หากใครอาศัยอยู่บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมแล้วไม่ชอบทำสวน ก็อาจจะพบเจอกับปัญหาในเรื่องของ Space Management ซึ่งหากจัดการไม่ดีก็จะทำให้มีพื้นที่ที่เป็น Waste Space เหลือค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ในส่วนของ Outdoor Area ที่บางคนอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์ตรงส่วนนี้มากเท่าที่ควร ถ้านึกภาพของ Waste Space บริเวณบ้านไม่ออกว่ามีขนาดกว้างแค่ไหน และเราสามารถใช้ประโยชน์จากตรงส่วนนี้ได้อย่างไร เราจะมายกตัวอย่างพื้นที่ว่างในพวกทาวน์โฮม บ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยว ที่มักจะมีพื้นที่เหลือช่วงหน้าบ้านบริเวณลานจอดรถ และบริเวณหลังบ้านที่เหลือพื้นที่ไม่มาก ซึ่งจะทำเป็นสวนก็คงเล็กไป หลายๆ คนเลยเลือกที่จะต่อเติมเพื่อทำครัว หรือห้องซักรีดพร้อมหลังคา ถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ว่างภายในบ้านได้ดีทีเดียว

Pleno รามอินทรา – จตุโชติ (Pleno Ramintra – Chatuchot) เป็นโครงการที่มีบ้านหน้ากว้าง 5.5 เมตร แต่กลับให้ความลึกของพื้นที่ลานจอดรถมากที่สุดถึง 8 เมตร เหมือนจะลึกมาก แต่ก็ยังครึ่งๆกลางๆ เพราะสามารถจอดรถได้เพียง 2 คันเท่านั้น ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับจอดคันที่ 3 และ 4 เนื่องจากหน้ารถจะยื่นออกมาพ้นรั้วบ้านมากเกินไป โดยจะเหลือพื้นที่บริเวณหลังรถไปจนถึงประตูเข้าบ้าน เจ้าของบ้านสามารถใช้ประโยชน์ตรงส่วนนี้ได้คือ Built-In ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าไว้ติดผนังใกล้กับประตูเข้าบ้านได้

พฤกษาวิลล์ พหลโยธิน รามอินทรา (Pruksa Ville Phaholyothin – Ramintra) เป็นอีกหนึ่งคลาสสิคเคสของการอยู่ทาวน์โฮมที่เหลือพื้นที่หลังบ้านไม่มากพอที่จะทำสวนให้สวยได้ ส่วนใหญ่ก็เลยเลือกที่จะทำครัวที่หลังบ้านแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านให้มากขึ้น โดยบ้านจริงพื้นที่หลังบ้านมีคานปูนสำหรับยึดทำเป็นแนวหลังคา ปูเสาเข็มให้ลึกเท่ากับตัวบ้าน และมีแทงค์น้ำให้ ผู้อยู่อาศัยสามารถต่อเติมพื้นที่โล่งๆ หลังบ้าน ติดหลังคา พร้อม Sky Light ให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ เพื่อแบ่งโซนทำเป็นส่วนซักรีดและส่วนครัว เมื่อทำอาหารจะได้ไม่มีกลิ่นเข้าไปรบกวนภายในบ้าน

อาธาร์ พหลฯ-อารีย์ (Artha Phahol – Ari)

พื้นที่ Rooftop ชั้นบนสุด เป็นพื้นที่โล่งๆ มีระบียงกระจก Laminated Glass สามารถใช้จัดเป็นสวนกลางแจ้ง ทำเป็น Sky Bar เก๋ๆ ไว้จัดปาร์ตี้ชิลๆ กับครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน พร้อมกับชมวิวกรุงเทพได้

ซึ่งการต่อเติมบ้าน หรือจะอัพเกรดปรับปรุงพื้นที่ว่างเปล่าแบบนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เสียเวลา ต้องหาผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้ บ้านเลอะเทอะจากการทำงาน รวมถึงใช้เวลาในการก่อสร้างที่ยาวนาน ดังนั้นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการเจอกับปัญหาจุกจิกกวนใจแบบนี้ก็น่าจะเป็น ตัวเลือกอย่าง บ้านสำเร็จรูป หรือบ้าน Knock Down ที่หลายคนคุ้นหูกันดี โดยบ้าน Knock Down นั้นเป็นบ้านสำเร็จรูปที่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นในสไตล์ไหน มีทั้งแบบโมเดิร์น เรือนไทย หรือสไตล์รีสอร์ท ให้สามารถเลือกซื้อในราคาย่อมเยา แล้วนำไปตั้งบนแปลงที่ดินของเจ้าของบ้านได้ สามารถใช้เป็นออฟฟิศเล็กๆ ที่พักอาศัย ร้านกาแฟก็ได้เช่นกัน และกระบวนการสร้างบ้าน Knock Down จะไม่มีเสาหรือคานในการรับน้ำหนัก แต่เลือกใช้ผนังเป็นตัวยึดโครงสร้างแทน ทำให้สามารถถอดชิ้นส่วนต่างๆ ออกได้ เมื่อต้องถูกเคลื่อนย้าย ซึ่งรูปแบบบ้านลักษณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่น และทางฝั่งยุโรป ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่เกิดภัยพิบัติบ่อย

ตัวอย่างบ้าน Knock Down

ภาพจาก : http://www.bareo-isyss.com/index.php/design-tips/368-knockdown_home.html

ภาพจาก : https://decor.mthai.com/home-design/24990.html

ภาพจาก : https://www.pohchareon.com/

ซึ่งการอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่ที่ในบ้านอาจจะมีทั้งคุณตาคุณยาย พ่อแม่ และลูกๆ โดยปัญหาที่มักเกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นในเรื่องของพื้นที่การทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แต่คนอื่นในบ้านไม่ได้ชอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ อย่างบ้านหมา บ้านแมว ห้องซ้อมดนตรี ห้องซักรีด ห้องนอนพร้อมห้องน้ำของผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องอยู่ที่ชั้นล่าง รวมไปถึงใครที่ชอบปลูกผักไฮโดรโปนิคขาย หรือทำสวน Cactus ก็อาจกำลังมองหา Space นอกบ้านที่เป็นสัดส่วนสำหรับกิจกรรมเหล่านี้ แต่พื้นที่ภายในบ้านก็ไม่เอื้ออำนวยต่อบางกิจกรรมมากนัก จึงต้องมีการหาพื้นที่ใหม่ที่ตอบโจทย์สำหรับการทำกิจกรรมส่วนตัวที่ไม่ไปแย่งพื้นที่ของคนอื่นภายในบ้านที่ใช้อยู่ร่วมกัน ซึ่ง Solution ในแบบบ้าน Knock Down ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุดหากพิจารณาจากระยะเวลาในการก่อสร้าง ขนาดของห้องที่เหมาะสมกับ Waste Space และความเลอะเทอะของหน้างาน

วันนี้เราได้มาคุยกับ คุณจินต์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บล็อกซ์ จำกัด ที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจบ้าน Knock Down ของแบรนด์ BLOX Living ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และอะไรคือความแตกต่างจากบ้าน Knock Down ของที่อื่น หากใครอยากได้ไปครอบครองสักหลังต้องทำตามขั้นตอนยังไง ใช้งบประมาณเท่าไหร่ เรามาทราบข้อมูลอย่างละเอียดไปพร้อมๆ กันเลย

PH: คำจำกัดความของคำว่าบ้าน Knock Down

เมื่อพูดถึงบ้าน Knock Down คนที่ผ่านไปทางที่จังหวัดสิงห์บุรี หรือตามเส้นถนนมิตรภาพก็จะเห็นการติดป้ายโฆษณาว่าขายบ้าน Knock Down ซึ่งเป็นการสื่อสารความหมายที่ไม่ค่อยตรงนัก จริงๆ แล้วภาพที่เห็นโดยทั่วไปนั้น คือบ้านสำเร็จรูปขนาดเล็กมากกว่า เพราะ Knock Down ตามความหมายจริงๆ คือ ระบบที่สามารถถอดประกอบได้ มีประโยชน์ตอนที่เราต้องการนำไปติดตั้งในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด อีกทั้งในเรื่องการขนส่ง เรื่องของสถานที่ และเรื่องของการควบคุมคุณภาพ จะสังเกตได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ก็จะไม่มีการทำสำเร็จรูป เพราะการขนส่งเฟอร์ฯ แบบไม่ถอดแยกชิ้นจะเปลืองพื้นที่ และอาจเกิดความเสียหายได้ ซึ่ง Knock Down ก็เช่นกัน หากยกขนส่งไปทั้งหลังแล้วการขนส่งไม่ดีจะทำให้โครงสร้างของบ้านและเหล็กบิดเบี้ยวได้ ก่อนทำการขนส่งต้องคำนวณถึงแรงและสลิงที่ใช้ในระหว่างทำการขนส่ง เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

PH: ที่มาของแบรนด์ BLOX Living

จากที่เคยได้เห็นบ้าน Knock Down ตามที่ต่างๆ แล้วรู้สึกว่าทำไมบ้าน Knock Down ในปัจจุบันถึงไม่ค่อยมีคุณภาพเท่าไหร่ และหลายคนก็มีความเข้าใจผิดๆ ว่าบ้าน Knock Down ต้องเป็นรูปทรงคล้ายกับเรือนไม้เท่านั้น ทางบริษัทฯ จึงอยากจะทำบ้าน Knock Down จริงๆ ที่มีคุณภาพ สามารถอยู่ได้ทุกวัน ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อย และสามารถควบคุมงบประมาณได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่สร้างบ้านจะประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณที่มันบานปลายเสมอ โดยงบที่บานปลายนั้นก็จะมาจากช่างที่ไม่มีคุณภาพ และช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ขอเบิกงบซื้อวัสดุเพิ่ม จนทำให้ลูกค้าไม่สามารถควบคุมงบได้ ดังนั้น BLOX Living ก็จะเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องของการควบคุมเวลา คุณภาพ และงบประมาณ โดยนำวัสดุที่ดีมาใช้ อย่าง โครงเหล็ก บานหน้าต่าง และบานประตู ซึ่งโครงเหล็กมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ สามารถช่วยในเรื่องของแผ่นดินไหวได้ ทั้งยังสามารถทำงานได้เร็วกว่า

ไม่เพียงเท่านั้นทาง BLOX Living ก็มีพันธมิตรมือดีหลายบริษัทที่จะมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปได้ไกลและมีคุณภาพมากที่สุด โดยพันธมิตรมีด้วยกัน 3 บริษัท คือ บริษัทไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแผ่นม้วนหน้าแคบรายใหญ่ของเมืองไทย ได้นำความเชี่ยวชาญและศักยภาพในการผลิตมาใช้เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ เป็นการเพิ่มค่าให้กับอุตสาหกรรมเหล็ก จากการใช้ประโยชน์จากเหล็กได้หลากหลายขึ้น บริษัท เดอะ สตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กชั้นนำของไทย และมีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะผลิตโครงสร้างบ้านสำเร็จรูปป้อนตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัท มั่นคง สตีล จำกัด ผู้ผลิตผนังฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูป ได้นำโฟมชนิด PIR ซึ่งเป็นโฟมสำหรับผลิตผนังฉนวนที่มีการทนไฟสูง และไม่มีสารพิษมาใช้ในการสร้าง BLOX Living ด้วย

PH: ความแตกต่างของ BLOX Living จากตลาด Knock Down ทั่วไป รวมไปถึงเรื่องการติดตั้ง และการรับประกัน

BLOX Living ต่างจากเจ้าอื่น คือ วัสดุและการจัดการขนส่ง ติดตั้ง ที่ของเจ้าอื่นจะเป็นการขนส่งแบบทั้งหลัง ไม่แยกชิ้นขนส่งเพื่อไปประกอบหน้างาน และมีการใช้วัสดุที่แตกต่างจากเจ้าอื่น โดยใช้แซนวิส พาแนล (Sandwich Panel) เกรดที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน คือ โฟมที่ใช้เป็น PIR (หรือโพลีไอโซไซยานูเรต มีความพิเศษกว่าตรงคุณสมบัติกันไฟลามที่ดีกว่า และค่าการเกิดควันต่ำกว่า ในต่างประเทศนิยมใช้ฉนวนกันร้อน PIR มากขึ้น เนื่องจากให้ความปลอดภัยมากกว่าทั้งดับไฟได้ไวกว่า และปริมาณควันต่ำกว่า) ไม่ใช้โฟม EPS เป็นเทคโนโลยีเก่าที่ป้องกันความร้อนไม่ดีและติดไฟได้ง่าย โดยราคาของโฟม PIR ก็สูงกว่าโฟม EPS ถึง 2 เท่า และ BLOX Living ก็เป็นเจ้าเดียวที่ใช้โฟม PIR อยู่ในขณะนี้

ในเรื่องของการติดตั้ง หากหลังที่ไม่มีห้องน้ำจะสามารถทำการติดตั้งให้แล้วเสร็จได้ประมาณ 10 วัน โดยที่มีการทำฐานรากเตรียมไว้ก่อนแล้ว หากหลังที่มีห้องน้ำจะมีการติดตั้ง 14 วัน ทางบริษัทฯ จะมีการสำรวจพื้นที่ติดตั้งก่อนว่าพร้อมสำหรับการติดตั้งหรือต้องการปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมบ้าง และมีทีมทำให้หมดตั้งแต่ ทำฐานราก ลากน้ำจากระบบน้ำเดิม ทำถังบำบัดใหม่ และลากสายไฟให้ใหม่ หากบ้านหลังไหนที่มีการติดตั้งใกล้ถังบำบัดเก่าอยู่ใกล้ก็สามารถลากท่อเข้ากับถังบำบัดเก่าได้เลย หรือหากอยู่ไกลก็สามารถลงบำบัดใหม่ให้ได้เช่นกัน ทางบริษัทฯ มีการทดสอบบ้านโดยการนำปืนฉีดน้ำแรงดังสูงมาฉีดเพื่อทดสอบว่าการรั่วซึมหรือไม่ให้ลูกค้าดู โดยตัวบ้านมีการรับประกันคุณภาพการติดตั้งให้ลูกค้า 1 ปี

PH: กลุ่มลูกค้า BLOX Living และขั้นตอนการประกอบบ้าน

เกือบ 100% เป็นลูกค้าที่มีบ้านหลังหลักอยู่แล้ว แล้วอยากได้พื้นที่เพิ่ม แต่ไม่อยากต่อเติมบ้านเพราะต้องใช้เวลานานและยังเกิดความเลอะเทอะ ซึ่งวิธีการก่อสร้างของ BLOX Living นั้นเป็นแบบ Dry Process ไม่ใช้น้ำมาเกี่ยวข้อง ใช้แค่ผสมปูนเพื่อทำฐานรากเท่านั้น ไม่มีเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย และประกอบบ้านด้วยการใช้น็อตกับโบลท์หมุนเข้าด้วยกัน เพราะทุกอย่างเจาะรู เชื่อมวัสดุมาจากโรงงาน ถึงหน้างานก็สามารถนำชิ้นส่วนมาประกอบได้เลย ซึ่งส่วนที่ยากที่สุดก็คือการประกอบห้องน้ำ ที่มีรายละเอียดเยอะ เพราะต้องเดินท่อน้ำ ติดตั้งท่อน้ำอุ่นให้ ทากันซึม อีกทั้งยังปูพื้นด้วยไฟเบอร์ซีเมนต์ให้ด้วย

PH: เรื่องราคามีส่วนในการตัดสินใจซื้อมากแค่ไหน และผู้ซื้อมองที่อะไรเป็นหลัก

โดยลูกค้า BLOX Living ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม B+ ขึ้นไป เพราะสินค้าเราเรียกได้ว่ามีราคาแพงสุดในตลาด มีลูกค้ากลุ่ม C น้อยมาก เนื่องด้วยมีราคาค่อนข้างสูง เราต้องสามารถอธิบายเรื่องของวัสดุและข้อดี ข้อเสียให้ชัดเจน คนกลุ่มนี้จะเข้าใจได้ง่าย ยอมจ่ายมากกว่า โดยมองว่าของดีมักมีราคาสูง และมีลูกค้าที่เคยซื้อบ้านไปแล้วก็กลับมาซื้อเพิ่มอีก การันตีได้ว่าบ้านอยู่สบายจริง และมีอายุการใช้งานนานเป็น 10 ปี ถึงจะมีการบำรุงรักษาใหญ่ครั้งนึง ในเรื่องของการตรวจสอบเรื่องสนิมรอบบ้าน แต่อย่างอื่นคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะโครงเหล็กที่ใช้สร้างบ้านจะไม่ใช่การทาสีน้ำมัน เพราะจะเกิดสนิมได้ในอนาคต แต่จะเป็นการส่งไปพ่นทรายและทำ Powdercoat จากโรงงานด้วยคุณภาพที่ดีแล้วค่อยนำมาประกอบ จึงทำให้ต้นทุนสูงนั่นเอง โดย BLOX Living มีความตั้งใจออกแบบบ้านให้อยู่สบาย ช่วยลดค่าบำรุงรักษา และไม่เป็นภาระกับการอยู่อาศัย ไม่เน้นสวยงาม การตกแต่งเยอะเหมือนกับของเจ้าอื่น แล้วสุดท้ายก็จะมาเป็นภาระในการดูแลรักษา เพราะวัสดุตกแต่งส่วนใหญ่ต้องมีการดูแลรักษาอยู่แล้ว

PH: 4 แบบบ้าน ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า

ตอนนี้เรามีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ แยกออกตามความต้องการในการใช้งาน แต่ละแบบสามารถ Customized ได้บางส่วน และหากใครมีแบบไว้ในใจก็สามารถมาคุยกันได้

BLOX BIZ จุดเริ่มต้นของธุรกิจในฝัน ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับทุกความต้องการได้ตามประเภทและการเติบโตของกิจการ เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ต่างๆ ภายในบ้าน หรือเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก อย่าง ร้านกาแฟ บ้านมีขนาด 3×5 ม. เพดานสูง 2.6-3.4 ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวมถึงระเบียงไม้หน้าบ้าน 15 ตร.ม. มีน้ำหนักโครงสร้างและตัวบ้านโดยประมาณ 2.5 ตัน ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท (ราคาบ้านเปล่า)

BLOX JUNIOR เติมเต็มความฝันในสไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ทั้งพื้นที่อยู่อาศัยส่วนตัวและทำกิจกรรมสันทนาการ เหมาะสำหรับเป็นที่พักอาศัยขนาดเล็ก มีชั้นลอยพร้อมห้องน้ำในตัว สามารถประยุกต์ใช้เป็นที่เก็บของหรือเป็นโฮมออฟฟิศได้ ขนาดบ้าน 3×6 ม. ชั้นลอย 3×2.5 ม. เพดานสูง 3.8 – 4.6 ม.พื้นที่ใช้สอยภายในรวมถึงระเบียงไม้หน้าบ้าน 25.5 ตร.ม. มีน้ำหนักโครงสร้างและตัวบ้านโดยประมาณ 3.5 ตัน ราคาเริ่มต้น 759,000 บาท (ราคาบ้านเปล่า)

BLOX SENIOR ออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของชีวิตผู้สูงวัยโดยเฉพาะ อุ่นใจที่อยู่ใกล้ครอบครัว สะดวกทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้ดูแล เหมาะสำหรับเป็นที่พักอาศัยขนาดกลาง พร้อมห้องน้ำในตัว ขนาดบ้าน 6×6 ม. เพดานสูง 2.6 – 3.4 ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวมถึงระเบียงไม้หน้าบ้าน 36 ตร.ม. มีน้ำหนักโครงสร้างและตัวบ้านโดยประมาณ 4 ตัน ราคาเริ่มต้น 859,000 บาท (ราคาบ้านเปล่า)

BLOX CABIN พักผ่อนหย่อนใจในสไตล์รีสอร์ท ไม่ว่าจะอยู่อาศัย หรือพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีความสุขได้ทุกวัน ในบรรยากาศโรแมนติก ด้วยดีไซน์บ้าน 2 ชั้นที่แตกต่าง สามารถเปลี่ยนจากบรรยากาศเดิมๆ ให้คิดไอเดียใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ขนาดบ้าน 4×7+2×3 ม. เพดานสูง 4.2 ม. พื้นที่ใช้สอยภายในรวมถึงระเบียงไม้หน้าบ้าน 34 ตร.ม. มีน้ำหนักโครงสร้างและตัวบ้านโดยประมาณ 4 ตัน ราคาเริ่มต้น 829,000 บาท (ราคาบ้านเปล่า)

หากลูกค้ามีแบบบ้านในใจที่นอกเหนือจาก 4 แบบของทางบริษัทฯ ก็สามารถคุยแบบและรายได้ละเอียดเพิ่มเติมได้ นอกจากจะซื้ออยู่เองแล้ว ยังมีลูกค้าที่ซื้อไปเพื่อใช้งานในเชิง Commercial ไม่ว่าจะเป็น ออฟฟิศ ห้องสมุด ร้านกาแฟ โกดังเก็บสินค้า และยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ควบคุมอุณหภูมิได้ดี และแบบบ้านที่ขายดีที่สุดก็จะเป็น BLOX SENIOR ขนาด 36 ตารางเมตร ด้วยความกว้างของบ้าน สะดวกสบาย เพราะลูกค้าต้องพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น และไม่กังวลกับราคามากนัก จึงเลือกบ้าน Type นี้กันเยอะ

PH: ข้อจำกัดในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การรับน้ำหนักของพื้น และงานต่อเติมระบบเพิ่มเติม

ลูกค้าสามารถต่อเติมระบบอย่างอื่นเพิ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ฯ กันสาด และระเบียง ทางบริษัทฯ จะมีข้อแนะนำกับลูกค้าว่าควรยึดอุปกรณ์ยังไงให้มีความมั่นคง แข็งแรงมากที่สุด หรือแม้กระทั่งการเจาะ แขวน อุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถทำได้เต็มที่ โดยพื้นสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 240 กิโลกรัม/ตารางเมตร ซึ่งมากกว่ากฎหมายกำหนด สาเหตุที่ทางบริษัทฯ ทำพื้นให้รับได้มากเพราะให้พื้นมีความแน่นขึ้น และเวลามีคนเดินอยู่ในบ้าน จะได้ไม่รู้สึกถึงแรงสะเทือน แต่ในแง่ของโครงสร้างก็มีความแข็งแรงพอ ซึ่งจะปูพื้นด้วยกระเบื้องไวนิลเลือกสีได้ หากลูกค้าที่มีชนิดกระเบื้องหรือพรมในใจอยู่แล้วก็สามารถบอกกับทางบริษัทฯ ได้เช่นกัน

PH: ขั้นตอนการทำงานของ BLOX Living

อันดับแรกต้องไปดูหน้างานของลูกค้าก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อประเมินการติดตั้งว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และมีงานอย่างอื่นที่ต้องทำเพิ่มเพื่อรองรับการติดตั้งหรือไม่ ลูกค้าจะได้เตรียมการไว้ด้วย หรือหากลูกค้ามีช่างมาเองก็ให้ช่างมาทำงานคู่ขนานกันไป รวมแล้วก็จะมีค่าสำรวจประมาณ 2,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้วสรุปให้ลูกค้าดูว่าระบบน้ำ ระบบไฟ พร้อมสำหรับการติดตั้งบ้านมากแค่ไหน ต้องเพิ่มเติมในส่วนไหนบ้าง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หากลูกค้าตกลงทำบ้านต่อ ทางบริษัทฯ ก็จะคืนเงินในส่วนนี้ให้ เมื่อลูกค้าเซ็นสั่งซื้อ บริษัทฯ ก็จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการผลิต และใช้เวลาติดตั้งบ้านอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ในส่วนของการจ่ายเงิน จะให้ลูกค้าแบ่งจ่ายเป็น 2 ก้อน คือ เมื่อลูกค้าสั่งผลิตสำเร็จต้องจ่ายเงินก่อน 1 ก้อน ประมาณ 60% และก่อนเข้าไปติดตั้งบ้านก็จ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดประมาณ 40% เพื่อป้องกันตอนที่บริษัทฯ ขนส่งบ้านไปถึงมือลูกค้าแล้วจะไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือ

PH: เป้าหมายธุรกิจของ BLOX Living

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้ยอดขายยังนิ่งๆ อยู่ ไม่เหมือนกับปีที่ผ่านมาที่ยังสามารถขายได้ดีกว่านี้ ซึ่งทางบริษัทฯ กำลังจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Corporate ที่สามารถซื้อ BLOX Living ไปทำสำนักงาน อาคารต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัดพลังงาน โดยเลือกบ้านตามแบบที่บริษัทฯ มีอยู่ ส่วนลูกค้าที่เป็น Retail ก็จะซื้อไปเป็นห้องส่วนตัว แล้ว Customized เพิ่มดีไซน์ได้ตามความต้องการ บริษัทฯ ก็จะจับไปที่ลูกค้า 2 กลุ่มนี้เป็นหลัก และหันไปทางงาน Custom Design ที่สามารถปรับเปลี่ยนกระจก บานประตู หน้าต่างได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

PH: สามารถเลือกซื้อ BLOX Living ตามช่องทางไหนได้บ้าง

ทางบริษัทฯ จะเน้นหลักๆ ไปที่แพลตฟอร์มการก่อสร้างออนไลน์ อย่าง Knock Knock, OneStockHome และ SCG ใครที่สนใจสามารถสั่งผ่านช่องทางดังกล่าวได้ โดยทางบริษัทฯ มีโรงงานที่ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้านเอง จึงทำให้มีกำลังการผลิตได้หลายหลังต่อเดือน

หากใครที่สนใจบ้าน BLOX Living สามารถสอบถามเพิ่มได้ที่ www.bloxliving.com โทรศัพท์ 02 117 2246, 063 845 5287