สิงห์ เอสเตท ชูกลยุทธ์ RISE ABOVE ดันเป้าที่พักอาศัย 5 ปี 52,000 ล้าน รุกตลาดแนวราบด้วย 3 เซ็กเมนท์ใหม่ พร้อมเปิดบ้านโครงการแรกกันยายนนี้
สิงห์ เอสเตท กางแผนทุ่มงบกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท จ่อรุกตลาดบ้านระดับลักชัวรี่เต็มรูปแบบ ผ่าน 3 เซ็กเมนท์ใหม่ ต่อยอดความสำเร็จโครงการ SANTIBURI The Residences มั่นใจโครงการที่พักอาศัยเซ็กเมนต์ระดับบน คือกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตให้บริษัทฯ ในอนาคต ตั้งเป้ามูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 5.2 หมื่นล้านใน 5 ปี พร้อมสร้างรายได้ต่อปีสูงกว่าหมื่นล้านในปี 2569 ชูจุดขายแนวคิดการพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัยที่เหนือระดับและประสบการณ์ Best-in-class ภายใต้แนวคิด “RISE ABOVE” ของสิงห์ เอสเตท เรสซิเดนซ์
ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจพักอาศัย บมจ. สิงห์ เอสเตท ผู้พัฒนาและลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยถึงแผนการพัฒนาธุรกิจพักอาศัยของ สิงห์ เอสเตท ว่า “ด้วยเทรนด์ในปัจจุบันที่คนอยู่บ้านนานขึ้น มองหาบ้านที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ บ้านจึงต้องให้ความสุขได้ตลอด 24 ชม. ที่สำคัญต้องตอบโจทย์ฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว ยังต้องเป็นที่สังสรรค์ และที่ทำงานแบบ Work from home ได้ด้วย สิงห์ เอสเตทจึงได้นำแนวคิดนี้มาออกแบบโครงการที่พักอาศัยแนวราบ และเพื่อต่อยอดจากความสำเร็จที่สามารถปิดการขายโครงการบ้านสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคของตลาดระดับบน
“โดยสิงห์ เอสเตท ตอกย้ำจุดยืนในการสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้ทุกชีวิต หรือ Enriching Life ด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ใส่ใจ และมุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็น Best In Class เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยคุณภาพในระดับสากล ควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม”
นายณัฐวุฒิ เผยถึงแผนธุรกิจในปีนี้ว่า “สิงห์ เอสเตท พร้อมเดินหน้ารุกตลาดบ้านแนวราบเต็มตัวในปี 2565 นี้ โดยSingha Estate Residential เป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับลูกค้า ซึ่งกลยุทธ์ในการพัฒนาของเราคือ “RISE ABOVE” ที่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าให้เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกๆ segment ที่เราพัฒนา โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก โดยมีรายละเอียดของแนวคิดทั้ง 3 ส่วน อันประกอบด้วย
ABOVE THE NUMBER ที่นอกเหนือจากแผนการลงทุน และการพัฒนาโครงการเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันแล้ว ยังโฟกัสการตั้งเป้าตัวเลขที่ท้าทายขึ้นอีกด้วย สืบเนื่องจากเทรนด์ของโครงการอสังหาฯ แนวราบได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนจากตัวเลขที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ สิงห์ เอสเตท จึงได้วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วง 5 ปีต่อจากนี้บริษัทฯ มีแผนสร้างโครงการรวมมูลค่า 52,000 ล้านบาท วางสัดส่วนบ้านแนวราบต่อคอนโดมิเนียมที่ไว้ 75% ต่อ 25% เน้นทำเลศักยภาพ ประกอบด้วยโครงการตั้งแต่ระดับ 10 – 100 ล้านบาท ใน 3 เซ็กเมนท์ ซึ่งพร้อมเปิดตัวภายในปีนี้ 1 โครงการมูลค่า 2,900 ล้าน และจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องปีละประมาณ 3,000 – 14,000 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจที่พักอาศัยจะสร้างรายได้รวมต่อปีสูงกว่า 10,000 ล้านบาท ในปี 2569
ABOVE THE DESIGN & SERVICE ด้วยการออกแบบที่สอดรับกับ New Trend of Living ที่บ้านถูกออกแบบให้มีพื้นที่รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่สำหรับทุกๆคนในครอบครัว ด้วยแนวคิด
Smart Living
– Smart Layout ออกแบบ space และ function ต่างๆ ภายในบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการของคนทุก generation โดยบ้านถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยที่รองรับกับพฤติกรรมของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และยังคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของผู้อยู่อาศัยในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของแสงแดด ความร้อม ลมธรรมชาติ การระบายอากาศ
– Security for Families เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้านที่รัดกุม เติมเต็มความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว รวมถึงการวางระบบต่างๆ อาทิ ระบบติดตั้งสายไฟใต้ดิน (underground cable) เพื่อความปลอดภัย และความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสร้างทัศนียภาพที่สวยงามซึ่งจะเป็นอีกมาตรฐานของโครงการบ้านจากสิงห์ เอสเตท
– Easy for Maintenance ด้วยระบบ Maintenance Alert ที่บ้านสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อถึงเวลาบำรุงรักษา เพื่อป้องกันความเสียหายของระบบต่างๆ เจ้าของสามารถตรวจเช็คสุขภาพบ้านด้วยตัวเองได้ผ่านแอพลิเคชั่น S life ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อความสะดวก รวดเร็ว
Healthy Living
– Clean Air มีระบบกรองอากาศภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยและการพักผ่อนอย่างเต็มที่
– Clean Water มีระบบกรองน้ำเพื่อให้น้ำที่นำมาใช้และบริโภคในโครงการบริสุทธิ์และสะอาดมากยิ่งขึ้น
– Cool & Quiet นวัตกรรม “บ้านเย็น” ที่ช่วยให้อากาศในบ้านเย็น ถ่ายเทอากาศได้ดี ด้วยผนังกันความร้อน เพื่อการอยู่อาศัยที่สบายทั้งกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังเงียบสงบปราศจากเสียงรบกวนจากภายนอก
Sustainable Living
– Existing Tree Conservation มีการเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่เดิม เพื่อการอยู่อาศัยภายใต้บรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบายและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพระบบนิเวศดั้งเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด
– Clean Energy แบ่งเบาภาระของลูกบ้านด้วยการใช้พลังงานธรรมชาติ อาทิ การใช้พลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์
– Water Reuse ระบบการบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้รอบโครงการ
– Material Selection & Long Lasting ออกแบบบ้านให้สวยงามอยู่คู่กาลเวลา โดยคำนึงถึงการใช้งานที่ดีทั้งในวันนี้และในอนาคต ที่ต้องตอบโจทย์เจ้าของบ้านในทุก Generation ดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยอยู่เสมอ
Exclusive Services
– Warranty Extension ขยายเวลารับประกันเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มความสบายใจในการเข้าอยู่อาศัย
– Homecare Service อุ่นใจด้วยบริการ homecare ดูแลบ้าน แจ้งเหตุฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
– Concierge Service เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมให้บริการลูกบ้านอย่างเหนือระดับ