บทความโดย นายสิทธิชัย สายรวมญาติ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขานวัตกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็น Project จบการศึกษาของภาควิชา RD 417 Architectural Theories and Concept for Real Estate Development 3 ภาคการศึกษาที่ 1/2022

รูปแบบของ Branded Residences ได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้มานานกว่า 100 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นที่นิวยอร์ก ในปี ค.ศ. 1920 มีชื่อโครงการว่า The Sherry-Netherland ตั้งอยู่บนถนน Fifth Avenue หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดโครงการ The Carly Hotel and Private Residences ในปี ค.ศ. 1929 และตามมาด้วย Four Seasons ซึ่งเป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ในตลาดนี้

แม้ว่า The Sherry-Netherland จะประสบความสำเร็จแต่ก็ต้องใช้เวลากว่า 70 ปี จนกว่าแนวคิดนี้จะถูกให้ความสนใจและเริ่มเป็นที่เข้าใจของคนมากขึ้น Four Seasons ได้เปิดตัว Hotel Condominium ในเมืองบอสตันเมื่อปี ค.ศ.1985 ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหรูหราจึงได้รับความนิยมขึ้น ไม่นานนักก็มีแบรนด์โรงแรมเข้ามาร่วมในตลาดนี้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Marriott, Hilton และ Accor จนกลายเป็นผู้ที่ครองอุตสาหกรรมตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ในตลาดนี้มีผู้ประกอบการเป็นโรงแรมครองตลาดอยู่มากถึง 86%

ในไทยเองก็พอจะมี Branded Residences ให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งมาจากผู้ประกอบการโรงแรมชื่อดังอย่าง The Residences at Mandarin Oriental, Four Season Private Residences , The Ritz Carlton Residences, Banyan Tree Residences, Dusit Residences and Dusit Parkside เป็นต้น (ซึ่งในกลุ่มนี้จะถูกเรียกรวม ๆ ว่า Hotel Branded Residence)

นอกจากนั้นไม่เพียงแต่ Hotel Branded Residence แต่ยังมี (Non-Hotel Branded Residence) แบรนด์แฟชั่นและเครื่องประดับ เช่น Bulgari, Versace, Missoni, Fendi, Ferre, Baccarat, Moschino และ Armani ได้อนุญาติให้สามารถใช้ชื่อแบรนด์เพื่อทำการตลาดได้ หรือ แบรนด์ยานยนต์หรูอย่าง Aston Martin, Porsche, Bentley, Bugatti และ Tonino Lamborghini หรือแม้แต่ สตูดิโอสถาปนิก “YOO” ที่มีดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Philippe Stark, Jade Jagger และ Kelly Hoppen และทั้งหมดที่กล่าวมาต่างก็เริ่มมีที่พักอาศัยที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง เช่น โครงการ khun by Yoo Inspired by Strack เป็นโครงการเดียวที่เป็น Non-Hotel Branded Residence ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา

แล้ว Branded Residences คืออะไรกันแน่ถ้าให้พูดง่ายที่สุดก็คือ ห้องพักอาศัย หรือวิลล่าหรูที่อยู่ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง โดยเป็นความสัมพันธ์ของแบรนด์และผู้พัฒนาโครงการ แบรนด์จะอนุญาตให้ผู้พัฒนาใช้ชื่อของแบรนด์เพื่อทำการตลาด และขายภายใต้ชื่อของแบรนด์ได้

ด้วยการพัฒนาในรูปแบบนี้ทำให้โครงการมีมาตรฐานตามแบบที่แบรนด์ยึดมั่น จึงสามารถมั่นใจได้ว่าโครงการจะมีคุณภาพ และช่วงส่งเสริมภาพลักษณ์ของเจ้าของได้

แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้ Branded Residences เป็นที่ยอมรับจากผู้คนทั่วโลก เพราะนอกเหนือจากคุณภาพ และมาตรฐานที่แบรนด์ยึดมั่นแล้วยังมีจุดแข็งที่สำคัญของรูปแบบโครงการอยู่คือการมองนอกกรอบกว่าที่จะพัฒนาโครงการในแบบพื้นฐานทั่ว ๆ ไป แต่นักพัฒนาจะมองว่าบ้านเป็นมากกว่าแค่โครงสร้าง (อิฐ หิน ปูน และทราย) แต่บ้านคือสิ่งที่สะท้อนรสนิยม และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วย

นอกจากลักษณะทางกายภาพที่สำคัญแล้ว ก็คงต้องพูดถึงเรื่องของการบริการด้วยซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ Branded Residences เป็น Branded Residences นั่นเอง ในเมื่อโครงการรูปแบบนี้คือที่อยู่อาศัยที่ใช้ชื่อของโรงแรม ผู้ซื้อก็จะคาคหวังในเรื่องการบริการแบบโรงแรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่ง Branded Residences ก็สามารถทำหน้าที่นั้นได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงรูปแบบการบริการขั้นกว่า คือลูกบ้านจะมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแล และจัดการเรื่องต่าง ๆ ของคุณได้ทั้งหมด เพื่อให้คุณได้มุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญกว่าเป็นลำดับแรก

รวมถึงการเป็นเจ้าของ Branded Residences ยังเท่ากับการอัปเกรดสู่การเป็นสมาชิก VIP ของโรงแรมด้วย ซึ่งสามารถรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ นี่ถือว่าเป็นจุดขายอีกหนึ่งอย่างที่เอาใจสายท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ได้อีกด้วย และคุณจะพบกับประสบการณ์การบริการที่คุณเป็นเหมือนกับแขกสุดพิเศษ เช่นถ้าคุณเป็นเจ้าของ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ใดของ Mandarin Oriental คุณก็จะเป็นแขกสุดพิเศษของที่นั้น ๆ เสมอ

ในปัจจุบันตลาดของ Branded Residences นั้นก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้มีโครงการประเภทนี้มากกว่า 500 โครงการ คิดเป็น 80,000 ยูนิต มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดคืออเมริกาเหนือ คิดเป็นกว่า 35% เอเชียแปซิฟิก 24% ยุโรป 15% ลาติน-อเมริกา 13% ตะวันออกกลาง 12% และแอฟริกา 1% ซึ่งเอเชียแปซิฟิกคือทวีปที่มีความโดดเด่นมาก เพราะจะเห็นได้ว่าประเทศในกลุ่มนี้เป็นประเทศที่มีความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจ และมีความมั่งคั่งมากขึ้นกว่าในอดีต ทำให้กลุ่มคนรวยเจนใหม่ที่สนใจในแบรนด์หรูนั้นใช้ Branded Residences เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการบ่งบอกถึงสถานะทางสังคม เพราะพวกเขามองว่าสิ้นค้าฟุ่มเฟือยคือเครื่องหมายที่แสดงถึงความสำเร็จนั้นเอง

ด้านราคาของ Branded Residences มักมีราคาระดับที่พรีเมียมอันเนื่องมาจากสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เหมือนกับโรงแรม ข้อมูลจากการสำรวจผู้ซื้อทั่วโลกในปี 2021 พบว่า 39% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยยินดีจ่ายให้กับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้แบรนด์โรงแรม ซึ่ง Branded Residences สามารถดึงดูดผู้ซื้อที่ไม่เคยซื้อที่อยู่อาศัยที่มีแบรนด์ได้สูงถึง 31% แต่นั่นขึ้นอยู่กับที่ตั้งที่แตกต่างกันไป และมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกับราคาของ Branded Residences เช่น ลักษณะการครอบครอง หรือลักษณะทางกายภาพที่พิเศษ เช่น การอยู่อาศัยริมแม่น้ำ หรือติดกับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง

Branded Residences in the future

ตามที่ได้กล่าวไปในช่วงแรก ๆ เราก็จะเห็นอยู่แล้วว่า Branded Residences นั้นจะถูกครองตลาดจากผู้ประกอบการโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็เริ่มเห็นกลุ่ม Non-Hotel Branded Residence เข้ามาเอาส่วนแบ่งในตลาดนี้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่งผลดีให้กับกลุ่มผู้ซื้อที่จะมีโอกาสในการเลือกได้มากขึ้นนั่นเอง และเมื่ออุตสาหกรรมนี้ได้เติบโตเต็มที่นักพัฒนาทั้งหลายต่างต้องเร่งสร้างความแต่กต่างให้กับ Branded Residences เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในด้านที่อยู่อาศัยที่มีแบรนด์ ก่อนที่ที่อยู่อาศัยแบบไฮเอนด์ทั่วไปจะเข้ามาแย่งตลาดนี้ไปในที่สุด แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงมากที่สูดก็คือกลุ่มผู้ซื้อนั้นเอง และถือเป็นเรื่องที่ดีและน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าโลกของ Branded Residences และที่อยู่อาศัยระดับหรูจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในอนาคตข้างหน้าเราคงต้องรอติดตามกันต่อไป….

Source:

https://www.propertylimbrothers.com/branded-residences-a-home-and-hotel-in-one/

https://www.savills.co.th/research_articles/166413/306681-1#article

https://www.knightfrank.com/theview/taking-up-residence/

https://www.hospitalityinsights.com/content/branded-residences-overview-4th-edition-now-published

https://spearswms.com/whats-next-for-branded-residences/