บ้าน Ultra Luxury เอพีแรงไม่ตก! ล่าสุดพร้อมเปิดตัว “บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57”
บ้านเดี่ยวหรู 6 ชั้น หนึ่งใน Majestic Collection ใจกลาง พระราม 3 ที่ให้ทุกชั้นคือเพนท์เฮาส์ส่วนตัว ด้วย ‘เอกสิทธิ์สุดพิเศษ เพียง 9 ครอบครัว’ เริ่ม 65 – 130 ล้านบาท*
กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอยู่หลากหลายแบรนด์มากครับ หากไล่เรียงตามระดับเซกเมนท์ราคาจากน้อยไปหามากก็จะเป็น MODEN – CENTRO – THE CITY – BAAN KLANG KRUNG – THE PALAZZO ที่ทั้งหมดถูกพัฒนาขึ้นบนจุดยืน FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL บ้านที่สวยที่สุด คือบ้านที่เข้าใจชีวิต ที่ที่ทุกตารางนิ้วถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้จริง และเข้าใจทุกชีวิตในบ้านมากที่สุด โดยในปีนี้เป็นปีที่กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวพร้อมที่จะรุกตลาด Ultra Luxury อย่างต่อเนื่อง เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าระดับ HNWIs ที่ซึ่งงบประมาณ และสภาวะทางเศรษฐกิจไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการซื้อสินค้าที่ตัวเองปรารถนา ด้วยการเปิดตัว ‘Majestic Collection’ คอลเลกชันบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี โครงการใหม่สำหรับกลุ่มแบรนด์ THE PALAZZO ทั้งที่ทำเลบรมราชชนนี และกรุงเทพฯกรีฑาตัดใหม่ พร้อมๆกับการนำเอาแบรนด์ระดับตำนานอย่าง BAAN KLANG KRUNG (บ้านกลางกรุง) ที่นานๆจะมีการเปิดตัวโครงการสักครั้ง กับจุดเด่นในเรื่องจำนวนยูนิตที่น้อยสุดๆ บนคอนเซปท์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ในแบบ Exclusively Yours ใจกลางเมือง, เช่นเดียวกับการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ BEON [บีร์ออน] โดยในวันนี้เอพีพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวโครงการ “บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57” ซึ่งเป็นบ้านแนวคิดใหม่สูง 4-5 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้า เพียงแค่ 9 หลังผลงานระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรีลำดับที่ 3 ของ ‘Majestic Collection’ ภายใต้แนวคิด “The Pinnacle of Vertical Estate Living” ที่ผสานดีไซน์คลาสสิก เข้ากับสถาปัตยกรรมแนวสูงอันทรงพลัง สู่ความสง่างาม เรียบหรู และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ไม่เคยตกยุค ที่ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อการใช้ชีวิตในแบบคนเมืองใจกลางพระราม 3
ในช่วงแรกๆของเอพี แบรนด์บ้านกลางกรุง ถูกนำมาใช้เป็น Fighting Brand ในทุกกลุ่มเซกเมนต์สินค้า ไล่ตั้งแต่คอนโด ทาวน์โฮมสไตล์ยุโรป และบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ซึ่งจุดเปลี่ยนของการกำหนด Brand Identity & Positioning ที่ชัดเจนที่สุดว่าแบรนด์นี้เหมาะจะเป็นแบรนด์ Flagship ของกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ก็น่าจะเริ่มตั้งแต่การเปิดตัวบ้านกลางกรุงในฐานะบ้านเดี่ยว 3 ชั้น โครงการแรกที่ บ้านกลางกรุง เดอะนีซ รัชวิภา ในปี 2549 นับจากนั้นเป็นต้นมาแบรนด์บ้านกลางกรุงก็มีการ Evolvement อยู่เรื่อยๆในแบบที่นานๆจะเปิดตัวโครงการสักครั้ง ซึ่งการเปิดตัวโครงการล่าสุดก่อนหน้านี้ก็คือ บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์-พระราม 3 ที่ได้รับการตอบรับขายหมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จึงเป็นที่มาของโครงการลำดับถัดไปในวันนี้ที่อยู่บนทำเลติดกันเลยกับ “บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57” ที่เปลี่ยน Perception ของการเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นออกไปโดยสิ้นเชิง กับบ้านแนวคิดใหม่ที่เน้นการใช้งานพื้นที่แนวตั้งมากเป็นพิเศษด้วยการออกแบบเป็นสูง 4-5 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้า เพียงแค่ 9 หลัง ที่ให้ทั้งความเป็นส่วนตัว ความโอ่อ่า และความสะดวกสบาย ที่ให้ทุกชั้นคือเพนท์เฮาส์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 65 – 130 ล้านบาท* บนที่ดินเริ่มต้น 61 – 120 ตร.วา มอบพื้นที่ใช้สอย ขนาด 403 – 915 ตร.ม. รองรับที่จอดรถ 5 จอด* พร้อม Lift และ Auto Parking ซึ่งทุกยูนิตออกแบบให้แต่ละชั้นเปรียบเสมือน ‘เพนต์เฮาส์ส่วนตัวขนาดใหญ่’ ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย พร้อม Sky Terrace ส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยโอ่อ่า เพดานสูง โปร่งโล่ง พร้อมลิฟต์โดยสารส่วนตัวทุกหลัง Grand Staircase ที่สง่างาม และระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งทุกองค์ประกอบของบ้านกลางกรุง ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่คือพื้นที่แห่งความภาคภูมิใจ ที่บอกเล่าความมีรสนิยมของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน
สำหรับการเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ ไม่ได้จัดขึ้นที่ Site จริงครับ แต่จัดที่โรงแรมดุสิตธานี โดยเป็นการถ่ายทอดผ่านซีรีส์ภาพถ่ายสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดย คุณคิด เบญจรงคกุล ช่างภาพแถวหน้าของเมืองไทย ที่จะเปิดมุมมองใหม่ของการอยู่อาศัยเหนือระดับอย่างแท้จริง เพื่อให้สมกับแนวคิด RAREST OF RARITY นิยามใหม่ของการอยู่อาศัยใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ผ่าน Cinematic Photo Story ซีรีส์ภาพถ่าย ‘RAREST OF RARITY: Living through a Manhattan Lens’ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวพื้นที่ชีวิต และรายละเอียดอันพิถีพิถันของ บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 จากฝีมือช่างภาพชื่อดังอย่างคุณคิด – คณชัย เบญจรงคกุล ผู้มีความสนใจในศิลปะ การถ่ายภาพ งานแฟชั่น และการเดินทาง ซึ่งทั้งหมดหล่อหลอมมุมมองเฉพาะตัวในการเล่าเรื่องผ่านภาพถ่าย ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเป็น ‘ตัวตน ความเป็นส่วนตัว และความเงียบสงบ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง Main Gate ที่สูงถึง 15 เมตร ท่ามกลางวิถีชีวิตใจกลางเมืองใหญ่