[1st Impression] BuGaan Pattanakarn บูก้านโครงการที่ 3 กับคอนเซปท์การออกแบบที่แตกต่าง และหวือหวามากกว่าเดิม
แม้ว่าซอยพัฒนาการ 32 จะมีบ้านเดี่ยวราคาแพงมาเปิดขายจนเกือบจะทั่วทั้งบริเวณ 2 ฝั่งถนนแล้ว แต่เชื่อแน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถผ่านมายังหน้าโครงการ BuGaan Pattanakarn (บูก้าน พัฒนาการ) ก็คงจะต้องหยุดมองไปที่ Main Gate ของโครงการราวกับต้องมนต์สะกดของอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้เราเข้าไปร่วมค้นหาความพิเศษอันน่าหลงใหลของโครงการในแบบไม่รู้ตัว “นี่บ้านใครกัน ทำไมถึงกล้าเอาต้น Olive Tree ทรงสวยขนาดใหญ่เว่อร์ๆที่มีอายุกว่า 1,000 ปี จากประเทศสเปน มาปลูกไว้หน้าทางเข้าโครงการ ซึ่งมันก็ดูเข้ากันได้ดีกับ Main Gate ทรง Cantilever สีทองแบบเหลือเชื่อ” ลำพังแค่หน้าทางเข้าโครงการก็ยังชวนให้ตั้งคำถามได้มากขนาดนี้แล้ว และหากเป็นภายในตัวบ้านล่ะมันจะขนาดไหน…ในมุมมองของผม BuGaan ก็ยังคงเป็น “บ้าน Gu” ที่แม้ว่าจะเปิดตัวมาแล้วถึง 3 โครงการ แต่ความลึกลับ เปี่ยมเสน่ห์ รุ่มรวยรสนิยม และการสร้างเซอร์ไพร์สในเรื่องของการออกแบบสเปซ ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นปัจเจก ที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยสักโครงการ
BuGaan คือเรื่องราวของการหลอมรวมวิถีชีวิตของความเป็น Luxury Lifestyle ในแบบ New Luxury ที่เน้นเรื่องมิติของประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบ Enriched Experiences กับดีไซน์การออกแบบในสไตล์ Modern Luxury Living ความใส่ใจในทุกรายละเอียดกับสเปซและฟังก์ชัน รองรับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันที่หลากหลายอย่างเหนือระดับ โดยแบรนด์ BuGaan เป็นแบรนด์ที่มีแนวคิดมากกว่าบ้านทั่วไป ที่มักจะเน้นในเรื่องของอรรถประโยชน์ในการพักอาศัยตามแบบสมัยนิยม แต่ทุกโครงการภายใต้แบรนด์ BuGaan สะท้อนถึงรสนิยมความหลงใหลของผู้อยู่อาศัย ผ่านการถ่ายทอดลงบนงานออกแบบที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ในแบบเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ด้วยการใส่ใจในรายละเอียด ทุกดีเทล สะท้อนตามสโลแกน My Home Speaks for Myself บ่งบอกความเป็นตัวตน และ Brand Meaning ที่ชัดเจนที่สุด คือ “บ้าน GU”
โครงการ BuGaan Pattanakarn (บูก้าน พัฒนาการ) ที่ผมมาชมในวันนี้ นอกจากจะมีการออกแบบสเปซ และฟังก์ชัน ที่คิดมาจาก Luxury Lifestyle ของลูกค้าอย่างแท้จริงแล้ว ยังมาพร้อมกับความน่าสนใจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ด้วยทำเลที่น่าจะถูกใจกลุ่มเป้าหมาย Old Money ที่คุ้นเคยกับย่านนี้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็ชอบเพราะตั้งอยู่ใกล้ย่านไลฟ์สไตล์อย่างเอกมัย-ทองหล่อ ที่ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาทีก็ถึง แต่ยังรวมไปถึงการออกแบบพื้นที่ที่เอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ Young Successors ที่เต็มที่กับทุกเรื่องของการใช้ชีวิต ครอบครัว ตลอดจนหลงใหลในกิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ กับสังคมคุณภาพในโครงการที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยมีจำนวนบ้านเพียง 17 หลังเท่านั้น
สำหรับโครงการนี้ก็ยังคงถูกพัฒนาภายใต้ 3 ปรัชญาของ Sansiri Luxury Collection อันประกอบไปด้วย
1. Refined Taste การดีไซน์ที่ถ่ายทอดรสนิยมและไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างในโครงการ BuGaan Pattanakarn ตั้งแต่บริเวณทางเข้าโครงการจะพบกับ Main Gate ขนาดใหญ่ที่เป็นแบบ Cantilever โดดเด่นด้วยผนังหินธรรมชาติสีดำตัดกับการตกแต่งด้วยเส้นสตริปสีทอง และยังเพิ่มความเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยต้น Olive Tree อายุกว่า 1,000 ปี จากประเทศสเปน
2. Uncompromising Quality ความพิถีพิถันทุกขั้นตอนในทุกรายละเอียด ทางโครงการมีการเลือกใช้วัสดุที่คัดสรรมาอย่างดี ในทุกๆส่วนของตัวบ้าน และตัวโครงการ
3. Unparalleled Living Experience ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือกว่ากับ BuGaan Pattanakarn มากับความเป็นส่วนตัว เพียง 17 หลังเท่านั้น พร้อมพื้นที่กิจกรรม Hang out สำหรับครอบครัว ภายในบ้านอย่าง Lap Pool ความยาว 10 เมตร และ Inner Courtyard
แม้ที่นี่จะมีจำนวนเพียงแค่ 17 หลัง แต่ก็ยังมีอาคาร Clubhouse จัดไว้ให้บริเวณหน้าโครงการ โดยตัวอาคาร ถูกดีไซน์กระจกให้เป็นแบบ Full-Height มาพร้อมอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายจาก Technogym อุปกรณ์ส่วนควบก็นำเข้ามาจากประเทศโปแลนด์ รวมไปถึง พื้นที่ Lobby Lounge ไว้รองรับแขกโดยจะมีการตกแต่งด้วยภาพวาดบนเฟรมผ้าใบจากศิลปินชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ชื่อภาพ “Crocodile Duck” โดย Barry Reigate ศิลปินชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งมีพื้นที่สวนกระจายในทุก ๆ ส่วนของตัวโครงการ และทางโครงการยังมีการนำ สายไฟฟ้าลงดินให้หมดทั้งโครงการ
สิ่งที่แตกต่างจาก BuGaan 2 โครงการที่ผ่านมาก็คือ ที่นี่มีการออกแบบ Space ภายในบ้านที่ WOW มากกว่าเดิม!ไปสู่อีกระดับของประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการออกแบบพื้นที่ Inner Courtyard เป็นการเปลี่ยนภาพจำเดิม ๆ ของบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น ด้วยการผสมผสานพื้นที่สีเขียวกับพื้นที่ตัวบ้าน ให้การอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น พร้อมทั้งโครงการ BuGaan Pattanakarn มี Private Lab Pool ความยาวถึง 10 เมตร ที่ยกระดับขึ้นไปบนชั้น 2 ซึ่งมีข้อดีกว่าการวางไว้ On Ground ตรงที่ได้วิวดีกว่า รวมถึงการ Maintenance ง่ายกว่า อีกทั้งยังเชื่อมต่อวิวจากห้อง Master bedroom และห้องอื่นๆได้ดีกว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกของทางแสนสิริที่มีการออกแบบสระว่ายน้ำไว้บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้าน ในขณะที่งานดีไซน์สถาปัตยกรรมจะเป็นในรูปแบบ Modern Classic Twist ที่ผสมผสานความ Modern และความ Classic เข้าไว้ด้วยกัน สื่อสารผ่านโทนสีเทาและสีครีมบน Façade ของตัวบ้านที่มีการดีไซน์เฉพาะตัว ด้วยวัสดุ Stone Surface ไม่เหมือนกับโครงการที่ผ่านมา ทำให้เกิดความรู้สึก เท่ห์ และ อบอุ่น Homey ไปพร้อม ๆ กัน
และเพื่อให้สมศักดิ์ศรีกับการเป็นโครงการ BuGaan ที่มีราคาสูงที่สุด (ราคาขายเริ่ม 65 – 130 ลบ.*) ทางโครงการมีการคัดสรรวัสดุคุณภาพที่เป็นระดับ Luxury Standard ไม่ว่าจะเป็น ชุดเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สุขภัณฑ์ การตกแต่ง Art Pieces & Painting รวมถึงการเลือกหินธรรมชาติ ซึ่งทางทีมผู้ออกแบบของโครงการ BuGaan Pattanakarn ได้คัดเลือกมาจากเหมืองหินที่อิตาลี จากงาน Marmo+mac Verona Fair ซึ่งเป็นงานแฟร์หินระดับโลก โดยจะนำมาใช้ตามจุดสำคัญต่างๆ ภายในบ้าน เช่น พื้นที่ผนัง Top ครัว พื้นที่ Foyer รวมถึงพื้นที่ห้องนอนและห้องน้ำ เป็นต้น