เพราะการร้องเรียนรัฐไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือการดูแลและรักษามูลค่าอสังหาฯ ของเรา
เพราะความโปร่งใสคือรากฐานของเมืองน่าอยู่ และทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง
ในสังคมไทย คำว่า “ร้องเรียน” มักถูกตีความในทางลบ หลายคนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องวุ่นวาย เป็นหน้าที่ของคนที่ชอบขัดแย้ง หรือบางคนอาจคิดว่า “เดี๋ยวเขาก็จัดการเอง” แต่ในความเป็นจริง การร้องเรียนคือการแสดงความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของพลเมืองผู้รักบ้านของตน
บ้านของเราไม่ได้หมายถึงแค่บ้านที่อยู่อาศัย แต่หมายถึงถนนที่เราเดินทุกวัน สวนสาธารณะที่ลูกหลานเล่น โรงเรียนที่ลูกหลานเรียน ทางระบายน้ำที่มีไว้ และโครงการต่าง ๆ ของรัฐที่ใช้เงินภาษีของเราทุกคน การเฝ้าดูแลสิ่งเหล่านี้ให้ดีและโปร่งใส ไม่ได้ทำให้เราเป็นคนเรื่องมาก แต่ทำให้เรากลายเป็น “เจ้าของบ้านที่ดี”
ความโปร่งใสมีผลต่อมูลค่าที่แท้จริงของอสังหาริมทรัพย์
หลายคนอาจคิดว่าทำเลทองคือสิ่งที่ทำให้ที่ดินมีราคา แต่ในโลกของการลงทุนจริง ๆ ความเชื่อมั่นต่างหากคือหัวใจสำคัญ
หากเมืองหนึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการบริหารโปร่งใส ถนนและสาธารณูปโภคมีคุณภาพ โครงการภาครัฐใช้เงินคุ้มค่า นักลงทุนย่อมอยากเข้ามาพัฒนา เมืองนั้นก็จะเติบโต
ในทางกลับกัน หากเมืองใดเต็มไปด้วยปัญหาทุจริต โครงการสร้างถนนที่พังในไม่กี่เดือน หรืองบประมาณสาธารณะหายไปกับกลุ่มผลประโยชน์ มูลค่าที่ดินในพื้นที่นั้นย่อมตกลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ยังรายงานว่า ทำเลที่มีระบบติดตามและเปิดเผยโครงการภาครัฐ เช่น พื้นที่รอบเมืองพัทยาและโคราช ซึ่งมีชุมชนร่วมตรวจสอบงานสาธารณะ มีราคาที่ดินเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 20% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าความโปร่งใสไม่ใช่แค่เรื่องของคุณธรรม แต่คือ “ทุนทางเศรษฐกิจ” ที่สร้างมูลค่าระยะยาวให้กับทุกคนในพื้นที่
ปัญหาความโปร่งใสของรัฐของไทยอยู่ในระดับใด
ภาพจาก https://www.transparency.org/en/countries/thailand
ประเทศไทยร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 107 ของโลก จากรายงาน ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ปี 2024 โดยองค์กร Transparency International ประเทศไทยได้คะแนน 34 คะแนนจาก 100 ลดลง 1 คะแนนจากปีก่อน ซึ่งสะท้อนว่าระดับการรับรู้เรื่องคอร์รัปชันในภาครัฐยังอยู่ในระดับสูง แม้บางด้านจะมีพัฒนาการดีขึ้นก็ตาม ในกลุ่มอาเซียน ไทยอยู่อันดับที่ 5 รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) https://www.nacc.go.th/ ชี้ว่า การลดลงของคะแนนมาจากความเห็นของผู้ประเมินที่มองว่า ภาครัฐยังขาดความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ เช่น นโยบายประชานิยมที่ไม่คุ้มค่า การใช้งบเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และการบริหารทรัพยากรสาธารณะที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน แต่ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานักลงทุนทั่วโลกด้วย.
ทีนี้มาโฟกัสที่เฉพาะภาคอสังหาฯ จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก JLL ระบุว่า ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ “โปร่งใส” ของเอเชีย โดยอยู่ อันดับ 10 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ อันดับ 3 ของอาเซียน หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขาย การพัฒนา และกฎระเบียบของตลาดบ้านเราเปิดเผยและตรวจสอบได้มากขึ้น ช่วยให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ซึ่งความโปร่งใสแบบนี้ไม่เพียงลดโอกาสทุจริตในโครงการต่าง ๆ แต่ยังช่วย “เพิ่มมูลค่าทำเล” ให้กับคนในพื้นที่ เพราะเมื่อชุมชนมีข้อมูลเปิด ตรวจสอบได้ และมีส่วนร่วม โครงการพัฒนาในท้องถิ่นก็จะมีคุณภาพจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ และนั่นแปลว่า ที่ดินและอสังหาฯ รอบบ้านเราก็จะเติบโตไปพร้อมกับความน่าเชื่อถือของเมืองทั้งเมืองด้วย.
ACT Ai : เครื่องมือของพลเมืองยุคใหม่ ดูแลบ้านเมืองด้วยข้อมูล
หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าทำไมโครงการซ่อมถนนหน้าหมู่บ้านของเราทำไมนานจังกว่าจะเสร็จ บางครั้งดูป้ายประกาศที่ติดไว้ก็ดูเหมือนจะเกินกำหนดเวลาเสร็จสิ้นโครงการไปนานแล้ว ทำไมไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เราในฐานะเจ้าถิ่นตัวจริงจะหา “data” จากไหนเพื่อไปหารือกับหน่วยงานรัฐที่ดูแลได้บ้าง ปัจจุบันมีวิธีที่ง่ายขึ้นมากแล้วครับ
ในอดีต การร้องเรียนหรือการตรวจสอบโครงการรัฐเป็นเรื่องยาก ต้องเดินทาง ต้องยื่นเอกสาร ต้องใช้เวลาและอาจเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัย แต่ปัจจุบัน พลเมืองสามารถ “ดูแลบ้าน” ได้ง่ายขึ้นมากด้วยเทคโนโลยีอย่าง ACT Ai สามารถหาข้อมูลได้ด้วยตัวเอง เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเร่งให้ สส.ในพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาช่วยกันติดตามให้โครงการเสร็จ
ขอแนะนำเว็บไซต์ ACT Ai https://actai.co/ พัฒนาโดย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) (Anti-Corruption Organization of Thailand) http://www.anticorruption.in.th/ ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยรวบรวม “ข้อมูลเปิดภาครัฐ” https://data.go.th/ ที่สำคัญต่อการต่อต้านการทุจริต และทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ และร้องเรียนได้อย่างสะดวก
บนเว็บไซต์นี้มีหลายเครื่องมือสำคัญ เช่น
– จับโกงงบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ : ใช้ AI วิเคราะห์ความเสี่ยงของโครงการก่อสร้างและการใช้งบประมาณภาครัฐ
– Politics Data : ตรวจสอบประวัติการทำงาน ทรัพย์สิน และคดีความของนักการเมือง
– Corruption Watch “แชตฟ้องโกง ทันใจ” : ช่องทางร้องเรียนโดยไม่เปิดเผยตัวตน และติดตามผลได้
Build Better Lives by CoST : ช่วยให้ประชาชน “ค้นหาโครงการหน้าบ้าน” และติดตามความโปร่งใสของโครงการก่อสร้างภาครัฐได้ทันที