[1st Impression] มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า บ้านคลัสเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ที่ให้คุณได้ขยายอาณาจักรแห่งความสุขไปได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด
คำว่า “บ้าน” นั้นมีองค์ประกอบอยู่หลายอย่างมากครับ บางคนอาจจะมองว่าบ้านเป็นเพียงแค่สิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นมาเพื่อพักอาศัย จะใหญ่หรือเล็ก เดินทางสะดวกแค่ไหนก็แล้วแต่งบประมาณของเจ้าของบ้าน และจำนวนสมาชิกภายในบ้าน แต่สำหรับใครหลายๆคนรวมถึง MQDC คำว่า “บ้าน” เป็นสถานที่ที่รวมไว้ซึ่งเรื่องราวแห่งความสุข ที่หาไม่ได้จากสถานที่อื่นๆทั่วไป และเป็นความสุขแบบยั่งยืนที่เกิดจากสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของคนในครอบครัวเท่านั้น เพราะการอยู่อาศัยร่วมกันในบ้านหลังใหญ่ ที่ประกอบด้วยสมาชิกหลายช่วงวัยในแบบ Multi – Generation คือพื้นฐานวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทย และเอเชีย ส่วนใหญ่ ที่มักให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว ที่เปรียบดั่งสายใยที่เชื่อมความอบอุ่น มอบความรัก เกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกันจากรุ่นสู่รุ่น จึงเป็นที่มาของโครงการที่ผมได้มีโอกาสแวะมาดูวันนี้อย่าง “มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า” ครับ
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาหากเราพูดถึงบ้านในระดับราคาเกินกว่า 200 ล้านบาท ก็มักจะเป็นบ้านที่อยู่ในกลุ่มเซกเมนท์ของ “บ้านประจำตระกูล” ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ส่วนใหญ่แล้วเป็นบ้านที่เจ้าของบ้านเลือกที่จะก่อสร้างบนที่ดินของตัวเองเป็นหลัก แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เทรนด์ในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในระดับ Ultra – Luxury มีมากขึ้นเพื่อให้สอดรับกับดีมานด์ของกลุ่มครอบครัวระดับเจ้าสัวที่มีกำลังซื้อมหาศาล และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งบ้านเหล่านั้นมักจะนำเรื่องราวของการสร้างสังคมคุณภาพในแบบ Exclusive มีเพียงไม่กี่หลัง และมอบพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาเป็นจุดดึงดูดหลัก แต่ข้อจำกัดของโครงการเหล่านั้นก็คือมักจะมีรูปแบบแปลงบ้านที่ค่อนข้าง Fixed กับขนาดที่ดิน มีการแบ่งโซนแยกประเภทบ้านเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ทำรั้วรอบขอบชิด บางคนอยากที่จะซื้อบ้านหลังใหญ่สุดติดกัน 2 – 3 หลังก็ทำไม่ได้ เพราะเหตุผลด้านการขายทำให้ต้องจัดผังแบบนั้น หรือจะเลือกซื้อบ้านหลังใหญ่ไปเลยเพียงหลังเดียวและอยู่ร่วมกัน 2 – 3 ครอบครัว ก็ดูจะขาดซึ่งความเป็นส่วนตัว ชวนให้หาเรื่องทะเลาะกันซะเปล่าๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดีมานด์ของกลุ่มผู้ต้องการบ้านระดับราคา 400 – 500 ลบ.ยังไม่ได้ถูกเติมเต็มเท่าที่ควร จนทำให้หลายๆครอบครัวเจ้าสัวระดับ Billionaire มองว่า ถ้าต้องใช้เงินระดับ 500 ล้านบาทในการซื้อบ้านจัดสรร ก็สู้ไปสร้างเองดีกว่า…ซึ่งนี่ก็คือช่องว่างทางการตลาดที่ทาง มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า มองเห็นครับ โดยโครงการมีจุดดึงดูดที่น่าสนใจเพียงพอที่จะทำให้กลุ่มครอบครัว Billionaire ซื้อที่นี่ได้ไม่ยากเลยนะ อย่างแรกก็คือในเรื่องของแนวคิดในการออกแบบบ้าน ที่หลายวิลล่าถูกเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ครอบครัวขยายที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเจเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง นอกจากนี้ การสร้างบ้านสไตล์คลัสเตอร์ที่บ้านมากกว่าหนึ่งหลังเชื่อมต่อถึงกัน แทนที่จะสร้างบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่มากๆ เพียงหนึ่งหลังแล้วให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในนั้น ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดโอกาสให้คนในแต่ละเจเนอเรชั่นสามารถออกแบบเลย์เอาต์และการตกแต่งภายในบ้านของตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการ และสไตล์ที่แตกต่างกันตามแบบฉบับของตัวเองได้ ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน หรือเถียงกันเรื่องการออกแบบ ฟังก์ชัน รวมถึงการบริหารพื้นที่ส่วนตัว

ส่วนอย่างที่สองก็คือเรื่องของทำเลที่ตั้งอยู่ภายในโครงการที่เป็น One of A Kind อย่าง The Forestias ที่แม้เราจะมีเงินมากในระดับ 200 – 600 ล้านบาท ก็ไม่สามารถที่จะสร้างบ้านให้มีองค์ประกอบของความสมบูรณ์แบบได้เหมือนที่นี่ ซึ่งเป็นโครงการเมืองต้นแบบแห่งแรกของโลก บนพื้นที่ 398 ไร่ ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ Biodiversity โดยมีแนวทางการพัฒนาโครงการด้วยการนำความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และมนุษย์ มาอยู่ร่วมกันภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพและเอื้อประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงการทำลายสิ่งแวดล้อมและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ระบบนิเวศของโลก มีป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่บริเวณใจกลางโครงการ พร้อมทางเดินยกระดับที่ทอดยาวทะลุผืนป่า และลำธารยาว 1.6 กิโลเมตร