คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ด้านสุขภาพนั้นเรียกได้ว่ามาแรงแซงโค้งในห้วงในยามนี้ที่ไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ในระดับ global เลยก็ว่าได้ ซึ่งนั่นส่งผลอย่างยิ่งต่อการเติบโตของธรุกิจ wellness ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ในปัจจุบัน สำหรับใครที่คลุกคลีกับแวดวงสุขภาพแล้ว คงจะคุ้นเคยกันดีกับชื่อของ Divana แบรนด์ระดับ A-List ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่เรื่องมาตรฐานของนวัตกรรมทางการแพทย์ซึ่งถูกผสานเข้ากับศาสตร์ด้านสปา คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และแน่นอนว่าชื่อเสียงอันโด่งดังในแง่การให้บริการที่การันตีด้วยการบอกต่อแบบปากต่อปาก ไปจนถึงการคว้ารางวัลจากทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ในปีนี้ นอกเหนือไปจากธุรกิจสปาและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Dii แล้ว Divana ยังสยายปีกไปสู่ธุรกิจเพื่อสุขภาพแบบครบวงจรกับการเปิดตัว ‘Divana Signature Café’ โปรเจ็คต์ล่าสุดใจกลางห้างสรรพสินค้า CentralWorld ที่มี พีช กานต์พิชชา เกียรติขจรฤทธิ์ เข้ามาดูแลภาพรวมของโครงการนี้

ด้วยจุดเด่นในเรื่องการออกแบบกลิ่นบำบัดและประสบการณ์ในวงการสปามาถึง 17 ปี เมื่อมาทำร้านอาหารทั้งที จุดแข็งอย่างเรื่องความผ่อนคลายและการบำบัดย่อมถูกส่งผ่านมายังคาเฟ่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน กับการเชื่อมโยงเอกลักษณ์ของสปาโดยนำเสนอผ่านการรับรู้ทางประสาทสัมผัสทั้ง 6 ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และจิตวิญญาณ

“ครอบครัวพีชอยู่กับธุรกิจสปามา 17 ปี เมื่อวันที่เราพูดคุยกันถึงการต่อยอดธุรกิจ เราเลยตั้งคำถามกันขึ้นมาว่า เราจะมีวิธีตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีเวลาไม่มาก แต่อยากจะมีช่วงเวลาที่ให้พวกเขาได้ผ่อนคลายจริงๆ ได้อย่างไร ในเมื่อการเข้าสปาแต่ละครั้ง มักกินเวลาอย่างน้อยๆ ก็ 3 ชั่วโมง เข้าไปแล้ว เราจึงมามองดูว่าจะมีพื้นที่แบบไหนบ้างไหมที่จะตอบโจทย์ให้พวกเขาในเวลาสั้นๆ สัก 15 นาที – 1 ชั่วโมง ซึ่งเราก็มองว่าการผ่อนคลายนั้น อาจจะไม่ได้มาจากการนวดหรือทำสปาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมาก เช่น การได้เข้ามาอยู่ในสวน การกลับไปอยู่กับธรรมชาติ คำถามต่อมาคือแล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อดึงธรรมชาติกลับมาหาเราได้”

จากความคิดเหล่าได้คลี่คลายไปสู่การสร้างพื้นที่เล็กๆ อย่าง Divana Signature Café แห่งนี้ ที่ใครก็สามารถมาใช้เวลาสั้นๆ เพื่อที่จะหลุดออกมาจากความจอแจและวุ่นวายของสังคมเมือง อีกทั้งยังสามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มดีๆ ทานอาหารอร่อย ขณะเดียวกันก็สามารถผ่อนคลายไปด้วย

“เมื่อเราได้ core idea แล้ว พีชก็มองย้อนมาที่คอนเซ็ปต์ของ Divana ซึ่งทุกๆ สาขา เราจะตามหาบ้านเก่าที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มารีโนเวทเพื่อทำเป็นสปาแต่ละแห่ง ซึ่งเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาแล้วทำให้เขารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง เพราะฉะนั้น การออกแบบที่นี่ก็เช่นเดียวกัน เราอยากให้คนที่เดินช็อปปิ้งหรือทำธุระแล้วเหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อเขาก้าวเข้ามายังสเปซแห่งนี้ เขาจะได้ความรู้สึกผ่อนคลาย พีชจึงยกสวนมาไว้กลางห้างเสียเลย”

Divana Signature Café เป็นทั้งคาเฟ่ ร้านดอกไม้ และสปาช็อป ที่ตกแต่งในรูปแบบสวนดอกไม้ ซึ่งแม้ภาพแรกที่เห็นจะมีกลิ่นอายความหรูหราแบบสวนสไตล์อังกฤษ แต่ดอกไม้ที่ใช้ในการตกแต่งนั้นเรียกได้ว่าสัญชาติไทยแท้ อย่างเช่นดอกกล้วยไม้และดอกหน้าวัว

สำหรับการแบ่งพื้นที่ภายในนั้นก็สอดคล้องไปกับผลิตภัณฑ์สปาของ Divana อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยมีการดึงเอาอัตลักษณ์ของธาตุทั้ง 4 มาร้อยเรียงผ่านพื้นที่แต่ละส่วน เริ่มตั้งแต่หน้าร้านที่มีการนำอะคริลิกและเรซิ่นที่ฝังดอกไม้มาใช้เป็นตัวแทนของน้ำ พร้อมๆ ไปกับการติดตั้งอ่างล้างมือ โดยจะมีพนักงานยืนต้อนรับเพื่อให้บริการทำสครับและทรีตเม้นท์มือ สำหรับการเปิดประสบการณ์ความผ่อนคลายแรกเริ่ม รวมทั้งปรับอารมณ์ให้ลูกค้าก่อนเข้าไปรับประทานอาหารและจิบเครื่องดื่มภายในร้าน

“พื้นที่ถัดมาเป็นตัวแทนของธาตุดิน ซึ่งดินก็คือทางเดิน เราจึงเลือกใช้หินกระเบื้องที่ให้ความรู้สึกเสมือนว่ากำลังเดินอยู่เอาท์ดอร์สเปซ และทำพื้นที่โซนนี้เป็นอุโมงค์ดอกไม้เพื่อดึงเอาธรรมชาติเข้ามาให้ใกล้ชิดคน” ก่อนที่ทางเดินนี้จะนำไปสู่พื้นที่นั่งด้านใน ที่เป็นสัญลักษณ์ของธาตุลม บริเวณดังกล่าวประกอบไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้ริมระเบียง ซึ่งมีการออกแบบและจัดผังให้โปร่งโล่ง แต่ยังคงรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว มีการเลือกใช้เก้าอี้ขนาดใหญ่เพื่อให้การนั่งมีความสบายและผ่อนคลายที่สุด ขณะที่ห้องครัวของที่นี่คือตัวแทนของธาตุไฟ

ไม่ต่างไปจากการออกแบบ หน้าตาของอาหารที่นี่ แม้ภาพแรกที่เห็น จะทำให้นึกไปถึงอาหารแบบตะวันตก แต่เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ก็รู้สึกคุ้นลิ้นเอามากๆ เพราะทีมเชฟได้ดึงเอาความเป็นไทยทั้งรสชาติและส่วนผสมเข้าไปเป็นองค์ประกอบหลักในการดีไซน์อาหารแต่ละเมนู ซึ่งจะเป็นเมนูทานง่ายๆ อาทิ สลัด เบอร์เกอร์ ขนมไทย โทสต์ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มสมุนไพรไทย

เริ่มกันที่เมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของที่นี่อย่าง ‘Drip Coffee in Roasted Coconut Water’ ที่ทางร้านเบลนด์กาแฟจากอินโดนีเซีย ไทย และอัฟฟริกาเข้าด้วยกัน โดยใช้น้ำมะพร้าวสดในการดริปแทนน้ำเปล่า ทำให้รสชาติขมของกาแฟกลมกล่อมและดื่มง่ายขึ้น แต่ยังคงความหอมของกาแฟและให้ความสดชื่นในเวลาเดียวกัน สำหรับชาของที่นี่จะมีทั้งหมด 6 ตัว ได้แก่ ‘Raya Vedic Rose, Mango Mantra, Amarita Jamine, Pitta Ginger Olive, White Orchid Holistic และ Prana Lemongrass’ โดยทุกรสล้วนเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสปา Divana ด้วย

ขณะที่เมนูของคาวที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ตั้งแต่ ‘Duck Confit Burger’ เบอร์เกอร์เป็ดที่มีรสชาติชวนให้นึกไปถึงรสชาติของเป็ดปักกิ่ง สำหรับเบอร์เกอร์จานนี้ เชฟจะนำเป็ดไปต้มพะโล้จนกระทั่งได้เนื้อเป็ดที่เปื่อยนุ่ม จากนั้นจึงใส่เครื่องเทศ ราดด้วยซอสสูตรซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ผสมเข้ากับมายองเนส ท็อปด้วยบีทรูท แอปเปิ้ลเขียว แตงกวา และเพิ่มขิงเพื่อให้รสชาติมีความเป็นไทย ส่วนขนมปังก็เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้านด้วย

นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนรักสุขภาพกับสลัดหลากชนิด อาทิ ‘Caesar Salad’ ที่ใช้ปลาเค็มแบบไทยๆ มาแทนส่วนผสมหลักอย่างแองโชวี่ ซึ่งทำให้รสชาติของสลัดจานนี้ไม่เลี่ยนจนเกินไป หรือหากใครชื่นชอบธัญพืชเป็นพิเศษ ต้องลอง ‘Rose Tea Leaf Salad’ สักจาก เพราะสลัดจานนี้ได้ไอเดียมาจากเมนูอาหารว่างประจำชาติของพม่าอย่าง Tea Leaf Salad โดยมีการปรับสูตรน้ำสลัดด้วยการใช้ชาไทยสีส้มและโรสทีหรือชากุหลาบเป็นเบส จากนั้นจึงโรยด้วยถั่วและธัญพืชหลากชนิด ทั้งมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน งา ผักใบเขียว เพิ่มรสหวานอมเปรี้ยวด้วยแอปเปิ้ล โดยมีหอมเจียวโรยปิดท้ายเพิ่มความกรุบกรอบและชูกลิ่นให้สลัดจานนี้อร่อยมากยิ่งขึ้น

สำหรับคอของหวานแล้ว ขาดไม่ได้เลยเมื่อมา Divana Signature Café ก็คือ ‘Classic Divana Toast’ ที่ทีมเชฟจะโทสต์ขนมปังใหม่ทั้งหมดแบบจานต่อจาน ซึ่งแม้จะใช้เวลาถึง 20 นาที แต่ก็เรียกว่าคุ้มค่าแก่การรอคอย เพราะโทสต์สไตล์ญี่ปุ่นจานนี้ ทางร้านจะนำขนมปังชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าไปแช่ในส่วนผสมจนเนื้อขนมปังชุ่มฉ่ำ จากนั้นจึงนำไปกริลในกระทะจนสุกทั่วแบบกรอบนอกนุ่มใน ได้เนื้อสัมผัสเหมือนคัสตาร์ดและส่งกลิ่นหอม โรยทับด้วยน้ำตาลซินนามอน ทานคู่กับเมเปิ้ลไซรัปและไอศครีมที่มีให้เลือก 2 รส ได้แก่ กะทิและมะพร้าวอ่อน

ปิดท้ายด้วยซิกเนเจอร์อย่าง ‘Afternoon Tea Set with Choice of Tea or Coffee’ ชุดชายามบ่ายที่ในเซตขนมนั้นแตกต่างไปจากคาเฟ่อื่นๆ ด้วยการเพิ่มขนมไทย ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ทองหยิบ และหมี่กรอบ “เซต Afternoon Tea ของเราจะมีขนมให้เลือกกินเยอะมาก และอุปกรณ์ก็เยอะมากด้วย (ยิ้ม) ตัวขนมจะเป็นการผสมระหว่างขนมไทยกับขนมฝรั่ง ทั้งอลัวสด เค้กมะพร้าว ชูครีมที่เป็นขนมญี่ปุ่นแต่เราใช้ไส้เป็นชาไทย ช็อคโกแลตลาวา สโคน แซนวิชที่คล้ายๆ กับคานาเป้ไส้แซลมอนกับทูน่า ซึ่งหน้าตาอาจจะดูฝรั่งแต่อย่างทูน่าเราจะใส่มายองเนสผสมกับน้ำพริกเผาเล็กน้อยเพื่อตัดเลี้ยน ส่วนบนสุดถือเป็นไฮไลท์ ซึ่งคนจะมักคิดว่าเป็นคริสตัล แต่จริงๆ คือเบอร์รี่เยลลี่โยเกิร์ตที่ฉีดเข้าไปข้างให้มีเลอร์เยอร์ของดอกไม้”

การคัดสรรอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารของที่นี้เองสะดุดตาไม่น้อย อย่างเช่นการเลือกใช้ภาชนะทองเหลือง “มีคนถามเยอะว่าทำไมเราถึงเลือกใช้ทองเหลือง เหตุผลก็คือทองเหลืองเป็นภาชนะที่เราต้องใส่ใจกับเขาจริงๆ เพราะในล้าง 1 ครั้ง จะต้องใช้มะกรูดขัดก่อนถึงลงล้างได้ เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อยต้องเช็ดทันที เพื่อให้ลายยังคงสวย พื้นผิวเงางาม สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันแสดงถึงความพิถีพิถันที่เราอยากให้ทุกๆ คนได้เห็น แล้วทองเหลืองก็เป็นภาชนะที่คนไทยใช้มาตั้งแต่โบราณ ซึ่งพีชก็อยากให้คนไทยเห็นคุณค่าและเรื่องราวของภาชนะโบราณเหล่านี้ด้วย”

Divana Signature Café แห่งนี้นับเป็นโปรเจ็คต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของ Divana ได้อย่างดี ทั้งความใส่ใจและละเมียดไปกับทุกๆ รายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเมนูเครื่องดื่มและอาหารคาวหวาน การคัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพ ไปจนถึงรูปแบบการตกแต่งภายในร้าน ที่ขาดไม่ได้คือมาตรฐานการบริการที่ถอดแบบมาจากสปา Divana ไม่ว่าจะเป็นการสั่นกระดิ่งเพื่อเรียกพนักงาน การเพิ่มกิมมิกอย่างบริการทำความสะอาดและทรีตเมนต์มือก่อนที่จะเดินเข้ามารับประทานอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ของสปา การตั้งแฮนด์ครีมเพื่อให้ลูกค้าทดลองใช้และเพื่อให้กลิ่นเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศในการทานอาหารมากยิ่งขึ้น การมีพนักงานเดินมารับและส่งถึงโต๊ะอาหาร ไปจนถึงการเดินไปส่งหน้าประตูเมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทำให้เรานึกไปถึงวัฒนธรรมของคนไทยที่เจ้าบ้านจะรอส่งแขกออกจากประตู ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้าง customer experience แบบมีกึ๋น เป็นธรรมชาติ และน่าประทับใจ   

Divana Signature Café

Photo: Ketsiree Wongwan I Courtesy of Divana Signature Café

Location: 2^nd Floor, Atrium Zone, CentralWorld

Contact Information: www.facebook.com/divanasignaturecafe