เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) ปักธงครองแชมป์ผู้พัฒนาโรงงาน-คลังสินค้าอันดับ 1 เปิดแผนปั้นอนาคตอาคารอุตสาหกรรม ปลดล็อกประสบการณ์ที่เหนือกว่า พร้อมตั้งเป้าขยายพื้นที่ใต้พอร์ตโฟลิโอแตะ 4 ล้านตร.ม. ภายในปี’69
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) หรือ “FPIT” ชี้ตลาดอสังหาฯ เพื่ออุตสาหกรรมโตต่อเนื่องด้วยแรงหนุนการขยายการลงทุนจากต่างชาติ และการบริโภคภายในประเทศที่มีทิศทางเชิงบวก โดยธุรกิจเติบโตดีมีอัตราการเช่าสูงขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศด้วยอัตราการเช่าเฉลี่ย 85% เดินหน้าปิดดีลลูกค้าตามแผนปีนี้อีกกว่า 150,000 ตร.ม. พร้อมตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเป็น 4 ล้านตร.ม. คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินรวมภายใต้การบริหารจัดการ 100,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เตรียมส่งอาคารอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ “Built-to-Function” ลงสนาม รวมถึงอัพเกรดโซลูชันด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานระดับสากล ตอบโจทย์ดีมานด์ใหม่และสร้างความโดดเด่นในตลาดได้เป็นอย่างดี
นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด เผยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของปี 2566 ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวจากภาวะการบริโภคและภาคบริการหลังโควิด-19 ถึงแม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก แต่ภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่มยังสามารถเติบโตได้ดี ประกอบกับการย้ายฐานและขยายการลงทุนมาที่ไทยมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ FPIT เล็งเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตผ่านความได้เปรียบจากภูมิศาสตร์การเมืองโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิต และยังได้รับแรงสนับสนุนจากเทรนด์การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, Governance) ที่เปิดโอกาสให้ FPIT ได้ใช้ศักยภาพและความเป็นผู้นำกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในการพัฒนา Green Building Solution เพื่อให้บริการลูกค้าที่ต้องการยกระดับความยั่งยืนในระบบซัพพลายเชน
ด้วยยุทธศาสตร์ “เราพร้อม-เราต่าง” ของ FPIT ทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มขีดความสามารถเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอาคารอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ได้เป็นอย่างดี โดยใช้โรงงานและคลังสินค้าที่มีอยู่แบบ On Demand พร้อมต่อการให้บริการอย่างทันที ด้วยการส่งมอบโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าคุณภาพสูงแบบสำเร็จรูป (Ready-Built) และสร้างความต่างในการให้บริการ Specialized Facility ที่มีความพิเศษเฉพาะตัวตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายในรูปแบบสร้างความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit)
FPIT ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอได้อย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำสถานะผู้ให้บริการโรงงาน-คลังสินค้าสมัยใหม่อันดับ 1 ของอาเซียน ด้วยพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 3.5 ล้านตร.ม. ที่มีอัตราการเช่าเฉลี่ยสูงถึง 85% โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าจัดสรรงบลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการตามเป้าหมายภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2569 เป็น 4 ล้านตร.ม. ยืนหนึ่งเป็นผู้นำธุรกิจอาคารอุตสาหกรรม
ในปีนี้ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและส่งมอบอาคารไปแล้วรวมพื้นที่ 140,000 ตร.ม. โดยทั้งหมดเป็นอาคารแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า ส่วนธุรกิจในต่างประเทศทั้งนิคมอุตสาหกรรมและคลังสินค้าที่เมืองบินห์เยือง ประเทศเวียดนาม และโครงการโลจิสติกส์เซ็นเตอร์ ในเมืองคาราวัง เมืองมากัซซาร์ และเมืองบันจาร์มาซิน ประเทศอินโดนีเซีย มีจำนวนลูกค้าและอัตราการเช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน