Accor เร่งขยาย Sofitel, Sofitel Legend, MGallery and Emblems ทั่วโลก
ด้วยเครือข่าย Sofitel กว่า 120 แห่ง โรงแรมบูติก MGallery กว่า 120 แห่ง และพอร์ตโฟลิโอของ Emblems ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แอคคอร์สร้างสถิติใหม่ในปี 2567 ด้วยการเซ็นสัญญาโรงแรมเกือบ 90 แห่ง เตรียมเปิดตัวภายใต้แบรนด์ระดับไอคอนิกเหล่านี้ในปีต่อ ๆ ไป
– ปิดฉากการครบรอบ 60 ปี Sofitel เดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่อีก 32 แห่งในอีกไปกี่ปีข้างหน้า หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว Sofitel Cotonou Marina Hotel & Spa ที่เบนิน พร้อมบุกตลาดไปยัง อียิปต์ เวียดนาม โปรตุเกส ไอร์แลนด์ เม็กซิโก และอินเดีย
– Sofitel Legend เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 ด้วยการเซ็นสัญญาเปิดตัวโรงแรมแฟลกชิป 3 แห่งในปีเดียว เตรียมเปิดให้บริการที่ ปราก อินเดีย และอียิปต์ โดยเฉพาะโลเคชันโดดเด่นใกล้ “มหาพีระมิดกิซ่า” สัญลักษณ์แห่งอารยธรรมโลก
– แบรนด์คอลเลกชันเดินหน้าขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมี
MGallery แบรนด์โรงแรมบูติกที่เปี่ยมด้วยเรื่องราว เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ 48 แห่ง และบุกตลาดใหม่ใน ญี่ปุ่น แคริบเบียน และเม็กซิโก
Emblems แบรนด์คอลเลกชันระดับไฮเอนด์ของแอคคอร์ เปิดตัวอย่างแข็งแกร่งด้วยโรงแรมแฟลกชิป 7 แห่ง ที่เซ็นสัญญาแล้วใน ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาเหนือ
Maud Bailly, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sofitel, Sofitel Legend, MGallery และ Emblems กล่าวว่า “ปี 2567ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของเรา ด้วยการเติบโตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การขยายตัวที่รวดเร็วนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของทีมงานของเราทั่วโลก ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เครือข่าย สร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้แบรนด์ และยกระดับมาตรฐานของเราไปอีกขึ้น โดยสองปีก่อน สิ่งเหล่านี้ยังเป็นเพียงวิสัยทัศน์ แต่วันนี้ทุกอย่างนั้นได้กลายเป็นจริง ไม่มีสิ่งใดน่าภาคภูมิใจไปกว่าการทำให้แบรนด์มีความชัดเจน แข็งแกร่ง และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมงานของเรา”
ความหรูหราคือความสม่ำเสมอ
สองปีหลังจากที่ Maud Bailly เข้ารับตำแหน่งผู้นำและรวม Sofitel, Sofitel Legend, MGallery และ Emblems เข้าสู่ทิศทางเดียวกัน แบรนด์แฟลกชิประดับลักชัวรีของแอคคอร์กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ พร้อมผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการปรับโฉม โดยการเปลี่ยนแปลงนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความชัดเจนและความสม่ำเสมอให้กับแต่ละแบรนด์ พร้อมกับการยกระดับเครือข่ายโรงแรมทั่วโลก โดยปัจจุบัน 26% ของโรงแรมในเครือ Sofitel กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง รวมถึงโครงการสำคัญอย่าง Sofitel New York และ Sofitel Montreal Golden Mile ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2568 นอกจากนี้ โรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงแล้วอย่าง Sofitel Athens, Sofitel Bangkok Sukhumvit และ Sofitel Sydney Wentworth ต่างก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน 8% ของโรงแรมในเครือ MGallery Collection กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง โดยมีโครงการสำคัญอย่าง Manly Pacific ในออสเตรเลีย ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัล Prix de Versailles และ Grand Hôtel Roi Renée Aix-en-Provence ในฝรั่งเศส เป็นตัวอย่างของการพัฒนาเครือข่ายโรงแรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการระดับโลก
ปีนี้ยังเป็นปีแห่งการเติบโตครั้งสำคัญ โดยมีโรงแรมใหม่ 9 แห่ง ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งแต่ละแห่งได้รับการออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของจุดหมายปลายทาง หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ Sofitel Cotonou Marina Hotel & Spa ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากรัฐบาลเบนินเข้าร่วมเฉลิมฉลอง
ขณะเดียวกัน เครือโรงแรมเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2567 มีการเซ็นสัญญาโรงแรมใหม่ กว่า 20 แห่ง ตอกย้ำศักยภาพของทั้งสี่แบรนด์ในการรุกตลาดสำคัญ เช่น ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และอียิปต์ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง แคริบเบียน และเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ ตลาดเกิดใหม่อย่างเม็กซิโกและอินเดีย ก็กำลังได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ตั้งแต่ปี 2566 จำนวนดีลเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า สะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนที่แข็งแกร่งในกลุ่มแบรนด์ลักชัวรีของเรา ทั้งแบรนด์หลักและคอลเลกชัน ด้วยการทำให้แบรนด์ของเราน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเราได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือโรงแรม Sofitel และ MGallery พร้อมขยายไปสู่ตลาดสำคัญและจุดหมายปลายทางระดับรีสอร์ต” Xavier Grange) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา Sofitel, Sofitel Legend, MGallery และ Emblems กล่าว
กระแสแบรนด์เรสซิเดนซ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดโลก ตัวอย่างสำคัญ ได้แก่ Sofitel Residences Downtown Dubai ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปี 2569 และ Sofitel Sapa Hotel & Branded Residences ในเวียดนาม ที่มาพร้อมที่พักอาศัยกว่า 400 ยูนิต โมเดลนี้ยังขยายไปสู่แบรนด์คอลเลกชัน เช่น Abraj Omar Hotel & Residences Makkah – MGallery Collection ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งสะท้อนถึงกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่พักอาศัยหรูระดับโลก