ทำไมบางหว้าน่าอยู่

สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าเป็นสถานีขวัญใจของชาวฝั่งธน เพราะปัจจุบันปี 2561 เป็นสถานีปลายทางที่มีคนใช้บริการมากที่สุดของส่วนต่อขยาย คนที่มาจากฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ทางถนนราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษม อยากเข้าในตัวเมืองต้องมาใช้บริการสถานีนี้กันทั้งนั้น

สถานีบางหว้าเป็นสถานีเชื่อมต่อ interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว(สายสีลม) กับสายสีน้ำเงิน ทั้ง 2 สายเป็นรถไฟฟ้าสายศักยภาพสูง ที่วิ่งเข้าสู่กลางใจเมือง ศูนย์ธุรกิจต่าง ๆ เช่น สีลม พระราม 4 อโศก พระราม 9 จึงทำให้ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมมาสร้างตึกรอบๆ สถานี คาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มเติมอีกทำให้บางหว้าจะกลายเป็นชุมชนคอนโดแห่งใหม่

ภาพสถานีรถไฟฟ้าบางหว้าสายสีน้ำเงินที่ก่อสร้างเห็นเป็นรูปธรรม รอเปิดให้บริการในอีกสองสามปีนี้ โครงสร้างพื้นฐานนี้ทำให้ทำเลบางหว้ามีความน่าสนใจกว่า ทำเลเพชรเกษม เพราะว่าเป็นจุดเชื่อมรถไฟฟ้าสองสาย คนที่อยู่รอบ ๆ บางหว้าก็จะเลือกไปได้ตามที่ต้องการ

นี่คือภาพอนาคตของบางหว้า จะมีเส้นทางรถไฟฟ้า จากบางหว้าต่อไปถึงตลิ่งชัน บางหว้าจะเป็นจุดตัดสำคัญของชานเมืองกรุงเทพตะวันตก

ภาพจาก http://m.thansettakij.com/content/67680

บางหว้าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทางกรุงเทพมหานครได้ออกแบบบริการสาธารณะให้มีวิธีการเดินทางสะดวกทั้งรถ เรือ ราง

ใต้สถานีรถไฟฟ้าบางหว้ามีจุดรถรับส่งฟรีไปที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค มีบริการสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อเปิดลิงค์เว็บไซต์ดูว่าตอนนี้รถรับส่งถึงไหนแล้ว ทำให้แม้เราอยู่บางหว้าแต่ไปเดินเล่นห้างซีคอนบางแคได้สะดวก ซึ่งซีคอนบางแคอัพเดทร้านค้าภายในให้มีร้านใหม่ๆ เทียบเท่าห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองแล้วครับ

ลิฟต์ขึ้นลงสถานี สำหรับผู้พิการ คนชรา และคนที่เดินขึ้นบันไดไม่ถนัด มีให้บริการที่สถานีบางหว้าด้วยครับ

การสร้างสถานีรถไฟบางหว้าทำให้มีผู้คนผ่านไปผ่านมา ณ จุดนี้มากขึ้น ทำให้พื้นที่รอบข้างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากตึกแถวธรรมดา ปรับปรุงให้เป็นคาเฟ่ และร้านค้าสมัยใหม่ต่าง ๆ

มีคาเฟ่บิงซู

ร้านชากาแฟก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่ง และสตรีทฟู้ด

คึกคักมากกว่าแต่ก่อนเยอะ ในอดีตไม่เคยมีร้านแบบนี้มากนัก  ทำให้บรรยากาศรอบบางหว้าน่าอยู่มากขึ้น

ไม่ไกลจากสถานีบางหว้าก็มีมหาวิทยาลัยสยาม เปิดสอนหลากหลายสาขาวิชา ทำให้คอนโดรอบบางหว้ามีดีมานด์การเช่าของนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัย

ทางออกของสถานีบางว่ามีทางเดินสกายวอล์คเพื่อไปท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม เป็นเรือโดยสารมาตรฐานสูง วิ่งไปตามคลองภาษีเจริญ

สกายวอล์กมีขนาดกว้าง มีรปภ. ตามจุดต่างๆ และมีที่จอดจักรยานด้วย

คอนโดมิเนียมอาคารสูงที่ขึ้นรอบสถานีบางหว้า แบรนด์ President โครงการนี้มีจุดเด่นคือมองเห็นง่ายจากถนนใหญ่ โดดเด่น ราคาดี ทำให้ขายต่อและง่ายในการปล่อยเช่า

เดินสกายวอล์กไปเรื่อยๆ จะเจอบันไดทางลง เพื่อไปท่าเรือและท่ารถตู้

นี่คือภาพท่าเรือสะพานตากสิน-เพชรเกษม

มีท่ารถตู้ไปต่างจังหวัดอยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือ

ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วง “ขายของดีที่บางหว้า”

เมื่อเราเดินสบายๆ บนสกายวอล์กจากสถานีบางหว้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 6 นาทีจะพบกับคอนโดมิเนียม High-rise สูงโดดเด่นอยู่ตึกเดียว

เป็นคอนโดมิเนียมที่มีจุดเด่นมากที่สุด เพราะมีทาง ขึ้นลงสกายวอล์คอยู่ติดหน้าคอนโดเลย

เป็นคอนโดมิเนียมที่ใกล้กับแหล่งน้ำ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ คลองนี้ค่อนข้างสะอาด ไม่เหม็น

เป็นคอนโดมิเนียมที่เงียบสงบ ไม่มีตึกบัง วิวไม่บล็อก และลมพัดเย็นดีมาก น่าอยู่มากสำหรับคนที่อยากใกล้ชิดรถไฟฟ้าแต่ก็อยากใกล้ชิดธรรมชาติด้วย

คอนโดมิเนียมที่ว่านี้ชื่อว่า Aspire Sathorn–Ratchapruek (แอสปาย สาทร–ราชพฤกษ์) คอนโดมิเนียมโครงการนี้จริง ๆ เคยเปิดขายเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ระงับการขายไปเพื่ออัพเกรดสเปค และรอการสร้างสกายวอล์กจนเสร็จ แต่การก่อสร้างคอนโดมิเนียมไม่ได้ระงับ ก็ยังคงก่อสร้างมาเรื่อยๆ จนถึงปี 2561 จึงได้เปิดขายอีกครั้ง การกลับมาครั้งนี้ถือว่ายกระดับทุกอย่างใหม่ให้ทันสมัยและดีกว่าเดิม แม้ตึกจะให้มองเห็นจริงแล้ว แต่คาดว่าจะสามารถย้ายเข้าอยู่ได้จริงช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 – 4 ปี 2561 นี้ครับ

ทำเลของคอนโดมิเนียมแอสปาย สาทร-ราชพฤกษ์นี้ตั้งอยู่ บนถนนราชพฤกษ์และเทอดไท  อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างถนนกัลปพฤกษ์กับถนนเพชรเกษม อยู่ติดกับบันไดขึ้นสกายวอล์คข้ามคลองภาษีเจริญเดินไปถึงรถไฟฟ้าสถานีบางหว้า

แผนที่การเข้าออกรถยนต์

แม้โครงการจะอยู่ในทำเลที่เรียกว่า The middle of nowhere คือล้อมรอบไม่มีห้าง ไม่มีร้านค้า ไม่มีคอนโดมิเนียมเพื่อนบ้าน ดูไม่มีอะไรเลย แต่…

แต่…ความโดดเดี่ยวของโครงการกลับไม่ใช่จุดด้อยอย่างที่ใครๆ คิด แต่มันคือจุดเด่นที่หาได้ยากสำหรับคอนโดมิเนียมตึกสูง

เพราะการที่ไม่มีคอนโดมิเนียมเพื่อนบ้านอยู่รอบข้างเลยแม้แต่ตึกเดียวทำให้วิวทั้งหมด 360 องศาของโครงการนี้เป็นวิวโล่งครับ

คอนเซปต์ของโครงการที่นำเสนอออกมาว่า “ทุกโอกาส ทุกความสุข หมุนรอบตัว” เพราะเป็นคอนโดมิเนียม high rise วิวโล่งรอบทิศทาง สร้างความสุขทางสายตา และสร้างโอกาสในการทำงานสะดวกสบายด้วย skywalk และรถไฟฟ้าที่ใกล้เพียงแค่เดินไม่กี่นาที

วิวโล่งนี้ประเมินคุณค่าให้สักกี่บาทดีครับ ลองพิจารณาดูกันเอง

นอกจากความดีงามของวิวโล่งแล้ว จุดแกร่งที่สุดคือ Aspire Sathorn–Ratchapruek แห่งนี้เสมือนมี skywalk ส่วนตัว ที่จะเชื่อมต่อลูกบ้านเข้าสู่ everywhere จะไปที่ไหนก็ได้ด้วยรถไฟฟ้า

เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง และใต้ตึกยังมีร้านสะดวกซื้อมาเปิดให้บริการด้วยก็ถือว่าแก้ปัญหาเรื่องทำเลโดดเดี่ยวไปได้

ด้วยความจุดเด่นด้านความโดดเดี่ยวของทำเล ทางผู้ออกแบบโครงการก็ได้หยิบยกจุดเด่นของทำเลตรงนี้ขึ้นมาเลยจัดทำ triple facility หมายถึง มี facility ชั้น 1 ชั้น 8 และชั้น rooftop facility เพิ่มขึ้นมาหลากหลายเช่น ลู่วิ่งจ๊อกกิ้งแทร็ก  ลานอเนกประสงค์ ที่นั่งพักผ่อน ลานโยคะ ลานบาร์บีคิว Multi-Sport Courtyard, Rooftop Garden จุดชมวิวที่ลูกบ้านจะได้สัมผัสใกล้ชิดวิวธรรมชาติทุกๆ วัน นับว่า Aspire Sathorn–Ratchapruek เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่จัดเต็มด้านสิ่งอำนวยความสะดวกครบพร้อมทุกความต้องการมากที่สุดแห่งหนึ่งของย่านบางหว้าครับ

นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้าและยังมีสระว่ายน้ำ ที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้งสำหรับผู้ที่นิยมผิวสีแทนอีกด้วย

สวนลอยฟ้า มีต้นหญ้า ต้นไม้ ให้ลูกบ้านใกล้ชิดธรรมชาติได้ทุกวัน

ดู outdoor facility ไปหมดแล้ว เรามาดู indoor facility กันบ้างครับ มีล็อบบี้เพดานสูง ไว้คอยต้อนรับลูกบ้านและเพื่อนๆ ที่ออกแบบได้อย่างสมฐานะ มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางโซฟาขนาดใหญ่ รองรับลูกบ้านได้เพียงพอ

นอกจากนี้ในพื้นที่ส่วนกลางก็จะมีความเป็นส่วนตัวด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นลักษณะคล้าย ๆ กับ cocoon เหมือน ห้องส่วนตัวขนาดย่อมๆ

ลักษณะการตกแต่งภายในมีการอัพเกรดมากกว่าเดิม การปูพื้นลามิเนตแนวเฉียง เลือกใช้โคมไฟและตำแหน่งการจัดวางที่มีการออกแบบจุดนำสายตา นอกจากความสวยงามแล้วยังตอบสนองเรื่องฟังก์ชัน ออกแบบพื้นที่ทำงานโคเวิร์กกิงเปซให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์งานร่วมกัน

ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยเก๋าที่เป็น Digital community เช่น Working Cocoon Pod, Co Working Space พร้อม techno booth และสิ่งที่หลายคนกังวลที่สุดในยุคนี้คือ ระบบอินเทอร์เน็ตที่จะผูกขาดหรือติดสัญญากับเจ้าใดเจ้าหนึ่งมากเกินไป แต่ที่ Aspire Sathorn–Ratchapruek นี้มีการเดินสาย internet แบบ Fiber Optic จาก Fiber One เข้าทุกห้อง และสามารถเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตได้ทุกค่าย ไม่จำกัด ตอบโจทย์ชีวิตจริงมากๆ

มีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ส่วนกลางให้เสมือนมีหลายๆ ห้อง มี personal space

Upgrade ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์ใหม่ล่าสุด ตามความต้องการของคนรักสุขภาพและผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ในการดูแลตัวเอง ทางโครงการเลือกใช้เครื่องออกกำลังกายแบรนด์ Matrix ซึ่งเป็นแบรนด์ใน top 3 ที่ได้รับไว้วางใจจากผู้ที่ทำงานด้านสาธารณสุข (Top3 ได้แก่ Technogym, Life Fitness และ Matrix ) นอกจาก top 3 แล้วยังมีเครื่องแบรนด์ Johnsons ด้วย ซื้อคอนโดยุคนี้ต้องเอ่ยปากถามยี่ห้อเครื่องด้วยนะครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ผลต่อค่าส่วนกลางด้วยครับ โครงการยังให้เครื่องเล่นแปลกใหม่ที่คนเคยซื้อแบรนด์ Aspire จะไม่เคยพบอีด้วย เช่น S-Drive, Rover, และ Adjustable Pulley

อธิบาย plan ของ Aspire Sathorn–Ratchapruek

ครับเรามาดูที่ Master plan กันก่อน ทางเข้าจะสำหรับรถยนต์และทางเข้าสำหรับคนเดินเท้าที่ติดกับบันไดสกายวอล์กรถไฟฟ้าครับ สกายวอล์กมีทางลง 2 ทาง คือ หน้าโครงการฝั่งถนนราชพฤกษ์และข้างๆ โครงการฝั่งถนนเทอดไท ชั้นที่ 1 มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

มาดู floor plan ชั้นที่ 2 เป็นลานจอดรถ ส่วนชั้นที่ 3 เริ่มเป็นที่พักอาศัยเหมาะกับคนที่ชอบวนรถขึ้นมาจอดชั้นเดียวกันกับห้องพักแล้วเดินผ่านประตูเข้าห้องแบบไม่ต้องขึ้นลิฟต์เลย นอกจากนี้ก็สะดวกในการใช้งานบริการซักอบผ้าเพราะมีห้องเครื่องซักผ้าส่วนกลางที่ชั้น 3

ชั้นที่ 4 เป็นชั้นที่มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ใครต้องการความสะดวกจอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วเดินเข้าโถงทางเดินเข้าห้องตัวเองง่ายๆ ก็เหมาะกับชั้นนี้ครับ

ชั้นที่ 5 เป็นอีกชั้นที่สะดวกสบายเพราะว่าจอดรถยนต์แล้วเดินเข้าห้องได้เหมือนกัน

ชั้นที่ 6 เป็นชั้นที่มีห้องน้ำตรงลานจอดรถ สะดวกเวลาที่เกิดเหตุการณ์ “ข้าศึกบุกพร้อมกัน” จะได้ไม่ต้องแย่งเข้าห้องน้ำพร้อมกัน ทำให้ชีวิตมีทางเลือกมากกว่าเดิม 😀

ชั้น 7 ไม่มีข้อมูล ปริศนายังคงมีอยู่

ชั้น 8 ชั้นสวรรค์ของคนรัก facility อยู่ใกล้ๆ แค่ม้วนหน้าสองสามตลบก็เข้าถึงสระว่ายน้ำและฟิตเนสได้ทันที แต่ไม่ต้อวกังวลว่าจะมีชาวบ้านชั้นอื่นลงมาป้วนเปี้ยนโถงทางเดินเพราะมีอีกประตูกั้นเอาไว้ก่อนครับ

ชั้น 9 จะมีห้องพักอาศัยอย่างเดียว เป็นชั้นที่ห้องวิวทิศตะวันตกจะได้รับวิวสระว่ายน้ำที่สวยงาม

ชั้น 10-28 ชั้นพักอาศัยล้วนๆครับ

พอมาถึงชั้น 29 จะมีพื้นที่สีเขียวแทนห้องพัก 2 bedroom ที่หายไป ซึ่งพื้นที่สีเขียวจุดนี้ลูกบ้านทุกคนจะสามารถใช้งานได้หรือไม่ให้ลองสอบถามที่พนักงานขายและขึ้นอยู่กับการบริหารงานของนิติบุคคลอาคารชุด

ชั้น 30 เป็นชั้นที่น่าอยู่มากที่สุดสำหรับคนที่ชอบ high floor ส่วนชั้นที่ 31 จะติดกับชั้นดาดฟ้าที่อาจมีการสั่นสะเทือนจากกิจกรรมคนวิ่งบน jogging track ดาดฟ้า หรืออาจมีปัญหาน้ำรั่วจากชั้นดาดฟ้าได้บ้าง

ชั้น 32 roof top floor สูงสุด เป็นชั้น facility ล้วนๆ

Unit plan ที่เป็นของเราคือห้องแบบไหนใน Aspire Sathorn–Ratchapruek

Aspire Sathorn–Ratchapruek มีห้องทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ studio 26 ตร.ม. (กั้นห้องเองเป็น 1 bedroom ได้) , 1 bedroom 31.5-32 ตร.ม. ที่มีครัวแยกเป็นสัดส่วน, 1 bedroom plus 35 ตร.ม. ที่มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ห้องเล็กๆ ให้เพิ่มเติม และ 2 bedroom 46.5-48 ตร.ม. ที่มีทั้งแบบห้องกระจกเข้ามุมและไม่มีกระจกเข้ามุม

ภาพห้องตัวอย่างแบบ 1 bedroom 31.5-32 ตร.ม.

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัว

ห้องนอนค่อนข้างใหญ่

ห้องตัวอย่างอีกห้องคือรูปแบบ 1 bedroom plus 35 ตร.ม. มีห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่โดยมีประตูกระจกบานสไลด์กั้นไว้

ห้องนอนของ 1 bedroom plus

ห้องตัวอย่างแบบที่ 3 คือ 2 bedroom

ห้องนอนแรก

ห้องนอนที่ 2

ห้องนั่งเล่น

Factsheet ข้อมูลเกี่ยวกับ Aspire สาทร–ราชพฤกษ์

มูลค่าโครงการสูงถึง 2,999.8 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์และถนนเทอดไท ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางหว้า มีพื้นที่ 4 ไร่ 3 งาน 13.6 ตารางวา เป็นคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น 1 อาคาร วางตัวเป็นรูปคล้ายตัว T ยูนิตพักอาศัย 1049 ยูนิต แบ่งออกเป็น Studio 26 ตร.ม. 58 ยูนิต 1 Bedroom 31.5-32 ตร.ม. 554  ยูนิต 1 Bedroom plus 35ตร.ม. 279 ยูนิต 2 bedroom 46.5-48 ตร.ม. 158 ยูนิต และมีร้านค้า 1 ยูนิต ที่จอดรถ 419 คันไม่รวมซ้อนคัน คิดเป็น 40% สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ Lobby, ห้องน้ำส่วนกลาง ห้องสำนักงานนิติ ห้องจดหมาย ที่จอดรถ ห้องแม่บ้าน ห้องรปภ. ห้องประชุม ห้องซักรีด สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบกล้องวงจรปิด ประตูเข้าออกระบบการ์ด ค่าส่วนกลาง 38 บาทต่อตารางเมตรเก็บล่วงหน้า 1 ปี เงินกองทุนส่วนกลาง 350 บาทต่อตารางเมตร

Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ เหมาะกับใคร?

Aspire Sathorn-Ratchapruek โครงการนี้เหมาะกับคนไทยที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง เก็บเป็นทรัพย์สิน เหมาะกับคนทำงานย่านสาทร สีลม ช่องนนทรี บางรัก เรียนและทำงานมหาวิทยาลัยสยาม ทำงานย่านเพชรเกษมที่ต้องการความสะดวกสบายระดับสูงสุดและต้องการควบคุมเวลาในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสถานี interchange บางหว้า และเดินเข้าคอนโดอย่างปลอดภัยด้วย skywalk แต่อาจไม่เหมาะมากนักกับคนที่ใช้รถยนต์เพราะทำเลตั้งอยู่ในเส้นทางเข้าออกรถยนต์ที่ค่อนข้างซับซ้อน หากไม่เคยมาแถวนี้

ถ้าพูดเรื่องการเงินแล้ว Aspire Sathorn–Ratchapruek เหมาะกับคนซื้ออยู่เองเพราะดาวน์ระยะสั้นไม่กี่เดือนก็ย้ายเข้าอยู่ได้ปลายปี  นอกจากนี้เหมาะกับนักลงทุนสายปล่อยเช่าที่ต้องการสร้างรายได้ทันทีหลังตึกเสร็จ ไม่ต้องผ่อนดาวน์ไปเปล่าๆ นานเกินไป แต่อย่าพยายามคาดหวัง rental yield ที่สูง เพราะคาดว่า yield จะอยู่ที่ประมาณ 5% ก็ถือว่าดีสำหรับนักลงทุนที่ซื้อเงินสดหรือกู้น้อยครับ นักลงทุนมีส่วนหนึ่งที่เป็นนักลงทุนต่างชาติที่เข้าใจในทำเลนี้และเป็นคนประเภทที่ชอบเห็นของจริงแล้วค่อยซื้อ ดังนั้นจะค่อนข้างกรองนักลงทุนระยะสั้นสายป่านสั้นที่รอ flip ออกไปจะและจะดึงดูดนักลงทุน flipper สายป่านยาวที่มีกำลังเงินในการโอนห้องได้จริงเข้ามาด้วยสาเหตุเพราะ Aspire Sathorn-Ratchapruek เป็นโครงการที่มองเห็นเป็นรูปธรรมแล้วทำให้การวิเคราะห์การลงทุนง่ายขึ้นและลูกค้าที่จะมาซื้อต่อก็เชื่อมั่นสูงเพราะไปเดินดูเห็นของจริงแล้ว

แม้แบรนด์จะเป็น Aspire แต่ว่า facility ด้านในไม่ใช่ Aspire แบบเดิมๆ แต่ออกจะสูงกว่าเกือบแตะแบรนด์ Life ในปัจจุบันครับ ทำให้คุณค่าทางจิตใจจะอยู่กึ่งกลางระหว่างชาว Aspire กับชาว Life

ราคาขายเฉลี่ยของ Aspire Sathorn–Ratchapruek อยู่ที่ประมาณ 88,000 บาทต่อตารางเมตร ถ้าราคาต่ำที่สุดคือเพียง 72,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น จึงเป็นโครงการที่มีความแข่งขันได้ทางด้านราคา ดูแล้วคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการมี skywalk ส่วนตัวติดอยู่หน้าโครงการแบบนี้ แต่ทั้งนี้ก็มีตัวเปรียบเทียบเป็นคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบนถนนเพชรเกษมที่มีห้างสรรพสินค้าใกล้โครงการในระยะเดินได้ แต่จะขาดคุณค่าทางสายตาเรื่องความโล่งของวิว ซึ่ง Aspire Sathorn–Ratchapruek จะตอบโจทย์ความโล่งและเป็นส่วนตัวได้มากกว่าโครงการอื่นๆ

เหตุผลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจซื้อคือ สถานีบางหว้าจะสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้เมื่ออนาคตรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสร้างครบ loop เมื่อไหร่แล้วการเดินทางไปที่สถานีสนามไชย วัดพระแก้ว สนามหลวง ไปสถานีวัดมังกรฯ เดินเยาวราช ไปสถานีสามย่านเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปสถานีสีลม ไปสถานีลุมพินีเข้า One Bangkok ไปสถานีสุขุมวิทเดินอโศก ไปพระราม 9 ไปกรุงเทพฝั่งเหนือผ่านรถไฟฟ้าเส้นจรัญฯ ก็ง่าย ไปสถานีรถไฟบางซื่อซึ่งจะมีรถไฟฟ้าความเร็วต่างๆ ไปต่างจังหวัดได้สะดวกสบาย ดังนั้นข้อดีของการมีรถไฟฟ้าใกล้ตัวจะตอบโจทย์ชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคตได้ดี

สนใจรายละเอียดติดต่อและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์  https://goo.gl/zUGFM2