“Luxury comes from exclusivity. Individualism equals exclusivity.” เป็นประโยคที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อบ่งบอกถึงนิยามของความหรูหราได้อย่างชัดเจนที่สุด บนความหมายที่ว่าความหรูหราที่แท้จริงนั้นต้องมอบคุณลักษณะของความพิเศษเฉพาะตัว ที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการ ตลอดจนสะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเองของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งนี้สำหรับสินค้าในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับ Luxury ขึ้นไปนั้น เป็นที่ยอมรับกันดีว่าการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจากอิตาลีนับว่าเป็นการลงทุนใน “งานศิลปะ” ที่ใช้งานได้จริง ด้วยคุณภาพระดับสูงสุด สะท้อนถึงรสนิยมที่เหนือระดับ ความเข้าใจในงานดีไซน์ และบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของผู้เป็นเจ้าของ ผ่านงานดีไซน์ที่โดดเด่น ซึ่งจะอยู่คู่กับบ้านของคุณไปอีกนาน โดยที่อาจทวีมูลค่ามากขึ้นเมื่อเวลาผ่านพ้นไป

Molteni&C แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำระดับโลกจากอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี เปิดตัวแฟลกชิพสโตร์แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ณ ใจกลางทองหล่อ กรุงเทพฯ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการ Home Living & Lifestyles ในประเทศไทย ที่ได้นำงานออกแบบระดับตำนานจากอิตาลีสู่ใจกลางเมือง ด้วยความร่วมมือกับ Euro Creations ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” ของไทย ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานในการคัดสรรและบริหารแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก

โชว์รูมใหม่นี้ถือเป็น Molteni&C Flagship Store ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย ด้วยพื้นที่กว่า 1,100 ตารางเมตร ครอบคลุม 3 ชั้น แสดงโซลูชันการอยู่อาศัยครบทุกมิติ ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์ สะท้อนวิถีชีวิตที่เหนือระดับตามแบบฉบับอิตาเลียนอย่างแท้จริง

“เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิด Molteni&C Bangkok Flagship Store แห่งใหม่นี้ร่วมกับ Euro Creations การร่วมมือกันครั้งนี้คือการยกระดับมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตระดับไฮเอนด์ในกรุงเทพฯ โดยนำความเชี่ยวชาญด้านงานฝีมือแบบอิตาเลียนของ Molteni&C มาผสานกับความเข้าใจตลาดและรสนิยมท้องถิ่นของ Euro Creations เพื่อส่งมอบโซลูชันด้านการออกแบบที่โดดเด่นและคุณค่าที่คงอยู่ยาวนานให้แก่ลูกค้า” Giovanni Molteni รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Molteni&C

นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “Molteni&C Bangkok Flagship Store แห่งใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงโชว์รูม แต่คือการรังสรรค์พื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพและแรงบันดาลใจ โดดเด่นด้วยทำเลใจกลางทองหล่อ ซึ่งเป็น Design District ของกรุงเทพฯ และดีไซน์ที่สะท้อนรสนิยมอันประณีตเหนือระดับ เราเชื่อมั่นว่าสถานที่แห่งนี้จะพลิกโฉมประสบการณ์และมุมมองของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง เพราะที่ Euro Creations เรามุ่งมั่นคัดสรรแบรนด์ระดับโลก พร้อมออกแบบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่งดงามและไร้รอยต่อในทุกมิติ”

โดยแบรนด์ Molteni&C นับว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำจากประเทศอิตาลี โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสานมรดกทางศิลปะของอิตาลีเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัย ที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 90 ปี (เริ่มก่อตั้งในปี 1934 โดย Angelo Molteni ที่เมือง Giussano หรือ Monza and Brianza ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมการผลิตเฟอร์นิเจอร์) มีจุดเด่นในเรื่องของการความสำคัญกับทุกรายละเอียดของงานออกแบบ เน้นความเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น แต่คงไว้ซึ่งความหรูหราและสง่างาม และมีการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่เสมอ โดยแบรนด์ได้สร้างสรรค์งานออกแบบร่วมกับนักออกแบบระดับโลก พร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในวงการ ทุกชิ้นงานไม่ได้เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ แต่คือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตที่มีความหมาย สะท้อนแนวคิดเรื่อง “คุณภาพของการอยู่อาศัย” ได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทตู้เสื้อผ้า และชุดครัว ในยุคแรกของธุรกิจ Molteni&C เริ่มต้นจากการเป็นเวิร์คช็อปเล็กๆ ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง ประเภทตู้เก็บของ ลิ้นชัก ชั้นวางหนังสือ จนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำของอิตาลีในปัจจุบัน ภายใต้องค์ประกอบที่โดดเด่น อาทิ

1. คุณภาพ “Made in Italy” 100% ผ่านการควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมดตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ทำให้มั่นใจในคุณภาพและงานฝีมือแบบอิตาเลียนแท้ๆ ให้ทุกรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์มีความสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การเข้าไม้ การเย็บตะเข็บ ไปจนถึงการเก็บผิวสัมผัส ด้วยความประณีตสูงสุด

2. การร่วมมือกับดีไซเนอร์ระดับโลก โดยสินค้าภายใต้แบรนด์ Molteni&C ได้มีการทำงานร่วมกับสถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังมากมายทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น Gio Ponti, Tobia Scarpa, Aldo Rossi, Jean Nouvel, Patricia Urquiola, Rodolfo Dordoni, และ Vincent Van Duysen

3.นวัตกรรมและการออกแบบ ที่ผสมผสานงานฝีมือดั้งเดิมเข้ากับวัสดุและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เหนือกาลเวลาและใช้งานได้จริง ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน

4. ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบ้าน ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ห้องนอน ห้องทำงาน ตู้เสื้อผ้า ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์สำหรับพื้นที่กลางแจ้ง และคอลเลคชั่นพิเศษ อาทิ The Gio Ponti Collection ที่ได้เริ่มต้นในปี 2012 โดยเป็นการยกย่องและนำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ Gio Ponti สู่การใช้งานเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตในปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับงาน Grand Opening Molteni&C Flagship Store เป็นงานที่จัดขึ้นโดยบริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” ที่มีความโดดเด่นเฉพาะในเรื่องของการคัดสรรแบรนด์สุดหรูจากอิตาลี ยุโรป และประเทศต่าง ๆ กว่า 20 แบรนด์ และมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 25 ปี โดยเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย เพื่อเปิดโชว์รูมใหม่ที่ทองหล่อซอย 5 จุดศูนย์กลางของกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ

ภายในงานมีผู้บริหารระดับสูง Mr. Giovanni Molteni จากแบรนด์ Molteni&C บินตรงจากอิตาลีมาร่วมงานด้วย โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูง พร้อมแขกคนสำคัญจากหลายวงการ อาทิ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย, ผู้บริหารระดับสูงของแสนสิริ ทั้งคุณศรีอำไพ รัตนมยูร ประธานผู้บริหารสายงานการตลาด และคุณวทัญญู ตันติวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงผู้บริหารผู้มีประสบการณ์อย่างช่ำชองในการพัฒนาโครงการอสังหาฯระดับ Luxury ที่เปี่ยมด้วยรสนิยมและงานดีไซน์จากหลากหลายบริษัท อาทิ คุณภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน), คุณกนกอร หลิมกำเนิด กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพัฒนาทรัพย์สินแนวสูง และลูกค้าต่างประเทศ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), คุณศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าของ EURO ที่มาร่วมแสดงความยินดีและสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ของแบรนด์  Molteni&C ผ่านการชมโชว์รูมแห่งใหม่ พร้อมดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ตามแบบฉบับ Italian Craftsmanship อย่างครบครัน

Molteni&C ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับเชิงบวกจากทั้งกลุ่มลูกค้าและกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จับมือกับ แสนสิริ ผู้นำอสังหาฯระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่แถวหน้าของประเทศ ในการพัฒนา “The First Appartamento Molteni in Asia” ซึ่งเป็น Bespoke Penthouse เพียงยูนิตเดียว แห่งแรกในเอเชียและแห่งแรกในประเทศไทย ที่โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ย่านสุขุมวิท 51 ภายใต้ Sansiri Luxury Collection โดยทำงานร่วมกับทีมดีไซเนอร์ของ Vincent Van Duysen รังสรรค์เพนท์เฮาส์ระดับไอคอนิกอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปท์หลัก การลงดีเทลในทุกรายละเอียด การวางเลย์เอาท์ ตลอดจนคัดสรรค์วัสดุคุณภาพชั้นเลิศ เพื่อสร้างที่สุดของประสบการณ์การอยู่อาศัยระหว่างแสนสิริและ Molteni&C ที่เปรียบเหมือนงานศิลปะทรงคุณค่า จากกระบวนการคิดร่วมกันเพื่อคราฟท์ความเป็น The Best ที่สุดในทุกมิติ

Molteni&C Flagship Store ได้รับการออกแบบโดย Vincent Van Duysen สถาปนิกชื่อดังชาวเบลเยียม และ Creative Director ของ Molteni&C ถ่ายทอดความงามอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านภาษาทางสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง พร้อมพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อสร้างบทสนทนาอย่างลึกซึ้งระหว่าง “พื้นที่อยู่อาศัย” กับ “ผู้ใช้งาน” อย่างเป็นธรรมชาติ ภายในโชว์รูมเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไอคอนิกที่ผสมผสานประวัติศาสตร์กับความร่วมสมัย เช่น เก้าอี้ D.154.2 ผลงานสุดคลาสสิกของ Gio Ponti และคอลเลกชันโดย Vincent Van Duysen ได้แก่ โซฟา Augusto, Lucio และ Marteen รวมถึงชุดครัว VVD อันโดดเด่น ทุกองค์ประกอบถ่ายทอดความประณีตผ่านวัสดุชั้นเลิศ สะท้อนการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการออกแบบที่ผสมผสานความงามและฟังก์ชันได้อย่างลงตัว และสื่อถึงความเป็น “บ้าน” อย่างแท้จริง

พบกับเฟอร์นิเจอร์ระดับไอคอนิก และคอลเลกชันสุดพิเศษ ที่พร้อมรอให้คุณได้สัมผัสอาทิ

THE ICONIC ROUND D.154.5 DESIGNED BY GIO PONTI

เก้าอี้รุ่น D.154.5 (หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Round Armchair”) มีรูปทรงกลมที่แปลกตาและโดดเด่นอย่างมากในยุคที่ Ponti ออกแบบ (ราวปี 1953-1957) ซึ่งเก้าอี้ส่วนใหญ่ในยุคนั้นมักมีรูปทรงเหลี่ยมหรือโค้งมนตามธรรมชาติ แต่ D.154.5 นำเสนอการออกแบบที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยพนักพิงและที่นั่งที่ดูเหมือนกำลังโอบอุ้มร่างกายของผู้นั่งอยู่ มีโครงไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้เบาะรองนั่ง ที่มาพร้อมการหุ้มผ้าหรือหนังต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง เพื่อให้รูปทรงกลมของเก้าอี้ดูเรียบลื่น ไร้รอยต่อ โดดเด่นสะดุดตาด้วยขาที่เรียวเล็กและสง่างาม ตามเอกลักษณ์ของ Ponti ซึ่ง Molteni&C ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Gio Ponti Archives เพื่อให้มั่นใจว่า D.154.5 ที่นำกลับมาผลิตใหม่นั้นมีความเที่ยงตรงต่อแบบฉบับดั้งเดิมมากที่สุด ทั้งในด้านสัดส่วน วัสดุ และรายละเอียดปลีกย่อย เพื่อเป็นการตอกย้ำคุณค่าและความสำคัญของชิ้นงานนี้ในฐานะหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Ponti

D.154.2 Armchair DESIGNED BY GIO PONTI

ด้วยรูปทรงที่โค้งมน ดูเหมือนเปลือกหอยของ Armchair ระดับ Masterpiece ชิ้นนี้ ทำให้ผู้นั่งได้รู้สึกถึงความนุ่มนวล ปลอดภัย แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไปที่อาจมีเหลี่ยมมุมมากกว่า มีการใช้วัสดุโพลียูรีเทนแบบแข็งเป็นโครงสร้างหลัก ผสานกับโพลียูรีเทนแบบนุ่ม ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมในยุค 1950s ที่ช่วยให้สามารถสร้างรูปทรงโค้งมนที่ซับซ้อนได้ และยังคงความทนทานไว้ได้ในขณะเดียวกัน โดยที่ขาเก้าอี้ยังคงรักษาความเรียวเล็กตามสไตล์ของ Ponti ทำให้เก้าอี้ดูเบาและสง่างามราวกับมีชีวิต

D.154.2 ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อใช้ใน Villa Planchart ในเมืองการากัส ประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดของ Gio Ponti เอง ที่ตัวเขาไม่ได้เพียงแค่ออกแบบอาคาร แต่ยังออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นภายในบ้านด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ และแม้แต่ของตกแต่งชิ้นเล็กๆ โดย Molteni&C ทำงานร่วมกับ Gio Ponti Archives อย่างใกล้ชิด เพื่อถอดแบบ D.154.2 จากภาพวาดและข้อมูลดั้งเดิมของ Ponti ทำให้มั่นใจได้ถึงความเที่ยงตรงและความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด

ชุดครัวรุ่น PRIME

เป็นชุดครัวที่สะท้อนปรัชญาการออกแบบของแบรนด์ Molteni&C ในเรื่องของการผสมผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัยและตอบโจทย์การใช้ชีวิตจริงได้อย่างชัดเจน เนื่องจากมีดีไซน์ที่ประณีต เรียบหรูเข้าตัวบ้าน สวยงาม และใช้งานได้จริง รวมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนสีให้เข้ากับทุกการออกแบบของแต่ละหลังอีกด้วย นอกจากการสะท้อนในเรื่องของภาพลักษณ์แล้ว การออกแบบที่ตอบสนองการใช้งานที่สะดวกสบายยังถูกคิดมาอย่างละเอียดในทุก ๆ การใช้งาน อาทิ ร่องมือจับ (Groove Opening) ที่ไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นระบบเปิดแบบร่องมือจับ (groove opening) แทนการใช้มือจับแบบเดิมๆ ร่องมือจับนี้ถูกออกแบบมาให้ต่อเนื่องไปตามความยาวของตู้ ไม่ว่าจะอยู่ด้านบนหรือด้านข้าง ทำให้เกิดเส้นสายที่สะอาดตา เรียบง่าย และทันสมัย ส่วนขอบประตูมีขอบบนทำมุม 45° ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความสวยงามของเส้นสายที่ต่อเนื่อง แต่ยังช่วยให้เปิด-ปิดบานประตูได้ง่ายและถูกหลักสรีรศาสตร์ พร้อมประตูกระจกใหม่สำหรับยูนิตติดผนัง และชั้นวางอะลูมิเนียมทรงเรียวที่มีความแข็งแรงและคงทนต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่ง Molteni&C ได้ทำงานร่วมกับ Dada ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านครัวระดับสูง (ภายใต้ Molteni Group) ในการพัฒนาชุดครัว Prime โดยได้รับการออกแบบจากแผนกวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Dada Engineered ซึ่งเป็นทีมที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคนิคการผลิตครัวโดยเฉพาะ ทำให้ Prime เป็นผลลัพธ์ของการผสมผสานความรู้ด้านการออกแบบเข้ากับความเป็นเลิศทางวิศวกรรม

ชุดครัว VVD

เป็นผลงานการออกแบบของ Vincent Van Duysen ซึ่งเป็น Creative Director ของ Molteni&C โดดเด่นด้วยการผสมผสานความหรูหราเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ชุดครัว VVD ตีความแนวคิดครัวไร้มือจับใหม่ โดยเน้นความเรียบง่ายและเส้นสายที่สะอาดตา โปรไฟล์อลูมิเนียมที่ขอบบนของหน้าบานตู้ช่วยให้จับเปิดได้ง่ายและดูสวยงาม เพิ่มความโดดเด่นด้วยการสร้างความแตกต่างระหว่างความบางของแผงด้านข้างและปลายตู้ กับความหนาที่แข็งแรงของท็อปเคาน์เตอร์ มีการใช้วัสดุที่หลากหลาย เช่น หินธรรมชาติ โลหะ และไม้เนื้อแข็ง มาพร้อมตู้แขวนผนังกระจกใส เพิ่มความโปร่งโล่งและทันสมัยให้กับดีไซน์ ชุดครัว VVD สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบครัวไอส์แลนด์ ครัวผนัง หรือครัวเข้ามุม เพื่อให้เข้ากับพื้นที่และความต้องการของแต่ละบุคคล

ระบบตู้และชั้นวาง 505 UP

ชุดระบบจัดเก็บ 505 UP System ของ Molteni&C ซึ่งออกแบบโดย Nicola Gallizia เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของระบบ 505 ที่เป็นตำนานและขายดีที่สุดของแบรนด์ โดดเด่นด้วยความสามารถในการปรับแต่งที่ยืดหยุ่นสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของพื้นที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่เน้นความอเนกประสงค์และฟังก์ชันที่หลากหลาย โดยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นโซลูชันสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร หรือแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวในห้องนอนได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของติดผนัง, ตู้โชว์, ตู้ทีวี, มุมบาร์ หรือแม้กระทั่งมุมทำงานเล็กๆ โดยที่ผู้ใช้งานสามารถกำหนดขนาด สัดส่วน และฟังก์ชันของแต่ละโมดูลได้อย่างอิสระ ทำให้แต่ละองค์ประกอบของ 505 UP สามารถออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลและสุนทรียภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบราวกับสั่งตัด มีตัวเลือกแผงผนังสำหรับติดตั้งทีวีที่มาพร้อมกับผิวไม้ลายสวยงาม และมีการนำวัสดุใหม่ๆ เช่น เซรามิก Calacatta Vena Vecchia แบบมีพื้นผิวมาใช้เป็นแผงหลังภายในตู้ เพิ่มความหรูหราและทนทาน จึงนับว่าเป็นโซลูชันเฟอร์นิเจอร์แบบโมดูลาร์ที่ผสานสุนทรียภาพที่เรียบง่ายเข้ากับนวัตกรรมฟังก์ชัน วัสดุคุณภาพสูง และความยืดหยุ่นในการปรับแต่งมากที่สุดของ Molteni&C

PAUL Sofas

ออกแบบโดย Vincent Van Duysen เป็นหนึ่งในคอลเลกชันโซฟาที่โดดเด่นและได้รับความนิยมอย่างมากของแบรนด์ ด้วยการผสมผสานความสง่างามแบบเหนือกาลเวลาเข้ากับความสบายที่ลงตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายที่บริสุทธิ์ เรียบง่าย แต่มีสัดส่วนที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มากไป ไม่น้อยไป ทำให้โซฟาดูสง่างามและมี “ความคลาสสิกสมัยใหม่” ที่ไม่ตกยุค เป็นโซฟาแบบโมดูลาร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโซฟาตัวยาวตรง โซฟาเข้ามุม โซฟาพร้อมชาโตว์ลอง หรือเก้าอี้เท้าแขน ทำให้สามารถตอบโจทย์ขนาดพื้นที่และการใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว มากด้วยกรรมวิธีการผลิตอันประณีตและเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Paul ด้วยการเย็บตะเข็บแบบ “Blanket Stitch” ซึ่งเป็นเทคนิคการเย็บขอบที่มองเห็นได้ชัดเจน มอบความรู้สึกงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนและเพิ่มมิติให้กับดีไซน์ ขาโซฟาทำจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ที่มีดีไซน์เรียวเล็ก แต่แข็งแรง ทนทาน และมีสีสันให้เลือกหลากหลาย เช่น ตะกั่ว หรือกราไฟต์ ซึ่งช่วยยกระดับรูปลักษณ์โดยรวมให้ดูหรูหราทันสมัย

Continuum D.163.7 Armchair และ Augusto sofas

ด้านซ้ายมือคือ เก้าอี้เท้าแขน Continuum D.163.7 Armchair ที่ถูกออกแบบในปี 1963 โดย Gio Ponti โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก “จังหวะพู่กันที่ต่อเนื่องและโค้งมน” ซึ่งไหลลื่นจากพนักพิงศีรษะไปจนถึงที่เท้าแขน เป็นการสร้างสรรค์รูปทรงที่ดูเหมือนเป็นชิ้นเดียวอย่างไร้รอยต่อ และเป็นงานศิลปะที่มีความต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติ ความพิเศษของ Continuum อยู่ที่การผลิตที่ใช้เทคนิคการดัดและสานหวายด้วยมืออย่างประณีต โครงสร้างและพนักพิงทำจากหวายมาเนา ที่ไม่มีเปลือกไม้ ซึ่งถูกดัดด้วยไอน้ำด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ส่วนที่ถูกจัดวางไว้คู่กันคือ Augusto sofas ที่ออกแบบโดย Vincent Van Duysen บนแนวคิดที่ผสมผสานความสง่างามแบบคลาสสิกเข้ากับความสวยงามร่วมสมัย ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนปรัชญาการออกแบบของ Van Duysen ที่เน้นความบริสุทธิ์ ความเรียบง่าย และการใช้วัสดุที่สัมผัสได้

โดย Molteni&C Flagship Store ที่ซอยทองหล่อ 5 นับว่าเป็นโชว์รูมล่าสุดของ Euro Creations ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ต่อจาก “Poltrona Frau” Mono – Brand Store บนอาคารเดียวกัน โดยที่ในช่วงปีไตรมาสแรกของปี 2569 ทางบริษัทฯก็เตรียมเปิดตัวโชว์รูมอีก 1 แห่งบนทองหล่อ บริเวณระหว่างซอย 1 – 3 เป็นที่ดินเช่าระยะเวลา 30 ปี ขนาดพื้นที่รวม 8,000-9,000 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่ขายประมาณ 4,000 ตารางเมตร ซึ่งหากรวมจำนวนโชว์รูมทั้งหมด ก็จะทำให้บริษัทฯมีพื้นที่โชว์รูมบนทำเลทองหล่อรวมมากถึง 12,000 ตรม. เพื่อให้บรรลุถึงพันธกิจหลักในการที่จะพัฒนาย่านทองหล่อให้เป็น Design District ชั้นนำของกรุงเทพฯ โดยมี Euro Creations เป็นเจ้าตลาด ด้วยขนาดพื้นที่ขายมากที่สุด เช่นเดียวกับเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำในด้าน Fully Branded Management Company ของเฟอร์นิเจอร์สุดหรูของยุโรปอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมโชว์รูม Molteni&C จะได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษผ่านการชมโชว์รูมแบบ Exclusive Tour ที่นำชมโดยมีผู้เชี่ยวชาญจากแบรนด์ Molteni&C คอยให้คำปรึกษาแนะนำ โดยพร้อมเปิดให้คุณได้สัมผัสงานดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ระดับไอคอนิก หรูหรา แตกต่างในแบบมีเอกลักษณ์ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ ทองหล่อ ซอย 5

ข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อเข้าชมโชว์รูม

Molteni&C Bangkok Flagship Store

ที่ Euro Creations T5, ทองหล่อ ซอย 5, กรุงเทพฯ

โทร: +66 2 381 1158 | เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น.