‘บมจ.วีรันดา รีสอร์ท’ หรือ VRANDA ประกาศผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 1,537 ล้านบาท เติบโต 10% และมี EBITDA 360 ล้านบาท เติบโต 85 % พลิกทำกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 141 ล้านบาท ในปีก่อน โดยมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากการดำเนินงานปกติ 68 ล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่อง เตรียมจ่ายปันผล 0.125 บาทต่อหุ้น ปี 2568 รับปัจจัยบวกภาครัฐหนุนไทยเป็น Tourism Hub พร้อมรับรู้รายได้เต็มปีจากการเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น” และส่วนต่อขยายโรงแรม “ร็อคกี้ บูติค รีสอร์ท สมุย” หนุนรายได้ธุรกิจโรงแรมเติบโต ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เตรียมโอนบ้านพักตากอากาศหรู “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท” ที่ภูเก็ต

นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2567 ว่า วีรันดา รีสอร์ทฯ เติบโตอย่างแข็งแรง โดยมีรายได้รวม 1,537 ล้านบาท เติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมี EBITDA ที่ 360 ล้านบาท เติบโต 85% โดยมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 141 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติ 68 ล้านบาท ปัจจัยมาจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมที่เพิ่มเป็น 67% จาก 51% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยเพิ่มเป็น 4,379 บาทต่อห้อง จาก 4,246 บาทต่อห้อง เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน  สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของรายได้และได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งของตลาดท่องเที่ยวไทยโดยรวม โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2567 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น โรงแรมในหัวหิน พัทยา เชียงใหม่ และสมุย มีรายได้มากกว่าช่วงก่อนการการระบาด COVID-19 หรือช่วงปี 2562 แล้ว

จากผลการดำเนินงานปี 2567 ดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงพิจารณาจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.125 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 39.97 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568

นายภวัฒก์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดท่องเที่ยวไทยปี 2568 ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องจากแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่ต้องการให้ไทยเป็น Tourism Hub โดยการส่งเสริมให้มีการจัด อีเวนต์ระดับโลก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยตามเป้หมาย 39 ล้านคน ขณะเดียวกันโรงแรม “วีรันดา รีสอร์ท ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น” (Veranda Resort Phuket, Autograph Collection)
แบรนด์ระดับพรีเมียมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จำนวน 159 ห้อง เปิดให้บริการอย่างเต็มปี จากการวางรากฐานสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยแผนยุทธศาสตร์ด้านทำเลที่ตั้งของการลงทุน ประกอบกับการเปิดให้บริการห้องพักเพิ่มอีก 20 ห้อง ของโรงแรม “วีรันดา คอลเลกชัน สมุย – ร็อคกี้ รีสอร์ท” (Veranda Collection Samui – Rocky’s Resort) ทำให้บริษัทฯ มีห้องพักโรงแรมในเกาะสมุยที่เปิดให้บริการรวมเป็น 70 ห้อง เพื่อรองรับการเดินทางนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยในเดือน ม.ค. และ ก.พ. ร็อคกี้ รีสอร์ท มีรายได้เติบโตมากกว่า 40%  เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนธุรกิจโรงแรมให้มีรายได้ 1,650 ล้านบาท ในปี 2568 ตามเป้าที่วางไว้

ขณะที่โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย “วีรันดา วิลล่า แอนด์ สวีท” (Veranda Villas & Suites)  17 ยูนิต ได้แก่ วิลล่า 6 หลัง และสวีท 11 ห้อง มูลค่ารวมโครงการ 870 ล้านบาท คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์เพื่อรับรู้รายได้ราว 560 ล้านบาท ในปี 2568 จึงเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีทองของ บมจ.วีรันดา รีสอร์ท