หนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยให้แสนสิริเติบโตในอุตสาหกรรมอสังหาฯปีนี้ ได้อย่างโดดเด่นในแบบสวนทางตลาดก็คือ กลยุทธ์ Strategic Location ที่รุกเปิดโครงการใหม่บนหัวเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดใหญ่ โดยเฉพาะเมืองตากอากาศที่่กำลังเป็น Rising Star อยู่ในตอนนี้อย่างภูเก็ตนี่แหละครับ แม้ว่าในตอนนี้เราจะได้เห็นดีเวลลอปเปอร์มากมายทั้งในพื้นที่และจากกรุงเทพฯทยอยส่งโครงการไปเปิดตัวที่ภูเก็ต แทบจะทุกสัปดาห์ จากกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่หันไปให้ความสำคัญกับการมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพโดยเฉพาะชาวต่างชาติ และเศรษฐีเมืองกรุงที่มองหาบ้านตากอากาศไว้เป็นหลังที่ 2 เช่นเดียวกับกลุ่มนักลงทุนที่มองหาช่องทางการสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มเข้ามายังภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งก็แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือในเรื่องของแบรนด์ผู้พัฒนาโครงการก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อโครงการ

แสนสิริเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาอย่างยาวนานและได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตมากว่า 13 ปี ผ่านโครงการแนวราบและแนวสูงรวมกว่า 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 22,600 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ในทุกโปรดักส์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทุกทำเลในภูเก็ต ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งทั้งในด้านดีไซน์ คุณภาพ และการบริการ โดยมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นไว้ใจตั้งแต่ก่อนการขาย ไปจนถึงหลังการขาย โครงการของแสนสิริจะได้รับ EIA Approved และ เรื่องการบริการหลังการขายโดย Plus Property  ที่มีมาตรฐานในเรื่องของการดูแลความเรียบร้อยสวยงามของโครงการ รวมไปถึงมาตรฐานของระบบการรักษาความปลอดภัย LIV24 ที่ทำให้ผู้พักอาศัยอุ่นใจตลอดการพักอาศัย จึงไม่แปลกใจที่โครงการของแสนสิริจะได้รับการแนะนำต่อๆกัน ทั้งนี้จากอานิสงค์ในเรื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตที่ฟื้นตัวเกิน 100% ซึ่งส่งผลโดยตรงให้ตลาดอสังหาฯและราคาที่ดินพุ่งสูงกว่า 700% ในรอบ 20 ปี อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ C9 Hotelworks ซึ่งเป็น บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ระดับเอเชียพบว่า ล่าสุดภูเก็ตขึ้นแท่นเป็นตลาดอสังหาฯแบรนด์เนมใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากดูไบ นิวยอร์ก และไมอามีและกำลังก้าวสู่เมือง Luxury ระดับโลก เทียบชั้นเมืองชายทะเล ซานโตรินี ไมอามี่บีช ริเวียร่า และฮาวาย พร้อมด้วยการเติบโตจากแผนลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ การขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติและ Medical Hub ดันตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตสู่ทิศทางการฟื้นตัวที่ดีอย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ด้วยผลตอบรับที่ดีจาก ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต ที่ยอดขายพุ่งแล้วกว่า 70% จ่อคิวพร้อมโอน เดือน ก.ย. นี้ เช่นเดียวกับ เดอะ เบส บูกิต ที่โกยยอดขายกว่า 60% โดยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ บริษัทฯก็เตรียมสานต่อความสำเร็จอีกครั้งด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ “เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต” ที่ได้รับ EIA Approved และเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 68

“เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต” ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้าน* พร้อมให้เข้าชมห้องตัวอย่างสวยๆแล้ววันนี้  พร้อมรับโปรฯจัดเต็ม 2 ต่อ เอาใจนักลงทุน คือ ต่อที่ 1 : รับส่วนลดสูงสุด 200,000* บาท และต่อที่ 2 : ฟรีเฟอร์ฯ ฟรีม่าน ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ* ห้องแต่งครบพร้อมปล่อยเช่า
ลงทะเบียนเข้าชมห้องตัวอย่าง https://siri.ly/ozZBQU7
ที่ตั้งสำนักงานขาย https://siri.ly/LaiUBT7
แอดไลน์สอบถามเพิ่มเติม https://siri.ly/bVC5Dk7 หรือโทร 1685
โลเคชั่นโครงการ https://siri.ly/Rmy0hS7

“เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต” นับเป็น คอนโดมิเนียมแบรนด์ THE BASE โครงการแรกของปีนี้ที่เปิดตัวหลังจากประกาศรีเฟรชแบรนด์สู่คอนเซ็ปต์ใหม่ “Uniquely Yours ชีวิตผลิตสไตล์ได้ไม่ซ้ำ” แบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งที่สุดแบรนด์หนึ่งของแสนสิริที่สร้างมาเพื่อเข้าใจความเป็นคุณมากที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นแบบไหน ก็พร้อมจะปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ ทุกความหลงใหล ในแบบของคุณ โดยที่มาของคำว่า “Rise” หมายถึง พระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองภูเก็ต และการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของแบรนด์ เดอะ เบส ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานถึง 14 ปี ซึ่งในแง่ของโปรดักส์ก็มีการอัปเกรดความพิเศษมาเรียกได้ว่าค่อนข้างเต็มที่ โครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 3 ไร่ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ชูจุดขาย คอนโดใหม่สไตล์รีสอร์ทจากแสนสิริ Low density ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนเพียง 326 ยูนิต บรรยากาศผ่อนคลายด้วยดีไซน์การออกแบบ Luxury Tropical ที่ไม่เหมือนใครในภูเก็ต ส่วนกลางครบครัน เน้นเลย์เอาท์หน้ากว้าง ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง และมีที่จอดรถรองรับมากขึ้นกว่าเดิม และมีจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ใกล้เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ภูเก็ตเพียง 2 นาที ภูเก็ตโอลด์ทาวน์ 15 นาที* และหาดป่าตอง 25 นาที*  นอกจากนี้ยังใกล้โรงเรียนนานาชาติเฮดสตาร์ท โรงพยาบาลชั้นนำ และแหล่งไลฟ์สไตล์ เดินทางง่ายวิ่งสู่ถนน 2 เส้นหลัก ทั้งถนนวิชิตสงครามและถนนเจ้าฟ้าตะวันตก นับว่าเป็นทำเลที่เพียบพร้อม ครบครัน ราคาขายเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* เท่านั้น ซึ่งเป็นราคาเทียบเท่ากับเดอะ เบส เซ็นทรัล ที่ได้รับการตอบรับอย่างมากจน Sold out ตั้งแต่วันพรีเซลล์

การออกแบบโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ “SEA SUNRISE PHENOMENON” ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์แสงอาทิตย์ยามเช้าที่กระทบผืนน้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ คอนเซ็ปต์ถูกถ่ายทอดลงบนงานสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายใน หรือแม้กระทั่งชื่อของส่วนกลางต่างๆ การไล่เฉดสีที่งดงามเหมือนพระอาทิตย์ขึ้น มีสระว่ายน้ำลวดลายพระอาทิตย์ Sunrise Pool ขนาดใหญ่ อยู่ตรงกลางโครงการ ให้ได้สัมผัสความร่มรื่น สบายตา Façade Design ที่ไม่เหมือนใครในภูเก็ต ได้รับแรงบันดาลใจจากการไล่เฉดสีของแสงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและส่วนกลางอื่นๆ ที่ออกแบบโดยดึงเอกลักษณ์ธรรมชาติที่สวยงามของเมืองภูเก็ตเข้ามาในทุกๆดีเทล

เน้นเลย์เอาท์ห้องหน้ากว้าง ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย ตอกย้ำความเป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท ใจกลางเมือง ให้เข้าถึงการพักผ่อนที่แท้จริง มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนให้สัมผัสความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้น (ขนาด 34.25 – 35.25 ตารางเมตร) และ 1 ห้องนอนพร้อมห้องอเนกประสงค์ที่สามารถดัดแปลงตอบโจทย์การใช้ชีวิต

ส่วนกลางครบครัน พร้อมดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ เช่น Sunrise Pool สระว่ายน้ำลวดลายเส้นสายของพระอาทิตย์ขึ้น , Blissful Lobby ล็อบบี้สไตล์ Luxury Tropical , Coral Gym ฟิตเนสที่เต็มไปด้วยสีสันของปะการัง ที่ทำให้เหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ใต้ท้องทะเลที่สวยงาม, Co-working & Chilling Space พื้นที่ทำงานบรรยากาศทรอปิคอล ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์, Sansiri Backyard พื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่น , Breezy Terrace โซนพักผ่อนกึ่ง Outdoor สัมผัสบรรยากาศร่มรื่น ฟังเสียงน้ำกระทบขอบสระ เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง สะท้อนความมุ่งมั่นของแสนสิริในการนำเอกลักษณ์ของภูเก็ตมาผสมผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัวและตอกย้ำเจตนารมณ์ในการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างยั่งยืน

“แสนสิริมองเห็นแนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัดภูเก็ตที่มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี เห็นได้จากความสำเร็จจากยอดขายคอนโดมิเนียม ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต ยอดขายพุ่งแล้วกว่า 70% จ่อคิวพร้อมโอน เดือน ก.ย. นี้ เดอะ เบส บูกิต โกยยอดขายกว่า 60% จากศักยภาพของภูเก็ตที่ฟื้นตัวเร็วจากธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต ที่มีแนวโน้มที่ดีและฟื้นตัวเกินกว่า 100% ส่งผลถึงสัดส่วนการจ้างงานและความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตที่เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งแสนสิริพร้อมรองรับการเติบโตจากการเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตและสานต่อความสำเร็จด้วยแผนการเปิดตัวโครงการ “เดอะ เบส ไรส์” ภูเก็ต (THE BASE Rise Phuket) มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท โดยโครงการผ่าน EIA และเริ่มก่อสร้างโครงการแล้ว คาดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในปีหน้าบริษัทฯมั่นใจว่า เดอะ เบส ไรส์ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดี จากความต้องการซิตี้คอนโดมิเนียมบนทำเลใจกลางเมืองภูเก็ตยังคงมีความต้องการสูงในกลุ่มคนทำงานรวมถึงความต้องการเช่าระยะยาวจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย นอกจากนี้ความน่าสนใจจากการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งขายต่อและปล่อยเช่ายังมีดีมานต์ที่ดีต่อเนื่องจากกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะในทำเลใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เห็นได้จากผลตอบรับที่ดีจากโครงการเดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต ที่เปิดตัวในปี 2561 ราคาขายเปลี่ยนมือ 2.59 ล้านบาท จากราคาขายเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท อัตราการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) อยู่ที่ประมาณ 15 – 20% ต่อปี* ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ยสูงถึง 8 – 11% ต่อปี* ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในขณะนี้ นอกจากนี้จากจุดเด่นของโครงการในด้านการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองภูเก็ต และการตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งความโดดเด่นในด้านดีไซน์ คุณภาพ การบริการ ซึ่งเป็นจุดแข็งของแสนสิริ ทำให้เชื่อมั่นว่า “เดอะ เบส ไรส์” จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับ เดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต ที่ตั้งอยู่ในทำเลเดียวกันอย่างแน่นอน” นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุป

#คอนโดมิเนียม #เดอะเบส #ภูเก็ต #ไรส์ #เดอะเบสไรส์ #THEBASERise

#Sansiri40years #Sansiri #YouAreMadeForLife #THEBASE #UniquelyYours