ALive Powered by AIA จับมือ รพ.วิมุต เปิดเวทีพูดคุย “Stress Less, Happy More”
รู้ทันความเครียดยุคใหม่และดูแลสุขภาพใจ พร้อมชวน “เขื่อน” ภัทรดนัย แชร์วิธีคิดสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับใจ พร้อมฟังเบื้องหลังการแต่งเพลง “ALive X Badmixy – La La…Let’s Go!” ออกแบบชีวิตให้รักตัวเองจาก “มิกซ์ Badmixy”
ALive Powered by AIA แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพกาย ใจ และการเงิน แบบครบวงจร โดย เอไอเอ เวลเนส เปิดเวทีเสวนาและเวิร์กชอป ภายใต้แนวคิด “Stress Less, Happy More” ชวนมองปัญหาความเครียดของคนเมืองในมิติต่าง ๆ ทั้งจากประสบการณ์จริง มุมมองทางการแพทย์ โดยจับมือโรงพยาบาลวิมุต ถ่ายทอดปัญหาและแนวทางจัดการความเครียดอย่างถูกต้อง พร้อมกิจกรรมเวิร์กชอปคลายเครียดเชิงศิลปะ และปิดท้ายด้วยช่วงพิเศษ “ALive X Badmixy – La La…Let’s Go!” เพลงที่ร่วมสร้างสรรค์โดยศิลปินและยูทูบเบอร์ “มิกซ์ Badmixy” เพื่อสื่อสารและส่งต่อแรงบันดาลใจในการออกแบบชีวิตให้รักตัวเอง
ALive และ โรงพยาบาลวิมุต ตระหนักถึงปัญหาความเครียดจากทั้งปัญหางานและปัญหาส่วนตัว ที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกาย จึงได้ร่วมกันเปิดเวทีพูดคุย “Stress Less, Happy More” เพื่อเข้าใจและรับมือกับความเครียดอย่างถูกวิธีและเหมาะสม ซึ่งหากมีความเครียดมากเกินไปหรือสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจและอาจจะส่งผลกระทบถึงการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวได้
นายจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา ดิจิทัล โซลูชันส์ แอนด์ ดีไซน์ เอไอเอ เวลเนส ระบุว่าการจัดเวทีพูดคุยในหัวข้อ “Stress Less, Happy More” เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะสื่อสารกับคนไทยทุกคนที่กำลังเผชิญกับความเครียดไม่ว่าจะเป็น ระดับเล็กน้อยจนไปถึงระดับที่เป็นปัญหากับสุขภาพใจและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งหากรู้ตัวได้เร็วและสามารถจัดการกับความเครียดได้ด้วยตัวเอง ก็จะทำให้เรามีความสุขได้ง่ายมากขึ้น
“แอปพลิเคชัน ALive มีเป้าหมายดูแลสุขภาพ ทั้งสุขภาพใจ สุขภาพกาย และสุขภาพการเงิน แบบครบวงจร จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ง่าย ๆ ยกตัวอย่างฟีเจอร์ “Mood Diary” ไดอะรี่บันทึกอารมณ์ ที่ช่วยให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ในแต่ละวันได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการทำสมาธิง่าย ๆ หรือแม้แต่ฟีเจอร์ดูดวงที่ก็ช่วยให้สบายใจขึ้นได้ ทั้งนี้ ALive ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพใจ สุขภาพกาย และสุขภาพการเงิน อย่างมาก จึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่อย่างต่อเนื่องรวมถึงอัปเดตคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพใจ กาย และการเงิน ที่ครอบคลุมทุกมิติ”
พญ.เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ จิตแพทย์ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต ระบุว่าความเครียดเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งในสังคมยุคดิจิทัลก็มีปัจจัยกระตุ้นความเครียดหลากหลาย การสังเกต “สัญญาณเตือน” จึงมีความสำคัญทั้งอาการทางกาย และสภาวะอารมณ์ แต่หากเข้าสู่ภาวะเครียดเรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนช่วยเหลือที่เหมาะกับแต่ละคน
“ความเครียดยุคนี้ไม่จำเป็นต้องมาจากเรื่องใหญ่ แต่มักเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สะสม ซึ่งร่างกายมักส่งสัญญาณก่อนที่เราจะรู้ตัวว่าเผชิญกับภาวะเครียด เช่น ปวดหัว ตึงต้นคอ ปวดหลัง ร่างกายอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ หรือเบื่ออาหาร ซึ่งเบื้องต้นสามารถดูแลตัวเองง่าย ๆ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรือ พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ แต่หากว่ารู้สึกว่าร่างกายไม่ปกติเกิน 1-2 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังแบกรับความเครียดมากเกินไป กรณีที่เกิดความเครียดเรื้อรังจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ ซึ่งการพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ควรมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ความเครียดจะส่งผลต่อสุขภาพกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน”
ขณะที่ “เขื่อน” ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” ศิลปินและนักจิตบำบัดที่นำประสบการณ์ชีวิตจริงมาทำโครงการ “จุดพักใจ” กิจกรรมที่ช่วยให้ใจเบาลงด้วยการเน้น “การรับฟัง” และสร้างพื้นที่ปลอดภัยของใจ (safe space) เพื่อให้แต่ละคนได้กลับมารับรู้ความต้องการของตนเอง โดยแชร์วิธีการจัดการความเครียดเริ่มต้นด้วยการยอมรับปัญหาและฟังตัวเองมากขึ้น
“เขื่อนมองว่า ความเครียด ไม่ใช่สิ่งที่เราต้อง ‘หนี’ แต่เป็นสิ่งที่เราต้อง ‘มองเห็น’ เพราะทุกครั้งที่เราเครียด มันคือสัญญาณบางอย่างที่ใจเราพยายามจะบอก ว่า ‘เรากำลังไม่โอเค ในฐานะที่เป็นนักจิตบำบัด เขื่อนได้เรียนรู้ว่าความเครียดไม่จำเป็นต้องถูกมองว่าเป็นเรื่องลบ หรือ เป็นความอ่อนแอ แต่มันคือโอกาสให้เราได้หยุด ได้ฟัง และได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ส่วนตัวเขื่อนจะเริ่มจากการ ‘ยอมรับ’ และให้เวลาตัวเองดูแลใจ ทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบ หรือ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว”













