หลายคน และประตูด้านหลังติดกระจกสูง ทำให้รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ เพดานสูงแบบ Double Volume

อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในบ้าน คือ พื้นที่สระว่ายน้ำหลังบ้านตามแนวยาว ที่ให้ทุกคนได้ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกันอย่างเพลิดเพลิน

ชั้น 2 ออกแบบให้เป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน โดยแบ่งเป็น Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัวได้ 1 ห้อง และห้องเอนกประสงค์ ที่มีห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้อง แต่สำหรับบ้านตัวอย่างทางโครงการได้ปรับให้เป็นห้องทำงานของคุณผู้ชาย ละ Cafe Corner Area สำหรับคุณผู้หญิง โดยยังมี Private Terrace เป็นพื้นที่สำหรับใช้พักผ่อน ผ่อนคลาย จิบกาแฟ มองต้นไม้ใหญ่ร่วมกัน

Private Living Area มีความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัว

โซน Private Terrace จัดเป็นมุมพักผ่อนเอ้าท์ดอร์ให้สมาชิกได้ออกมานั่งอ่านหนังสือ พูดคุย รับลมจากธรรมชาติได้ทั้งวัน

ชั้น 3 ออกแบบให้มีห้อง Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้อง พื้นที่อเนกประสงค์ และห้องนอนที่ 2 พร้อมห้องน้ำในตัวอีก 1 ห้อง โดยที่ทุกห้องสามารถมองลงไปเห็น Courtyard และ Private Terrace ได้  หรือหากเจ้าของบ้านท่านใดเป็นกลุ่ม Double Income No Kids หรือกลุ่มครอบครัวเดี่ยวที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนมากจนเกินไป ก็สามารถปรับห้องนอนที่สองให้เป็น Treasure Room ไว้เก็บของสะสมต่างๆ เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ หรือจัดให้เป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันทั้ง Floor ก็ได้เช่นกัน

แม้จะเป็นโครงการขนาดเล็กที่เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังมอบความคุ้มค่าที่มากกว่าโครงการอื่นๆโดยรอบด้วยพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง Community Garden และ Clubhouse ที่มีจุดเด่นอยู่ที่บันไดวนกลางอาคารที่ให้ความหรูหรา มาพร้อมกับฟิตเนส พื้นที่สำหรับรับรอง และสวนล้อมรอบ ที่จะทำให้คุณได้ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมกับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น และระบบรักษาความปลอดภัยของลูกบ้านแบบ 24 ชั่วโมง โดยประตูทางเข้า Main Gate เป็นระบบ RFID

Clubhouse

โครงการ Providence Lane Ekkamai – Ramintra คือหนึ่งใน Luxury Home ไม่กี่โครงการที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนอง Lifestyle กลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่ (New Luxury) ที่มองหาบ้านที่สะท้อนตัวตนออกมาได้มากที่สุด มากกว่าความหรูหราอลังการของที่ดิน และคลับเฮ้าส์ เน้นที่กลุ่มคู่รักรุ่นใหม่ (DINK) ที่ประสบความสำเร็จไว เป็นครอบครัวเดี่ยวที่ยังไม่คิดที่จะมีลูก อาจจะไม่ได้เน้นการอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ต้องการห้องนอนเยอะๆ แต่ต้องการ Space เพื่อเป็น Inspiration ในการทำงาน และรองรับกิจกรรมที่ตัวเองชอบ โครงการตั้งอยู่ท่ามกลาง Lifestyle ของย่านเอกมัย – รามอินทรา ที่เชื่อมต่อทุกย่าน CBD ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย ด้วยทางด่วน และรถไฟฟ้าอย่างแท้จริง และยังเป็นโครงการ Luxury Home บ้านเดี่ยวหรูเพียงหนึ่งเดียวในย่านนี้ ย่านที่เต็มไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยอย่างคอนโด ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ

Pre-Sale 9-10 ต.ค.นี้

เริ่มต้น 30 ล้านบาท*

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bit.ly/33dCmai

นัดหมายเพื่อเยี่ยมชมแบบ Exclusive Preview และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1427