แสนสิริประกาศแผนครึ่งปีหลัง เติบโตไปข้างหน้าตามแนวคิด Step Beyond พร้อมเร่ง Speed to Market สู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 จากการเป็นผู้นำทั้ง 4 ด้าน
ในปี 2022 แสนสิริมองในภาพของการเติบโตไปข้างหน้าตามแนวคิด Step Beyond ซึ่งประกอบไปด้วย 3 แกนหลักคือ Profit, People และ Planet โดยในส่วนของ People และ Planet ที่ไม่ได้ใช้ดัชนีชี้วัดในเชิงตัวเลขมากเท่าไหร่นัก ก็มีการทำ Execution Plan อย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญต่างๆทั้ง You Are Made For Life, YOU-Centric, Live Equally, Net Zero และ Tree Story
โดยผลงานในรอบครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็นับว่าน่าสนใจไม่แพ้ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่อื่นๆ ด้วยการกวาดยอดขายได้มากมายตามเป้าที่ในปีนี้วางเป้าว่าจะเปิดให้ได้ถึง 46 โครงการ ในมูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการแนวราบที่มีสัดส่วนมากถึง 78% ซึ่งผลลัพธ์ในช่วง 6 ที่ผ่านมาแสนสิริเปิดไปได้ 15 โครงการ มูลค่า 18,800 ล้านบาท โดยมี Luxury Product ที่เป็นไฮไลท์โครงการแรกแห่งปีคือ DEMI Sathu 49 ที่ขายไปแล้ว 16 ยูนิต มูลค่า 350 ล้านบาท ที่แน่นอนว่าด้วยความสำเร็จแบบนี้ก็มีแผนทำแบรนด์นี้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นก็มีความสำเร็จของแบรนด์แนวราบอีก 3 โครงการ คือ สราญสิริ อณาสิริ และโดยเฉพาะสิริเพลส ที่สร้างผลงานเข้าตามากๆด้วยการเป็นแบรนด์ทาวน์โฮมราคาไม่แรง แต่ได้บรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โตเกียว นิวยอร์ค ปารีส อัมสเตอร์ดัม ภายใต้คอนเซปท์ Dream Destination Series ที่โกยยอดขายไปได้สูงถึง 2,000 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มธุรกิจคอนโดแม้จะมีการเปิดตัวใหม่ไปแล้วแค่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท แต่ก็กวาดยอดขายไปได้พอสมควร ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ยอดขายรวมของแสนสิริทำไปได้ 52% หรือคิดเป็น 18,300 ล้านบาท จากเป้าทั้งปีที่ 35,000 ล้านยาท ซึ่งแสนสิริคาดว่าน่าจะทำได้ตามเป้าแน่นอนในอีกครึ่งปีที่เหลือ
ส่วนยอดโอนทำไปได้ 14,000 ล้านบาท คิดเป็น 40% จากเป้าทั้งปี โดยที่มี Backlog อีก 10,500 ล้านบาทที่รอทยอยโอนจนถึงปลายปี และหากนับไปถึง 2024 ก็มียอด Backlog รออีกเพียบถึง 20,300 ล้านบาท
จากสัญญาณที่ดีในช่วงครึ่งปีแรกดังกล่าว แสนสิริจึงเตรียมเปิดโครงการเพิ่มมากถึง 31 โครงการ ในมูลค่ารวม 31,200 ลบ. ควบคู่ไปกับการเร่ง Speed to Market สู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 จากการเป็นผู้นำทั้ง 4 ด้าน ทั้งในเรื่องตลาด Luxury, คอนโด, บริการหลังการขาย และการคืนประโยชน์สู่สังคม