แม้ทิศทางการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯจะอยู่ในช่วงชะลอตัว ไม่คึกคึกเท่าที่เคยเป็นมา จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังเต็มไปด้วยความผันผวน และความยากในการขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวไทยที่ส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่เก็บเงินสดมากกว่าการใช้เงินในการจับจ่ายสินค้าที่มีราคาสู แต่มีอยู่จังหวัดหนึ่งที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักเป็นพิเศษ เติบโตสวนกระแสกรุงเทพฯ นั่นก็คือ จังหวัดภูเก็ต ด้วยสาเหตุหลักที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองตากอากาศชั้นนำระดับโลก เป็นจุดหมายปลายทางของผู้อยู่อาศัยทั่วโลก ทั้งการย้ายเข้ามาอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือทำงานในระยะยาว 6 – 12 เดือน

โดยข้อมูลจาก บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ภูเก็ตมีปัจจัยพื้นฐานต่างๆที่มั่นคง ภาคการท่องเที่ยวยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาะภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรม ณ ครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 71.5 ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ ตลาดบ้านพักตากอากาศจึงมีการเติบโตที่สูง และจากข้อมูลตลาดคอนโดและวิลล่าในภูเก็ต ปี 2568 ยังระบุว่า ยอดขายคอนโดในช่วงปลายปี 2567 เพิ่มขึ้นกว่า 201% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากที่ในปี 2566 มียอดขายเพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปี 2565 ขณะที่ยอดขายวิลล่าเพิ่มขึ้นถึง 148% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ซึ่งฐานผู้ซื้อหลักสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีหลากหลาย ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมีบทบาทสำคัญ กลุ่มผู้ซื้อหลักมาจากรัสเซีย จีน ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่มองหาซื้อคอนโดหรือวิลล่าเพื่อการลงทุนหรือเป็นบ้านพักตากอากาศ โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม หรือ อาคารชุด ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ที่ได้รับความนิยมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีความยืดหยุ่น มีศักยภาพในการลงทุนสูง โดยทำเลศักยภาพก็ยังเป็นบริเวณหาดกะตะ หาดกมลา หาดสุรินทร์ และหาดบางเทา เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงาม สงบ เหมาะกับการเป็นบ้านหลังที่ 2 และที่สำคัญคือการเข้าถึงแหล่งสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ดึงดูดกลุ่มผู้อยู่อาศัยทั่วโลกให้ Relocate มาอยู่

อีกข้อสำคัญที่ทำให้ภูเก็ตมีศักยภาพในการเป็นเมืองระดับนานาชาติ หรือ World City ดึงดูดผู้อยู่อาศัยทั่วโลก คือการที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองที่จะมีคนเข้ามาอยู่อาศัย ทำงานกันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 2 เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และการพัฒนาโครงการทางด่วนกะทู้-ป่าตอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางภายในเกาะภูเก็ตอย่างมีนัยสำคัญ

ภูเก็ต ขึ้นแท่นเมืองอันดับ 5 ของโลก ในการพัฒนาโครงการ Branded Residences

เนื่องด้วยภูเก็ตเป็นเมืองระดับ World Class ที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก การพัฒนาโครงการที่จะสามารถตอบโจทย์ผู้พักอาศัยได้นั้นคงจะไม่จำกัดแค่เพียง การที่มีห้องพักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ ตกแต่งหรูหรา หรือมีทำเลติดชายหาดเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงในทุกๆมิติของการอยู่อาศัย ดังนั้น Solution ที่จะสามารถมาตอบโจทย์ความต้องการได้ คงต้องมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าทั่วๆไป ซึ่งโครงการประเภท Branded Residences ก็เป็นรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการอยู่อาศัยได้มากกว่า มอบคุณค่า มอบประสบการณ์ ที่แตกต่างตามมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งได้มาตรฐานแบบเดียวกันทั่วโลก รวมไปถึงยังสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้ มี Value มากกว่าแค่การครอบครองที่อยู่อาศัยทั่วๆไป

ซึ่งโครงการในประเภท Branded Residences มีข้อได้เปรียบหลายประการ ขอยกตัวอย่างมา 4 ประเด็นหลัก คือ

1) Distinctive Design – โครงการที่มีรูปแบบเป็น Branded Residences จะมาพร้อมกับดีไซน์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากโครงการทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ วัสดุ สีสันที่ใช้ ที่สะท้อนถึง Brand Identity เอาไว้อยู่ รวมถึงอาจจะมีการผสมผสารเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่ตัวโครงการ ไปตั้งอยู่ในพื้นที่นั้นๆด้วย

2) Hotel-Level Living – Branded Residences เป็นการอยู่อาศัยที่มีบริการรองรับในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การมีผู้ช่วยส่วนตัว(Concierge) การมีคนทำความสะอาด(Housekeeper) หรือการรักษาความปลอดภัย(Security) ซึ่งทั้งหมดเป็นไปมาตรฐานในโรงแรมระดับ 5 ดาว ทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

3) Long-Term Value – สำหรับในระยะยาวการันตีได้ระดับนึงเลยว่า ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเองหรือมีไว้เพื่อลงทุน คุณภาพและมาตรฐานการดูแลจะยังเหมือนวันแรกที่เข้าอยู่อาศัย

4) Exclusive Privileges – อย่างสุดท้ายที่คุณจะได้รับจาก Branded Residences คือ สิทธิพิเศษมากมายที่ไม่ได้มีแค่ในตัวโครงการ แต่คุณจะได้รับสิทธิพิเศษทุกที่ทั่วโลกที่ Brand ไปตั้งอยู่

ซึ่งถ้าดูในภาพรวมในการพัฒนาโครงการ Branded Residences จากทาง Global Branded Residences (Q4, 2024) พบว่าจังหวัดภูเก็ต ติดอันดับที่ 5 จาก 10 อันดับของเมืองสำหรับ Branded Residences รองจากเมือง ดูไบ ไมอามี นิวยอร์ค และ เซาเปาลู

จากแนวโน้มของที่พักแนว Branded Residence ทั่วโลก โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Global Branded Residences พบว่ามีการเติบโตกว่าร้อยละ 155 ในรอบ 5 ปี 2562-2568 และคาดการณ์ว่าตัวเลขจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกถึงร้อยละ 208 ในรอบปี 2568-2574 โดยกลุ่มผู้ซื้อและผู้เช่ามีทั้งนักลงทุนต่างชาติ Digital Nomad และผู้ย้ายถิ่นหรือ Re-locator รวมทั้งนักธุรกิจที่ต้องการไลฟ์สไตล์ระดับโลก รวมกับวิสัยทัศน์ในการนำองค์กรสู่การเป็นเบอร์หนึ่ง ในอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Real Estate) และฮอสพิทัลลิตี้ (Hospitality Real Estate) ของบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด นำโดย นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร ที่เชื่อว่าธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ยังสร้างรายได้หลักให้กับประเทศ และภูเก็ตจะยังคงเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และยาวนาน จึงเป็นที่มาของการประกาศจับมือครั้งยิ่งใหญ่กับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (Marriott International) ผู้นำด้านการบริหารโรงแรมระดับโลก มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างระดับเวิล์ดคลาส ในภูเก็ตกับโครงการ เพย์ลา ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น เรสซิเดนซ์ส (PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences) ใจกลางย่านบางเทา จังหวัดภูเก็ต ที่มุ่งเน้นการผสมผสานศิลปะการออกแบบอันประณีต มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้ากับมาตรฐานระดับโลก เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของ Branded Residence ในประเทศไทย

โดยโครงการยังนับว่าเป็นออโตกราฟ คอลเล็คชั่น เรสซิเดนซ์ส แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก็เป็นการการันตีถึงประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างจากเรสซิเดนซ์ ทั่วไปด้วยมาตรฐานการก่อสร้างระดับสากล ควบคู่กับการบริการที่จะยกระดับการอยู่อาศัยประจำวัน สร้างสรรค์ให้เป็นบ้านที่ผสานระหว่างความสมบูรณ์แบบ ของการใช้ชีวิต ความสะดวกสบายและรสนิยม คู่ควรทั้งการอยู่อาศัยและการพักผ่อนระยะยาว เราไปติดตามรายละเอียดความน่าสนใจในตัวโครงการ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences พร้อมกันได้ในบทความนี้เลย

รู้จักกับ Capstone Asset

PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences ถูกพัฒนาโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทย ที่มีชื่อว่า Capstone Asset ซึ่งยึดหลักในการพัฒนาโครงการภายใต้กลยุทธ์ “หนึ่งโครงการ หนึ่งแบรนด์” โดยออกแบบให้แต่ละโครงการมีดีไซน์และนวัตกรรมเฉพาะตัว ตอบโจทย์บริบทตลาดและกลุ่มเป้าหมายของโครงการนั้นอย่างแท้จริง เพื่อให้ทุกแบรนด์มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีตัวตนเป็นของตนเอง ซึ่งผลงานที่ผ่านมาหลายๆคนน่าจะรู้จัก หรือคุ้นชื่อกันบ้าง โครงการแรกก็คือ โครงการ Kimpton Kitalay โรงแรมหรูริมชายหาด เฉวงน้อย เกาะสมุย ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย โครงการที่สอง โครงการ Tonson One Residences คอนโดมิเนียมสุดพรีเมียม ใจกลางกรุงเทพฯ และในปัจจุบันก็ได้ขายหมดไปแล้ว โครงการที่สาม โครงการ Canvas Ploenchit โครงการมิกซ์ยูส ที่รวมทั้งพื้นที่รีเทล และสำนักงาน ตั้งอยู่ตรงข้าม Central Embassy นอกจากนั้นก็ยังมีโครงการ Quarter Collection บ้านหรูในย่านสุขุมวิท ที่ออกแบบ บนแนวคิดใหม่นำที่จอดรถไว้ด้านล่าง นำสวนส่วนกลางยกขึ้นมาด้านบนซึ่งถือว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเวลานั้น และก็ยังมีโครงการ Cooper Siam คอนโดที่ตั้งใจกลางสยาม – บรรทัดทอง อยู่กลางเมืองเดินทางสะดวก และสุดท้ายกับโครงการ Natai Beach ที่กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาโครงการอยู่

ความพิเศษของแบรนด์ Marriot และแบรนด์ Autograph Collection?

สำหรับโครงการ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences มี Partner ชั้นนำอย่างแบรนด์ Marriot และแบรนด์ Autograph Collection ซึ่งแบรนด์ Marriot International ก็เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกอยู่แล้ว ด้วยจำนวนโรงแรมกว่า 9,600 แห่ง ตั้งอยู่ใน 143 ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญยังเป็นผู้บุกเบิกโครงการ Branded Residences ที่มีประสบการณ์การในการพัฒนาโครงการด้านนี้มายาวนานกว่า 25 ปี ซึ่งแบรนด์ Marriott ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า Branded Residence ไม่ใช่เพียงการมีชื่อแบรนด์ระดับโลกมาติดอยู่บนโครงการ แต่คือการนำมาตรฐาน ความเชื่อมั่น และความเชี่ยวชาญจากโรงแรมระดับห้าดาว มาผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการของ Marriott จะได้รับทั้ง ความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน พร้อมบริการระดับโรงแรมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการโดยตรง ซึ่ง Marriott International เป็นผู้นำในตลาด Branded Residence มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วกว่า 140 โครงการ และรวมกว่า 300 โครงการทั่วโลก ครอบคลุมกว่า 40 ประเทศ และ 16 แบรนด์ในเครือ Marriott เช่น The Ritz-Carlton, St. Regis, W, JW Marriott และ Autograph Collection

นอกจากนี้ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences ยังนับว่าเป็นโครงการภายใต้แบรนด์ Autograph Collection Residences แห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Marriott International ต่อศักยภาพของภูเก็ต

สำหรับประเทศไทยโครงการ PEYLAA Phuket ถือว่าเป็นโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ Marriot ลำดับที่ 3 ต่อจาก The St. Regis Residences, Bangkok, และ The Ritz-Carlton Residences, Bangkok, MahaNakhon

รายละเอียดโครงการ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences

สำหรับชื่อของโครงการ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “เพ-ลา” ซึ่งมีความหมายว่า “เวลา” ในภาษาไทย อีกทั้งยังสื่อความหมายถึงคำว่า “Pearl” หรือ ไข่มุก เป็นการแสดงถึงชื่อเสียงของเกาะภูเก็ตในฐานะ “ไข่มุกแห่งอันดามัน”

โดยมีแนวคิดที่สะท้อนปรัชญาแห่งการ “ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในทุกช่วงเวลา” โดยการเปลี่ยนช่วงเวลาธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษ เปิดโอกาสให้ช่วงเวลาที่มีค่าในชีวิตได้ดำเนินไปตามจังหวะของตัวเอง ท่ามกลางความงดงามตามธรรมชาติของเกาะภูเก็ต ซึ่งจะเป็น Co-Located Branded Residence หรือเรสซิเดนซ์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงแรม ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น ที่มีขนาด 126 ห้อง และพื้นที่สำหรับรีเทล โดยตั้งใจสร้างสรรค์ให้โครงการเป็นจุดหมายที่ผสานการอยู่อาศัย การพักผ่อนและไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของโรงแรมได้อย่างสะดวกสบาย โครงการนี้ผสานงานศิลป์แห่งการออกแบบ เอกลักษณ์เฉพาะตัว และความใส่ใจในสุขภาวะ ควบคู่กับการบริหารจัดการโดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ส่งผลให้ทุกๆวันของการอยู่อาศัยจึงเป็นประสบการณ์พิเศษเหนือระดับ

เพย์ลา ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น เรสซิเดนซ์ส เป็นโครงการ Branded Residence บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล (Marriott International) ตั้งอยู่บริเวณหาดบางเทา พื้นที่ขนาด 10 ไร่ 1 งาน 94.4 ตารางวา ประกอบด้วยอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร จำนวน 408 ห้อง ซึ่งถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ภายใต้แนวคิด “Effortless Living — Beyond Ordinary” หรือ “การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายเหนือความธรรมดา” เป้าหมายคือการผสาน มาตรฐานระดับโรงแรมห้าดาวของ Marriott ไม่ว่าจะเป็น

1) ความปลอดภัยและโครงสร้าง อย่าง โครงสร้างอาคารต้านแรงแผ่นดินไหว

2) สุขภาพและความยั่งยืน อย่างเช่น ระบบกรองน้ำแบบยูวี (UV Water Purification System)

3) เทคโนโลยีและความปลอดภัย อย่างระบบความปลอดภัยภายในห้องพัก

4) ความสบายและการใช้งานจริง อย่าง อ่างอาบน้ำในทุกยูนิต เครื่องล้างจานและอุปกรณ์ครัวครบชุด หรือ ผ้าม่านกันแสงแบบ Black-out

5) ชุมชนและไลฟ์สไตล์ มี Kids Club และ Coffee Station ที่เข้าไปใช้งานได้

6) ดีไซน์และงานฝีมือ อย่างการผสานศิลปะและงานฝีมือแบบไทย Facade แบบมี Partition เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

ในส่วนของห้องพักอาศัยที่มีทั้งหมด 480 ห้องจะถูกตกแต่งในแบบ Fully Furnished โดยมีการออกแบบให้อาคารทั้งสามอยู่ล้อมรอบลานกว้างขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่โครงการทั้งหมด ซึ่งช่วยสร้างความเงียบสงบและผ่อนคลายให้แก่ผู้อยู่อาศัย ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวชอุ่มของโครงการ ในสไตล์ “โมเดิร์น ทรอปิคอล” ผสมผสานกับการตกแต่งภายในในสไตล์ “โคสตัล ชิค”

ประกอบด้วยห้องพักหลากหลายประเภท ได้แก่ ห้อง 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 45 ตารางเมตร ห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอน ขนาด 83 ตารางเมตร และ 86 ตารางเมตร และห้องพิเศษ 3 ห้องนอน ขนาด 129 ตารางเมตร

โครงการมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายบนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมทั้งการใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการประกอบด้วย เลาจน์ต้อนรับ สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตร จำนวน 3 สระ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบครัน พร้อมทั้ง สตูดิโอโยคะ อ่างแช่น้ำแข็ง สนามเทนนิส พื้นที่บาร์บีคิวพร้อมที่นั่งกลางแจ้ง Flexible working space ใช้นั่งทำงานหรือเป็นห้องประชุม สนามเด็กเล่น และ  All-day-dining บริการอาหารเช้าแบบโรงเเรม ที่จะเปิดให้บริการโดยโรงเเรม Autograph Colllection ในปี  2030 เพื่ออำนวยความสะดวกผู้อยู่อาศัยและผู้เช่าที่เข้าพักแบบระยะยาวด้วย

นอกจากนี้ โครงการยังมีบริการรถรับส่งไปยังสถานที่ใกล้เคียง และมีที่จอดรถทั้งในร่มและกลางแจ้งรองรับได้ถึง 191 คัน คิดเป็นอัตราที่จอดรถร้อยละ 50 ของจำนวนห้องพักทั้งหมด รวมถึงยังมีที่จอดรถจักรยานยนต์จำนวน 54 คันสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิต ประจำวันให้แก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณหาดบางเทา คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570

พบกับประสบการณ์ที่แตกต่างของ Branded Residence ระดับเวิลด์คลาสในภูเก็ต กับไฮไลต์ที่โดดเด่นของ PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences

1) Design Philosophy: Inspired by “Exactly Like Nothing Else”

โครงการได้สะท้อนปรัชญา  ‘Exactly Like Nothing Else’ ของ Autograph Collection ที่มีการถ่ายทอดจิตวิญญาณของความอิสระ ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นตัวของตัวเอง มีความเชื่อมโยงกับสถานที่ตั้ง แตกต่างจากโรงแรมทั่วไป ผ่านงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความโดดเด่นและบริการเฉพาะบุคคลที่ดูแลโดย Marriott International

2) Prime Location: The Golden Zone of Phuket ตัวโครงการตั้งอยู่ในโซนบางเทา ซึ่งเป็นโซนที่นอกจากจะมีชายหาดที่สวย มีความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต เดินทางใช้เวลาไม่นาน หรือจะเข้าเมือง อย่างย่าน Old Town Phuket ก็เดินทางสะดวกเช่นเดียวกัน รวมไปถึงรอบๆโครงการ ก็ยังใกล้กับโรงเรียน โรงพยาบาล และ Community mall อีกหลายแห่ง

3) Unit Layout ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งความสะดวกสบาย ความงดงาม และการอยู่อาศัยระยะยาวอย่างมีคุณภาพ ซึ่งรูปแบบห้องในโครงการจะมีตั้งแต่ขนาด 1 ห้องนอน – 3 ห้องนอน

1 Bedroom 45 ตารางเมตร: เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในทุกๆวันสำหรับ 1-2 คน หรือการซื้อเพื่อปล่อยเช่า มีความพิเศษตรงการจัดสรรพื้นที่แต่ละโซนได้อย่างลงตัว แบ่งแยกการใช้งาน โดยมีส่วน Living เชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ โดยที่ห้องนี้มีอ่างอาบน้ำมาให้

2 Bedroom 83-86 ตารางเมตร (Corner Unit) / (Middle Unit): มอบฟังก์ชันการใช้งานแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ โดยให้ความสำคัญกับโซน Living พร้อมส่วน Kitchen & Dining แบบ Open Plan ขนาดใหญ่ สามารถเปิดพื้นที่เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานไปยังส่วนระเบียงได้ ห้อง Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำมาให้

3 Bedroom 129 ตารางเมตร: หากใครที่มองการอยู่อาศัยแบบถาวร ได้พื้นที่ใช้สอยที่มากพอๆกับการอยู่บ้านแนวราบ ห้องนี้มีฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครันในแบบที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ถึง 2 Generations โดยมาพร้อมห้องน้ำถึง 3 ห้อง พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ และส่วน Living, Dining, Kitchen รวมถึงส่วนทำงานที่ควบรวมกันในแบบ Open Plan มอบความยืดหยุ่นในการจัดสรรพื้นที่ใช้งานให้ตอบโจทย์ตามความต้องการของทุกสมาชิกภายในครอบครัว

4) เป็นโครงการ Low Density อย่างแท้จริง: ตัวโครงการมีการออกแบบที่คำนึงถึงคุณภาพในการอยู่อาศัย โดยมีการออกแบบให้ Low Density พื้นที่โครงการรวม 13 ไร่ ถูกจัดสรรพื้นที่กว่า 4 ไร่ ให้เป็นสวนและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งถ้าดูจากการวางผังโครงการ จากภาพ Master Plan จะเห็นได้ว่าการวางตำแหน่งอาคาร จะมีการแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และทำให้เกิดมุมที่พิเศษมองเห็นวิวสวนและสระ ประกอบกับจำนวนยูนิตที่มีค่อนข้างน้อย จึงการันตีได้ระดับนึงเลยว่าคุณภาพการอยู่อาศัยจะดีแน่นอน

5) ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ห้องพัก: พร้อมได้รับมาตรฐานการบริการระดับโลกภายใต้การดูแล ของทีมบริหารมืออาชีพจาก Marriott International

เพื่อให้ทุกวันคือความสะดวกสบายและความอุ่นใจอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น การจองเที่ยวบิน การจองรถรับส่งสนามบิน หรือ การจองร้านอาหาร สปา ซาลอน การจองบัตรชมการแสดง จนไปถึงการบริการโทรปลุก ก็มีทีมคอยดูแลและบริการอย่างครับครัน ตลอด 24 ชม.

6) พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษจาก ONVIA ที่เป็น Lifetime status

การเป็นเจ้าของ Autograph Collection Residences จะได้สิทธิประโยชน์พิเศษจาก ONVIA ที่เป็น Lifetime status ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดราคาห้องพักพิเศษ ที่โรงแรมในเครือ Marriott กว่า 9,600 แห่งใน 143 ประเทศทั่วโลก, สิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรม Moments Experiences กว่า 100,000 รายการทั่วโลก, สิทธิ์พิเศษในการจอง The Ritz-Carlton Yacht Collection พร้อมบริการระดับ Signature หรือ สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ อาหาร และการช้อปปิ้งสุดพิเศษ จากพันธมิตรของ Marriott เป็นต้น

7) มั่นใจในคุณภาพและมูลค่าในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโอกาสในการปล่อยเช่าที่มีความต่อเนื่อง และครอบคลุมตลอดทั้งปี

โครงการอยู่ภายใต้การบริหารของ Marriott International ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือโรงแรมที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก ซึ่งผู้พัฒนาโครงการต้องผ่านการประเมินความสามารถทางการเงินและศักยภาพการก่อสร้างก่อน ถึงจะได้รับสิทธิ์ในการใช้ชื่อแบรนด์ Autograph Collection Residences และข้อได้เปรียบของการอยู่ภายใต้แบรนด์ Marriott คือการเข้าถึง แพลตฟอร์มการปล่อยเช่าระดับโลก ผ่าน เว็บไซต์และแอป Marriott Bonvoy ที่มีสมาชิกมากกว่า 203 ล้านคนทั่วโลก จึงเป็นโอกาสในการปล่อยเช่าที่มีความต่อเนื่องและครอบคลุมตลอดทั้งปี

PEYLAA Phuket, Autograph Collection Residences นับว่าเป็นโครงการที่ผสานไปด้วยความเชี่ยวชาญจากสามเสาหลักสำคัญที่ทำให้โครงการนี้พิเศษและแตกต่างจากทุกโครงการที่เคยเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานระดับโลกของ Marriott International ที่รับรองคุณภาพการบริการ การบริหาร และความโปร่งใสทุกขั้นตอน / ความคิดสร้างสรรค์และดีไซน์จาก Gensler บริษัทด้านการออกแบบและกลยุทธ์แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากสหรัฐอเมริกา ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ ความประณีต และกลิ่นอายของชีวิตริมทะเลได้อย่างลงตัว / และความเชี่ยวชาญของ Capstone Asset ในฐานะผู้พัฒนาโครงการระดับพรีเมียมที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด และมุ่งมั่นสร้างคุณค่าในระยะยาว

ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเป็น “บ้าน” ที่สะท้อนจิตวิญญาณของ Exactly Like Nothing Else — บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหนือทุกสิ่งที่คุณเคยสัมผัส ที่ทุกช่วงเวลารู้สึกเรียบง่ายและสบาย ทุกดีเทลถูกออกแบบอย่างใส่ใจ และทุกวันได้รับแรงบันดาลใจจากจังหวะของท้องทะเล ที่มอบอรรถประโยชน์ใน 3 ด้านทั้ง การเป็นสถานที่พักใจ (Sanctuary) การแสดงออกถึงรสนิยม (Statement) และมรดกแห่งการอยู่อาศัย (Legacy) สำหรับผู้มองหาความแตกต่างที่ทรงคุณค่าไม่เพียงแต่ในวันนี้แต่สำหรับคนในรุ่นถัดไปด้วย

22 พย.นี้ พบกับงาน VIP Day ที่โรงแรม The Ritz Carlton Bangkok  

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มูลค่าสูงสุดถึงยูนิตละ 1.1 ลบ.* https://bit.ly/4hWtbAE

อาทิ ส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท* และ รับ Bonvoy point สูงสุด 300,000 point ต่อยูนิต

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด