รัชดาภิเษกช่วงไพร์ม เริ่มตั้งแต่แยก ณ ระนอง วิ่งยาวมาจนถึงแยกรัชดา – ลาดพร้าว (บางช่วงอาจใช้ชื่อถนนต่างออกไป) เป็นถนนเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพแห่งใหม่ โดยมีถนนอโศก (สุขุมวิท 21) และแยกพระราม 9 ถึงศูนย์วัฒนธรรมเป็นทำเลโดดเด่น

เท่าที่ผมค้นข้อมูลดู แม้จะมีคอนโดมาเปิดมากมาย แต่ไม่มีคอนโดไหนที่ชูจุดขายด้านเพดานสูงแบบจริงจังแบ่ง 2 ชั้นแล้วยังยืนได้ปกติมีพื้นที่เหนือศรีษะ ((จะมีก็ Chewathai Residence Asoke ที่เพดานสูง 3.6 เมตร แต่ยืนด้านบนไม่ได้ หรือบางโครงการมีเป็นบางห้อง บางชั้น ))

SIAMESE EXCLUSIVE RATCHADA จึงเป็นคอนโดแรกที่จัดห้องเพดานสูงแบบจริงจังมาขาย เป็น รัชดา NEW HIGH ด้วยความสูงถึง 4.5 เมตร 

โดยห้องเพดานสูงมีทั้งหมด 11 ชั้นอยู่ตั้งแต่ชั้น 16-26 

คอนโดนี้เป็นคอนโดผสมรูปแบบการใช้ คือครึ่งตึกล่างตั้งแต่ชั้น 2-19 จะเป็นคอนโดปกติ ครึ่งตึกบนชั้น 20-36 จะเป็น Serviced Residence ดังนั้นในโซนคอนโดปกติจะมีชั้นเพดานสูงอยู่ 4 ชั้น คือชั้น 16-19 เท่านั้น อย่าซื้อผิดนะครับถ้าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือปล่อยเช่าแบบทั่วไป

**ชั้น 20-36 ที่เป็นเซอร์วิส เรสซิเดนซ์  ลองสอบถามข้อมูลรายละเอียดกับทางไซมิสแอสเสทเพิ่มเติมนะครับถ้าใครสนใจ แต่เท่าที่ทราบทุกห้องต้องเข้าร่วมโครงการให้ไซมิสปล่อยเช่าให้ในช่วงปีแรกๆ **

คอนโดนี้ตั้งอยู่บนที่ดินริมถนนรัชดาภิเษกขาเข้าเมือง ข้างๆตึกโอลิมเปียไทย ห่าง MRT สถานีรัชดาประมาณ 90 เมตรออกจากรถใต้ดินทางเข้าออก 3 ก็เห็นตึกทันที

ซึ่งระหว่างทางเดินไปตัวโครงการจะผ่านร้านขายของใต้ตึกโอลิมเปีย มี S&P มีร้านอาหารและที่สำคัญมี 7-11 และ รปภ ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่เปลี่ยวและมีของกินอิ่มสะดวกทุกเวลา

ที่ดิน 2 ไร่ 294 ตารางวา มี 4 อาคาร ABCD สูง 4+7+37+10 ชั้น ตามลำดับ (อาคาร A 4 สูง 4 ชั้น + B สูง 7ชั้น โดยสองอาคารนี้จะเป็นส่วนทรัพย์สินของไซมิส แอสเสท ยังไม่ได้ระบุว่าจะทำอะไร  ส่วน อาคาร D สูง 10 ชั้น+5 ชั้นใต้ดินเป็นอาคารจอดรถอัตโนมัติ) 

ทั้งหมดมี 622 ยูนิต มีช่องจอดรถ 281 ช่อง คิดเป็น 45%

อาคาร C ที่เป็นอาคารหลักมีห้องพักเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึง 36 แบ่งการใช้เป็น 2 ประเภทแบบที่กล่าวข้างต้น โดยสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 37 และเป็นส่วนของโซน Serviced Residence ถ้าใครซื้อชั้นปกติต้องจ่ายส่วนกลางเพิ่มเพื่อใช้งาน

ห้องพักอาศัยที่อาคารหลักมี 560 ยูนิต แบ่งเป็น 1 bed 31-36 ตารางเมตร 420 ห้อง 2 bed 50 – 57 ตารางเมตรอีก 120 ห้อง  *พื้นที่ไม่รวมชั้นลอย

ชั้นล่างเป็นโถงต้อนรับเพดานสูงตกแต่งสไตล์ Siamese Asset แยกโถงลิฟท์ของ 2 โซนออกจากกัน

ชั้น 2-15 เป็นห้องพักแบบเพดานปกติ ( 2.85 เมตร)

ชั้น 16-19 เป็นชั้นเพดานสูงพิเศษ (4.5 เมตร) จะได้พื้นที่ด้านบนเพิ่มขึ้นมา

ชั้น 20-26 เป็นชั้นเพดานสูงของ Serviced Residence

ชั้น 27-36 เป็นชั้นเพดานปกติของ Serviced Residence

1 ชั้นของที่นี่มี 16 ห้อง  แยกลิฟท์ 2 โซนโซนละ 2 ตัวชัดเจนไม่ใช้ปะปนกัน ดังนั้นคนซื้อเพื่ออยู่เองไม่ต้องห่วงเรื่อง Privacy แต่อย่างใด (การแยกกันไปแบบเด็ดขาดเช่นนี้ดีกว่าคอนโดอื่นที่เจ้าของร่วมแอบๆทำห้องเช่าระยะสั้นว่าป่ะครับ)

ห้องพักหันตะวันตก-ตะวันออก วิวโล่งทั้ง 2 ด้าน (ตะวันตกวิวเมืองของช่วง 5 แยกลาดพร้าวชัดเจน ตะวันออกวิวโล่งๆ)

ฝั่งตะวันตกจะมีห้องขนาดเล็ก( 31 ตารางเมตร) และชั้นล่างๆจะมีอาคารตัวเองบังวิวอยู่บ้างลองเล็งดูก็ประมาณชั้น 7 ขึ้นไปถึงจะเคลียร์ แต่ห้อง 31 ตารางเมตรผมคาดว่าวิวจะโล่งไม่บล็อกกันเองตั้งแต่ชั้น 4 แล้ว

เนื่องจากทางผู้ออกแบบตั้งใจให้ตึกดูทันสมัยดูแพงไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ ทำให้ที่นี่เน้นใส่กระจกมาเต็มๆแบบ Glass Curtain Wall ระเบียงไม่ใหญ่กินพื้นที่ไม่มาก

มุมมองจากด้านล่างมองขึ้นไปยอดตึกดูพรีเมียมจริงจัง

ห้องแบบ 1 bed ที่นี่ได้หน้าห้องกว้างแบบ 2 bay กั้นแบ่งพื้นที่ด้วยบานเลื่อนกระจกใสขนาดใหญ่ทุกห้องทุก type

ส่วนตัวผมชอบห้องแบบ BLISS B ได้กระจกบานยาวต่อเนื่องเข้ามุมสะใจดี (แต่ไม่มีระเบียงนะครับ) ความแตกต่างของห้อง 31 กับ 35 ตารางเมตรก็มีไม่มาก ถ้าใครงบจำกัดซื้อห้อง 31 ตารางเมตรก็ไม่แตกต่างมากนัก

BLISS C 36ตารางเมตร ทิศตะวันออกด้านหลัง มีแปลนที่ลงตัวกว่าแบบทิศตะวันตกด้านหน้าโครงการที่เปิดประตูเข้าไปจะเจอครัวขวางต้องเดินเลี้ยวอีกที

ห้อง 2 bed อยู่ที่มุมทั้ง 4 ของชั้น มี 3 ห้องขนาด 50,54 และอีกห้องขนาด 57 ตารางเมตร 

ห้อง EDEN A ขนาด 50 ตารางเมตร อยู่ที่มุมตะวันออก-ใต้ ชั้นที่สูงพ้นโอลิมเปียจะได้ City View สวยสุดๆ ห้องแบบนี้จะได้โซน Living ที่ใหญ่กระจกยาวต่อเนื่อง ไม่มีระเบียงมาเกะกะสายตา (ระเบียงไปอยู่ในห้องนอนเล็ก) เป็น 2 bed 1 bath

ห้อง EDEN B ขนาด 54 ตารางเมตร อยู่ด้านหน้าทิศตะวันตก ทั้ง 2 ห้องแตกต่างกัน โดยห้องมุมตะวันตก -ใต้ น่าสนใจที่ผนังติดกับห้องอื่นเพียงด้านเดียว และได้กระจกเข้ามุมถึง 2 ด้าน ข้อเสียคือพื้นที่วางโซฟาดูทีวี มีทางออกระเบียงเกะกะอยู่  ส่วนห้อง EDEN B มุมทิศตะวันตก – เหนือ นั้นได้กระจกเข้ามุมด้านเดียว พื้นที่วาง TV ตำแหน่งครัว กับ โซฟาก็แปลกๆ

ห้อง EDEN C นั้นใหญ่สุด ผนังติดห้องอื่นด้านเดียว แปลนสวยลงตัว ได้กระจกเข้ามุมต่อเนื่องถึง 2 ด้าน ได้พื้นที่ living ใหญ่ แต่ข้อเสียคือห้องนอนเล็กห่างจากห้องน้ำไกลไปหน่อย

ชั้นห้องเพดานสูงจะมีพื้นที่ใช้สอยด้านบนเพิ่มขึ้นมา 12-13 ตารางเมตรในห้องแบบ 1 bed และ 19-21 ตารางเมตรในห้อง 2 bed  ซึ่งแปลนแบบห้องเพดานสูงพิเศษเป็นข้อมูล Exclusive ต้องขอทางไซมิสแอสเสทเองนะครับ

SIAMESE ASSET TECHNOLOGY

คอนโดยุคหลังของไซมิส จะให้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ทำให้การอยู่อาศัยดีขึ้น อย่างเช่น

smart ventilation fresh air คิดตั้งระบบกรองอากาศในโครงการได้ถึง PM2.5 ให้คุณหายใจได้ดีกว่า

Individual Vent กลิ่นห้องน้ำดีกว่าด้วยการลงทุนแยกท่อระบายน้ำกับท่อสุขภัณฑ์ออกจากกัน กลิ่นไม่ไหลย้อน

กระจก LOW E ลดความร้อนกันแดดได้ดีกว่า

Smart HOME Automation ระบบสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ระบบกันเสียงรบกวนทั้งผนังและประตู

SIAMESE EXCLUSIVE RATCHADA ขายเริ่มต้นที่ 3.8 ล้าน ไปจนถึง 10.8 ล้านบาท เป็นคอนโดแนวคิดใหม่(แยกการใช้งานหลากหลายออกจากกัน)ที่จัดเต็ม spec ที่สุด และเป็นคอนโดเพดานสูงแห่งเดียวบนเส้นรัชดา ถ้าใครโอเค และเห็นด้วยกับระบบใหม่ที่ทางไซมิสนำเสนอ ที่ซื้อ Residential ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อไปใช้สระบน Sky Lounge และมีส่วนของร้านอาหารชั้น Sky Lounge ที่เปิด public ให้คนภายนอกเข้ามาใช้บริการได้ หากมองด้วยราคา ด้วยทำเล ด้วย concept ที่นี่น่าสนใจมาก ๆ ครับ

ตอนนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างกำลังสร้างอยู่ แต่เข้าไปที่ดินจริงมีตู้สำนักงานเปิดรับจำนงจองแล้ว ( 2 หมื่นบาท) โดยท่านที่จ่ายจำนง จองสิทธิ์ จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษในวันงาน ฟรีค่าใช้จ่ายหลายรายการอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเซลล์ครับ  ลงทะเบียนรับข้อเสนอพิเศษ http://bit.ly/2qXOzNj

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 09-94410888,09-94420888