พรีโม เปิดวิสัยทัศน์ 2568 “Focus On Core” ตั้งเป้าหมายรายได้รวม 1,850 ล้านบาท ชู 3 กลยุทธ์ ยกระดับการดำเนินงาน เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
– พรีโม เปิดแผนธุรกิจปี 2568 “Focus On Core” Optimize for Sustainable Growth มุ่งเน้นการยกระดับประสิทธิภาพของงานที่ทำเพื่อให้สามารถส่งมอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจหรือแก่นแท้ของงานบริการ และเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อการเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนของบริษัท โดยยังคงแนวคิดการเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ สมัยใหม่แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่องต่อไป
– ชู 3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กร : มุ่งมั่นในเรื่องประสิทธิภาพของการดำเนินงานเพื่อนำไปสู่การส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้าอย่างมีคุณค่า, สร้างความสมดุลหลากหลายในกลุ่มลูกค้า ขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ ใช้จุดแข็งในด้านความครบวงจรของการให้บริการในการขยายตลาดสร้างความมั่นคง
ด้านรายได้
– ตั้งเป้ารายได้รวม 1,850 ล้านบาท รองรับด้วย Backlog ที่แข็งแกร่ง และขยายฐานลูกค้า ปูทางสร้างRecurring Income สู่การเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนในอนาคต
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 นี้ ภายใต้แนวคิด “Focus On Core” Optimize for Sustainable Growth มุ่งเน้นในการสร้างความเข้มแข็งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่”
1. มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพและการส่งมอบบริการ (Committing to Quality)มุ่งมั่นพัฒนากระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบบริการคุณภาพสูงให้กับลูกค้า โดยมีการปรับกระบวนการให้มีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ทำให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนี้ 1.ปรับโครงสร้างองค์กรแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering), กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Living Service) และกลุ่มธุรกิจนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ (Brokerage) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยการปรับปรุงกระบวนการทำงานและมุ่งเน้นที่ประสิทธิผลการทำงาน และเพิ่มความเป็นเลิศในการดำเนินงานเป็นหลัก, 2.เสริมสร้างการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับ 13 สถาบันการศึกษาชั้นนำที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทางพรีโมจัดโปรแกรมการพัฒนาที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละกลุ่มธุรกิจในเครือ, 3.สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความภักดีในระยะยาว Loyalty Program ทั้งจากกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างระบบติดตามและวัดความพึงพอใจในทุกมิติ
2. สร้างสมดุลและความหลากหลายในกลุ่มลูกค้า (Diversify and Expand Customer Segment) มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายและสมดุลในทุกธุรกิจ ทั้ง โครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ตลอดจน ขยายการดำเนินงานไปยังเมืองสำคัญที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ได้แก่ ขอนแก่น ศูนย์กลางธุรกิจและการศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, พัทยา เมืองท่องเที่ยวหลักที่มีความต้องการบริการระดับสูง และภูเก็ต ตลาดสำคัญสำหรับภาคโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์
3. ใช้จุดแข็งในการสร้างตลาดและรายได้ (Leveraging Competitive Advantage) ใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญของพรีโมในด้านความครบวงจรจากบริษัทในเครือทั้งหมดให้บริการที่ครบวงจรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้
– All-in-One Service นำเสนอแพ็คเกจบริการครบวงจรแบบ All-in-One เพื่อเพิ่มศักยภาพรายได้สูงสุด บูรณาการบริการ อย่างไร้รอยต่อระหว่างทุกหน่วยธุรกิจภายในบริษัท พร้อมครอบคลุมทุกด้านของความต้องการของลูกค้า
โดยผสานระบบอย่างไร้รอยต่อ
– Digitalization And Smart Innovation ต่อยอดนวัตกรรมการบริการ ขับเคลื่อนความเป็นเลิศในการดำเนินงานผ่าน นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การให้บริการหุ่นยนต์ส่งของ หุ่นยนต์ทำความสะอาด และการพัฒนาแอปพลิเคชัน Primo Plus Platform พร้อมนำข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น
“กลยุทธ์ดังกล่าว จะมายกระดับงานบริการของบริษัทให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น สร้าง Recurring Income และ Backlog รวมถึงช่วยเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าระยะยาว (Retention Rate) เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ช่วยให้ดูแลผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และเป็นรากฐานการสร้าง PRI ให้เติบโตอย่างยั่งยืน” นายสุรินทร์ กล่าว