ARTALE Asoke – Rama 9 การกลับมาอีกครั้งของบ้านที่เป็นได้มากกว่าที่พักอาศัย ภายใต้บริบทใหม่ของ New Urban Luxury Pool Villa กับทำเลที่หาไม่ได้อีกแล้ว
การจะมีบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่สักหลังในทำเลย่านพระราม 9 ปัจจุบันคงหาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นทำเลใจกลางเมืองที่สามารถเดินทางได้สะดวกมีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายจึงได้รับความนิยมสูง เช่นเดียวกับโครงการที่จะพามาแนะนำในวันนี้ คือ อาร์เทล อโศก – พระราม 9 (ARTALE Asoke – Rama 9)
สำหรับแบรนด์ Artale หลายๆ คนคงอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออก แบรนด์ Artale เป็นแบรนด์ระดับท็อปสุด (Top Hierarchy) ของกลุ่มสินค้าบ้านแนวราบ “บ้านอนันดา” ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โดยทางบริษัท อนันดา ได้พัฒนาแบรนด์นี้ให้ตอบโจทย์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องโดยที่ผ่านมาแบรนด์ Artale มีการพัฒนาอยู่จำนวน 2 โครงการ บน 2 ทำเลย่าน Extension CBD กับ โครงการ Artale พัฒนาการ-ทองหล่อ ในซอยพัฒนาการ 20
และอีกโครงการตั้งอยู่ในย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา คือ Artale เอกมัย – รามอินทรา เดินทางเชื่อมต่อถึงย่านพระราม 9 และเอกมัยได้สะดวก พร้อมทั้งใกล้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เช่น CDC หรือ Central Festival Eastville โดยทั้ง 2 โครงการก็ได้รับการตอบรับที่ดีจน Sold out ออกไปเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งโครงการที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของ “บ้านอนันดา” ทั้ง 2 โครงการนอกจากจะมีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งแล้ว โครงการบ้านแนวราบภายใต้แบรนด์ Artale ยังมีการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านเพื่อให้สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของบ้าน ผ่านการดีไซน์ การจัดฟังก์ชันรองรับการใช้งานที่หลากหลายรวมไปถึงการเลือกวัสดุที่นำมาใช้ ซึ่งการเพิ่มมูลค่าตัวบ้านเป็นจุดเด่นของแบรนด์ Artale ที่ถ่ายทอดมาถึงโครงการล่าสุดอย่าง อาร์เทล อโศก พระราม 9
โดยจุดเด่นของรูปแบบบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ Artale จะเป็นแบบบ้าน New Urban Luxury Pool Villa ซึ่งเสมือนการนำห้อง Penthouse บนอาคารชุดสุดหรูมายกไว้บนพื้นราบ มาพร้อมการออกแบบระดับ Hi-End โดยทางโครงการเรียกคอนเซปท์ที่อยู่อาศัยว่า “Penthouse on ground”
3 องค์ประกอบหลักบนคอนเซปท์ The Infinite Flow of Life ที่น่าสนใจของ Artale Asoke – Rama 9
โดยคอนเซปท์ของตัวโครงการ เริ่มต้นจากชื่อแบรนด์ Artale ซึ่งเป็นการรวมคำระหว่าง Art และ Tale โดยคำว่า Art มีความหมายสื่อถึง บ้านที่เติมเต็มจินตนาการให้แข็งแกร่งด้วยการออกแบบพื้นที่ระหว่างศิลปะและฟังก์ชันอย่างลงตัว ในส่วนของคำว่า Tale คือ สถานที่ที่เชื่อมโยงเรื่องราววิเศษในทุกช่วงของชีวิตอย่างไม่รู้จบ โดยตัวโครงการออกแบบโดยให้ความสำคัญและความใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความปลอดโปร่งในการอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดผลดีต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว ตามแนวคิด Biophilic Design โดยคอนเซปท์ของโครงการ อาร์เทล อโศก พระราม 9 มี 3 องค์ประกอบหลักที่น่าสนใจดังนี้
1. Boundless Connection คือ การเลือกทำเลใจกลางเมืองที่ดีที่สุดมาใช้ในการพัฒนาโครงการ เพราะ เชื่อว่าเวลา เป็นต้นทุนที่แพงที่สุด ซึ่งทำเลของโครงการเป็นตำแหน่งที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งการเดินทางเข้าเมืองและออกนอกเมือง ใกล้กับทางขึ้นด่วนพิเศษฉลองรัช ใกล้เพียง 7-10 นาทีเท่านั้น
2. Flow of soul บ้านใจกลางเมือง ที่ชีวิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และสะท้อนความเป็นตัวตน ผ่านรูปแบบการดีไซน์ และวัสดุระดับดีที่สุด ตัวโครงการมีการใส่ใจในการเลือกรายละเอียดตัววัสดุ เพราะเป็นสิ่งที่ผู้อาศัยต้องสัมผัสใช้งานในทุกๆวัน
3. The Canvas of life คือ การออกแบบฟังก์ชัน ที่จะทำให้ทุก Generation ใช้เวลาร่วมกันอย่างลงตัวภายใต้แนวคิด Penthouse on ground โดยตัวบ้านของโครงการมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นตั้งแต่ 335 ตารางเมตร จนไปถึง 546 ตารางเมตร ซึ่งมีพื้นที่เพียงพอรองรับกับทุกฟังก์ชันการใช้งานของทุก Generation
พระรามเก้า – รัชดาฯ – ศูนย์วัฒนธรรม: ย่าน CBD ที่ดีที่สุดเพียงย่านเดียวของกรุงเทพฯที่ยังมีโครงการ Luxury Urban Villa พร้อมพื้นที่ Club House ขนาดใหญ่ขาย
ถ้ายึดเอาทำเลที่ได้ชื่อว่าเป็น CBD มาเป็นแกนหลักในการมองหาที่อยู่อาศัยประเภท Luxury Urban Villa ก็จะพบว่าบนทำเลอย่างอโศก สาทร สีลม พระรามสี่ ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียม หรือหากเป็นโครงการบ้านสไตล์ Luxury Urban Villa ก็มักจะเป็นโครงการที่มีขนาดเล็ก เน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านเยอะๆ บนพื้นที่ดินโครงการเพียงแค่ไม่เกิน 2 ไร่ ไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง และไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าในระยะที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลจะพบว่าในปัจจุบันมีโครงการ Luxury Urban Villa เพียงแค่สามโครงการในย่าน CBD พระรามเก้า ช่วงถนนพระรามเก้าตอนกลาง ที่เชื่อมต่อกับย่านรัชดาฯ – ศูนย์วัฒนธรรม และยังใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานี รฟม. โดยโครงการ อาร์เทล อโศก – พระราม 9 จะเป็นหนึ่งในนั้น กับที่ตั้งโครงการขนาด 20-1-94.2 ไร่ บนถนนพระราม 9 ซอย 13 ที่เชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 9 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม รัชดาฯ และถนนเทียมร่วมมิตรได้สะดวก
โดยถนนพระราม 9 ซอย 13 หรือที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่า ย่านพระรามเก้า – รัชดาฯ – ศูนย์วัฒนธรรม ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ นอกเหนือจากพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทตอนต้น เพลินจิต พระราม 1 สีลม สาทร พระราม 4 ด้วยการเกิดใหม่ของโครงการอสังหาฯประเภทอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรม คอนโด และโครงการ Mixed use มากมายทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวถนนรัชดาภิเษกตั้งแต่สี่แยกพระราม 9 ตรงสถานีรถไฟใต้ดินพระราม 9 ขึ้นไปถึงพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รวมไปถึงพื้นที่ตามแนวถนนเทียมร่วมมิตร ถนนวัฒนธรรมด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอาคารสำนักงานเกิดขึ้นหลายอาคารในช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ.2556 เป็นต้นมา นอกจากนี้พื้นที่นี้ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนอีกหลายปัจจัย เช่น
1. สถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่จะเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงินปัจจุบันกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยบริเวณถนนพระราม 9 ซอย 13 จะใกล้กับ MRT สายสีส้มสถานี รฟม.
2. การพัฒนาอาคารสำนักงานและโรงแรมเพิ่มเติมในอนาคตบริเวณสี่แยกพระราม 9 แบบที่กลุ่ม CPN มีความชำนาญ
3. ที่ดินขนาดใหญ่ของกลุ่มอสมท. ที่เปิดทางให้เอกชนเสนอแนวทางการพัฒนาที่ดินขนาดกว่า 70 ไร่ร่วมกัน
จากเหตุผลทุกข้อที่ได้กล่าวมาด้านบนล้วนส่งผลกระทบในแง่บวกต่อโครงการ Luxury Urban Villa ใดๆก็ตามที่ตั้งอยู่ในพระรามเก้า – รัชดาฯ – ศูนย์วัฒนธรรม หรือในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากถนนรัชดาภิเษก อย่างถนนเทียมร่วมมิตร และพระรามเก้าซอย 13 เพราะไม่เพียงอยู่ใกล้พื้นที่ Prime Area ที่เป็น CBD ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินสายสีส้มอย่างสถานีรฟม. รวมถึงสถานีร่วมในอนาคตอย่างสถานีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และยังมีแนวโน้มที่จะมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีกมากมายในอนาคต ส่งผลให้ราคาที่ดิน ราคาที่อยู่อาศัยต้องมีการปรับเพิ่มมากขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน และคงเป็นการยากที่จะหาซื้อบ้านจัดสรรในพื้นที่นี้ในอนาคต หรือถ้าจะมีก็อาจจะมีราคาขายที่แพงมากเมื่อเทียบกับราคาขายในปัจจุบัน