ในห้วงเวลาที่ดีเวลลอปเปอร์หลายรายหันมาใช้กลยุทธ์ Dump ราคา เพื่อแย่งลูกค้ากันอย่างแพร่หลาย แต่สำหรับศุภาลัย ผู้ซึ่งได้น้อมนำกลุยุทธ์ Cost Leadership มาใช้เป็นหลักปรัชญาในการดำเนินธุรกิจมาหลายสิบปีจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นเพียงไม่กี่รายที่ไม่ได้ออกโปรโมชั่นลดราคาอะไรมากมาย จะมีก็แค่โปรแถมฟรี โน้น นี่ นั่น เนื่องจากโครงการของศุภาลัยนั้นเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่าถูกกว่าชาวบ้านเค้าอยู่แล้ว ถูกกว่าชนิดที่ว่าเจ้าอื่นลดราคาลงมาครึ่งนึงแล้วของศุภาลัยก็ยังถูกกว่าอยู่ดี

ศุภาลัยภายใต้การนำของคุณเต ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะปรับ Brand Image ขององค์กร เพื่อให้หลุดจากภาพจำของความเป็น Old School Product ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้า Old Economy ที่แม้จะมีกำลังซื้อสูง แต่ก็มีจำนวนที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ แตกต่างจากกลุ่ม New Economy หรือ Millennials ที่แม้จะไม่ได้ซื้อเองโดยตรง แต่ก็มีอิทธิพลอย่างมากในการบอกต่อ และแชร์ข่าวสาร ผลลัพธ์ก็คือเราได้เห็นทั้ง Sub Brand ของโครงการต่างๆของศุภาลัย ที่ออกมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่มี Character แตกต่างกัน และการสร้าง Tangible Benefits ที่ช่วยชี้ให้เห็นว่า Product ของศุภาลัย ไม่ใช่ว่าถูกเพราะว่าเป็นที่แปลงใหญ่ เน้นยูนิตเยอะ มีการเลือกใช้วัสดุในแบบ Cost Saving หรือว่าเป็นทำเลที่ตั้งอยู่บนทำเลส่วนต่อขยายของศูนย์กลางย่านนั้นๆ หรือที่เราหลายๆคนมักเรียกว่า Underdog Location เพียงอย่างเดียว

Supalai Premier Si Phraya-Samyan (ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน) ถ้าผมจำไม่ผิดนี่คือโครงการแรกๆของคุณเต ที่หมายมั่นปั้นมือให้โครงการนี้เป็น Flagship Condo ในการเจาะกลุ่มกำลังซื้อหน้าใหม่ บนทำเลที่แม้จะเป็น Old Town แต่ก็ Always Young และมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์อยู่เสมออย่างสามย่าน จริงๆแล้วโครงการนี้น่าจะเริ่มสร้างก่อนหน้าโครงการที่มาทีหลังอย่าง Ideo Chula Samyan, The Nest Chula Samyan หรือ Chapter Chula Samyan ไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ติดปัญหาบางประการ (เดิมใช้ชื่อ Supalai Elite Si Phraya) …แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ทุกอย่างเคลียร์ได้หมด แทนที่ศุภาลัยจะมีการปรับราคาขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับราคาที่ดินที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาขายของคอนโดเปิดใหม่ใกล้เคียงที่สูงขึ้น หรือไม่ก็ขายราคาเดิมไป (ราวๆตรม.ละ 100,000 บาท) ทางคุณเต ก็ยังคงยึดมั่นในปรัชญา Cost Leadership อย่างเหนียวแน่น ด้วยการทำสิ่งที่หลายๆคนถึงกับอึ้ง แต่ก็เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบันด้วยการ ปรับราคาลง และเปลี่ยนแบรนด์เป็น Premier (ใน Brand Portfolio ของศุภาลัย แบรนด์ Premier จะมี Segment ราคาที่ต่ำกว่า Elite) หน้าตาเฉยๆ ซึ่งเมื่อดูจากข้อมูล Factsheet และหน้าตาอาคาร ก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย (ใช้ EIA ตัวเดิม)

ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน กลับมาในครั้งนี้ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 85,000 บาทต่อตรม. โดยมีราคาสูงสุดชนเพดานอยู่ที่ไม่เกินตรม.ละ 116,000 บาท สำหรับตลาดคอนโดสูงเปิดใหม่ในทำเลสามย่าน – สี่พระยา – สุรวงศ์ นี่คือราคาของ Condo Leasehold ด้วยซ้ำ! แล้วอะไรคือ Tangible Benefits ของคุณเต ที่ต้องการที่จะบอกให้คนซื้อรู้ว่า มาซื้อที่นี่เถอะคุ้มกว่าเห็นๆบ้าง แน่นอนว่าอย่างแรกก็คือในเรื่องของจำนวนยูนิต…คอนโดสูงจากศุภาลัย คนที่ไม่รู้จักหลายๆคนอาจจะพูดออกมาทันทีว่า ยูนิตเยอะอ่ะดิ คราวนี้กี่พันยูนิต แต่จากข้อเท็จจริงที่มีอยู่นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากที่เดียวที่จะบอกว่าบนเส้นสี่พระยานี้ หากไม่นับ Chapter Chula Samyan คอนโดอย่าง Supalai Elite Surawong เป็นเจ้าของสถิติจำนวนยูนิตที่น้อยมากๆคือ 277 ยูนิต (ใครที่เคยเข้าไปจะเห็นว่าห้องสองนอนที่นี่ใหญ่แบบทำเป็น 3 ห้องนอน พลัสได้เลย) และ Supalai Premier Si Phraya-Samyan ก็มีจำนวนยูนิตแค่ 384 ยูนิตเท่านั้น โดยที่คุณเตดูเหมือนจะรู้ข้อจำกัดที่ได้รับจากโครงการ Elite ก็คือห้องใหญ่ แม้จะมีราคาต่อตรม.ถูก แต่ก็ไม่ Competitive เพราะว่าคำนวณต่อยูนิตแล้วมันสูงมาก ดังนั้น ที่ Premier แห่งนี้ (ด้วยการที่มี Unit Package พอๆกัน แปลนก็คล้ายๆกัน) จะขายในราคาเท่ากัน ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ลำบาก เราจึงได้เห็นแพคเกจราคา ที่สะเทือนไปทั้งตลาดคอนโดสามย่านคือ

1 Bed ขนาด 41.50 – 55.00 ตร.ม. ราคา 3.69 – 6.20 ล้านบาท (ราคาห้กส่วนลดแล้ว)

2 Bed ขนาด 73.0 – 85.0 ตร.ม. ราคา 6.44 – 9.78 ล้านบาท (ราคาห้กส่วนลดแล้ว)

3 Bed ขนาด 129.5 – 139.00 ตร.ม. ราคา 14.73 – 16.0 ล้านบาท (ราคาหักส่วนลดแล้ว) (ชั้น 34-35)

ด้วยราคานี้หลายคนก็คงจะถามต่อมาว่าแล้วยังไงอีก ที่จอดรถ 77% แต่ก็ให้สิทธิ์แค่ห้องละ 1 คัน จะได้ 2 คันก็คือห้องแบบ 3 ห้องนอนเท่านั้น แถมยังอยู่ไกลจาก MRT สามย่านมากที่สุดถึง 750 เมตร ถนนข้างหน้าก็เป็น Oneway แต่ถ้าเป็น Developer รายอื่นเค้าจะตั้งราคาขายกันเท่าไหร่…สิ่งหนึ่งที่เป็นสาระสำคัญและทางศุภาลัยไม่ได้เน้นในการสื่อสารเท่าท่ควรก็คือในเรื่องของเพดานสูงของห้อง ที่ในมุมมองของผมนั้น ขนาดห้องที่ใหญ่ปานนี้ แต่ได้เพดานสูงถึง 2.84 เมตร และเป็นกระจกบานใหญ่ในห้องนอน ก็ช่วยสร้าง Sense of luxury ได้ไม่แพ้ทุกโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันเลย เช่นเดียวกับทิศตะวันตกที่มีจุดขายในเรื่องวิว ICONSIAM และแม่น้ำสำหรับชั้นสูงๆ…อ้อ ที่นี่ยังให้ระบบ Home Automation, Digital Door Lock, แอร์แบบ One Way Cassette Type ที่ช่วยให้ไม่ต้อง Drop ฝ้าลงมาเพื่อลดทอนความสูงแบบ Ceiling Type, ชุดครัวคุณภาพเยี่ยม และชุด Rain Shower แบบควบคุมอุณหภูมิได้ ในแบบไม่มีกั๊กสเปคเลย

ในมุมมองผมห้องแบบ 2 ห้องนอน 85 ตรม.ที่นี่ทำได้ดีมากๆครับ ถ้าได้ไปนั่งในห้องตัวอย่างคุณก็จะรู้สึกว่า กูไม่น่าซื้อห้อง 60 ตรม.แถวนี้ที่มีราคาแพงขนาดนั้นไปเลย จะมีก็แต่ห้องแบบ 41 ตรม.ที่ยังมีการจัดวางเลย์เอ้าท์แบบซีรีส์เก่าๆอยู่ และในเรื่องของ Branding เอง ศุภาลัยดูจะประสบความสำเร็จในการยึดเอา Brand Idea ในเรื่องของ Cost Leadership มาใช้ ในแบบที่ได้ใจลูกค้ามากขึ้น แต่ในแง่ของการสร้าง Brand Identity ให้กับ Sub Brand ของตัวเอง ให้ออกมามี Attribute และ Character ที่ชัดเจน ไม่ดูกลืนไปกับแบรนด์อื่นๆของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ทางศุภาลัยจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าต่อในสเตปต่อไปครับ

โครงการจะขายพรีเซลวันที่ 26-27 ก.ย. นี้ ในราคาเริ่ม 3.69 ล้านบาท ใครสนใจก็โทรไปได้ที่เบอร์ 1720 ครับ…ลืมบอกไปเดี๋ยวจะมารีวิวโดยละเอียดให้อีกทีครับ