เวลาที่เรามองเห็นคอนโดหรือบ้านสักหลังเสร็จสมบูรณ์ เราอาจจะเห็นแค่ความสวยงามภายนอกที่ตาเห็น  แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้นคือ งานศิลป์และวิศวกรรมระดับสูงที่ต้องอาศัยการวางแผน การออกแบบ และการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ทุกส่วนที่มองเห็นแวบแรกตั้งแต่ผนัง หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ หลังคา หรือสิ่งที่มองไม่เห็นอย่าง ระบบไฟฟ้า ระบบท่อภายใน ไปจนถึงการระบายอากาศ ล้วนมีรายละเอียดซับซ้อน ต้องแม่นยำ และเป็นงานยากกว่าที่เราคิด

การสร้างอสังหาฯ ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

ในหนึ่งโครงการก่อสร้าง ไม่ได้มีเพียงโครงสร้างคอนกรีตหรือการตกแต่งภายในเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม วิศวกรรม ระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล และระบบความปลอดภัยอีกมากมาย ซึ่งในกระบวนการออกแบบและก่อสร้างจริง แต่ละส่วนจะถูกจำลองและวิเคราะห์อย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจภาพรวมร่วมกันก่อนลงมือจริง

องค์ประกอบหลักที่อยู่เบื้องหลังโครงการอสังหาริมทรัพย์หนึ่ง ๆ ได้แก่

1. โครงสร้าง (Structural Systems) เช่น เสา คาน พื้น หลังคา บันได ราวกันตก และฐานราก ที่เป็นแกนหลักในการรองรับน้ำหนักของทั้งอาคาร

2. สถาปัตยกรรม (Architectural Elements) เช่น ผนัง หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน พื้น เฟอร์นิเจอร์ และวัสดุตกแต่งต่าง ๆ ที่สร้างเอกลักษณ์ให้แต่ละโครงการ

3. ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง (Electrical & Lighting Systems) เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า สวิตช์ ปลั๊ก ระบบส่องสว่าง และอุปกรณ์ความปลอดภัย

4. ระบบเครื่องกลและปรับอากาศ (Mechanical & HVAC Systems) เช่น ท่อแอร์ ช่องระบายอากาศ เครื่องปรับอากาศ และท่อส่งลม

5. ระบบประปาและสุขาภิบาล (Plumbing & Piping Systems) เช่น ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง สุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และระบบดับเพลิง

6. ระบบสื่อสารและความปลอดภัย (Communication & Security Systems) เช่น ระบบอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ กล้อง CCTV และสัญญาณเตือนภัย

7. ภูมิสถาปัตย์และสิ่งแวดล้อมรอบอาคาร (Landscape & Site) เช่น พื้นที่สีเขียว ทางเดิน สระน้ำ พื้นที่จอดรถ และระบบระบายน้ำ

ในแต่ละระบบจะประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยอีกมากมายอีกกว่าร้อยรายการ ซึ่งทั้งหมดต้องทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้อาคารหนึ่งหลังเกิดขึ้นได้จริงอย่างปลอดภัยและสวยงามตามจินตนาการของผู้ออกแบบ

BIM คือกุญแจสำคัญของการก่อสร้างคุณภาพ

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มองเห็นถึงความสำคัญของการนำระบบ BIM (Building Information Modeling) เข้ามาใช้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้างจริง

ระบบ BIM คือการจำลองอาคารทั้งหมดในรูปแบบ “โมเดล 3 มิติ” ที่รวบรวมข้อมูลจริงของทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ โครงสร้าง ระบบไฟฟ้า หรือแม้แต่จุดเชื่อมต่อเล็ก ๆ ภายในอาคาร การใช้ BIM ทำให้ทั้งทีมสถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมา พูดภาษาเดียวกัน มองเห็นภาพเดียวกัน และลดปัญหาความคลาดเคลื่อนที่มักเกิดในงานก่อสร้างแบบเดิม

มาตรฐานแห่งความเข้าใจร่วมกัน Maru 360 BIM Standard ของอนันดา

เพื่อให้การทำงานในระบบ BIM เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อนันดาได้จัดทำ Maru 360 BIM Standard หรือ BIM Execution Plan ซึ่งเป็นคู่มือกลางที่ใช้กำหนดกฎ กติกา และแนวทางการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายในโครงการ

แผนนี้ช่วยลดปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างทีมงาน สถาปนิก วิศวกร และผู้รับเหมา โดยกำหนดขั้นตอนตั้งแต่การเริ่มต้นออกแบบ การตรวจสอบโมเดล การจัดเก็บข้อมูล ไปจนถึงการส่งมอบโมเดลให้กับผู้รับเหมาเพื่อใช้ก่อสร้างจริง ทำให้ทุกฝ่ายทำงานบนข้อมูลชุดเดียวกันอย่างเป็นระบบ

ผลลัพธ์คืออาคารที่มีคุณภาพสูงทั้งในเชิงความแข็งแรง ความปลอดภัย และความสวยงาม ตรงตามที่ผู้ออกแบบตั้งใจ และลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า ทุกตารางเมตรที่ได้รับ ถูกออกแบบและสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด

สร้างอสังหา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

การสร้างคอนโดหรือบ้านหนึ่งหลังไม่ใช่แค่เรื่องของปูน เหล็ก หรือการตกแต่ง แต่คือการผสมผสานของศาสตร์หลายแขนง ตั้งแต่สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ไปจนถึงระบบเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง BIM ที่ช่วยยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างไทยให้ทัดเทียมระดับสากล

มาตรฐาน Maru 360 BIM Standard ของอนันดานี้คือหนึ่งในหลักฐานชัดเจนของการพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ที่แสดงให้เห็นว่าคุณภาพไม่ได้เกิดจากการทำงานของคนใดคนหนึ่ง แต่เกิดจากการทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจของทุกฝ่าย เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกโครงการของอนันดา.

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐาน BIM ของอนันดา
เว็บไซต์ https://www.ananda.co.th/th/maru-360-bim-standard