โดดเด่นบนความสมดุล ‘KingBridge Tower’ อาคารสำนักงานระดับ Iconic Grade A Office บนแนวคิดการออกแบบ Workspitality ที่คำนึงถึงสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร การันตีด้วยมาตรฐาน Fitwel 3 ดาว เชื่อมต่อทุกความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ชยางกูร กิตติธีรธำรง 14 May, 2024 at 20.05 pm

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ จำกัด บริษัทในเครือสหพัฒน์ทุ่มงบ สร้างตึก Iconic สูงที่สุดย่านพระราม 3 พร้อมสวนลอยฟ้าที่สวยที่สุด การันตี Fitwel 3 ดาว ประเภท  Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและในเอเชีย

ในปัจจุบันตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าระดับเกรด A ล้วนมุ่งพัฒนาความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม (Green Building) ซึ่งตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯอุปทานที่เกิดขึ้นใหม่ (Supply) หลายแห่ง มักจะมาพร้อมกับมาตรฐานอาคารในระดับ International Standard ที่มีการรับรองมาจากหน่วยงานต่างประเทศ โดยพบว่าจะมีการคำนึงอยู่ใน 3 ด้านหลัก คือ

 

1) มาตรฐานด้านการอนุรักษ์พลังงานอาคาร เช่น LEED, Green Mark และ Tree
2) มาตรฐานด้านสุขภาวะ (Health & Wellness) เช่น Well และ Fitwel
3) มาตรฐานด้านการเชื่อมต่อทางดิจิทัล (Digital Connectivity & Smart Building) เช่น WiredScore และ SmartScore ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมและนำมาใช้ในประเทศไทย

 

สำหรับในฝั่งของผู้เช่า บริษัทชั้นนำส่วนใหญ่ก็ให้ความสนใจไปที่การสร้างความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ กับพื้นที่การทำงาน ที่สามารถตอบรับการทำงานในหลากหลายรูปแบบ เพื่อไลฟ์สไตล์ที่ดีอย่างยั่งยืนของผู้ทำงานภายในอาคาร ซึ่งการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร นับว่าเป็นเทรนด์สำคัญในด้านการออกแบบพื้นที่ทำงานของปี 2567 โดยเป็นการมองหาพื้นที่ทำงานให้มีความยืดหยุ่น (Hybrid Workplace) มีพื้นที่เปิดโล่งในแบบ Open Plan แทรกด้วยต้นไม้ และสวนพักผ่อน เพื่อเชื่อมโยงการใช้งานระหว่างผู้ใช้อาคารกับธรรมชาติ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาวได้ แทนที่การทำงานในพื้นที่แบบเดิมๆ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำนักงาน โต๊ะทำงานที่เรียงกันหลายแถว และห้องประชุมขนาดเล็ก เพื่อจุคนให้ได้มากที่สุด 

 

โดย Sebastian Mindroiu จาก PickTwo Studio ให้คำนิยามของการทำงานในปี 2567 ว่าเป็น ‘Workspitality’ หรือเป็นการรวมระหว่าง Working กับ Hospitality เพราะการที่พนักงานจะกลับมาทำงานที่ออฟฟิศย่อมต้องการประสบการณ์ทำงานที่ดีและพื้นที่สุขภาวะที่ดีในการทำงานด้วย ไม่ใช่เป็นเพียงการจัดพื้นที่โต๊ะเก้าอี้ทำงานส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลางแบบเดิมๆ

 

ซึ่งอาคารใดที่พัฒนาออกมาแล้วสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ก็จะมีโอกาสในการดึงดูดกลุ่มผู้เช่าที่เป็นบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพได้ เช่นเดียวกับโครงการ KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) จากเครือสหพัฒน์ อาคารสำนักงานให้เช่า Iconic Grade A แห่งใหม่ ที่ใช้หลักการของ Circular Economy ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรในการก่อสร้างอย่างคุ้มค่า ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังการันตีด้วยรางวัลระดับโลกหลายรางวัล โดยเฉพาะ Fitwel 3 ดาว ประเภท  Multi-Tenant Base Building เป็นอาคารแรกในไทยและในเอเชีย

โครงการ KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) เกิดจากความร่วมมือกันของพันธมิตร ระดับโลกมากมาย ตั้งแต่ด้านงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบจากบริษัทสถาปนิกอย่าง A49 ร่วมกับ Mott MacDonald ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลกและเป็นผู้ร่วมออกแบบสะพานภูมิพล ได้มาร่วมกันออกแบบตึกนี้ให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล และยังมีบริษัท Thai Obayashi ผู้มาควบคุมการก่อสร้าง (Main Contractor) โดยมีบริษัท SCG ที่ได้ร่วมมือกันพัฒนา KingBridge Tower เพื่อให้เป็น Pilot Project ด้าน Sustainability โดยมีการก่อสร้างตามหลัก Circular Economy

 

นอกจากนี้ยังมี คุณสาธิต กาลวันตวานิช (Studio Avocado) บริษัทที่ปรึกษาด้านงานดีไซน์และครีเอทีฟโซลูชัน (Brand Narrative) ที่มาช่วยออกแบบประสบการณ์ภายในตึกให้ภายในตึกมีชีวิตชีวาและโดดเด่นไม่เหมือนใคร


โดยเฉพาะ Office Show Suite ที่เพิ่งเปิดตัวต้นปีนี้ เชื่อว่าจะต้องเป็น Office Show Suite ที่สวย สะท้อนความตั้งใจ และสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้มาเยี่ยมชมได้มากเลยทีเดียว

โดยในรายละเอียดของอาคาร KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าแห่งใหม่ ในระดับ Iconic Grade A มีการพัฒนาอยู่บนพื้นที่ดินโครงการกว่า 6 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 3 โดยอาคารสำนักงานมีความสูง 52 ชั้น มีชั้นใต้ดินและชั้นดาดฟ้า มีพื้นที่จอดรถรองรับกว่า 800 คัน และตามเทรนด์อนาคตก็จะมีการติดตั้ง EV Charger ถึง 31 จุด โดยอาคารแห่งนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยทั้งอาคารอยู่ที่ประมาณ 85,000 ตารางเมตร สามารถแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก ประกอบด้วย

 

1. พื้นที่สำนักงาน (Office Space)

พื้นที่สำนักงานมีพื้นที่ทั้งหมด 35,000 ตารางเมตร สามารถแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก คือ Low Zone, Mid Zone และ High Zone โดยแต่ละชั้นจะมีความสูงพื้นถึงฝ้าเพดาน (Floor to Ceiling) 3 เมตร ทำให้ไม่ต้องกลัวเลยว่าพนักงานที่ใช้งานภายในอาคารจะอึดอัดแต่อย่างใด เพราะด้วยความสูงถึง 3 เมตร จะมอบความรู้สึกที่โปร่งโล่งตลอดทั้งวัน

 

นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยกระจกรอบทิศทางที่สามารถรับวิวได้เต็มๆ 360 องศา แม้แต่ห้องน้ำก็สามารถมองเห็นวิวได้ทุกชั้น และไม่ต้องกังวลว่าจะร้อน เพราะตัวอาคารมาพร้อมกับกระจกแบบ IGU (Insulated Glass Panel) & Low-E เป็นกระจกหนา 3 ชั้น สามารถกรองแสง รังสี UV และกรองเสียงได้ รวมไปถึงยังมีการออกแบบที่คิดให้เป็น Harmonic Design รวมการใช้ชีวิตผสานกับธรรมชาติ โดยออกแบบติดตั้ง Fin (Sunshade) กันแดดภายนอกอาคาร ทำให้แสงที่จะสาดส่องเข้ามาภายในพื้นที่อาคารลดลงตามไปด้วย เป็นการช่วยลดความร้อน ลดการใช้พลังงานภายในอาคาร และยังสามารถใช้งานพื้นที่ภายในอาคารได้อย่างคุ้มค่าครบทุกตารางเมตร 

ส่วนอุปกรณ์พื้นฐานอื่นๆ ที่มีการติดตั้งมาให้ภายในพื้นที่สำนักงาน อาทิ การติดตั้งไฟถนอมสายตา พื้นอาคารเทคอนกรีตมาให้ และเครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมการกรอง PM2.5 และฆ่าเชื้อด้วย UV-C ที่รองรับการใช้งาน 24 ชั่วโมง เป็นต้น

 

2.พื้นที่ค้าปลีก (Retail)

ทางโครงการออกแบบพื้นที่ค้าปลีกจัดเต็มมาให้ต่อเนื่องถึง 4 ชั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง มีพื้นที่รวมกว่า 5,000 ตารางเมตร โดยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น B จนไปถึงชั้น 3 ซึ่งจะประกอบด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงศูนย์อาหารของพนักงาน (Healthy Canteen) ซึ่งความพิเศษของการออกแบบ โดยเฉพาะในบริเวณชั้น 1 คือมีการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Retell Retail ที่ไม่เหมือนใคร โดยออกแบบให้เป็น Open Space ลานกิจกรรมกว้างเพื่อให้ทุกคนได้มีรอยยิ้ม

 

เนื่องจากทางโครงการมีการออกแบบพื้นที่ที่ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ให้พนักงานภายในอาคารสามารถมีจุดหยุดแวะพักเติมพลัง พบปะพูดคุยกัน หรือจะปรึกษากันก่อนที่จะขึ้นไปออฟฟิศได้ เป็นการออกแบบที่มอบประสบการณ์ที่แตกต่างเพื่อเพิ่มความสุขในการทำงาน

นอกจากนี้ในพื้นที่ชั้น 39 เป็น Sky Lounge และชั้น 50-51 ยังเป็นพื้นที่ Sky Dining กับร้านอาหาร Fine Dining ที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้มาใช้งานอีกด้วย

 

3.พื้นที่สีเขียว (Green Space)

อาคาร KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) ได้แบ่งพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตรหรือประมาณ 1 ไร่ มาจัดสรรเป็นพื้นที่สีเขียวผสมผสานกับพื้นที่กิจกรรมกระจายไปทั่วทั้งอาคาร ตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน โดยมีไฮไลต์สำคัญคือ Sky Garden บนชั้น 23 เชื่อมต่อกับ Meeting Facilities ชั้น 24 ที่มีวิว 360 องศาที่สวยงาม ออกแบบมาเพื่อให้คนทำงานได้มีโอกาสออกกำลังกาย ผ่อนคลายระหว่างวัน โดยใช้ Concept Walk & Talk ที่สามารถเดินไปคุยงานกันไป

การออกแบบพื้นที่สีเขียวของอาคารเป็นการออกแบบที่ให้พนักงานสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ง่าย มีฟังก์ชันที่หลากหลาย สามารถออกมานั่งพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ในระหว่างวัน หรือจะนั่งประชุมกลุ่มเล็กๆ แบบกึ่งทางการ หรือรับประทานอาหารในช่วงกลางวันก็สามารถทำได้ แม้แต่ก่อนทำงานหรือหลังเลิกงานถ้าคิดจะออกกำลังกาย ตัวอาคารก็มีพื้นที่วิ่งออกกำลังกายรวมถึงห้องอาบน้ำเตรียมไว้ให้ในชั้นนี้เช่นกัน 

 

ถือเป็นการตอกย้ำความใส่ใจของผู้ใช้อาคาร การันตีด้วยมาตรฐาน Fitwel 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building อาคารแรกในไทยและในเอเชีย

จากแนวคิดของเครือสหพัฒน์ ที่มีการขยายกิจการ เติบโตขึ้นในย่านสาธุประดิษฐ์ พระราม 3 มีบริษัทในเครือมากมายที่แม้จะผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่างกันแต่สามารถทำงานบนจุดมุ่งหมายเดียวกันได้ จนทำให้เครือสหพัฒน์เติบโตแข็งแรง เป็นที่มาในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงาน KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) ผ่านการพัฒนาภายใต้แนวคิด “The Spirit of Synergy” เป็นการสร้างตึกที่ทั้งบริษัทและพนักงานที่มาอยู่ที่นี่สามารถเติบโตด้วยกันอย่างแข็งแรงและมีความสุข ตลอดจนอาคารยังต้องสามารถอยู่ร่วมกับชุมชน และเป็นส่วนในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดการเชื่อมต่อทุกความสำเร็จอย่างยั่งยืน ซึ่งจากแนวคิดเรื่องความยั่งยืนนำมาสู่ฟีเจอร์เด่นที่นึกถึงทั้งผู้เช่าและพนักงาน ผ่าน 2 แกนสำคัญ คือ 

 

แกนที่ 1 อยู่แล้วยิ้ม – เป็นแนวคิดที่ทาง KingBridge Tower ให้ความใส่ใจต่อพนักงานและผู้เช่า

Bridge & Riverview Canteen เปลี่ยนมื้อเที่ยงให้เป็น Highlight of The Day โดยนำพื้นที่ชั้นที่สวยที่สุดของอาคารมาทำเป็นพื้นที่ศูนย์อาหาร (Healthy Canteen) เปิดรับวิวสะพานภูมิพลและโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งจะเป็น Concept ใหม่ไม่เหมือน Canteen หรือ Food Court ทั่วไปและรอเปิดตัวเร็วๆ นี้


Well-Being, Well-Working ทำงานได้อย่างมีความสุขกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา อาคารที่มีการติดตั้งกระจกกรองแสงกันความร้อน มีระบบกรองอากาศประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 และกรองฝุ่นขนาด 0.3 Micron ได้ถึง 90% พร้อมฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย UV-C 

Sky Garden มีพื้นที่สวนลอยฟ้าเต็ม 1 ชั้น ที่ตั้งใจสร้าง Space นี้ให้เป็นจุดสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานมานั่งพักผ่อน พูดคุยกัน รวมถึงพื้นที่ Free Space รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ลู่วิ่ง ห้องอาบน้ำ Café และจุดน้ำดื่มสะอาดบริการฟรี

 

แกนที่ 2 บริษัทอยู่ด้วยกัน เติบโตไปพร้อมกัน – ด้วยอาคารที่เป็นมากกว่าอาคารสำนักงาน

WiredScore Platinum (Pre-certified) พร้อมกับมาตรฐานระดับโลกด้านการเชื่อมต่อทางดิจิทัล WiredScore ระดับสูงสุด Platinum ที่การันตีความสามารถในการเชื่อมต่อ Digital Connectivity ได้ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

Smart System อาคารมีการออกแบบเป็น Smart Building ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามา  ระบบลิฟต์บริเวณลานจอดรถแบบ Hologram ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีนี้เป็นที่แรก, Smart Dashboard เพื่อเช็คข้อมูลและจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การจัดการ หรือสิ่งอำนวยสะดวก เพื่อความสะดวกและปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน 

Ultimate Meeting Facilities กับการออกแบบ Business Facilities มาอย่างครบครันและหลากหลายฟังก์ชัน หลากหลายบรรยากาศ สามารถรองรับผู้ประชุมได้ตั้งแต่ 6 ท่าน จนถึง 300 ท่าน และรองรับการจัดงานสัมมนา ประชุมบอร์ดบริหาร งานแถลงข่าว เปิดตัวสินค้าใหม่ หรือกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละองค์กรโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่อื่น

Connectivity Point ในส่วนของทำเลโครงการ ก็ถือว่าพิเศษไม่แพ้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ใส่เข้ามาให้ในอาคาร โดยในทำเลย่านพระราม 3 ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ (CBD) ในเวลาอันสั้น ด้วยตำแหน่งของที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนพระราม 3 ทำให้ใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็สามารถเชื่อมเข้าสู่สาทร-สีลมได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งยังใกล้กับทางขึ้น-ลงสะพานภูมิพล ทำให้ไม่ว่าจะต้องการเดินทางไปทั้งย่านบางนา พระประแดง ราษฎร์บูรณะ หรือ แม้แต่ฝั่งสมุทรปราการก็สามารถเดินทางไปได้สะดวกทั้งคู่ ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ยังใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานครด้วย ในส่วนด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการจะมี BRT สถานีวัดด่านให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางเพื่อเชื่อมต่อไปยัง BTS ที่สถานีช่องนนทรีได้ รวมถึง EV Shuttle Bus ของโครงการที่พร้อมให้บริการผู้ใช้อาคารทุกท่านตลอดวันโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน



สำหรับสภาพแวดล้อมรอบโครงการถือว่าไม่ได้แออัด เพราะมีสวนสาธารณะตรงข้ามโครงการ พื้นที่โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านจัดสรรและโฮมออฟฟิศ หรือถ้าเป็นโครงการแนวสูงก็จะมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน โดยจะอยู่ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังมีข้อดีจากทำเลโครงการที่อยู่บริเวณโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี ทำให้สามารถรับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มๆ รวมไปถึงยังใกล้กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่าง ‘บางกะเจ้า’ 

 

จากข้อมูลทั้งหมดที่เล่าไป จะพบว่าอาคารสำนักงานแห่งนี้มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากมาย แต่จะขอสรุป 5 จุดเด่นหลักๆ ที่สร้างความแตกต่างให้กับโครงการ KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) และตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของอาคารสำนักงานบนทำเลย่านพระราม 3 ผ่านแนวคิดที่อยากสร้างสิ่งที่ดีจากการรวมพลังกันและส่งมอบรอยยิ้มให้พนักงานและชุมชน กับการการันตีด้วยรางวัลระดับโลกหลายรางวัล

 

1. สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเคียงคู่กับสะพานภูมิพล
จากความร่วมมือในการออกแบบสถาปัตยกรรมจากบริษัท A49 ร่วมกับ Mott MacDonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลก ที่ร่วมออกแบบให้อาคารนี้มีเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นเคียงคู่สะพานภูมิพล เป็นความสง่างามบนความสมดุลที่ไม่ได้สร้างมาแข่งกันแต่มาเสริมกัน

 

2. ทำเลที่ตั้งโครงการสุดพิเศษบนถนนพระราม 3 เห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งการเดินทางเข้าเมืองที่ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที อย่างเช่น อโศก สีลม สาทร หรือจะเดินทางออกนอกเมืองไปทางบางนาสมุทรปราการ พระประแดง หรือพระราม 2 ก็สะดวกรวดเร็วทั้งคู่ พร้อมทั้งยังใกล้ขนส่งมวลชนสาธารณะ BRT สถานีวัดด่าน ที่สามารถใช้เชื่อมต่อ BTS สถานีช่องนนทรี เพื่อเข้าสู่พื้นที่ในย่านสีลม สาทรได้อย่างสะดวก

 

3. แนวคิดสู่ความยั่งยืน กับ 2 แกนสำคัญ
แกนที่ 1 ‘อยู่แล้วยิ้ม’ เป็นแนวคิดที่เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของพนักงาน พร้อมที่จะยกระดับให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน แกนที่ 2 ‘บริษัทอยู่ด้วยกัน โตไปพร้อมกัน’ เชื่อใน The Spirit of Synergy เป็นวิสัยทัศน์ที่จะนำความเป็นที่สุดในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต 

 

4. มาตรฐานอาคารระดับโลก
อาคารที่มาพร้อมมาตรฐานระดับโลก การันตีรางวัลจากต่างประเทศหลายสาขา ทั้งด้านการประหยัดพลังงาน, ด้าน Health & Wellness และด้าน Digital Connectivity ทำให้มั่นใจได้เลยว่าอาคารสำนักงานแห่งนี้จะสามารถรองรับทุกกิจกรรม ทุกการใช้งานสำหรับธุรกิจของคุณ

 

5. Facilities ที่เข้าใจถึงคนใช้งานและการมอบสุขภาวะที่ดี
โครงการมีการออกแบบพื้นที่สำหรับการทำงานยุคใหม่ที่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนการใช้งานอยู่ตลอดเวลา ด้วยการมอบพื้นที่ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Sharing Space พื้นที่ทำงานที่รองรับทั้งการจัดสัมมนา อบรม หรือการประชุม Conference และยังรวมไปถึงชั้น Sky Garden โซนพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อน ที่เห็นวิว 360 องศา 

มากไปกว่านั้นอาคารสำนักงาน KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) ยังคว้า 10 รางวัลจากเวทีระดับประเทศ, Southeast Asia และ Asia ในปี 2023

 

– 3 รางวัลจากเวที PropertyGuru Asia Property Awards 2023

  • Best Office Development
  • Best Office Interior Design
  • Best Office Architectural Design

– 4 รางวัลจากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards 2023

  • Best Sustainable Development
  • Best Office Development
  • Best Office Interior Design
  • Best Office Architectural Design

– Top In Country : Better World Builder of the Year จาก Autodesk Innovation Award 2023

– FIABCI-Thai PRIX D’EXCELLENCE AWARDS 2023 สาขา Office (Commercial Building)

– Dot Property Awards 2023 : Best Iconic Urban Development

 

และที่สำคัญ ด้วยการที่ KingBridge Tower เป็นอาคารสำนักงานระดับ Iconic Grade A ที่พัฒนาตามหลักการ Circular Economy จึงสอดรับเทรนด์รูปแบบอาคารสำนักงานสมัยใหม่ที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลทาง KnightFrank เปิดเผยว่าภาพรวมของตลาดอาคารสำนักงานไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2566 มีความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพอยู่ที่ 160,000 ตารางเมตร โดยเฉพาะอาคารสีเขียวมีสัดส่วนถึง 53,400 ตารางเมตร แสดงให้เห็นถึงเทรนด์และความต้องการเพิ่มขึ้นของการเลือกอาคารสำนักงานที่ใช้แนวทางในการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

ปัจจุบัน KingBridge Tower ก่อสร้างไปแล้ว 80% และพร้อมเปิดอาคารในช่วงปลายปี 2567 ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kingbridgetower.com หรือ โทร. 087-585-8888

ติดตามข่าวสาร https://www.facebook.com/KingBridgeTowerBangkok

ชยางกูร กิตติธีรธำรง

ชยางกูร กิตติธีรธำรง

สถาปนิกจบใหม่ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโท มีความสนใจด้านอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทตั้งแต่ที่อยู่อาศัย ออฟฟิศ คอนโด โรงแรม และชอบไปดูโครงการและงานออกแบบอยู่เสมอ เพื่อเก็บเกี่ยวองค์ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ

เว็บไซต์

โนเบิล นอร์ส กรุงเทพกรีฑา

แอดเลอร์ ถนนจันทน์

นิว ครอส คูคต สเตชัน

หากใครที่มีโอกาสได้นั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานีคูคต หรือขับ...

29 May, 2024

นิว โนเบิล ไฟฉาย - วังหลัง

พร้อมอยู่ พร้อม Shine ชีวิตให้เฉิดฉาย ที่ “Nue Noble...

10 May, 2024

แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา-กม.15

SC Asset เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มี Brand Perception อัน...

30 April, 2024

ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน-ราชวัตร

ทำเลสามเสน – ราชวัตร เป็นทำเลที่ยังคงมีความเป็นศูนย์...

3 April, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง