มองสบาย สไตล์นักลงทุน
โดยเอก ธำรง

ตอนที่ 3 ลงทุนหุ้นอย่างไร (2)

มองสบาย สไตล์นักลงทุน โดยเอก ธำรง: #1 ความจำเป็นในการลงทุน
มองสบาย สไตล์นักลงทุน โดยเอก ธำรง ตอนที่ 2 ลงทุนหุ้นอย่างไร(1)

กำไรจากการลงทุนในหุ้นคือราคาหุ้นขึ้น(capital gain) และเงินปันผล(dividend) ที่ได้จากหุ้น

หลักกำมือเดียวในการลงทุนซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นคือกำไรสุทธิต่อหุ้นโต และ/หรือความคาดหวังจากตลาดว่ามันจะโต แต่ไม่ใช่โตแค่ 1 ไตรมาสแล้วจบเช่น

-บริษัท ก. ขายที่ดินที่ซื้อมานานแล้วและได้กำไรมาก ซึ่งจะลงบัญชีไตรมาสนั้นพอดี อันนี้ถือว่าเป็นกำไรพิเศษซึ่งควรจะหักออกไปจากกำไรปกติเพราะถือว่าเกิดขึ้นชั่วคราว และไม่ใช่ผลกำไรที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติ

-บริษัท ข. ทำธุรกิจอีเวนท์ มาร์เก็ตติ้ง (พวกจัดงานโปรโมททางการตลาดเช่นจัดบูธ จัดงานแฟร์) แล้วพอดีได้งานใหญ่ที่จัดขึ้นครั้งเดียวในรอบหลายปีนั้นก็ประเมินมูลค่าได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ควรจะประเมินมูลค่ามากกว่าคือมองหาแบ็คล็อค (มูลค่าของงานที่มีแนวโน้มจะได้ทำสูง) ในช่วง 1 ถึง 2 ปีข้างหน้าว่าแนวโน้ม ตัวเลขที่บริษัทมีอยู่และที่คาดการณ์เป็นอย่างไร

เราจะต้องมองในระยะยาว 2 ถึง 3 ปีข้างหน้าว่ากำไรสุทธิต่อหุ้นก็ยังโตและระยะสั้นก็เติบโตสูง(ที่ไม่ใช่กำไรพิเศษซึ่งเกิดขึ้นครั้งเดียว)

ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นจะล้อตามกำไร

แล้วกำไรมาจากอะไร?

รายได้เพิ่ม เช่นขายของได้มากขึ้นหรือขายของที่มีราคาสูงขึ้น รายได้ในงบการเงิน = ปริมาณการขายxราคาขาย

 
รายจ่ายลด เช่นการควบคุมต้นทุนการผลิต ต้นทุนวัตถุดิบ การลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร ต้นทุนลดจากการผลิตเต็มกำลังการผลิต(economies of scale-คือการคุ้มทุนจากการผลิตในจำนวนมากเพราะต้นทุนบางอย่างเช่นค่าแรง ค่าไฟในไลน์การผลิตเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ถ้าผลิตได้จำนวนมากขึ้นต้นทุนต่อชิ้นก็จะลดลง)

 
การที่จะทำให้รายได้เพิ่ม รายจ่ายลด ไม่ใช่เรื่องง่าย อาจจะพูดง่ายแต่ทำได้ไม่ง่าย ในฐานะนักลงทุนเราทำการวิเคราะห์ได้ โดยอ่านเยอะๆ เอาความรู้เข้าหัวให้มากที่สุด แล้วมันจะช่วยในการวิเคราะห์หุ้นได้เป็นอย่างดี

 
แหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดคือรายงานประจำปีของบริษัท โดยการเข้าไปในเว็บไซต์ www.set.or.th และพิมพ์ชื่อย่อของหุ้นมันจะมีรายงานประจำปี งบการเงินให้ดาวน์โหลดไปอ่าน สำหรับบริษัทที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์อาจจะยังไม่มีรายงานประจำปี ทว่าเราสามารถอ่านหนังสือชี้ชวนได้ โดยเสิร์ชใน Google พิมพ์คำว่าหนังสือชี้ชวนและตามด้วยชื่อย่อของหุ้น

 
และวิธีวิเคราะห์ธุรกิจที่เป็นที่นิยมคือ swot analysis/ 5 forces/ competitive advantage โดย Michael Porter หลักกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้เราวิเคราะห์ธุรกิจได้ชัดเจนมากขึ้น จะทำอย่างไรเพื่อที่จะเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน

เหมือนเดิมครับ ลองเสิร์ช Google อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ใน YouTube ก็จะมีคลิปไมเคิล พอร์เตอร์อธิบายเป็นภาษาอังกฤษด้วยและมีประโยชน์มาก
ดังนั้นศาสตร์ความรู้ต่างๆที่แนะนำไปในบทความที่แล้วควรที่จะทำความเข้าใจเพื่อให้การวิเคราะห์ธุรกิจของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพื่อที่จะสร้างกำลังใจให้ทุกท่านที่สนใจลงทุนผมจึงอยากแชร์ภาพที่คำนวนผลตอบแทนและระยะเวลาว่ามันสามารถเพิ่มเงิน 10,000 บาทเป็น 600,000 กว่าบาท หรือเพิ่มขึ้น 60 กว่าเท่าภายใน 30 ปีได้อย่างไร

ต้นทุนที่เราต้องจ่ายมีเพียงค่าหนังสือ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ในการหาความรู้อาจจะต้องลงแรงบ้างเช่นการคลิกเลื่อนเมาส์และใช้คอมพิวเตอร์เล็กน้อย

หลังจากศึกษาไปเยอะแล้ว ถ้ามีคำถามอะไร รวมถึงศัพท์ทางเทคนิคที่ไม่เข้าใจก็สามารถถามได้ใน Facebook หรือไลน์ของผมนะครับ

หุ้นนั้นไม่ยาก(เกินความสามารถมนุษย์)แต่ไม่ง่าย

เอก ธำรง
Facebook:ake thamrong
Line ID:akethamrong