บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2567 เผยผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ สามารถสร้างกำไรสุทธิกว่า 199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 475 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างยอดขาย 5,211 ล้านบาท ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และมียอดโอน 3,344 ล้านบาท ย้ำดีมานต์คอนโดติดรถไฟฟ้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ยังมีต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปีสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

คุณลิมลี่ ทิพพงษ์ประภาส ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ ANAN กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าคนเมืองได้เป็นอย่างดี โดยผลดำเนินงานในไตรมาสแรก ปี 2567 บริษัทมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น โดยสามารถสร้างกำไรสุทธิกว่า 199 ล้านบาท เติบโตขึ้น 475% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้อสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 337 สาเหตุหลักมาจากการโอนในโครงการพร้อมโอน (Ready to Move) เพิ่มขึ้น อาทิ โครงการไอดีโอ จุฬา-สามย่าน โครงการโคโค่พาร์ค  โครงการอาร์เทล อโศก-พระราม 9 และโครงการแอชตัน เรสซิเด้นท์ 41 และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงร้อยละ 44 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการที่บริษัทมีการจ่ายคืนหุ้นกู้จำนวน 3,825.3 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2567

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2567 อนันดาฯ สามารถทำยอดขายได้ 5,211 ล้านบาท เติบโต 11% หากเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า มียอดโอนจำนวน 3,344 ล้านบาทโดยมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 1,215 ล้านบาท เติบโต 150% หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งหากเทียบกับสถานการณ์ยอดโอนชาวต่างชาติในตลาดอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพและปริมณฑลที่มีตัวเลขโต 8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลุยตามแผนธุรกิจใหม่ที่วางไว้ทั้ง มุ่งมั่นเติบโตอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นมั่นใจในคุณภาพสินค้าและบริการ และมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อชีวิตคนเมือง เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาวและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 18,608 ล้านบาท ซึ่งเป็น 2 โครงการคอนโดระดับแฟลกชิพ พร้อมการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก และ 5 โครงการแนวราบในทำเลศักยภาพ นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายปิดการขาย 8 โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ มูลค่ากว่า 19,962 ล้านบาท พร้อมเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในความสามารถในการบริหารงานของบริษัทฯ โดยเตรียมชำระหุ้นกู้รอบถัดไปตามกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2567 มูลค่า 3,231 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายในการพัฒนาโครงการตอบรับความต้องการลูกค้าในทุกเซกเมนต์ โดยมีโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอน ทั้งคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า บ้าน และทาวน์โฮม บนทำเลที่ดีที่สุด รองรับการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้บริษัทฯ ประกาศบุกตลาดต่างประเทศครั้งใหญ่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยการนำแคมเปญการตลาด พร้อมโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอน (READY TO MOVE)  กว่า 13 โครงการ บน The Best Location ครอบคลุมทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัวที่สุด โดยไปโรดโชว์ทั้งในหลายประเทศ อาทิ เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง อินเดีย พม่า สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย มุ่งเจาะกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และผู้ที่มองหาบ้านหลังที่สอง โดยคาดว่างานนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากจากความน่าสนใจและศักยภาพของโครงการตลอดจนตลาดอสังหาฯในประเทศไทยที่คึกคักและน่าดึงดูดสำหรับเหล่านักลงทุนต่างชาติ