‘สิงห์ เอสเตท’ แกร่ง รายได้รวม 3,018 ล้านบาท มั่นใจแหล่งรายได้ใหม่ดันธุรกิจโตต่อ
สิงห์ เอสเตท ประกาศผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 3,018 ล้านบาท สาเหตุหลักจากรายได้การขายโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส สะท้อนความแข็งแกร่งของอุปสงค์ที่อยู่อาศัยและความเชื่อมั่นในแบรนด์ Ultraluxury ของบริษัทฯ ผนวกกับรายได้เพียง 4 เดือนของโรงแรมในสหราชอาณาจักรที่เข้าลงทุนไปเมื่อต้นปี เชื่อมั่นสัญญาณบวกท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร ดันรายได้ครึ่งหลังโตต่อเนื่อง
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 3,018 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้รายได้รวมดังกล่าวแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจที่พักอาศัย (Residential development) 1,133 ล้านบาท, ธุรกิจอาคารสำนักงาน (Commercial) 489 ล้านบาท, ธุรกิจโรงแรม (Hospitality) 1,347 ล้านบาท, และธุรกิจอื่นๆ 49 ล้านบาท
แม้ว่าผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2564 จะมีการตัดบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) (“NVD”) ออกจากงบการเงินรวมของสิงห์ เอสเตท ตั้งแต่ต้นปี 2564 หลังจากธุรกรรมการขายเงินลงทุนใน NVD แล้วเสร็จเมื่อ 6 มกราคม 2564 ทว่า รายได้รวมกลับลดลงเพียงร้อยละ 3 ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ เนื่องจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มบริษัทได้เข้าเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนใน FS JV Co., Ltd. (“FS JV”) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมในสหราชอาณาจักร ส่งผลให้สิงห์ เอสเตท สามารถรับรู้รายได้จากกลุ่มโรงแรมในสหราชอาณาจักรได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กอปรกับ อุปสงค์ในบ้านเดี่ยวที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ตลอดจนอุปสงค์ในคอนโดมิเนียมทยอยส่งสัญญาณฟื้นตัวตามลำดับ