กระแสการพัฒนาที่ดินริมน้ำเจ้าพระยาในช่วงที่ผ่านมา เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และยิ่งทวีคูณมากขึ้นจากแผนการพัฒนาโครงการเกือบแสนล้านบาทบนที่ดินกว่า 277 ไร่ที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเดิมมีการใช้ประโยชน์เป็นย่านสินค้าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ได้จัดทดสอบความสนใจภาคเอกชนในการลงทุน (Market Sounding) ไปเมื่อเร็วๆนี้ ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ย่านสถานีแม่น้ำ ตามพระราชบัญญัติให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ส่งผลให้น่าเชื่ออย่างยิ่งว่าริมน้ำเจ้าพระยาสามารถเทียบชั้นที่ดินติดแม่น้ำกลางมหานครใหญ่ๆของโลกได้สบายๆ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือจะทำให้ที่ดินในย่านดังกล่าวที่มีศักยภาพถูกนำออกมาพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนให้ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

การเติบโตของแหล่งชอปปิ้ง ที่พักอาศัย ศูนย์ประชุม และโครงการการพัฒนาในรูปแบบอื่นๆ รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางต่างๆ ทำให้ย่านนี้ กลายเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และ อีกบทพิสูจน์ความจริงที่ว่าที่ดินบริเวณริมน้ำเป็นที่ต้องการอย่างสูง นั่นก็คือ การเคลื่อนไหวของราคาที่ดินที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นที่ดินบริเวณพระราม 3 ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 300,000-500,000 บาทต่อตารางวา , ที่ดินบริเวณ ราษฎร์บูรณะราคาอยู่ที่ 150,000-300,000 บาทต่อตารางวา,ที่ดินทำเลเจริญนคร ราคาขายอยู่ที่ 300,000-400,000 บาทต่อตารางวา

ผลของการปรับขึ้นของราคาที่ดินนั้นส่งผลให้การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นหลักแสนบาทต่อบาทต่อตารางเมตรในขณะเดียวกันที่ดินริมน้ำหลายๆแปลงก็ไม่สามารถซื้อขายได้ ซึ่งเป็นที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

มั่นใจดีมานด์ยังดีต่อเนื่อง

หากไล่เรียงการลงทุนในทำเลบริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนช่วงปี 2540 ที่ดินริมน้ำบูมมากสำหรับพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมและโรงแรมระดับ 4-5 ดาว แต่ก็ชะลอตัวหลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 จากนั้นค่อยๆกลับมาพลิกฟื้นและเห็นชัดเจนในปี 2547-2548 จนถึงปัจจุบันการพัฒนาที่ดินทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็ยังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายริมน้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งมีการปรับขึ้นราคาทุกๆปี โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้นมากว่า 10 % และมีทั้งสร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนใหญ่มีอัตราการขายสูงอยู่ที่ 85-90% และถึงแม้จะทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน แต่ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไป ทั้งที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ซื้อเพื่อการลงทุน และซื้อเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อพักผ่อนในวันหยุดเพราะบรรยากาศริมน้ำ ได้อารมณ์คอนโดตากอากาศเลยทีเดียว

ทั้งนี้หากพิจารณาราคาห้องชุดในปัจจุบัน คอนโดมิเนียมบริเวณเจ้าพระยาตั้งแต่ เจริญนคร,เจริญกรุง,พระราม3 ล้วนเปิดตัวด้วยราคาหลักแสนบาทต่อตารางเมตร ไม่ว่าเป็น โครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ราคาขายเฉลี่ยที่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร, โครงการแมกโนเลียซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนท์ ราคาประมาณ 300,000 บาทต่อตารางเมตร และโครงการโฟร์ซีซั่น ไพรเวท เรสซิเดนซ์ ราคาขายกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร เป็นต้น

ด้วยเหตุนี้จึงยังพบว่า ตลาดยังมีกลุ่มลูกค้าที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยริมน้ำเจ้าพระยา ในระดับราคาไม่ถึงแสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีซัพพลายให้เลือกน้อยมาก ที่เห็นก็มี โครงการของศุภาลัยที่อยู่ฝั่งพระราม 3 และโครงการ Chapter One Modern Dutch อยู่ทำเลราษฎร์บูรณะที่ติดโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้บางกระเจ้า เป็นคอนโดมิเนียมที่ขณะนี้เปิดขายทุกชั้น ทุกอาคาร ทุกวิว ราคาเดียว (One Price) 1.59ล้าน* และสำหรับคนที่สนใจ 2 ห้องนอน ก็เป็นราคาเดียว 3.29 ล้านบาท ทุกชั้น ทุกวิว เช่นกัน ของบริษัทพฤกษา ที่นี่เป็นโครงการแรกที่ใช้แบรนด์นี้และเป็นผลงานของทีม stylishresidences ผู้อยู่เบื้องหลัง เช่นเดียวกันกับแบรนด์ The Seed และกลุ่ม Chapter One : The Campus เกษตร และลาดพร้าว 1 , Chapter One : Midtown ลาดพร้าว 24 เป็นต้น

หากมองถึงความสะดวกสบายแล้ว Chapter One ตั้งอยู่ใกล้กับ Big C ราษฎร์บูรณะ และโรงพยาบาลราษฏร์บูรณะเดินทางเพียง 2 นาที อีกทั้งยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ทั้ง BTS สถานีกรุงธน BTS สถานีตากสิน หรือส่วนต่อขยายสายสีม่วงที่มาสิ้นสุดที่ราษฏร์บูรณะ จะยิ่งทำให้เดินทางเข้าเมืองไปสาทร สีลมและไปยังจุดต่างๆของกรุงเทพฯชั้นในได้สะดวกมากขึ้น ขณะเดียวกันยังอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปสำคัญๆคือ Asiatique ซึ่งนั่งเรือจากโครงการข้ามไปได้ชิลล์ๆ เป็นต้น

Chapter One คอนโดมิเนียมแต่งครบสไตล์โมเดิร์นอัมสเตอร์ดัม ริมเจ้าพระยา ที่มีกลิ่นอายฮอลแลนด์ยุคใหม่มาผสมผสานให้มีไลฟ์สไตล์แบบเมืองริมน้ำในยุโรป คุณจะได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระราม 9 และบางกระเจ้า ให้ทุกวันเป็นวันพักผ่อนแบบส่วนตัวในกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ พร้อม Facility ครบครันอาทิ สระว่ายนํ้าขนาดใหญ่ 2 สระ 2บรรยากาศ, คลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่, Jogging Track ริมเจ้าพระยา, Riverside library, Business Center, Fitness & Steam room, Private Pier และ Shuttle Service และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของโครงการ http://goo.gl/6g3I1l  หรือโทร 1739 ได้เลย

สรุปได้ว่าจากปัจจัยทางการลงทุน ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นเป็นสูงมากเป็น 2-3 เท่าตัว และด้วยข้อจำกัดที่ดินหายาก ราคาแพง รวมทั้งที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยายังมีข้อจำกัดในการพัฒนา โดยเฉพาะการจำกัดความสูงในช่วงระยะ 45 เมตรจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ห้ามสร้างอาคารสูง ทำให้เชื่อว่าจากนี้ไปคงยากหรือแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นราคาห้องชุดที่อยู่ริมสองฝั่งริมน้ำเจ้าพระยา ในราคาขายที่ราคา 50,000 บาทเศษต่อตารางเมตร มาให้จับจองกันได้อีกแล้ว อย่างนี้เค้าเรียกโอกาสสุดท้ายมาถึงแล้วจริงๆ

(บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ)