4 เทรนด์การตลาดคริปโตที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2022
4 เทรนด์การตลาดคริปโตที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2022
ปี 2021 ถือเป็นปีที่สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเป็นอย่างมากและเริ่มเห็นสีสันการตลาดที่เกิดขึ้น ปี 2022 ก็ยังน่าจะเห็นกระแสดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและนี่คือปรากฎการณ์ด้านการตลาดที่เราจะได้เห็นจากสินทรัพย์ดิจิทัล และภาคธุรกิจในปีหน้า
ภาคธุรกิจออกโทเคนดิจิทัลเป็นของตัวเอง
ปีนี้เราเริ่มเห็นกระแสของการที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่หันมาออกโทเคนดิจิทัลเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเครือเซ็นทรัล บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน),บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยทั้งหมดเป็นการแจกให้กับลูกค้าและพนักงานฟรีโดยไม่มีการเสนอขายระดมทุน
จุดประสงค์ที่ภาคธุรกิจต่างหันมาออกโทเคนดิจิทัลของตัวเองนอกเหนือจากการทำเพื่อเกาะกระแสความนิยมของสินทรัพย์ดิจิทัล ของคนรุ่นใหม่ยังเป็นการต่อยอดการตลาดรวมถึงสร้างรายได้ใหม่ๆให้กับธุรกิจของตัวเอง เช่น นำไปใช้แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการออกโทเคนดิจิทัลนอกเหนือไปจากเพื่อการลงทุนแล้วยังสามารถใช้เป็นส่วนลดในการเข้าใช้บริการ ในโรงแรม ห้างค้าปลีก ฯลฯ ได้เช่นกัน ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ในประเทศไทย
การที่โทเคนดิจิทัลสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้บน Exchange หรือ Broker ยังทำให้การเปลี่ยนมือระหว่างผู้ถือโทเคนทำได้สะดวกขึ้นและอาจได้รับประโยชน์จากราคาโทเคนที่เติบโตด้วย
อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจขนาดเล็กอาจจะมีความลำบากในการออกโทเคนของตัวเองเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มี Ecosystem ทางธุรกิจที่มี Scale พร้อมกว่า อย่างไรก็ตามเราอาจจะได้เห็นธุรกิจรายใหญ่ที่กระจายโทเคน มายังธุรกิจขนาดเล็กในเครือข่ายเช่นกัน
ปีหน้าเราอาจจะได้เห็นโทเคนดิจิทัลของแบรนด์ต่างๆออกมาชนิดที่จดจำกันไม่ได้ทีเดียวซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีแบรนด์ไหนบ้างที่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้
ใช้คริปโตเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยน
ปีนี้เราได้เห็นภาคธุรกิจจำนวนมากที่เปิดรับชำระเงินและแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้วยสกุลเงินดิจิทัล แม้แต่ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่างเครือเดอะมอลล์ และสยามพิวัฒน์ ร้านกาแฟชื่อดังอินทนิล สายการบิน โรงภาพยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เหตุผลหลักก็คือการเกาะไปกับกระแสของคริปโตนั่นเอง
ในความเป็นจริงธุรกิจที่เปิดรับคริปโตเหล่านั้นแทบไม่ได้รับประโยชน์ใดๆจากมูลค่าหรือราคาของเหรียญที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างไรเพราะได้ใช้เทคโนโลยีในการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนจากคริปโตมาเป็นเงินบาทแบบเรียลไทม์ แต่อาจจะมองว่าได้ทำการตลาดกับกระแสเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง
แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกมาเตือนเรื่องของการใช้คริปโต ในการใช้จ่ายและอาจจะมีมาตราการควบคุมดูแลออกมา แต่ไม่น่าจะทำให้กระแสของการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลของบริษัทห้างร้านต่างๆหายไปแต่อย่างไรและปีหน้าเราอาจจะได้เห็นธุรกิจ ขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอีหันมามาใช้สกุลเงินดิจิทัลรับชำระค่าสินค้าและบริการ