LPN จับเทรนด์ Wellness Residence สร้างประสบการณ์ใหม่ เปิดตัวโครงการพาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Nordic Well-being Philosophy’ โดยเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ พร้อมรับสิทธิพิเศษ 25 มิ.ย.นี้
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพที่มาพร้อมกับความ น่าอยู่ในทุกมิติ เพื่อยกระดับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดมามากกว่า 34 ปี ล่าสุดเปิดขายโครงการ พาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา (PARK 168 NOPPARATRAMINDRA) คอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Nordic Well-being Philosophy’ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมกว่า 9,000 ตร.ม เพื่อการใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายได้ถึงขีดสุด โดยกำหนดเปิดให้ชมห้องตัวอย่าง พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ
สำหรับย่านรามอินทรา นับว่าเป็นทำเลศักยภาพทั้งในแง่การลงทุน และการอยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มราคาที่ดินมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงถึง 25-30% จากเดิม 95,000 -100,000 บาทต่อตารางวา โดยปัจจุบัน มีราคาขยับอยู่ที่ 125,000 บาทต่อตารางวา โดยยังมีแนวโน้มในการเป็นแหล่งศูนย์กลางของการดูแลรักษาสุขภาพในอนาคต ทำให้การสร้างที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Wellness Residence จึงน่าจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยบนทำเลนี้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลวิจัยที่สะท้อนจากผู้คนที่อาศัยในประเทศกลุ่ม Nordic ซึ่งติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกถึง 5 ประเทศ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการ พาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา (PARK 168 NOPPARATRAMINDRA) ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบ ‘Nordic Well Being Philosophy’ มาใช้เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบง่าย เพื่อส่งเสริมให้งานภูมิสถาปัตยกรรมภายในโครงการมีความโดดเด่นมากขึ้น และเลือกใช้เส้นสายที่เป็นแนวเฉียง หรือ รูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว มาสะท้อนลูกเล่นของงานสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในป่าสนในโซนสแกนดิเนเวียน ในลักษณะของบ้านต้นไม้ และทางเดินในป่ามาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบ โดยครั้งนี้ LPN ร่วมมือกับบริษัท Redland-Scape จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการภูมิสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ มาร่วมออกแบบให้กับโครงการ ซึ่งเน้นการผสมผสานความสวยงามของธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมสไตล์นอร์ดิคได้อย่างลงตัว ด้วยลักษณะที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบที่มีความยาวของที่ดินมากติดกับถนนรามอินทรา ทำให้การออกแบบอาคารจึงวางตัวไปตามแนวยาวของพื้นที่ และมีจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไม่มาก เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย รวมถึงมีระยะห่างระหว่างอาคารที่มากกว่าโครงการที่เคยพัฒนามา จึงทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ถึง 9,000 ตร.ม. โดยส่วนด้านในสุดของโครงการยังออกแบบให้มีสวนขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้งานของผู้พักอาศัยได้ครอบคลุมหลากหลายกิจกรรม