พูดถึงอสังหาฯ บ้าน คอนโดนั้นใครๆ ก็รัก คงไม่ใช่คำกล่าวที่เกินความเป็นจริงไปนัก แต่เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องการหาเจ้าของใหม่ให้บ้าน จะทำอย่างไรให้คนซื้อตกหลุมรักบ้านหลังนั้นจนอยากจะรีบครอบครองมันเร็วๆ เรามาดูกันเลย

สร้างความประทับใจ

สิ่งสำคัญอันดับแรกสุดคือการสร้างความประทับใจในแรกพบ เมื่อพาลูกค้าเข้าชมบ้าน ขอให้พักเรื่อง Floor plan และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไว้ก่อน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาในวันแรกของการเข้าเยี่ยมชม สิ่งที่จะมัดใจลูกค้าไว้ได้คือการสร้างความรู้สึก ‘YES’ ให้เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก จากสถิติพบว่าเจ้าของบ้านมีเวลาเพียงแค่ 8 วินาทีเท่านั้นในการจะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจหรือไม่ประทับใจในบ้านของคุณ ให้ลองนึกถึงตอนที่คุณตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้มาสิ คุณประทับใจในส่วนไหนของมันบ้าง กลิ่น บรรยากาศ ความสงบ หรือความเป็นระเบียบของมัน พยายามดึงสิ่งเหล่านั้นออกมานำเสนอให้ลูกค้าของคุณได้สัมผัสถึงมันเช่นเดียวกัน

สีก็มีผลนะ

หากกำแพงเป็นสีขาวล้วน ขาวครีม หรือสีเทา ควรมีพื้นเป็นโทนสีกลางๆ อย่างเทาหรือเทาปนน้ำตาล นอกจากนี้สีเขียว Evergreen สีเทาเงิน และสีดำยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทาสีประตู พยายามสร้างจุดแตกต่างในการสร้างอารมณ์ให้แก่ลูกค้าด้วยโทนสีที่จะทำให้พวกเขารู้สึกสดชื่น เปิดกว้าง และสงบ

การเล่นแสง

แสงไฟอันอบอุ่นจะเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าสัมผัสได้เมื่อมาถึงบ้านของคุณ บ้านที่มีแสงสว่างอย่างเพียงพอย่อมสร้างความน่าประทับใจได้ดีกว่าบ้านที่หมองหม่น ให้เปิดหน้าต่าง กำจัดจุดบังสายตา ถ้าแสงธรรมชาติไม่สามารถเข้าถึงภายในบ้านได้ให้เปิดไฟส่องสว่างบนเพดาน บนโต๊ะ รวมถึงโคมไฟตั้งพื้นทั้งหมด ใช้กระจกเข้ามาช่วยในการสะท้อนแสงในห้องที่มืด ทั้งหมดนี้ช่วยให้รู้สึกว่าบ้านกว้างขวางขึ้นได้

ภาพจาก https://propholic.com/prop-verdict/kraam-sukhumvit-26/

หาจุดขาย

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะมัดใจลูกค้าได้นั้นมาจากการรู้จักนำเสนอบ้านอย่างชาญฉลาดผ่านการตกแต่งดีไซน์ ตั้งแต่การเลือกข้าวของภายในบ้านไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน หากบ้านที่คุณจะขายคืออะพาร์ตเมนต์ระดับบนให้เลือกผิวสัมผัสของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างเครื่องหนังหรือผ้าไหม หากเป็นบ้านสำหรับครอบครัวให้ใช้พรมกำมะหยี่หรือสิ่งที่ให้ความรู้สึกสะดวกสบายและง่ายต่อการบำรุงรักษา หรือเลือกใช้วัสดุที่สื่อถึงความหรูหราตามรสนิยมของลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น จงหาจุดเด่นในบ้านของคุณแล้วเน้นย้ำมันให้ชัดเข้าไปอีก

ภาพจาก https://propholic.com/prop-talk/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87-the-residences-at-mandarin-oriental-bangkok-2-signature-design/

กลิ่น

ถ้าทำเลบ้านของคุณอยู่ในพื้นที่เฉพาะตัวอย่างทะเล เทียนหอมกลิ่นมะพร้าวสามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและดึงความเป็นเอกลักษณ์ออกมาได้ เทียนหอมกลิ่นอื่นๆ อย่างมะลิ วานิลลาหรือแมกโนเลียก็เป็นกลิ่นสากลที่ใครๆ ต่างก็ตกหลุมรัก หรือจะลองวางน้ำหอมรูปแบบต่างๆ สำหรับใช้ในห้องเพื่อสร้างอารมณ์ตามที่คุณต้องการให้ลูกค้ารับรู้

ภาพจาก https://www.facebook.com/karmakamet/photos/a.123231131053601/2132102853499742/?type=3&theater

เก็บของใช้ส่วนตัวของคุณให้มิดชิด

พยายามทำบรรยากาศของบ้านให้เป็นกลางด้วยการเก็บข้าวของสะสมหรือไอเทมส่วนตัวของคุณออกไปให้พ้นสายตาลูกค้าผู้มาเยือน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่ามีที่ว่างสำหรับจินตนาการถึงการเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แทนที่จะเห็นว่ามันเหมาะที่จะเป็นบ้านของคุณคนเดียวมากกว่า

ขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพ

ถ้าคุณคาดหวังจะขายบ้านได้ในราคาดีก็ต้องมีการลงทุนกันเสียหน่อย ลูกค้าที่จ่ายหนักย่อมคาดหวังถึงบ้านที่สมบูรณ์พร้อม หากมีส่วนใดในบ้านที่ยังต้องได้รับการต่อเติมหรือแก้ไข อย่ารอช้าที่จะเรียกผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาช่วยคุณ ถือซะว่าค่าใช้จ่ายตรงนี้เป็นหนึ่งในการลงทุน

เตรียมการให้พร้อม

หากคุณยังคงอาศัยอยู่ในบ้านที่ต้องการขายให้จัดการเก็บบ้าน ทำความสะอาดและจัดทุกอย่างให้พร้อมเสมือนวันที่ต้องการเปิดบ้านให้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมอย่างน้อยล่วงหน้าสองสัปดาห์ เพื่อที่หากพบสิ่งใดที่ต้องได้รับการแก้ไขจะได้จัดการได้อย่างทันท่วงที อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณขายบ้านได้หรือไม่นั้นก็คือความรู้สึกแรกเมื่อลูกค้าได้เข้ามาเห็นบ้านของคุณ

ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถเลือกปรับใช้ให้เหมาะตามรสนิยมของแต่ละคน

#PsychologyOfRealEstate

แหล่งข้อมูลและภาพ

https://www.domain.com.au/advice/the-psychology-of-real-estate-what-makes-a-buyer-fall-in-love-with-a-home-20180426-h0z9b8/

https://unsplash.com/photos/nPyH6uEEKMs

https://unsplash.com/photos/XyGvEj587Mc

https://unsplash.com/photos/NegT3kIxI_k

https://unsplash.com/photos/icQsIV-YUd8